ชี้ กม.นิรโทษฯ ต้องเขียนชัด ปลายทาง-กลุ่มเป้าหมาย

รัฐสภา 1 ก.พ.-“กัณวีร์” ชี้ต้องคืนความจริงสู่สาธารณะหากหวังการให้อภัย ใช้โอกาสนิรโทษกรรมพาไทยพ้นแผลขัดแย้งสองทศวรรษ เขียนให้ชัดปลายทางคืออะไร-ใครคือกลุ่มเป้าหมาย

นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม อภิปรายสนับสนุนญัตติการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยระบุว่า ญัตตินี้เป็นเรื่องที่ดี และกำลังมาถูกทางเพราะเรื่องนี้มีความคิดเห็นที่แตกต่างหลากหลายมาก ขอชื่นชมรัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทย ที่ได้ตัดสินใจอย่างสอดคล้องกับสภาพข้อเท็จจริง ในการสร้างกลไกเพื่อเปิดพื้นที่ให้กลุ่มคนต่างๆ ได้มีส่วนร่วมในการจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้


นายกัณวีร์ ระบุว่า โจทย์แรกของคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ คือจะต้องระบุให้ได้ถึงปลายทางที่พวกเราปรารถนาเกี่ยวกับการนิรโทษกรรมว่าคืออะไร หากจะยกโทษแล้วเหมือนกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อนคงเป็นไปไม่ได้ จะต้องระบุให้ได้ว่ากลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับการนิรโทษกรรมคือใครบ้าง เพื่อให้สอดคล้องกับเจตนารมย์ หลักการและเหตุผลในการร่างกฎหมายฉบับนี้ จะต้องเกิดฉันทาอนุมัติและเห็นพ้องอย่างชัดเจนใน 2 ประเด็นดังกล่าวก่อน

“การนิรโทษกรรมควรเป็นแค่ส่วนหนึ่งของกระบวนการที่ใหญ่กว่านั้น นั่นคือการเมืองแห่งการให้อภัยและกระบวนการยุติธรรมในระยะที่เปลี่ยนผ่าน ดังนั้นความพยายามของพวกเราทั้งหมดในวันนี้ เพื่อมุ่งหวังที่จะออกจากความขัดแย้งรุนแรงที่ยืดเยื้อ ฝังราก และทิ่มลึกลงไปในความสัมพันธ์ระหว่างคนไทยด้วยกันเอง“ นายกัณวีร์ กล่าว


นายกัณวีร์ กล่าวต่อว่า มากกว่านั้นยังมีความขัดแย้งรุนแรงระหว่างคนจำนวนมากกับรัฐ ดังนั้นการผลักดันร่างกฎหมายนิรโทษกรรมจะคำนึงถึงเพียงการลบล้างความผิดในมุมเดียวคงเป็นไปไม่ได้ แต่การศึกษาแนวทางการกฏหมายฉบับนี้จะต้องสามารถคลี่คลายความขัดแย้งในการเมืองไทย ตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมาได้พอสมควร โดยคำนึงอยู่ใน 2 กรอบข้างต้น คือ ปลายทางที่ปราถนาคืออะไร และกลุ่มเป้าหมายของการนิรโทษกรรมคือใครบ้าง

”การนิรโทษกรรมจะไม่สามารถนำไปสู่การให้อภัยซึ่งกันและกันระหว่างคู่ขัดแย้งและก้าวไปข้างหน้าด้วยไม่ได้เลย หากบางเรื่องที่ยังค้างคาในใจของแต่ละฝ่ายนั้นยังไม่คลี่คลายแน่ชัด ดังนั้นการตั้งคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง หรือการดึงเอารายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ที่เคยจัดทำขึ้นแล้ว จำเป็นจะต้องนำมาประกอบไว้ในการพิจารณายกร่างกฎหมายด้วย“ นายกัณวีร์ กล่าว

นายกัณวีร์ ย้ำว่า การคืนความยุติธรรม ขั้นพื้นฐานที่สุดที่พอจะทำให้ทุกฝ่ายยอมรับการลบล้างโทษได้นั้น คือการคืนความจริงเกี่ยวกับความผิดนั้นๆ ให้กับสาธารณะ และความรับผิดชอบของรัฐที่ใช้อำนาจในการก่อความเสียหายหรือความสูญเสียแก่พี่น้องประชาชน หากมุ่งหมายให้ร่างกฎหมายฉบับนี้ทำให้คนไทยหันหน้ามาให้อภัยซึ่งกันและกัน แล้วเดินหน้าร่วมกันใหม่ได้จริงๆ เราต้องสร้างความกระจ่างให้เห็นพ้องว่า คนแต่ละฝ่ายต้องให้อภัยแก่เรื่องใด ครอบคลุมใคร และกลุ่มใดบ้าง สังคมไทยจึงจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้


“ดังนั้นการนิรโทษกรรมต้องดำเนินการควบคู่ไปกับอีกหลายส่วน จะแยกมาทำเพียงเรื่องเดียวคงไม่ได้ เช่น การแสดงความรับผิดชอบต่อฝ่ายต่างๆ ในความขัดแย้ง คือคนที่ทำผิดก็ต้องออกมารับผิด ไม่ใช่ใช้การนิรโทษกรรมมาปิดช่องทางการขออภัย ต้องแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมโดย เฉพาะการใช้อำนาจ หน้าที่ กฎหมาย และใช้กำลังเข้าห้ำหั่นพี่น้องประชาชน แล้วการนิรโทษกรรมพ้นผิดอย่างลอยนวลเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ ใครทำผิดคดีอาญา หรืออุ้มซ้อมทรมานก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย เราต้องดูรายละเอียดว่าใครทำผิดระดับไหนจะต้องรับผิดชอบอะไรบ้าง”นายกัณวีร์ กล่าว

นายกัณวีร์ ยังกล่าวว่า กฎหมายนิรโทษกรรมครั้งนี้ ต้องครอบคลุมถึงการเยียวยาโดยเฉพาะการเยียวยาทางด้านจิตใจ และยังมีอีกหลายองค์ประกอบที่จำเป็นต้องเข้ามาสู่การพิจารณาศึกษา เพื่อให้เห็นแนวทางที่เป็นไปได้ และทุกฝ่ายยอมรับ

นายกัณวีร์ ย้ำว่า ตนไม่ได้มีเจตนาขัดขวาง แต่ตลอดประวัติศาสตร์ของการเมืองสมัยใหม่ ประเทศไทยมีการนิรโทษกรรมมาแล้วมากกว่า 22 ฉบับ และแน่นอนว่าส่วนใหญ่จะเป็นการยกเว้นโทษแก่คณะรัฐประหาร และมี 3 ฉบับที่บังคับใช้เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมในปี 2516, 2519 และ 2535

“ท่านต้องชัดเจนว่าผู้ได้รับการยกโทษคือใคร เป็นประชาชนผู้ชุมนุมหรือเป็นการเรียกนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง คำตอบของท่านในเรื่องนี้ต่อสถานการณ์การเมืองในวันนี้ สำคัญต่อการกำหนดว่าเราจะอยู่ในความขัดแย้งต่อไป จะมีเงื่อนไขใหม่เพิ่มเติมหรือไม่ หรือเราจะสามารถแสวงหาทางออกจากความขัดแย้งรอบนี้ได้อย่างยั่งยืนร่วมกัน” นายกัณวีร์ กล่าวทิ้งท้าย.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]