พังงา 26 ต.ค.-มท.1 เปิดสัมมนาบุคลากร อบจ. 14 จังหวัดภาคใต้ ย้ำการพัฒนาทรัพยากรบุคคลเป็นเรื่องสำคัญ ต้องทำงานเก่ง มีสายสัมพันธ์ให้มาก ทำให้บ้านเมืองเจริญ ประชาชนมีความสุข
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดการอบรมสัมมนา เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของบุคลากรองค์การบริหารส่วนจังหวัดภาคใต้ โดยมีนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายศุภชัย ใจสมุทร ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และบุคลากรองค์การบริหารส่วนจังหวัด 14 จังหวัดภาคใต้ กว่า 1,000 คน ร่วมรับฟัง
นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกคนล้วนมีความสำคัญในการทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งนอกจากการต้องบำบัดทุกข์ บำรุงสุขแล้ว ยังต้องทำให้ประชาชนมีความอุดมสมบูรณ์พูนสุขกันถ้วนหน้า เพราะเป้าหมายที่สำคัญที่สุด คือ ประชาชน
“การพัฒนาทรัพยากรบุคคลเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ต้องทำงานเก่ง มีเพื่อนมาก มีสายสัมพันธ์ให้มาก มีความปรารถนาดีซึ่งกันและกัน และกำหนดเป้าหมายที่ดีร่วมกัน คือ ทำให้บ้านเมืองเจริญ ทำให้พี่น้องประชาชนมีความสุข มีความสบาย มีความสะดวก มีโอกาส มีเงิน มีกิน มีใช้ ซึ่งเป็นภารกิจที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดทุกจังหวัดต้องร่วมกัน เพราะท่านคือหน่วยงานหลักที่มีความสำคัญต่อท้องถิ่น เป็นหน่วยบริการสาธารณะที่ใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชนมากที่สุด เพื่อทำให้พี่น้องประชาชนได้รับบริการที่เกิดประโยชน์สุขมากที่สุด จึงขอให้ใช้โอกาสที่มาพบกัน พูดคุย แสวงหาความรู้ซึ่งกันและกัน แชร์ประสบการณ์ แชร์ความสำเร็จ แชร์อุปสรรคที่เคยพบ เพื่อที่จะทำให้เกิดแนวทางที่หลากหลาย เป็นแนวทางที่ทุกคนสามารถขับเคลื่อนไปด้วยกัน ความเจริญก็จะเจริญก้าวหน้าไปพร้อมกัน เพื่อนำความรู้ที่ได้ไปต่อยอดให้ประชาชนได้รับคุณประโยชน์ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีเพิ่มมากขึ้น” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ตนให้แนวทางการทำงานกับกระทรวงมหาดไทยว่า “ทันโลก ทันสมัย ทันท่วงที” ต้องทำให้การทำงานต่าง ๆ ทั้งงานตามนโยบาย และการทำงานตามฟังก์ชัน ตามพื้นที่ ตอบสนองประชาชนได้ทันท่วงที จะล้าหลังไม่ได้ อยู่กับปัจจุบันให้มากที่สุด วันนี้บริบทการทำงานของข้าราชการกระทรวงมหาดไทยอาจจะเปลี่ยนไปบ้าง ข้าราชการต้องให้ความสำคัญมากที่สุดก็คือ ประชาชน ต้องตอบสนองสิ่งที่พี่น้องประชาชนคาดหวังมากกว่าที่ผ่านมา จึงขอให้มั่นใจว่า เรามีเป้าหมายเดียวกัน มีทิศทางเดียวกัน
“ในด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ตนได้กำชับผู้ว่าราชการจังหวัดท่องเที่ยว ต้องมีการประชุมในเรื่องการให้ความปลอดภัยในระดับที่มีมาตรฐาน สร้างการรับรู้ ทำความเข้าใจ และให้ความมั่นใจกับนักท่องเที่ยวว่า ประเทศไทยมีความปลอดภัย นอกจากนี้ ในเรื่องสถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ หน่วยงานที่รับผิดชอบ คือ กรมการปกครอง อยู่ระหว่างการยกร่างกฎกระทรวงขยายเวลาการให้บริการในพื้นที่ท่องเที่ยว โดยขั้นตอนหลังจากนี้ ในแต่ละพื้นที่ต้องมีการทำประชาพิจารณ์ แล้วรายงานมายังกรมการปกครอง เพื่อรวบรวมประมวล นำเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบกฎกระทรวงต่อไป ซึ่งจะเป็นโอกาสทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า ในฐานะผู้รักษากฎหมาย ต้องทำให้เกิดการบังคับใช้กฎหมาย ควบคุมให้มีการปฏิบัติตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ทั้งเรื่องการห้ามพกพาอาวุธ ห้ามให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์เข้า ห้ามมีการลักลอบจำหน่ายหรือเสพยาเสพติด เน้นย้ำว่า “ยาเสพติด อาวุธ ค้าประเวณี ใช้แรงงานเด็ก เรื่องที่ไม่สามารถรับได้ในศีลธรรมทั่วไป ห้ามให้เกิดขึ้น” รวมถึงการส่งเสริมธรรมาภิบาลในจังหวัด ต้องอย่าให้ผู้มีอิทธิพลหรือผู้มีกำลังมากกว่าไปข่มเหงผู้ที่อ่อนแอกว่า ในพื้นที่คนจะมีอิทธิพลหรือบารมีกว่าไม่ว่า แต่อย่านำไปข่มเหงพี่น้องประชาชนที่อ่อนแอ
สำหรับมาตรการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้กำชับให้อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพิ่มประสิทธิภาพและหาแนวทางการป้องกันก่อนเกิดสาธารณภัย ซึ่งจะต้องคิดวิธีการ โดยใช้นวัตกรรม ใช้องค์ความรู้ และประสบการณ์ บทเรียนที่ผ่านมา บูรณาการคน บูรณาการงาน บูรณาการพื้นที่ ทำให้การบริหารจัดการสาธารณภัยของประเทศไทย มีแนวทางการป้องกันภัยที่ชัดเจน ประชาชนสามารถป้องกันตนเองก่อนเกิดภัย และมีวิธีการดูแลตนเองในขณะเกิดภัย ไม่ใช่ทำแต่เพียงแค่การเยียวยาหลังเกิดภัย และได้กำชับไปยังการประปาส่วนภูมิภาค คือ การบริหารจัดการให้ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคที่เพียงพอ โดยอาจใช้นวัตกรรมหรือวิธีการขยายท่อเชื่อมต่อมาจากเขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี.-สำนักข่าวไทย