เปิดบัญชีทรัพย์สิน 3 รมต. “เศรษฐา 1”

สำนักงาน ป.ป.ช. 4 ธ.ค.-ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน 3 รมต. “พวงเพ็ชร” รวย 871 ล้านบาท บ้าน 9 หลัง ที่ดินเพียบ ด้าน ” ภูมิธรรม” มีทรัพย์สิน 49.7 ล้านบาท ส่วน “จักรพงษ์” รมช.กต. โสด-รวย 56.5 ล้านบาท สะสมพระสมเด็จ นาฬิกาหรู ขณะที่ ”เศรษฐา” ยื่นบัญชีทรัพย์สินแล้ว อยู่ระหว่างตรวจก่อนเปิดสาธารณะ


สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป .ป.ช.) เปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน 3 รัฐมนตรีใหม่ กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 5 ก.ย.66 ในรัฐบาลเศรษฐา 1 โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนางอภิญญา ข้าราชการบำนาญมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คู่สมรส  แจ้งมีทรัพย์สินรวม 49,714,848บาท มีหนี้สิน145,504 บาท โดยเป็นทรัพย์สินของนายภูมิธรรม10,175,194 บาท แบ่งเป็นเงินฝาก 6 บัญชี 2,315,194 บาท ที่ดิน 2 แปลงใน อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่และเขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ รวม3 ล้านบาทโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 1.5 ล้านบาท ยานพาหนะ  2 คันเป็นรถยนต์ BMW และ TOYOTA รวม3.36 ล้านบาท สิทธิและสัมปทานระบุได้จากกองมรดก ทรัพย์สินอื่นไม่มี มีหนี้สินเป็นเงินเบิกเกินบัญชี 145,504 บาท แจ้งมีรายได้ต่อปีรวม 1,548,203 บาทเป็นเงินเดือนโบนัสและบำนาญ 1,541,400 บาท ดอกเบี้ยธนาคารและสถาบันการเงิน 6,803 บาท มีรายจ่ายต่อปีเป็นค่าอุปโภคบริโภค ประกันภัยบ้าน ประกันชีวิตและอื่นๆรวม 681,123 บาท

ส่วนนางอภิญญา มีทรัพย์สินรวม 39, 539,654 บาท แบ่งเป็นเงินฝาก 8 บัญชี9, 029,624 บาท เงินลงทุนในสหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์4,192,000 บาท ที่ดิน3 แปลง ในเขตบางซื่อกรุงเทพฯ และอ.ปากช่องจ.นครราชสีมา 13 ,595,400 บาทโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างเป็นบ้านเดี่ยว 2 หลัง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯที่ได้รับมรดกรวม 10 ล้านบาท สิทธิและสัมปทาน 2,722,630 บาท และแจ้งมีรายได้ต่อปีประมาณ 1,537,622 บาทแบ่งเป็นจากเงินเดือน โบนัสและบำนาญ 274,675 บาท ดอกเบี้ยธนาคาร 61,503 บาท เงินปันผลจากหุ้นมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 181,443 บาท เงินคืนประกันชีวิต 20,000 บาท รายได้จากงานวิจัยและงานวิทยากร 1 ล้านบาท และแจ้งมีรายจ่ายต่อปี เป็นค่าอุปโภคบริโภค ประกันภัยบ้าน ประกันชีวิตและอื่นๆรวม1,039,120 บาท


นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แจ้งสถานะโสดมีทรัพย์สินรวม 56,588,980 บาท ไม่มีหนี้สิน ทรัพย์สินแบ่งเป็นเงินสด 1.5 ล้านบาทเงินฝาก4 บัญชี 1,777,516 บาทเงินลงทุนใน Equity-lHFG 3,818,600 หน่วยรวมมูลค่า3,775,464 บาทเงินให้กู้ยืม 20 ล้าน  แก่บริษัทยนตรทรัพย์ โดยนายสุรินทร์ แสงมณี ประธานบริษัทซึ่งเป็นบิดานายจักรพงษ์เอง เมื่อ 30 มี.ค 65 และยังมียอดหนี้คงเหลือเต็มจำนวน ยานพาหนะ 2.2 ล้านบาททรัพย์สินอื่น 27,336,000 บาท อาทิ พระสมเด็จ 1 องค์มูลค่า 7 ล้านบาท Diamond7.06 ct,T-VS มูลค่า 7.8 ล้านบาท ทองคำ รวม 41บาท นาฬิกา Rolex, Patek Philippe,Breitling1884  ,Leica ,Panerai 111 ,Santos De Cartier รวม10เรือน ปืน Glock 17 จำนวน 1 กระบอก ชุดเหรียญทองคำ 12 บาท 2 ชุด  เหรียญทองคำ 2.2 บาท 10 เหรียญชุดเหรียญทองคำ 24 บาท 1 ชุด ชุดเหรียญทองคำ 18 บาท 1 ชุด และแจ้งมีรายได้ต่อปีจากเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งรวม 1,362,720 บาท มีรายจ่ายต่อปีเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 600,000 บาท

ทั้งนี้ ก่อนเข้าสู่การเมือง นายจักรพงษ์ เป็นเป็นนักธุรกิจด้านโลจิสติกส์ตั้งแต่ปี2547 เป็นกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยตั้งแต่ปี 53-56และปี61-ปัจจุบัน โดยในการเลือกตั้งเมื่อ14 พ.ค.66 นอกจากเป็นผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 92 แล้วยังทำหน้าหน้าที่เลขานุการศูนย์ปฏิบัติการการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย ได้รับมอบหมายให้ติดตามดูแลนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเนตนายกรัฐมนตรีของพรรคอย่างใกล้ชิดตั้งแต่ช่วงลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้ง

นางพวงเพ็ชร  ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำ ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งว่าคู่สมรสเสียชีวิตเมื่อ 1 ม.ค 39 มีทรัพย์สินรวม 871,071,133 บาท มีหนี้สินเป็นเงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้จากธนาคารสถาบันการเงินอื่นรวม 17,597,018 บาท ทรัพย์สินแบ่งเป็นเงินสด 500,000 บาทเงินฝาก 30 บัญชี45, 529,534 บาทเงินลงทุนในกองทุนต่างๆ 70,710,636 บาท ที่ดิน 51แปลง ทั้งโฉนดและน.ส. 3 ก. ในกรุงเทพฯ ,ปทุมธานี ,ระยอง ,เลย,ประจวบ,กำแพงเพชร ,หนองคาย รวม 213,030,000บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างจำนวน 9 หลัง รวม333,550,000บาท แบ่งเป็นบ้านพักอาศัย 7 หลังในเขตหลักสี่กรุงเทพฯ มูลค่า 70 ล้านบาท เขตพญาไท 75 ล้าน  ในอ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 88 ล้านในอ.แกลง จ.ระยองมูลค่า 50 ล้าน อาคารสำนักงานในเขตจตุจักร กรุงเทพฯมูลค่า 45 ล้านห้องชุดเตาปูนแมนชั่น 550,000 บาท ยานพาหนะ 22,121,963บาท โดยเป็นรถยนต์ 9 คันทั้ง Toyota Isuzu Benz และ Volkswagen ป้ายแดง จักรยานยนต์ Honda เรือยอร์ช1ลำ ซึ่งแจ้งหายไว้ที่สภ.พัทยา สาขาโค้งดงตาลเมื่อ 7 ก.ค. 58 และเรือยนต์ 1ลำจอดซ่อม


สิทธิและสัมปทาน 6 ล้านบาทเป็นสัญญาเช่าที่ดินรัชดา 76 ตั้งแต่ 1 เม.ย. 65 ถึง 31 ต.ค. 67 ทรัพย์สินอื่น 179,629,000 บาท อาทิ งาช้าง 4 กิ่ง มูลค่า 1 ล้านบาท ทองคำแท่ง 3 กิโลกรัม 60 บาท จำนวน 9 แท่งมูลค่า 8,415,000 บาท สร้อยคอทองคำน้ำหนักรวม 10 บาท 5 เส้นมูลค่า 1.6 ล้านบาท สร้อยคอ ข้อมือเพชร 6 ชิ้นมูลค่า 4.8 ล้านบาท เข็มกลัด ต่างหูแหวน จี้มุก 30 ชิ้นมู ลค่า 2,387,000 บาท สร้อยคอมุก 9 ชิ้นมูลค่า 2.8 ล้านบาท แหวนเพชร ต่างหู จี้เพชร 19 ชิ้นมูลค่า 37.8 ล้านบาท ชุดจี้เพชรรูปหัวใจ 6 ชิ้นมูลค่า 27,870,000 บาทแหวนทองคำ แหวนมรกต ไพลินล้อมเพชร 13 ชิ้นมูลค่า 2,975,000 บาทชุดไทยอุบะ เข็มขัดเพชร 5 ชิ้น 9 แสนบาท ชุดมรกต 13 ชิ้น 2,450,000 บาท ชุดPink Tourmaline 20 ชิ้น 2,030,000 บาท ชุดอัญมณีไพลิน 16 ชิ้น ชุดบุษราคัม 11 ชิ้น 2 ล้านบาทชุดเบญจภาคี 1 ชุด 40 ล้านบาท นาฬิกา 22 เรือน 11,050,000 บาทชุดพระเครื่อง 154 ชิ้น 18,852,000 บาทกระเป๋าถือ Hermes ,Chanel ,Prada YSL ,LV,Gucci 22 ใบ 3,150,000 บาท เป็นต้น  แจ้งมีรายได้ต่อปีประมาณ 2.4 ล้านบาทจากค่าเช่าที่ดินและมีรายจ่ายต่อปีประมาณ 2,663,675 บาทเป็นค่าอุปโภคบริโภค 1.2 ล้านบาท ค่าผ่อนรถ 1,343,675 บาท ค่าอุปการะมารดา 120,000 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีข้อมูลจากสำนักงาน  ป.ป.ช.ว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินมาแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยยังอยู่ภายในกรอบที่ต้องยื่นก่อนวันที่ 4 ธันวาคม ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบการมีอยู่จริงของทรัพย์สินโดยสำนักงาน ป.ป.ช. ก่อนแจ้งกำหนดวันแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของนายกรัฐมนตรีต่อไป.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ย้ำปฏิบัติตามเงื่อนไขหยุดยิงเคร่งครัด

ศรีสะเกษ 27 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ที่ด่านศุลกากรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ย้ำให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ไม่ขยายขอบเขตความขัดแย้ง ไม่เผยแพร่ข่าวปลอม รวมถึงเห็นชอบให้ความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คำแถลงข่าวร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 ราชอาณาจักรไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ราชอาณาจักรกัมพูชา วันที่ 27 สิงหาคม 2568 จังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ จัดขึ้นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ในจังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย โดยมี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และพลโท […]

พายุคาจิกิกระทบหลายจังหวัดเหนือ-อีสาน

27 ส.ค. – ผลกระทบจากพายุ “คาจิกิ” ส่งผลหลายจังหวัดภาคเหนือและภาคอีสาน ฝนตกหนัก อย่าง จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม ส่วน จ.เลย แม่น้ำเหืองเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ต.นาแก้ว อ.นาแห้ว ชาวบ้านต้องเร่งยกสิ่งของขึ้นที่สูง พายุคาจิกิเคลื่อนตัวสู่ จ.น่าน ทำให้ 6 อำเภอทางตอนเหนือของเมืองน่าน มีฝนตกหนักและเริ่มมีน้ำป่าหลากดินสไลด์ใน ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น ชาวบ้านตามชุมชนและร้านค้าต่างๆ เร่งเก็บข้าวของไว้บนที่สูง อย่างชุมชนสวนตาลล่าง ซึ่งยังไม่ทันฟื้นฟูความเสียหายจากพายุวิภาเมื่อเดือนที่แล้ว ต้องเตรียมพร้อมกันอีกรอบ อย่างร้านจำหน่ายแอร์และกล้องวงจรปิดร้านนี้ ซึ่งครั้งที่แล้วเสียหายไปกว่า 6 ล้านบาท ต้องขนสินค้าออกจากร้านและยกขึ้นชั้น 2 หวั่นเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะเดียวกันเริ่มอพยพผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ในจุดเสี่ยงน้ำท่วมออกมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงแล้วกว่า 20 ราย รวมทั้งเร่งเสริมคันดินและกระสอบทรายตามจุดเสี่ยงรอบเมือง โดยเฉพาะโรงพยาบาลน่าน ที่เคยถูกน้ำท่วมเสียหายเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งขนอุปกรณ์การแพทย์ขนาดใหญ่ไปไว้ในที่ปลอดภัย และเสริมแนวกระสอบทรายป้องกันไว้แล้ว พร้อมยกระดับยกระดับการป้องกันและรับมือกับพายุคาจิกิขั้นสูงสุด ขณะที่ จ.แม่ฮ่องสอน มีผู้ใช้โซเชียลโพสต์คลิปสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงช่วงบ่ายวานนี้ (26 ส.ค.) ในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม […]

ทบ.ย้ำชัดกัมพูชาบิดเบือน-ให้ร้าย ตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000

27 ส.ค.- โฆษก ทบ.โต้กัมพูชา กล่าวหาบิดเบือนพยายามให้ร้ายฝ่ายไทย ย้ำชัดวางลวดหนาม “บ้านหนองจาน” อยู่ในเขตอธิปไตยไทย ชี้เขมรตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000 จากกรณีที่สำนักข่าว Fresh News รายงานว่า นายชุม ซอนรี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา แถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัมพูชา–ไทย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 สิงหาคม 2568 เวลา 16.00 น. โดยระบุว่า ฝ่ายไทยได้ละเมิดอธิปไตยของกัมพูชา และละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ด้วยการวางลวดหนามรุกล้ำพื้นที่บ้านเรือนและที่ดินของประชาชนในหมู่บ้านโจกเจย ตำบลโอเบยเจือน อำเภอโอโจรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย ซึ่งสะท้อนถึงฝ่ายไทยได้ขยายพื้นที่ความขัดแย้งเข้ามาสู่เขตชุมชนพลเรือน และจากการประชุม GBC เมื่อ 7 สิงหาคม 2568 มีบันทึกความเข้าใจ 13 ข้อ ระบุว่าจะไม่มีการดำเนินการใด ๆ ที่เป็นการยั่วยุ และจะหลีกเลี่ยงการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มขึ้น รวมถึงตามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2000 ห้ามการดำเนินการใด ๆ […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน ฝนตกหนักบางพื้นที่

กรุงเทพฯ 27 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนประชาชนโดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนภาคกลาง รวมทั้ง กทม.-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมกำลังค่อนข้างแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน […]