นายกฯ ตั้ง ‘ชาดา’ ที่ปรึกษา คกก.แก้หนี้สินภาคประชาชนรายย่อย

รัฐสภา 15 ก.พ.-นายกฯ ลงนามตั้ง ‘ชาดา’ ที่ปรึกษา คกก.แก้ปัญหาหนี้สินภาคประชาชนรายย่อย เชื่อมการทำงาน คกก.แก้หนี้นอกระบบ ย้ำขอลูกหนี้มาลงทะเบียน ไม่ต้องกลัว-เกรงใจใคร ด้าน ‘กิตติรัตน์’ ย้ำเจ้าหนี้ไม่ต้องกลัวหนี้สูญ แต่ห้ามเก็บเกินอัตราดอกเบี้ย

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมกันแถลงถึงการเปิดรับลงทะเบียนประชาชนเข้าร่วมการไกล่เกลี่ยเพื่อแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ


โดย นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า ตั้งแต่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามแต่งตั้ง นายชาดา เป็นที่ปรึกษาของคณะกรรมการกำกับและแก้ไขหนี้สินภาคประชาชนรายย่อย ที่ตนเอง ทำหน้าที่เป็นประธานอยู่ ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานคณะกรรมการแก้ไขหนี้นอกระบบ ซึ่งตนทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาอยู่

ดังนั้น การแต่งตั้ง นายชาดา ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะสามารถเชื่อมการทำงานของคณะกรรมการทั้ง 2 ชุดเข้าด้วยกัน ตรงตามเจตนาของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการแก้ไขปัญหาหนี้สินทุกประเภทให้เบ็ดเสร็จครบวงจร


นายกิตติรัตน์ ยังกล่าวว่า ปัจจุบันมีลูกหนี้จำนวนแสนกว่ารายที่ได้มาลงทะเบียนแล้ว แต่เชื่อว่ายังไม่ใช่จำนวนที่แท้จริง และน่าจะยังมีอีกมาก ลูกหนี้เหล่านี้ตั้งคำถามว่า ตนเองมาลงทะเบียนแต่เจ้าหนี้ไม่มาลงทะเบียน จะดำเนินการอย่างไร จึงต้องขอเรียนตามหลักกฎหมายว่า หนี้นอกระบบเป็นการเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กำหนด ดอกเบี้ยทั้งหมดถือเป็นโมฆะตั้งแต่บาทแรก ไม่ใช่ตั้งแต่อัตราที่เกิน ดังนั้นหากเจ้าหนี้ไม่มาลงทะเบียน ขอให้ลูกหนี้หยุดจ่ายดอกเบี้ยทันที แต่ก็ต้องจ่ายเงินต้นให้ครบ

“เจ้าหนี้ซึ่งกังวลว่าลูกหนี้จะไม่ได้จ่ายคืนเงินต้น ขอให้มั่นใจว่าท่านจะได้รับการคุ้มครอง แต่เจ้าหนี้ก็ไม่มีสิทธิเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กำหนด” นายกิตติรัตน์ กล่าว

นายกิตติรัตน์ ยังระบุว่า ในกรณีที่ลูกหนี้จ่ายดอกเบี้ยไปมากมายจนท่วมเงินต้นแล้ว ในหลักการถือว่าหมดหนี้แล้ว ดังนั้น จะมาตกลงทำความเข้าใจ เพื่อไม่ให้เป็นปัญหาในข้อกฎหมายกัน รวมถึงเจ้าหนี้หลายรายที่ปล่อยหนี้หลายๆคนพร้อมกัน หากไม่มาหารือกัน ก็มีความเสี่ยงที่จะทำผิดกฎหมายร้ายแรง เพราะจะเป็นขบวนการปล่อยหนี้เกินกว่ากำหนด


ด้าน นายชาดา ระบุว่า ปัญหาหนี้ทั้งนอกระบบและในระบบมีความเกี่ยวเนื่องกัน และขอให้สื่อมวลชนช่วยกันประกาศให้ผู้ที่เป็นหนี้นอกระบบมาลงทะเบียนรับการแก้ปัญหา ไม่ต้องกลัวและไม่ต้องเกรงใจใคร แม้แต่เจ้าหนี้ก็ไม่ควรไปห้ามลูกหนี้ให้มาขึ้นทะเบียนบัญชี เพราะรัฐบาลจะดูแลทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้อย่างยุติธรรม ไม่ใช่ว่าจะไม่ให้ลูกหนี้ใช้หนี้ แต่ทุกอย่างตั้งอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้องยุติธรรม

นายชาดา ย้ำว่า ประชาชนซึ่งเป็นหนี้นอกระบบ ขอให้มาลงทะเบียนก่อนวันที่ 29 ก.พ.นี้ ที่ศูนย์ดำรงธรรมของทุกจังหวัด หรือแจ้งตามเว็บไซต์ ขอให้ไม่ต้องกลัวหรือเกรงใจใคร และเจ้าหนี้ก็ไม่ต้องกลัวหนี้สูญ เพราะรัฐบาลจะดำเนินการด้วยความเป็นธรรม และต้องการแก้ปัญหา

“กฎหมายให้โอกาสแล้ว ทางเราให้โอกาสแล้ว ก็ขอให้ใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์กับท่าน เพราะพวกเราต้องการมาแก้ปัญหา” นายชาดา กล่าว.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

นายกฯ ปัดตอบ ผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม.

“นายกฯ อิ๊งค์” ไม่ตอบคำถามผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม. บอกพรุ่งนี้ตอบทีเดียว ก่อนแซว “ประเสริฐ” ปรับให้แล้ว เหตุพูดตำแหน่ง “จุลพันธ์” ผิด จาก รมช.คลัง เป็น รมช.มหาดไทย

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]