พบ 6 คนไทยจากเล่าก์ก่าย มีหมายจับ

ทำเนียบ 21 พ.ย.-“วราวุธ” เผยความคืบหน้าการช่วยเหลือคนไทยเมืองเล่าก์ก่าย พบ 6 จาก 266 คน มีหมายจับ พร้อมประสานหลายฝ่ายดูแลเหยื่อค้ามนุษย์ตามกระบวนการ

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยความคืบหน้าการช่วยเหลือคนไทยที่กลับจากเล่าก์ก่าย ตามกระบวนการภายหลังการคัดกรองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ (National Referral Mechanism: NRM) ว่า ตามกระบวน NRM เกี่ยวกับการค้ามนุษย์ โดยกระทรวงพม.จะทำรายงานแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ประการแรก การดำเนินคดีและการฟ้องร้อง ซึ่งคงเป็นการดำเนินการของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกลไกของศาล ประการที่สองการเยียวยา และดูแลผู้ได้รับความเสียหาย ซึ่งเป็นหน้าที่ของ พม. ประการที่สาม การป้องกันสร้างความตระหนักรับรู้ มาตรการต่างๆ ซึ่งทางกระทรวงแรงงานก็จะเข้ามามีส่วนร่วม ดังนั้น การทำงานเกี่ยวกับเรื่อง NRM รวมถึงเรื่องการค้ามนุษย์ ในภาพรวมจะมี 3-4 หน่วยงานดูแล


นายวราวุธ กล่าวว่า ขณะนี้ก็กำลังรอความชัดเจน จากการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนว่า คดีที่เกิดขึ้นเป็นการค้ามนุษย์หรือไม่ ทั้งนี้ในกรณีเลาก์ก่ายนี้ ตนทราบว่าคนไทยในเล้าก์ก่าย 266 ราย ได้รับการช่วยเหลือ และผ่านการคัดกรองแล้ว 260 ราย ส่วนอีก 6 รายตรวจสอบพบว่ามีหมายจับ จึงคุมตัวไว้ที่สนามบิน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชนกระทรวง พม.ได้ทำงานอย่างเข้มข้นในการตรวจสอบ และคัดกรองว่ากลุ่มนี้จะเข้ากระบวนการ NRM หรือไม่ หากเข้าข่ายค้ามนุษย์ ก็จะต้องดึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาทำงานร่วมกัน

“หากเข้าข่ายกรณีที่เป็นเหยื่อค้ามนุษย์ไปทำงานที่เมืองเล้าก์ก่ายโดยไม่สมัครใจ กระทรวงพม.จะส่งทีมสหวิชาชีพเข้าไปดูแล ทั้งนักจิตวิทยา และนักสังคมเคราะห์ จะให้การสนับสนุนผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยไม่พูดถึงถูกหรือผิด แต่ถ้าได้รับผลกระทบ หรือลี้ภัยเข้ามากระทรวง พม.จะดูแลทั้งหมด นายวราวุธ กล่าว


ส่วนกรณีที่คนไทยในเล่าก์ก่าย กังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และอาจถูกดำเนินคดี นายวราวุธ กล่าวว่า การดำเนินคดีจะดูตามข้อเท็จจริง หากไปโดยสมยอม หรือถูกบังคับ ก็จะต้องช่วยเหลือเยียวยา แต่หากสืบสวนแล้วพบว่า มีคดีติดตัวเช่นเดียวกันกับ 6 รายที่ถูกจับกุมที่สนามบิน ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ขอให้ความมั่นใจว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ และกระทรวงพม.จะดูแลสวัสดิภาพ และสวัสดิการต่างๆ ให้ ทั้งนี้ กฎหมายก็คือกฎหมาย หากสืบสวนแล้วมีข้อสงสัยตอบได้ไม่เป็นไร แต่ถ้าตอบไม่ได้ ก็คงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ

สำหรับกระบวนการ NRM ของคนไทยในเล้าก์ก่าย 200 กว่าราย นายวราวุธ กล่าวว่า การสืบข้อมูล และอ่านข้อมูลแต่ละรายมีความซับซ้อน เป็นเรื่องละเอียดอ่อน และมีฐานข้อมูลของหลายหน่วยงาน จึงต้องใช้เวลา

เมื่อถามว่าหากสถานการณ์ในเมียนมารุนแรงมากขึ้น อาจทำให้มีผู้ลี้ภัยต่างด้าวเข้ามาในไทย และอาจจะเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ ทางการไทยจะนำบุคคลเหล่านี้เข้าสู่กระบวนการ NRM หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า เราจะดูแลสิทธิมนุษยชน และสวัสดิภาพขั้นพื้นฐาน 


ส่วนขั้นตอนการนำเข้าสู่ NRM ขอไปศึกษาก่อน เพราะเพิ่งมารับตำแหน่ง ยังไม่มีข้อมูลในมือ แต่การจะส่งผู้ลี้ภัยเหล่านี้กลับประเทศต้นทางหรือประเทศที่ 3 หรือไม่นั้น พม.ไม่มีสิทธิตัดสินเรื่องนี้คนเดียว ต้องหารือร่วมกับกระทรวงต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เพื่อประสานกับประเทศต่างๆ ถึงแนวทางการดำเนินการ “ขอสื่อสารไปถึงสังคมว่า คนที่ถูกบังคับไปทำงานมีเหตุจำเป็น เข้าใจผู้ที่ถูกหลอก คงต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา คนที่โดนหลอกทรัพย์สินก็หายไป ขณะที่คนที่ถูกบังคับก็มีเหตุจำเป็นบางอย่าง ที่ทำให้เขาต้องทำแบบนั้น คงโทษใครไม่ได้ ถ้าจะดำเนินการต้องศึกษาไปถึงต้นต่อ และดำเนินคดีจนถึงที่สุด” นายวราวุธ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]

เพื่อไทยโพสต์พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

กรุงเทพฯ 5 ก.ย.- พรรคเพื่อไทย พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ขอบคุณทุกแรงใจ ระบุ นโยบายหลายเรื่องค้างไว้ รอวันกลับมาสานต่อ ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 311 เสียง เห็นชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า “พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตามครรลองของรัฐสภา ยึดมั่นหลักการประชาธิปไตย ขอขอบคุณทุกแรงใจ นโยบายหลายเรื่องที่ยังค้างไว้ เราจะรอวันกลับมาสานต่อให้สำเร็จ เพื่อคนไทยทุกคน…ตลอดไป” .-316 -สำนักข่าวไทย