กทม. 15 ต.ค.-“วรวัจน์” ชี้หมุนเงินดิจิทัลกับแจกเงิน ความหมายแตกต่างกันสิ้นเชิง ขอให้ใจเย็นๆ และร่วมกันให้กำลังใจรัฐบาล
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล สส.แพร่ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่าการแจกเงิน10,000 บาท ผ่านระบบกระเป๋าตังค์ กับการสร้างระบบเงินหมุนผ่านระบบบล็อกเชน มีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง อธิบายตอนนี้คงจะยาว แต่อยากให้ดูตอนผลลัพธ์ที่ออกมา เหมือนโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค โครงการกองทุนหมู่บ้าน บวกกับโครงการโอท๊อป เพราะรัฐบาล ไม่ได้แจกเงินฟรีๆ แต่มีการส่งเสริมให้คนที่คิดจะลงทุน สามารถเพิ่มวงเงินลงทุนได้ด้วย เพราะฉะนั้นก็จะมีคนที่คิดนำเงินไปลงทุนเป็นจำนวนมาก เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่อยู่ในระบบปิด ที่ควบคุม การใช้จ่ายเม็ดเงินได้ ผลลัพธ์ก็คือ ในที่สุดรัฐบาลก็จะได้ภาษี ที่จะหมุนกลับมาเป็นเงินงบประมาณรอบใหม่
กับประเด็นที่ว่ารัฐบาลมีตังมั้ย ก็ต้องให้ข้อมูลว่า เฉพาะเงินนอกงบประมาณที่สะสมอยู่ในภาครัฐ ก็มีอยู่ถึงปีละ 4.8ล้านล้านบาท มากกว่าเงินงบประมาณแผ่นดินในแต่ละปี อยู่ที่รัฐบาลจะตัดสินใจกระจายความมั่งคั่งภาครัฐมาหมุนในระบบการเงินให้ภาคประชาชนเมื่อไหร่? อย่างไร? เท่านั้นเอง
ผมเชื่อมือทีมเศรษฐกิจเพื่อไทย เชื่อว่า กำลังหาเวลาที่เหมาะสม ประกอบกับนโยบายออกโฉนดที่ดิน50ล้านไร่ ที่จะกลายเป็นหลักทรัพย์ของประชาชน คิดแค่ไร่ละแสน ก็จะมีหลักประกันเพิ่มอีกกว่า 5 ล้านล้านบาท
ถ้านับโครงการ เพิ่มศักยภาพประชาชนให้มีรายได้ โดยสร้างงาน สร้างอาชีพ ยกระดับกลุ่มของงานโอท๊อปสู่ระดับอุตสาหกรรมโดยมีรัฐบาลทำหน้าที่การตลาดให้ ก็มั่นใจได้ว่า ใน4ปีนี้ รัฐบาลจะสามารถนำความมั่งคั่งมาสู่ประชาชนได้แน่
ยิ่งเมื่อรัฐบาลตั้งเป้าหมายนำการท่องเที่ยวดึงเม็ดเงินเข้าสู่ประเทศเป็นเป้าหมายหลักแล้ว ก็เชื่อว่า การแก้ไขปัญหา เศรษฐกิจ ของรัฐบาล เป็นไปได้ ด้วยดีแน่
ใจเย็นๆ ซักนิดนึงนะครับ เมื่องานรัฐบาลเดิน และสำเร็จ เราจะร่วมดีใจ กับประเทศไทยนะครับไปด้วยกัน.-สำนักข่าวไทย