ทบ.ประสาน ปภ.เตรียมแผนรับมือป้องกันภัยพิบัติ

ปภ. 7 พ.ย.- ทบ.หารือ ปภ. ประสานการทำงานเตรียมแผนรับมือป้องกันภัยพิบัติ และการช่วยเหลือประชาชน พร้อมจัดฝึกอบรมกำลังพลรับมือป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย


พล.ท.อานุภาพ ศิริมณฑล เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารบก (กร.ทบ.) เข้าพบหารือร่วมกับนายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เพื่อประสานการเตรียมการบรรเทาสาธารณภัยและการช่วยเหลือประชาชน เพื่อให้เกิดการสื่อสารที่ตรงกัน โดยกองทัพบกจะขอรับทราบข้อมูลที่เชื่อมโยงกับระบบติดตาม วิเคราะห์ แจ้งเตือน และรายงานสถานการณ์ภัยพิบัติต่างๆ ในรูปแบบของบทสรุป หรือ infographic และขอรับทราบข้อมูลการประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยและเขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ที่จังหวัดรายงานให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทราบ พร้อมกับขอความร่วมมือจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทั้ง 18 เขต จัดการฝึกให้กำลังพลของกองทัพบกในพื้นที่รับผิดชอบ ให้สามารถใช้อุปกรณ์และเครื่องมือของศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในเขตปฏิบัติงาน หรือเป็นเจ้าหน้าที่สนับสนุนในการบรรเทาสาธารณภัย สำหรับในปีงบประมาณ 2567

ทั้งนี้ กองทัพบก โดยกรมกิจการพลเรือนทหารบก มีแผนงานที่จะจัดการซักซ้อมแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยระดับมณฑลทหารบก โดยจะเกี่ยวเนื่องกับจังหวัดที่มีความพร้อม ซึ่งจะเป็นต้นแบบให้กับหน่วยมณฑลทหารบกของกองทัพบกและจังหวัดอื่นๆ นำไปเป็นแบบอย่างในการปฏิบัติต่อไป นอกจากนั้น กองทัพบกจะยังคงให้การสนับสนุนการฝึกป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยร่วมแบบบูรณาการ รวมทั้งขอสนับสนุนเครื่องมือและเครื่องจักรขนาดใหญ่ ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยมีอยู่


อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ปภ.พร้อมสนับสนุนกองทัพบกและกระทรวงกลาโหม ในด้านที่มีความพร้อม รวมถึงมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ติดตามในด้านการเชื่อมโยงข้อมูล และการฝึกซ้อมป้องกันสาธารณภัยร่วมกับกองทัพบก ในทางกลับกัน ปภ.ก็จะขอรับความสนับสนุนจากกองทัพบกด้วยเช่นกัน เพื่อร่วมมือในการดูแลและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติให้กับประชาชน และจะต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน

“เราไม่สามารถทำงานคนเดียวได้ ต้องมีภาคีเครือข่ายในการปฏิบัติงานร่วมกัน และต้องมีการเชื่อมหน่วยงาน ให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน เพื่อขอกำลังสนับสนุนจากกองทัพ เนื่องจาก ปภ.ไม่มีกำลังพลเพียงพอในการให้ความช่วยเหลือ โดย ปภ.มีศูนย์ ปภ.จังหวัด ครอบคลุมทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งมีเครื่องจักรและอุปกรณ์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอยู่ตามศูนย์เขต ปภ. หากเกิดภัยพิบัติก็จะสามารถเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ดังกล่าวได้ในการสนับสนุนกองทัพที่มาช่วยเหลือประชาชน แม้ ปภ.จะไม่มีงบประมาณมาก ก็สั่งการให้ผู้ว่าฯ นายอำเภอ ปลัดอำเภอ เข้าไปให้การดูแลประชาชน ส่วนการประกาศภัยพิบัติต่างๆ ต้องเป็นไปด้วยความรวดเร็ว เพื่อให้ทันช่วยเหลือประชาชน โดย ปภ.ยึดตามนโยบาย รมว.มหาดไทย ที่ว่า ทันโลก ทันสมัย ทันท่วงที” อธิบดี ปภ. กล่าว

ขณะที่ พล.ท.อานุภาพ กล่าวว่า การได้รับการสนับสนุนในเรื่องต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องข้อมูล ที่มาจาก ปภ.นั้น จะเป็นข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้ที่สุด ซึ่งหากสามารถเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกันได้ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อหน่วยต่างๆ ของกองทัพบกทั่วประเทศในการนำไปพิจารณาปรับใช้ด้วย


“งบประมาณแต่ก่อนเคยสามารถเบิกแยกได้แต่ละหน่วยงาน ซึ่งมีความสะดวกรวดเร็ว แต่ปัจจุบันต้องเป็นการของบประมาณกองทัพบก จึงทำให้ต้องใช้ระยะเวลาของบประมาณในการเบิกจ่ายกำลังพลที่เข้าให้การช่วยเหลือประชาชน จึงขอให้ ปภ.ประสานงานโดยตรงกับ กร.ทบ. ในปัญหาภัยพิบัติ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างรวดเร็ว” พล.ท.อานุภาพ กล่าว

อย่างไรก็ตาม กองทัพบกมีกำลังพลที่พร้อมให้การสนับสนุน แต่ด้านเครื่องจักร กร.ทบ.ได้ร่วมกับหน่วยเคลื่อนที่เร็วและทหารช่างกองทัพบก ในการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรที่ใช้ในด้านการทหาร มาใช้ในการให้ความช่วยเหลือประชาชนแทน โดย กร.ทบ. เสนองบประมาณในการจัดซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติม 3 รายการ ได้แก่ รถเครื่องสูบน้ำ รถผลิตกระแสไฟฟ้า รถให้แสงสว่าง แต่มีสิ่งหนึ่งที่ กร.ทบ.สนใจ คือ รถเคลื่อนที่เปลี่ยนน้ำจากแหล่งน้ำเป็นน้ำดื่ม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว

สุรินทร์ 28 ส.ค.-รองผู้ว่าฯ สุรินทร์ เผยเด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว หากพิสูจน์ไม่ได้ว่าน้องเป็นคนไทย น้องยังต้องได้รับสิทธิตามอนุสัญญาหลักสิทธิเด็ก เข้ารับการศึกษาต่อไป นายประภาส ศรีจันทร์เวียง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยว่า ขณะนี้ พมจ.สุรินทร์ ตม.สุรินทร์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กำลังดูแลน้องอายุ 13 ปี ที่มีแม่เป็นชาวกัมพูชาและทั้งคู่ถูกแจ้งจับเนื่องจากเป็นคนต่างด้าวอยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมายและไม่มีใบอนุญาต ได้รับรายงานว่า เด็กชาย อายุ 13 ปีรายนี้ เกิดที่ จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ส่วนแม่ทำงานในบ่อนการพนันที่ช่องสะงำ จากนั้นก็ได้เดินทางกลับประเทศโดยถูกกฎหมาย และคลอดน้องที่ประเทศกัมพูชา ก่อนจะกลับมาประเทศไทยอีกครั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต และลอบอยู่ในประเทศไทย โดยน้องได้รับการศึกษาในประเทศไทยตั้งแต่ ป.1 จนกระทั่งปัจจุบันคือ ม.1 ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะดำเนินการพาน้องอายุ 13 ปี ตรวจดีเอ็นเอ เนื่องจาก พมจ.สุรินทร์ ได้รับข้อมูลจากฝ่ายแม่เด็กว่า พ่อที่แท้จริงของน้องคือ ชายไทยที่อยู่ด้วยกันในปัจจุบัน แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถยืนยันความจริงได้ นอกจากการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น เพื่อดำเนินการทางกฎหมายในขั้นตอนต่อไป เช่น หากพิสูจน์ได้ว่า น้องมีบิดา […]

มติสภาประชุมลับญัตติด่วน MOU43-44 ฝ่ายค้านชี้ปิดหูปิดตา ปชช.

28 ส.ค. – สภาฯ ถกญัตติด่วน “MOU 43-44” เพื่อไทยขอประชุมลับ หวั่นอภิปรายเนื้อหาล้ำเส้น กังวลกัมพูชารู้ทาง ด้านฝ่ายค้านยันต้องเปิดเผย ไม่ใช่ปิดหูปิดตาประชาชน สุดท้ายเปิดเผยเฉพาะผู้เสนอญัตติ ส่วนผู้อภิปรายเป็นประชุมลับ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯคนที่หนึ่งเป็นประธานการประชุม หลังพิจารรณากระทู้ถามทั่วไปแล้วได้มีการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา 5 ฉบับ ได้แก่ 1. น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใทย เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 ระหว่างไทยกัมพูชา 2.นายกรวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เสนอให้สภาฯทำการศึกษาบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 แก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย กัมพูชา 3.นายสฤษพงศ์ ​เกี่ยวข้องสส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าเนื่องจากตนได้เสนอญัตติดังกล่าวเป็นหนังสือไว้แล้ว ก็ขอให้นำมาอยู่ในวาระด่วนเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นเรื่องทำนองเดียวกัน 4.นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอเรื่องขอให้สภาฯพิจารณาศึกษMOU 43 และ44 […]

เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด

แม่ฮ่องสอน 28 ส.ค. – เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด คอสะพานห้วยโป่งถูกน้ำป่าซัดเสียหายกว้างกว่า 80 เมตร คาด 1 ก.ย.นี้ สามารถเปิดเส้นทางสัญจรได้ สภาพความเสียหายของพื้นที่ริมทางหลวง 108 บริเวณห้วยบ้านตำข่อน บ้านแม่จ๋า บ้านผาบ่องเหนือ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน หลังระดับน้ำลดลงเป็นปกติ ยังคงมีท่อนไม้ ต้นไม้กองทับถมอยู่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนำรถและเครื่องจักรใหญ่เข้าเคลียร์ท่อนไม้ เศษไม้ที่กีดขวาง สามารถเปิดให้รถสัญจรไปมาได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลาก เส้นทางหมายเลข 108 บริเวณสะพานห้วยโป่ง ต.ห้วยโป่ง ข้ามลำน้ำแม่จ๋า ซึ่งคอสะพานถูกน้ำป่าซัดได้รับความเสียหายเป็นแนวกว้าง ทำให้การสัญจรถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง จึงประสานศูนย์สร้างและบูรณะสะพานจังหวัดพิจิตร เพื่อขอสนับสนุนสะพานแบริ่ง หรือสะพานเหล็กสำเร็จรูป สำหรับใช้งานชั่วคราว ขณะที่วิศวกรจากศูนย์ฯ จะเข้าตรวจสอบความเสียหายของสะพานห้วยโป่ง เพื่อดำเนินการติดตั้งสะพานแบริ่ง หากไม่มีอุปสรรคคาดว่าสะพานจะพร้อมใช้งานและเปิดให้สัญจรได้อีกครั้งในวันจันทร์ที่ 1 กันยายนนี้ น้ำที่ท่วม 13 หมู่บ้านรวมทั้งตัว อ.แม่แจ่ม เริ่มลดลงส่วนที่ จ.เชียงใหม่ […]

จนท.ตรึงกำลังเข้มบ้านหนองจาน หวั่นเผชิญหน้า

สระแก้ว 28 ส.ค. – คนไทยรวมพลบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว แสดงพลังปกป้องแผ่นดินไทย เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังเข้ม หวั่นเหตุเผชิญหน้า หลังชาวกัมพูชาท้าทาย ขณะที่ “กัน จอมพลัง” ขนรถดูดส้วม 14 คัน เสิร์ฟเขมร.-สำนักข่าวไทย