ชี้ กม.นิรโทษฯ ต้องเขียนชัด ปลายทาง-กลุ่มเป้าหมาย

รัฐสภา 1 ก.พ.-“กัณวีร์” ชี้ต้องคืนความจริงสู่สาธารณะหากหวังการให้อภัย ใช้โอกาสนิรโทษกรรมพาไทยพ้นแผลขัดแย้งสองทศวรรษ เขียนให้ชัดปลายทางคืออะไร-ใครคือกลุ่มเป้าหมาย

นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม อภิปรายสนับสนุนญัตติการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยระบุว่า ญัตตินี้เป็นเรื่องที่ดี และกำลังมาถูกทางเพราะเรื่องนี้มีความคิดเห็นที่แตกต่างหลากหลายมาก ขอชื่นชมรัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทย ที่ได้ตัดสินใจอย่างสอดคล้องกับสภาพข้อเท็จจริง ในการสร้างกลไกเพื่อเปิดพื้นที่ให้กลุ่มคนต่างๆ ได้มีส่วนร่วมในการจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้


นายกัณวีร์ ระบุว่า โจทย์แรกของคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ คือจะต้องระบุให้ได้ถึงปลายทางที่พวกเราปรารถนาเกี่ยวกับการนิรโทษกรรมว่าคืออะไร หากจะยกโทษแล้วเหมือนกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อนคงเป็นไปไม่ได้ จะต้องระบุให้ได้ว่ากลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับการนิรโทษกรรมคือใครบ้าง เพื่อให้สอดคล้องกับเจตนารมย์ หลักการและเหตุผลในการร่างกฎหมายฉบับนี้ จะต้องเกิดฉันทาอนุมัติและเห็นพ้องอย่างชัดเจนใน 2 ประเด็นดังกล่าวก่อน

“การนิรโทษกรรมควรเป็นแค่ส่วนหนึ่งของกระบวนการที่ใหญ่กว่านั้น นั่นคือการเมืองแห่งการให้อภัยและกระบวนการยุติธรรมในระยะที่เปลี่ยนผ่าน ดังนั้นความพยายามของพวกเราทั้งหมดในวันนี้ เพื่อมุ่งหวังที่จะออกจากความขัดแย้งรุนแรงที่ยืดเยื้อ ฝังราก และทิ่มลึกลงไปในความสัมพันธ์ระหว่างคนไทยด้วยกันเอง“ นายกัณวีร์ กล่าว


นายกัณวีร์ กล่าวต่อว่า มากกว่านั้นยังมีความขัดแย้งรุนแรงระหว่างคนจำนวนมากกับรัฐ ดังนั้นการผลักดันร่างกฎหมายนิรโทษกรรมจะคำนึงถึงเพียงการลบล้างความผิดในมุมเดียวคงเป็นไปไม่ได้ แต่การศึกษาแนวทางการกฏหมายฉบับนี้จะต้องสามารถคลี่คลายความขัดแย้งในการเมืองไทย ตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมาได้พอสมควร โดยคำนึงอยู่ใน 2 กรอบข้างต้น คือ ปลายทางที่ปราถนาคืออะไร และกลุ่มเป้าหมายของการนิรโทษกรรมคือใครบ้าง

”การนิรโทษกรรมจะไม่สามารถนำไปสู่การให้อภัยซึ่งกันและกันระหว่างคู่ขัดแย้งและก้าวไปข้างหน้าด้วยไม่ได้เลย หากบางเรื่องที่ยังค้างคาในใจของแต่ละฝ่ายนั้นยังไม่คลี่คลายแน่ชัด ดังนั้นการตั้งคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง หรือการดึงเอารายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ที่เคยจัดทำขึ้นแล้ว จำเป็นจะต้องนำมาประกอบไว้ในการพิจารณายกร่างกฎหมายด้วย“ นายกัณวีร์ กล่าว

นายกัณวีร์ ย้ำว่า การคืนความยุติธรรม ขั้นพื้นฐานที่สุดที่พอจะทำให้ทุกฝ่ายยอมรับการลบล้างโทษได้นั้น คือการคืนความจริงเกี่ยวกับความผิดนั้นๆ ให้กับสาธารณะ และความรับผิดชอบของรัฐที่ใช้อำนาจในการก่อความเสียหายหรือความสูญเสียแก่พี่น้องประชาชน หากมุ่งหมายให้ร่างกฎหมายฉบับนี้ทำให้คนไทยหันหน้ามาให้อภัยซึ่งกันและกัน แล้วเดินหน้าร่วมกันใหม่ได้จริงๆ เราต้องสร้างความกระจ่างให้เห็นพ้องว่า คนแต่ละฝ่ายต้องให้อภัยแก่เรื่องใด ครอบคลุมใคร และกลุ่มใดบ้าง สังคมไทยจึงจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้


“ดังนั้นการนิรโทษกรรมต้องดำเนินการควบคู่ไปกับอีกหลายส่วน จะแยกมาทำเพียงเรื่องเดียวคงไม่ได้ เช่น การแสดงความรับผิดชอบต่อฝ่ายต่างๆ ในความขัดแย้ง คือคนที่ทำผิดก็ต้องออกมารับผิด ไม่ใช่ใช้การนิรโทษกรรมมาปิดช่องทางการขออภัย ต้องแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมโดย เฉพาะการใช้อำนาจ หน้าที่ กฎหมาย และใช้กำลังเข้าห้ำหั่นพี่น้องประชาชน แล้วการนิรโทษกรรมพ้นผิดอย่างลอยนวลเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ ใครทำผิดคดีอาญา หรืออุ้มซ้อมทรมานก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย เราต้องดูรายละเอียดว่าใครทำผิดระดับไหนจะต้องรับผิดชอบอะไรบ้าง”นายกัณวีร์ กล่าว

นายกัณวีร์ ยังกล่าวว่า กฎหมายนิรโทษกรรมครั้งนี้ ต้องครอบคลุมถึงการเยียวยาโดยเฉพาะการเยียวยาทางด้านจิตใจ และยังมีอีกหลายองค์ประกอบที่จำเป็นต้องเข้ามาสู่การพิจารณาศึกษา เพื่อให้เห็นแนวทางที่เป็นไปได้ และทุกฝ่ายยอมรับ

นายกัณวีร์ ย้ำว่า ตนไม่ได้มีเจตนาขัดขวาง แต่ตลอดประวัติศาสตร์ของการเมืองสมัยใหม่ ประเทศไทยมีการนิรโทษกรรมมาแล้วมากกว่า 22 ฉบับ และแน่นอนว่าส่วนใหญ่จะเป็นการยกเว้นโทษแก่คณะรัฐประหาร และมี 3 ฉบับที่บังคับใช้เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมในปี 2516, 2519 และ 2535

“ท่านต้องชัดเจนว่าผู้ได้รับการยกโทษคือใคร เป็นประชาชนผู้ชุมนุมหรือเป็นการเรียกนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง คำตอบของท่านในเรื่องนี้ต่อสถานการณ์การเมืองในวันนี้ สำคัญต่อการกำหนดว่าเราจะอยู่ในความขัดแย้งต่อไป จะมีเงื่อนไขใหม่เพิ่มเติมหรือไม่ หรือเราจะสามารถแสวงหาทางออกจากความขัดแย้งรอบนี้ได้อย่างยั่งยืนร่วมกัน” นายกัณวีร์ กล่าวทิ้งท้าย.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ชะตากรรมชาวตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านคลองลึก

สระแก้ว 25 มิ.ย. – เสียงสะท้อนจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านพรมแดนคลองลึก จากที่ต้องดิ้นรนค้าขายในยุคเศรษฐกิจย่ำแย่อยู่แล้ว ยิ่งย่ำแย่ลงกว่าเดิม.-สำนักข่าวไทย

EOD ทำลายระเบิดซุก จยย.จอดทิ้งหน้าอาคารสนามบินภูเก็ต

ภูเก็ต 25 มิ.ย. – ตำรวจชุด EOD ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยซุกระเบิด จอดทิ้งหน้าอาคารผู้โดยสารสนามบินภูเก็ต ล่าสุดยิงทำลายวัตถุระเบิดได้แล้ว อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ ยืนยันมีลูกเดียว ไม่มีผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือคนไทยออกจากอิสราเอล-อิหร่าน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือ-อำนวยความสะดวกคนไทยต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่าน เผยล่าสุดมี 73 คน ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน และ 18 คนจากอิสราเอลต้องการกลับไทย ขอคนที่อยู่ต่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุรัฐบาลได้เตรียมการดูแลพี่น้องคนไทยทั้งในอิสราเอลและอิหร่าน ในกรณีที่ต้องการเดินทางกลับไทย เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้วางแผนช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้คนไทยที่ต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่านโดยรวดเร็วและปลอดภัยค่ะ ในอิหร่าน มีคนไทยรวมประมาณ 300 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานและนักศึกษา ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ช่วยเหลือให้ไปพำนักชั่วคราวที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Amol ในอิหร่านแล้ว 35 คน และอีก 4 คนไปที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Van ในตุรกี นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศกำลังเร่งประสานงานให้คนไทย 73 คนที่ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะหารือกับฝ่ายอิหร่าน เพื่อให้เร่งออก exit visa ให้ ในส่วนของอิสราเอล มีคนไทยอยู่ประมาณ 40,000 คน เกือบทั้งหมดเป็นแรงงาน สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามสอบถามความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิด รวมทั้งไปเยี่ยมเยียนด้วย ซึ่งในชั้นนี้ […]

นายกฯ เปิดประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ไร้ตัวแทนกัมพูชาร่วม

พัทยา 25 มิ.ย.-ไร้เงาตัวแทนกัมพูชา นายกฯ เปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ชมสาธิตวิธีการช่วยอากาศยานประสบภัยในทะเล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี และกล่าวเปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเชียน (ASEAN Coast Guard Forum 2025: ACF 2025) และการฝึกค้นหา และช่วยเหลืออากาศยานประสบภัยในทะเล และการแพทย์ฉุกเฉินในทะเล ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ระหว่างวันที่ 24-27 มิถุนายน 2568 เพื่อส่งเสริมความปลอดภัย มั่นคง มั่งคั่ง ในอาเซียน ณ โรงแรมฮิลตัน พัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยมีพลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือให้การต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต้อนรับผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศผู้สังเกตการณ์ และพันธมิตรสำคัญที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้สู่เมืองพัทยา และแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในพิธีเปิดเวทีความร่วมมืออันสำคัญของภูมิภาค ซึ่งเป็นเวทีที่หน่วยรักษาความปลอดภัยชายฝั่ง หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนมุมมอง และเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อยกระดับความมั่นคงทางทะเลร่วมกัน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความสำคัญของความมั่นคง และความปลอดภัยทางทะเล ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภูมิภาค เนื่องจากท้องทะเลไม่เพียงเป็นเส้นทางการค้าสำคัญ […]