รัฐสภา 5 ม.ค.-นายกฯ ยันให้ความสำคัญความโปร่งใสประมูลโครงการ รับข้อเสนอแนะทำ e-bidding ให้โปร่งใส-เป็นธรรม พร้อมปรับเกณฑ์เลื่อนขั้นเป็นขั้นพิเศษ เล็งทำโครงการหลังรับหลักการคู่ขนาน กมธ.งบฯ แต่ต้องอยู่ในกรอบกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่าาประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท วาระแรก ต่อเนื่องเป็นวันสุดท้าย ที่มีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาคนที่ 1 ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลุกขึ้นชี้แจงครั้งแรก กรณีสส.พูดถึงเรื่องการประมูลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-bidding โดยยืนยันว่า เป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญและมั่นใจว่าจะนำความโปร่งใส มีธรรมาภิบาลมาสู่การจัดซื้อจัดจ้าง การประมูลงาน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ และในอดีตสังคมให้ข้อสงสัยกันเยอะ เกี่ยวกับเรื่องนี้ จึงต้องมีการพัฒนากันไปอย่างต่อเนื่อง
“ที่สส.ให้ข้อคิดมาข้อหนึ่ง ผมเห็นด้วย คิดว่าดีมากเพราะเรื่องงบประมาณปี 67 ล่าช้า การจัดสรรงบประมาณลงไป แล้วทำงานได้จริง ต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน ดังนั้น เมื่อรับหลักการร่างพ.ร.บ.นี้แล้ว อาจจะทำคู่ขนานกันไป ถือว่าเป็นข้อเสนอแนะที่ดี และรัฐบาลจะไปดูว่าตรงไหนสามารถทำได้ แต่ต้องไม่ขัดกับข้อกฎหมายก็จะดำเนินการ” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนเรื่องการเลื่อนชั้นประมูล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเรื่องนี้ มีนัยสำคัญหลายด้าน ซึ่งตนเห็นด้วยว่าการเลื่อนชั้นจากชั้นหนึ่งไปเป็นชั้นพิเศษ อาจจะมีเหตุผลที่ต้องปรับเปลี่ยนบ้าง ไม่ใช่เกี่ยวกับจำนวนเงินที่เกี่ยวกับเนื้องานอย่างเดียว แต่เรื่องทุนจดทะเบียน ผลงานในอดีต ก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องดูให้ดีสำหรับการประมูล รวมถึงกรณีการฟ้องร้องด้วย จึงเป็นหน้าที่ของกรมบัญชีกลางที่จะดูรายละเอียดเรื่องนี้ โดยจะคุยกันอีกครั้งในวันนี้ ขอให้สส.สบายใจว่ารัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ พร้อมรับข้อเสนอแนะ หากตรงไหนทำได้ เหมาะสม ไม่ขัดข้อกฎหมายก็พร้อมดำเนินการ.-312.-สำนักข่าวไทย