กสม.แจงหลังถูกราชทัณฑ์โบ้ยทำตามข้อเสนอ

กสม. 15 ธ.ค.-กสม.แจงปมราชทัณฑ์อ้างออกระเบียบคุมขังนอกเรือนจำจากข้อเสนอแนะกสม. ย้ำผู้ต้องหา-ผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีต้องได้รับการปฏิบัติอย่างเสมอภาค-เท่าเทียม-ไม่เลือกปฏิบัติ


คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) ชี้แจงกรณีกรมราชทัณฑ์ระบุถึงที่มาของการออกระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ. 2566 โดยอ้างว่าส่วนหนึ่งมาข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กรณีปัญหาในการดำเนินงานด้านกระบวนการยุติธรรมที่พบจากการดำเนินโครงการตรวจเยี่ยมสถานที่เสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชน  เพื่อแก้ไขปัญหาความแออัดของเรือนจำนั้น ข้อเสนอแนะที่ 1/2562 เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2562 กสม.เสนอให้คณะรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาความแออัดของเรือนจำ ซึ่งไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากลขององค์การสหประชาชาติ โดย 1. ใช้นโยบายกระบวนการยุติธรรมทางเลือก เช่น การเบี่ยงเบนคดีอาญาออกจากกระบวนการยุติธรรมกระแสหลัก   2. การแยกสถานที่คุมขังระหว่างผู้ต้องขังเด็ดขาดกับผู้ต้องขังระหว่างพิจารณา    และ 3. กำหนดสถานที่ควบคุมผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีและผู้ถูกกักขังแทนค่าปรับ    โดยกำหนดสถานที่อื่นเพื่อการควบคุมตัวนอกเหนือจากการควบคุมตัวในเรือนจำ  

ต่อมากสม.มีหนังสือลงวันที่ 25 กุมภาพันธ์  2565 กราบเรียนนายกรัฐมนตรีเพื่อเน้นย้ำให้กรมราชทัณฑ์กำหนดสถานที่ที่เหมาะสมกับผู้ต้องขังแต่ละประเภท เพื่อแก้ไขปัญหาความแออัดของเรือนจำอันเนื่องมาจากการไม่แยกประเภทผู้ต้องขัง ซึ่งกสม.ได้ประชุมหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเมื่อเดือนกุมภาพันธ์และเดือนมีนาคม ที่ผ่านมาเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง สิทธิของผู้ต้องหาหรือจำเลยระหว่างการพิจารณาคดีตามหลักสันนิษฐานว่าบุคคลทุกคนเป็นผู้บริสุทธิ์  ที่ได้รับการรับรองไว้ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 29 วรรคสอง ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ข้อ 11 (1) และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ข้อ 14 วรรคสอง การแยกคุมขังผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีกับผู้ต้องขังเด็ดขาด การแก้ไขกฎกระทรวงออกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 89/1 การติดอุปกรณ์ติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ หรือกำไลอีเอ็ม และการกำหนดสถานที่คุมขังอื่นสำหรับผู้ต้องขังในคดีความแตกต่างทางความคิดหรือความเห็นต่าง   ซึ่งยังไม่มีการพิพากษาว่าเป็นผู้กระทำความผิด


กสม. ขอเน้นย้ำกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง(ICCPR) ข้อ 10 ที่กำหนดให้ผู้ต้องหาต้องได้รับการจำแนกออกจากผู้ต้องโทษ และต้องได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างออกไปให้เหมาะสมกับสถานะที่ไม่ใช่ผู้ต้องโทษ นอกจากนี้รัฐธรรมนูญและกติกา ICCPR ยังกำหนดไว้ว่า บุคคลทั้งปวงย่อมเสมอกันในกฎหมาย   และมีสิทธิที่จะได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกันตามกฎหมาย โดยปราศจากการเลือกปฏิบัติใด ๆ ดังนั้น สิทธิของผู้ต้องขังทุกคนต้องเสมอภาค เท่าเทียม และไม่ถูกเลือกปฏิบัติ ไม่ว่าจะมีสถานะใด ๆ.-314.-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เครื่องบินภูเก็ตมุ่งหน้ามอสโก ขอลงจอดฉุกเฉินที่สุวรรณภูมิ

เที่ยวบิน 777-300ER สายการบิน Aeroflot ขึ้นจากภูเก็ตไปมอสโก เตรียมลงสุวรรณภูมิ หลังบินวนกลางทะเลอันดามันหลายชั่วโมง จากปัญหาระบบลงจอดขัดข้อง

ไข้หวัดใหญ่ระบาด

ไข้หวัดใหญ่ระบาดในสหรัฐ-เสียชีวิตแล้ว 13,000 ราย

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี รายงานว่า พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในฤดูกาลนี้อย่างน้อย 24 ล้านคนแล้วทั่วสหรัฐ

ตัดไฟเมียนมา

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันปลดพนักงานแล้วกว่าร้อยคน

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันออนไลน์และกลุ่มสแกมเมอร์ที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ปลดพนักงานแล้วกว่า 100 คน เนื่องจากขาดแคลนกระแสไฟฟ้า ทำให้พนักงานทยอยเดินทางออกจากท่าขี้เหล็ก กลับมาทางด่าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย อย่างต่อเนื่อง

ข่าวแนะนำ

ปฏิบัติการกวาดล้าง “คาวบอยบ่อแก้ว” แก๊งยาเสพติดรายใหญ่ภาคเหนือ

เจ้าหน้าที่เปิดปฏิบัติการกวาดล้างเครือข่าย “คาวบอยบ่อแก้ว” แก๊งขนยาเสพติดรายใหญ่ของภาคเหนือ พร้อมยึดทรัพย์สินกว่า 100 ล้านบาท หลังพบช่วง 2 ปีนี้ ขนไอซ์จากชายแดนลงไปภาคกลางไม่ต่ำกว่า 20 ครั้ง เฉพาะที่ถูกจับได้ 3 ครั้ง ยึดไอซ์ได้กว่า 3,000 กิโลกรัม

2 เด็กชาย ปีนหน้าต่างรถตู้หนี ขณะนำตัวส่งสถานพินิจ

ไล่ล่าวุ่น! 2 เด็กชาย ต้องคดีลักทรัพย์-ยาเสพติด กระโดดหน้าต่างรถตู้หลบหนีระหว่างนำส่งสถานพินิจฯ โคราช ก่อนขโมย จยย.ชาวบ้านหลบหนี

“ภูมิใจไทย” มีมติไม่ร่วมแก้ รธน. หวั่นขัดคำวินิจฉัยศาล

“ภูมิใจไทย” มีมติไม่ร่วมสังฆกรรมแก้ รธน. วันพรุ่งนี้ หวั่นขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ยันไม่กระทบความสัมพันธ์พรรคร่วมรัฐบาล ชี้เป็นเรื่องฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่สนเป็นแพะรับบาปขวางการแก้ไข บอกแจ้งนายกฯ ให้ทราบแล้ว