“ปานปรีย์” เผยตัวประกันไทยถูกปล่อยตัวมากสุด

กรุงเทพฯ 25 พ.ย.-“ปานปรีย์” ยืนยันตัวประกันไทยถูกกลุ่มฮามาสปล่อย 10 ราย แต่ไม่มีชื่อแจ้ง 4 ราย ทำให้ยังไม่ได้ช่วยอีก 20 ราย ไทยได้ปล่อยตัวประกันมากสุด จากประสานประเทศอาหรับและอิหร่าน

นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย เกี่ยวกับข่าวดีกรณีการปล่อยตัวประกันคนไทย 10 คน ของกลุ่มฮามาส นายปานปรีย์ กล่าวยืนยันอีกว่า กลุ่มฮามาสได้ปล่อยตัวประกันคนไทย จำนวน 10 คน โดยแบ่งเป็นผู้ชาย 9 ราย และผู้หญิงอีกหนึ่งราย ได้มีการส่งมอบตัวประกันผ่านทางประเทศอียิปต์ ซึ่งมีชายแดนติดกับฉนวนกาซา แล้วส่งตัวประกันกลับมายังประเทศอิสราเอล โดยส่งไปไว้ที่ฐานทัพอากาศ Hatzerim Airbase หลังจากนั้นถูกนำตัวประกันส่งตัวไปยังโรงพยาบาลชามีร์ (Shamir Medical Center) เบื้องตนได้รับรายงานว่า ตัวประกันคนไทยสุขภาพดีเกือบทั้งหมด ยกเว้นผู้ชายที่ได้รับบาดเจ็บที่หูมีลักษณะหูอื้อ และตัวประกันผู้หญิงได้รับการดูแลให้อยู่แยกกับตัวประกันผู้ชาย ทั้งนี้ทุกคนดีใจที่ได้รับการปล่อยตัวออกมา และสุขภาพจิตดี


ส่วนการประสานติดต่อญาติตัวประกันทั้ง 10 ราย นายปานปรีย์ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ติดต่อให้ญาติของตัวประกันคนไทยได้รับทราบหมดแล้ว แต่อาจจะยังไม่ได้คุยกับตัวประกันโดยตรง สิ่งที่น่าแปลกใจกับตัวประกันที่ถูกปล่อย นายปานปรีย์ กล่าวว่า คนไทยอยากอาบน้ำ เนื่องจากช่วงถูกจับกุมไม่ได้อาบน้ำเลย และต้องการติดต่อกับญาติที่อยู่ในไทย ซึ่งได้รับการดูแลจากเจ้าหน้าที่ของอิสราเอลเป็นอย่างดี โดยจัดแพทย์ พยาบาล และนักสังคมสงเคราะห์ ให้การดูแล ส่วน เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงเทลอาวีฟ ได้พบกับแรงงานไทยทั้งหมดแล้ว

สำหรับที่คนไทยได้รับการปล่อยตัวจากกลุ่มฮามาส นายปานปรีย์ เชื่อว่าเกิดจากการเดินประสานงานขอความช่วยเหลือตัวประกันคนไทยจากประเทศต่างๆ ทั้งประเทศกาตาร์ ประเทศอิหร่าน ประเทศอียิปต์ และกลุ่มประเทศอาหรับอื่นๆ ที่เชื่อว่าจะสามารถติดต่อประสานโดยตรงกับกลุ่มฮามาสได้ พร้อมให้ความช่วยเหลือ ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี โดยเป็นเรื่องน่ายินดีที่ไทยได้การปล่อยตัวประกันมากหว่าประเทศอื่นจากตัวประกันที่ถูกจับ 100 กว่าคน ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประดทศไทยทำหนังสือขอบคุณประเทศต่างๆ ที่ให้การช่วยเหลือ


ด้านการประชุมหารือกับรัฐมนตรีช่วยอิหร่าน เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ในการประสานความช่วยเหลือตัวประกันไทย ได้มีการเปิดเผยถึงความคืบหน้าในการประสานงานหรือไม่ นายปานปรีย์ เปิดเผยว่า รัฐมนตรีช่วยอิหร่านแจ้งว่าเรื่องที่เคยหารือไม่ต้องเป็นห่วง ขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการอยู่อีกไม่นานทุกอย่างจะเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม ในทางการทูตจะไม่มีการพูดอะไรที่ผูกมัดตนเอง แต่ก็ให้ความหวังกับเราเป็นอย่างมาก

เมื่อถามว่าท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ทราบข่าวดีอยู่แล้วที่จะมีการปล่อยตัวประกันคนไทยใช่หรือไม่ นายปานปรีย์ ตอบว่า ตนทราบอยู่แล้ว แต่ไม่ยืนยัน เนื่องจากสถานการณ์สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เพราะมีการแจ้งข่าวมาตลอดว่าจะมีการปล่อยตัวประกันและไม่มีความชัดเจน แต่ครั้งล่าสุดตนมีความมั่นใจ จึงได้แจ้งให้ประชาชนรอฟังข่าว หลังจากการประชุมที่กาตาร์ในช่วงบ่าย สุดท้ายก็มีการปล่อยตัวประกันคนไทย 10 ราย

ส่วนตัวประกันคนไทยที่ถูกปล่อยตัว 4 ราย จาก 10 ราย ไม่ชื่ออยู่ในรายชื่อตัวประกันคนไทยที่ถูกจับ 26 ราย นายปานปรีย์ กล่าวว่า ตามรายงานเดิมมีคนไทยถูกจับเป็นตัวประกัน 26 ราย แต่ตัวประกันคนไทย 4 ราย ทางอิสราเอลไม่เคยแจ้งให้ทราบ ทำให้ตัวประกันที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลืออยู่อีก 20 ราย


หลังจากนี้ การช่วยเหลือตัวประกันคนไทยในอิสราเอลจะเป็นอย่างไรต่อ นายปานปรีย์ กล่าวว่า ส่วนแรก ต้องรีบนำตัวประกันคนไทยที่ได้รับการปล่อยตัว 10 ราย กลับประเทศ โดยกระทรวงการต่างประเทศได้เตรียมความพร้อมมาโดยตลอด นอกจากนี้ ยังมีตัวประกันที่รอการช่วยเหลืออีกต้องเดินหน้าให้การช่วยเหลือต่อไป

ส่วน สถานภาพตัวประกันไทยที่ยังถูกจับอยู่อีก 20 ราย นายปานปรีย์ เชื่อว่ายังปลอดภัยดีกันทุกคน เนื่องจากตัวประกันที่ถูกปล่อยมา 10 ราย ไม่ได้ถูกทำร้ายแต่อย่างใด แต่ไม่สามารถรับประกันได้

ส่วนการเดินทางกลับของตัวประกันที่ถูกปล่อยตัว 10 ราย นายปานปรีย์ กล่าวว่า อาจเดินทางกลับด้วยเครื่องบินพาณิชย์ โดยกระทรวงจะประสานงานให้กลับมาไทยเร็วที่สุด โดยค่าเดินทางจากฉนวนกาซาเข้ามาอียิปต์และกลับเข้ามาอิสราเอล รวมถึงค่ารักษาพยาบาลทางการอิสราเอลจะเป็นผู้ดูแลทั้งหมด แต่การเดินทางจากอิสราเอลกลับไทยทางรัฐบาลไทยยินดีให้ความช่วยเหลือ

ด้าน แรงงานไทยและคนไทยที่ยังปักหลักอยู่ในอิสราเอล นายปานปรีย์ กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ต้องการให้คนกลับมาประเทศไทยก่อน เนื่องจากสถานการณ์ในอิสราเอลยังมีความรุนแรง ขณะนี้มีบางส่วนที่เดินทางกลับไทยและเดินทางกลับไปอิสราเอล.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด

10 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ จากการตรวจสอบพบเป็นทุ่นใหม่ ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยภายหลังการรับมอบสิ่งของช่วยเหลือทหารและเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน จากภาครัฐและเอกชน ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ เมื่อวานว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นทุ่นใหม่ที่ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานเพื่อป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ก่อนที่จะถอนกำลังออกไป ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง จึงสั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวัง พร้อมใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักร เช่น รถไถ รถตักในการเคลียร์เส้นทางและค้นหาทุ่นระเบิดบุคคล เพื่อป้องกันไม่ให้กำลังพลได้รับอันตรายซ้ำ สำหรับพื้นที่แนวปะทะที่มีการวางกำลังของทหารกัมพูชายังถือว่าไม่ปลอดภัยสำหรับทหาร เนื่องจากมีการวางระเบิดไว้มาก ส่วนพื้นที่ชาวบ้านซึ่งอยู่นอกแนวชายแดนลึกเข้ามา ไม่น่าเป็นห่วงจากทุ่นระเบิดบุคคล แต่ยังมีความเสี่ยงจากจรวดที่ยิงเข้ามาแล้วไม่ระเบิด หากประชาชนพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ห้ามเข้าไปจับ ดึง หรือเก็บเอง อย่างไรก็ตาม พื้นที่ส่วนใหญ่ เช่น ภูมะเขือ อานม้า ซำแปร และตาเมือนธม ไทยสามารถครอบครองได้ […]

นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องชาติมากถึง 75%

กทม. 10 ส.ค.-นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มากถึง 75% แนะเปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายจริงจัง รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า -กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ -กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 […]

พบหลุมระเบิดที่กัมพูชายิงใส่ไทย 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดน

กทม. 10 ส.ค.-เพจกองทัพบก ทันกระแส โพสต์เจ้าหน้าที่ EOD เข้าเก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดนไทย ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล เพจเฟซบุ๊ก “กองทัพบก ทันกระแส” โพสต์ว่า เจ้าหน้าที่ EOD เข้าพื้นที่เก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล ซึ่งสร้างความเสียหายและความหวาดกลัวให้ประชาชน ที่กำลังทยอยกลับเข้าพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายของบ้านพักอาศัย ข้อมูลที่เพจโพสต์แสดงให้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นใน 4 จังหวัดชายแดน ได้แก่ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ซึ่งเป็นผลจากการยิงอาวุธของกัมพูชาใส่เป้าหมายพลเรือน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องอพยพหนีภัยสงคราม และหากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ประชาชนเริ่มกลับเข้าสู่พื้นที่ตนเอง แต่ต้องเผชิญกับอันตรายจากระเบิดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ EOD ทำงานอย่างหนัก เพื่อเร่งเก็บกู้ระเบิดให้แล้วเสร็จ เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยในบ้านของตนเองอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ชวนชมดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม

ทำเนียบ 10 ส.ค.-รัฐบาลเชิญชวนชมความงดงามของดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ ในโอกาสเฉลิมพระเกียรติ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง วันที่ 12 สิงหาคมของทุกปี (วันแม่แห่งชาติ) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง ร่วมใจกัน ติดตั้งไฟประดับทั้ง 2 ข้างทาง เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ขอเชิญชวนประชาชนได้ร่วมสัมผัสความงดงามของดวงไฟประดับ เนื่องในโอกาสมหามงคลนี้ โดยการไฟฟ้านครหลวง ได้ดำเนินการติดตั้งไฟประดับจำนวนกว่า 2 ล้านดวง เพื่อประดับในสถานที่ต่าง ๆ ได้แก่ พระที่นั่งอัมพรสถาน วังศุโขทัย พระบรมมหาราชวัง บริเวณท้องสนามหลวง รอบพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วังสระปทุม พระที่นั่งอนันตสมาคม ลานพระบรมรูปทรงม้า สนามเสือป่า ทำเนียบองคมนตรี กระทรวงมหาดไทย ถนนราชดำเนินใน ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ถนนศรีอยุธยา ตั้งแต่วันนี้ – […]