รัฐสภา 18 ต.ค.-กลุ่มรวมพลังหุ้นกู้ Stark สูญเงินกว่า 9 พันล้านบาท ยื่นหนังสือถึง กมธ.ป้องกันปราบปรามการฟอกเงินฯ เร่งติดตามและเยียวยาผู้เสียหายหลายพันราย เตรียมเรียก ป.ป.ง. สอบข้อมูลเพิ่ม
นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล สส.เลย พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร รับหนังสือจากกลุ่มผู้เสียหายคดีหุ้น Stark จากบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นำโดย นางมารศรี มณีรัตน์ โดยขอให้สภาผู้แทนราษฎรและสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ติดตามและแก้ไขกรณีปัญหาเรื่องดังกล่าวเพื่อคืนความเป็นธรรมและเรียกความเชื่อมั่นให้ระบบกฎหมายและตลาดทุนของประเทศ ทั้งพิจารณาจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหาย และการประสานรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงผู้เกี่ยวข้องในต่างประเทศ
นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล กล่าวว่า ในการประชุมคณะ กมธ.ในวันนี้ (18 ต.ค.) ได้พิจารณาเกี่ยวกับหุ้น Stark โดยเชิญผู้แทนจาก ก.ล.ต.เข้าชี้แจง ซึ่ง ก.ล.ต.ให้ข้อมูลในภาพรวม โดย กมธ.พยายามเจาะลึกลงไปในรายละเอียด เพราะเห็นว่าข้อมูลที่มียังไม่ชัดเจน แต่ทาง ก.ล.ต.ไม่สามารถให้รายละเอียด โดยอ้างว่าต้องขอข้อมูลไปยัง ก.ล.ต. ดังนั้นเรื่องข้อมูลถือว่ายังไม่จบ โดยสัปดาห์หน้าหลังจากเชิญตัวแทนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ป.ป.ง. มาชี้แจง เพราะเข้าข่ายเรื่องของการฟอกเงิน ซึ่ง กมธ.จะสามารถเจาะลึกเส้นทางการเงินได้
นายเลิศศักดิ์ กล่าวว่า ทาง กมธ.อยากให้ดำเนินการโดยเร็ว และหลังจากเชิญ ป.ป.ง.มาแล้ว และเรื่องยังไม่จบ อาจจะมีการตั้งอนุกรรมาธิการขึ้นมาพิจารณา ตรวจสอบเชิงลึกถึงเส้นทางการเงินและจะติดตามทวงคืนได้อย่างไร ซึ่งอนุกรรมาธิการจะมีอำนาจในการเรียกข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยืนยันจะหาสรุปให้เร็ว เพราะเกิดความเสียหายจำนวนมาก โดยมีพ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ อดีตเลขาธิการ ป.ป.ง. มาเป็นที่ปรึกษา ซึ่งมีประสบการณ์ในการติดตามเส้นทางการเงินของนายราเกซ สักเสนา อดีตผู้บริหารบีบีซี จึงเชื่อว่าจะใช้เวลาเร็วกว่าที่ผ่านมา แต่ก็ขึ้นอยู่กับหน่วยงานที่รับผิดชอบ เพราะเราไม่มีหน้าที่ดำเนินการติดตามตรวจสอบ ทำได้เพียงเร่งรัดไปยังหน่วยงานต่างๆ โดยจะมีการรายงานไปยังนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องตลาดทุนด้วย และอยากเห็นตลาดทุนไทยมีความน่าเชื่อถือและมั่นคง ซึ่งอนุกมธ.ต้องศึกษาด้วยว่าควรจะมีการศึกษาแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องบางเรื่องหรือไม่ เพื่อช่วยระงับความเสียหายของนักลงทุนให้เร็วขึ้น
นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ ในฐานะทนายความผู้รับมอบอำนาจ กล่าวว่า คณะทำงานเตรียมช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายอีกจำนวนมาก ที่อาจยังไม่ทราบถึงสิทธิการฟ้องคดีแบบกลุ่ม.-สำนักข่าวไทย