2 สัปดาห์ ลงทะเบียนหนี้นอกระบบแล้ว 94,415 ราย

14 ธ.ค.- ปลัดมหาดไทย เปิดเผยยอดลงทะเบียนหนี้นอกระบบครบ 2 สัปดาห์ ประชาชนลงทะเบียนแล้ว 94,415 ราย มูลหนี้ 5,458 ล้านบาท เน้นย้ำ ยังคงเปิดรับลงทะเบียนอย่างต่อเนื่อง ควบคู่การบูรณาการหาแนวทางไกล่เกลี่ยหนี้


นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยได้เปิดรับลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบเป็นวันที่ 14 ซึ่งจากข้อมูลของสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง เมื่อเวลา 15.30 น. มีมูลหนี้รวม 5,458.426 ล้านบาท ประชาชนลงทะเบียนแล้ว 94,415 ราย โดยเป็นการลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ 84,184 ราย และการลงทะเบียน ณ ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ 10,231 ราย จำนวนเจ้าหนี้ 64,961 ราย โดยพื้นที่/จังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนมากที่สุด 5 ลำดับ 1. ยังคงเป็นกรุงเทพมหานคร มีผู้ลงทะเบียน 6,012 ราย เจ้าหนี้ 4,925 ราย มูลหนี้ 461.689 ล้านบาท 2. จังหวัดนครศรีธรรมราช มีผู้ลงทะเบียน 4,027 ราย เจ้าหนี้ 3,147 ราย มูลหนี้ 233.689 ล้านบาท 3. จังหวัดสงขลา มีผู้ลงทะเบียน 3,774 ราย เจ้าหนี้ 2,587 ราย มูลหนี้ 233.577 ล้านบาท 4. จังหวัดนครราชสีมา มีผู้ลงทะเบียน 3,674 ราย เจ้าหนี้ 2,250 ราย มูลหนี้ 264.948 ล้านบาท 5. จังหวัดขอนแก่น มีผู้ลงทะเบียน 2,438 ราย เจ้าหนี้ 1,846 ราย มูลหนี้ 168.493 ล้านบาท ขณะที่จังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนน้อยที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ 1. จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีผู้ลงทะเบียน 127 ราย เจ้าหนี้ 79 ราย มูลหนี้ 5.202 ล้านบาท 2. จังหวัดระนอง มีผู้ลงทะเบียน 191 ราย เจ้าหนี้ 125 ราย มูลหนี้ 13.942 ล้านบาท 3. จังหวัดสมุทรสงคราม มีผู้ลงทะเบียน 255 ราย เจ้าหนี้ 173 ราย มูลหนี้ 8.240 ล้านบาท 4. จังหวัดตราด มีผู้ลงทะเบียน 316 ราย เจ้าหนี้ 184 ราย มูลหนี้ 9.930 ล้านบาท และ 5. จังหวัดมุกดาหาร มีผู้ลงทะเบียน 345 ราย เจ้าหนี้ 220 ราย มูลหนี้ 19.679 ล้านบาท

นายสุทธิพงษ์ ในวันนี้ครบ 2 สัปดาห์ของการเปิดรับลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งพบว่ายังคงมีพี่น้องประชาชนลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ และเดินทางมาลงทะเบียนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกระทรวงมหาดไทยยังคงเปิดรับลงทะเบียน โดยได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และภาคีเครือข่ายในพื้นที่ ได้ช่วยกันประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้พี่น้องประชาชนที่กำลังประสบปัญหาการเป็นหนี้นอกระบบ ได้แสดงตัวด้วยการลงทะเบียนตามช่องทางดังกล่าว ขณะเดียวกันได้เน้นย้ำให้ที่ทำการปกครองอำเภอได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจ สรรพากร ดำเนินมาตรการไกล่เกลี่ยหนี้นอกระบบระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้ ตามแนวทางที่ได้มอบนโยบายไว้


“นอกจากนี้ยังได้กำชับนายอำเภอทุกอำเภอได้ใช้กลไกทีมอำเภอบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน ได้ร่วมกับคณะกรรมการหมู่บ้าน กรรมการคุ้มบ้าน ช่วยกันสอดส่องดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนที่เดือดร้อนจากหนี้นอกระบบ เพื่อป้องกันเหตุที่อาจจะส่งผลต่อชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนเหล่านั้น และช่วยกันดูแลด้วยการส่งเสริมหลักการพึ่งพาตนเอง ทั้งการปลูกพืชผักสวนครัว การเลี้ยงปลา เลี้ยงกบ เลี้ยงไก่ไข่ ไว้บริโภคในครัวเรือน และสร้างการรับรู้กับประชาชนผู้เดือดร้อนอย่างสม่ำเสมอว่า ทุกปัญหามีทางออก ทุกเรื่องความเดือดร้อนมีทางแก้ไข” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเพิ่มเติม

“ขอเชิญพี่น้องประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้นอกระบบ ได้ลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ทั้งทางออนไลน์ที่ https://debt.dopa.go.th หรือวอร์คอินได้ ณ ที่ว่าการอำเภอ หรือสำนักงานเขตทั่วประเทศ โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร. 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชนในพื้นที่“ นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงท้าย .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

แอร์อินเดียบินกลับเดลีแล้ว หลังตรวจไม่เจอระเบิด

ภูเก็ต 13 มิ.ย. – เครื่องบินแอร์อินเดีย พร้อมผู้โดยสาร 155 คน ออกจากสนามบินภูเก็ต กลับเมืองเดลีแล้ว หลังตรวจละเอียดยิบ ไม่พบระเบิดตามจดหมายขู่ สอบเครียด 3 ผู้ต้องสงสัยชาวอินเดีย แต่ต้องปล่อยไป เพราะไร้หลักฐานมัด ยันไม่กระทบการให้บริการท่าอากาศยานฯ เมื่อเวลา 09.30 น. หอบังคับการบินสนามบินภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์ควบคุมการบิน บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ว่าลูกเรือสายการบิน AIR INDIA เที่ยวบินที่ AI 379 เส้นทางบิน HKT-ภูเก็ต-DEL (เดลี) ผู้โดยสารจำนวน 156 คน พบข้อความขู่วางระเบิดในแผ่นกระดาษระบุว่า ‘F… you all bomb’ วางไว้ในห้องน้ำ จากนั้นสายการบินได้ประกาศเข้าสู่แผนฉุกเฉิน ให้นักบินนำเครื่องบินมาลงที่สนามบินภูเก็ต โดยทางสนามบินภูเก็ต ได้ประกาศใช้แผนเผชิญเหตุของสนามบิน Airport Contingency Plan และดำเนินการตั้งศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ EOC เพื่อควบคุมและบริหารจัดการสถานการณ์ตามแผนฯ […]

คดี “ทักษิณ” ชั้น 14 ศาลเรียกพยาน 20 ปาก-นัดไต่สวนอีก 6 นัด ก.ค.นี้

กรุงเทพฯ 13 มิ.ย. – คดี “ทักษิณ” วันนี้ ศาลเตรียมเรียกพยาน 20 ปาก พร้อมนัดไต่สวนอีก 6 นัด ช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ถือเป็นการเริ่มกระบวนการไต่สวนเรื่องการบังคับคดีของอดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ยืนยันไม่มีการปิดด่านบ้านคลองลึก

สระแก้ว 13 มิ.ย. – ผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่สยบข่าวลือปิดด่านคลองลึก หลังชาวไทย-กัมพูชา ตื่นตระหนกแห่ข้ามฝั่ง จนเกิดความวุ่นวายหน้าด่าน ขณะฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เกิดความวุ่นวายขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 12.30 น. หลังจากมีกระแสข่าวลือในกลุ่มผู้ค้าชาวกัมพูชาและชาวไทย ว่าทางการจะมีคำสั่งปิดด่านชั่วคราวในช่วงบ่าย ระหว่างเวลา 13.00-14.00 น. ทำให้ประชาชนทั้ง 2 ฝั่งเร่งรีบข้ามแดนและสอบถามข้อมูลกันอย่างจ้าละหวั่น โดยข่าวลือดังกล่าวแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว พ่อค้าแม่ค้าจำนวนมากเดินทางข้ามแดนก่อนถึงช่วงเวลาที่เข้าใจกันว่าจะปิดด่าน ทำให้บรรยากาศหน้าด่านเต็มไปด้วยความตึงเครียดและสับสน ด้านผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่ชี้แจงเรื่องดังกล่าว ยืนยันไม่มีคำสั่งปิดด่าน พร้อมขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และย้ำชัดว่าเวลาการเปิด-ปิดด่านยังคงเป็นไปตามประกาศเดิมของกองกำลังบูรพา คือเปิด 08.00-16.00 น. ทุกวัน โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือคำสั่งใหม่ ฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทยแหล่งข่าวด้านความมั่นคงกัมพูชา เปิดเผยว่า ฝ่ายปกครองในฝั่งปอยเปตได้ดำเนินการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่เชื่อมโยงกับฝั่งไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมข้อมูลและสื่อสารในพื้นที่ชายแดน ฝั่งกัมพูชาปิดด่านบ้านแหลมไม่แจ้งล่วงหน้าส่วนบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เมื่อเวลา 10.45 น. เกิดความวุ่นวาย หลังฝั่งกัมพูชา มีการปิดประตูด่านฝั่ง ต.บึงรัง […]

ผู้รอดชีวิตจากแอร์อินเดียเผยหนีออกทางประตูฉุกเฉินที่เสียหาย

นิวเดลี 13 มิ.ย. – ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากเหตุเครื่องบินแอร์อินเดียตก ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 240 คน กล่าวว่า เขาเดินออกมาจากประตูฉุกเฉินที่พังเสียหาย หลังจากเครื่องบินชนเข้ากับหอพักวิทยาลัยแพทย์ในเมืองอาห์เมดาบัด นายราเมศ วิศวาศกุมาร ซึ่งตำรวจระบุว่า เขานั่งอยู่ที่นั่ง 11เอ (11A) ใกล้ประตูฉุกเฉิน และสามารถหนีรอดมาได้ทางช่องทางประตูฉุกเฉินที่ชำรุดเสียหาย เขาถูกบันทึกภาพไว้หลังเหตุเครื่องบินตกเมื่อวันพฤหัสบดี ขณะกำลังเดินกะเผลกๆ อยู่บนถนนในสภาพเสื้อยืดเปื้อนเลือดและมีรอยฟกช้ำบนใบหน้า คลิปภาพชาวอังกฤษเชื้อสายอินเดียผู้นี้ที่เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ ถูกนำไปออกอากาศในสถานีข่าวเกือบทั้งหมดของอินเดีย หลังจากเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ลำดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุตกหลังออกเดินทางจากสนามบินได้ไม่นาน นายวิศวาศกุมาร ให้สัมภาษณ์ขณะนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลว่า เขาไม่อยากจะเชื่อว่ารอดชีวิตมาได้อย่างไร และคิดว่าต้องตายแน่ ๆ แต่พอเขาลืมตา เขาก็รู้สึกตัวว่ายังไม่ตาย และพยายามปลดเข็มขัดนิรภัย เพื่อออกจากที่นั่ง และพยายามหนีออกมาจากตัวเครื่องบิน นายวิศวาศกุมาร เล่าว่า เครื่องบินดูเหมือนจะหยุดนิ่งกลางอากาศเป็นเวลา 2-3 วินาที หลังจากที่ขึ้นบินไปในอากาศ และไฟในห้องโดยสารที่เป็นสีเขียวและสีขาวก็สว่างขึ้น เขารู้สึกได้ว่าแรงขับเคลื่อนของเครื่องยนต์เพิ่มขึ้น แต่แล้วเครื่องบินก็ชนเข้ากับหอพักด้วยความเร็ว แพทย์ระบุว่า นายวิศวาศกุมารไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงใด ๆ ในขณะที่เขากล่าวว่า เขาเดินออกจากจุดเครื่องบินตก โดยบาดเจ็บจากบาดแผลไฟไหม้ที่แขนซ้ายเท่านั้น นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี […]