ศาลรัฐธรรมนูญ 14 ธ.ค. – “ปกรณ์วุฒิ” แจงฟังไต่สวนคดีสถานะรัฐมนตรี “ศักดิ์สยาม” ยังไม่ชัด เจ้าตัวไม่มีหุ้นใน หจก.บุรีเจริญฯ รอสืบพยานต่ออีก 3 ปาก
วันนี้ (14 ธ.ค.) ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนพยานบุคคลในคดีที่ สส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน 54 คน ได้ยื่นคำร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่านายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและเป็นผู้ถือหุ้นและเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น ทำให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหุ้นหรือกิจการของห้างหุ้นส่วนเป็นการกระทำต้องห้าม ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 187 ประกอบพระราชบัญญัติการจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี มาตรา 4 (1) เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) หรือไม่
โดยหลังพักการไต่สวนพยานในช่วงเที่ยง นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล หนึ่งในผู้ร้อง ให้สัมภาษณ์ว่าวันนี้มีการสืบพยานทั้งหมด 6 ปาก และขณะนี้ดำเนินการไปแล้วครึ่งทางแล้ว เหลือพยานอีก 3 ปาก โดยก่อนหน้านี้ศาลได้มีการขอข้อมูลกันมาก่อนแล้ว วันนี้จึงเป็นเพียงการสืบพยานแบบปากต่อปากเท่านั้น ซึ่งศาลจะถามคำถามแล้วก็ให้ตอบเลย โดยศาลได้มีการถามหลายประเด็นในเรื่องกิจกรรมของทั้ง 2 บริษัทที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ว่ากิจกรรมเกิดอย่างไรบ้าง มีสัญญากู้ยืมกันจริงหรือไม่ หรือยืมกันปากเปล่า และมีเงินเข้าออกจริงหรือไม่ ซึ่งประเด็นเหล่านี้จะเป็นหลักในการสืบพยานวันนี้
เมื่อถามว่า จากที่ฟังการไต่สวนคิดว่านายศักดิ์สยาม ยังถือหุ้นในบริษัทบุรีเจริญฯ หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ถ้าพูดตามตรง ทางฝั่งผู้ถูกร้องมีการยื่นชี้แจงมาแล้วรอบหนึ่งตนได้อ่านดูคร่าวๆ ยังมีบางจุดที่มีพิรุธ ซึ่งไม่สามารถฟันธงได้ว่าสรุปแล้วเป็นการใช้นอมินีหรือไม่ หรือมีการโอนหุ้นกันจริงๆ แต่ทั้งนี้มีพฤติการณ์ที่น่าสงสัยหลายอย่าง และความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและนิติบุคคลต่างๆ ค่อนข้างที่จะพัวพัน และน่าสงสัยพอสมควร จากการไต่สวนวันนี้ยังไม่มีความชัดเจนมากสักเท่าไร คงอาจจะต้องรอพยานอีก 3 ปากที่เหลือ เพราะน่าจะเป็นพยานที่มีความสำคัญต่อคดีนี้พอสมควร ส่วนพยานในวันนี้มีใครบ้างตนไม่ขอระบุชื่อ แต่เป็นคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการทำงบการเงินในกรณีดังกล่าว.-314-สำนักข่าวไทย