“ประเสริฐ” ชี้แจกเงินหมื่น เฟส 2 ไม่ได้หวังผลการเมือง
“ประเสริฐ” ยันแจกเงิน 10,000 เฟส 2 ไม่ได้หวังผลการเมือง ชี้เป็นไปตามระยะเวลาที่เหมาะสม ส่วนเงิน 10,000 เฟส 3 ระบบจะแล้วเสร็จในเดือนมีนาคม 2568
“ประเสริฐ” ยันแจกเงิน 10,000 เฟส 2 ไม่ได้หวังผลการเมือง ชี้เป็นไปตามระยะเวลาที่เหมาะสม ส่วนเงิน 10,000 เฟส 3 ระบบจะแล้วเสร็จในเดือนมีนาคม 2568
นายอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐี ประกาศให้สัญญาในวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า เขาจะแจกเงินวันละ 1 ล้านดอลลา ทุกวันจนถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพฤศจิกายนนี้ให้กับผู้โชคดีที่ลงชื่อในคำร้องออนไลน์สนับสนุนรัฐธรรมนูญสหรัฐ
“เผ่าภูมิ” เผยแจกเงิน 10,000 บาท ทำยอดกดเอทีเอ็ม ธ.ก.ส.เพิ่มขึ้น 18 เท่า ยันกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง ยังไม่คุยหั่นเงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 เหลือ 5,000 บาท รอน้ำท่วมคลี่คลาย ย้ำจุดยืน Virsual Bank ไม่จำกัดจำนวน
“ศิริกัญญา” จี้ถามความชัดเจนโครงการแจกเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อไม่ให้คนเกิดความหวัง “จุลพันธ์” รมช.คลัง บอกเดือน ต.ค. ประกาศสิทธิผู้ลงทะเบียน-ระบบจ่ายเงิน เลื่อนใช้หลังปีใหม่
วันนี้ ภาคเอกชน 4 หน่วยงาน ขอพบหารือกับนายกรัฐมนตรี เสนอแนวทางแก้ปัญหาและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมสนับสนุนแจกเงินสดให้กลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคน
“ภูมิธรรม” ยืนยันโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แจกเงิน 10,000 บาท ช่วยคนและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้จริง ย้ำพรรคเพื่อไทยประกาศชัดเจนเป็นนโยบายที่ให้ไว้เลือกตั้งแม้จะล่าช้า แต่ทุกอย่างจะเห็นผลงานปลายปีแน่นอน ขอให้ประชาชนรออีกไม่นาน ใช้ซื้อสินค้าตามร้านค้าในเขตอำเภอได้แน่นอน
“อุตตม” อดีต รมว.คลัง ชี้เป็นหน้าที่รัฐบาล สร้างความมั่นใจแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต
“จุลพันธ์” โต้ไม่ได้ลอกดิจิทัลวอลเล็ตจากญี่ปุ่น ชี้ไทย-ญี่ปุ่นบริบทต่าง พร้อมนำข้อมูลศึกษาให้เกิดประโยชน์ อ้อมแอ้มตอบแจกเงินต้น ก.พ.67 คาดชัดเจนสัปดาห์นี้
“วรวัจน์” ชี้หมุนเงินดิจิทัลกับแจกเงิน ความหมายแตกต่างกันสิ้นเชิง ขอให้ใจเย็นๆ และร่วมกันให้กำลังใจรัฐบาล
“จุลพันธ์” ยันยังไม่ปรับเกณฑ์แจกเงินดิจิทัล ล่าสุดตัวเลขคนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป มี 54.8 ล้านคน ไม่ถึง 56 ล้านคน ทำให้วงเงินที่ใช้ในโครงการลดลง ถามกลับนักวิชาการคนรวยไม่รวย ดูตรงไหน
“เสรี” แนะรัฐบาลหนุนสร้างอาชีพให้ประชาชนมากกว่าแจกเงิน หวั่นพรรคการเมืองใช้หาเสียงเกทับกันในอนาคต
กรุงเทพฯ 1 พ.ค.- หนังสือพิมพ์สเตรทส์ไทมส์ของสิงคโปร์รายงานข่าวผลการสำรวจความคิดเห็นหรือโพลที่จัดทำโดยผู้สำรวจในไทยเกี่ยวกับการเลือกตั้งทั่วไปของไทยที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ รายงานของสำนักข่าวบลูมเบิร์กที่เผยแพร่ในเว็บไซต์สเตรทส์ไทมส์ระบุว่า การเลือกตั้งครั้งนี้กำลังกลายเป็นการต่อสู้ระหว่างกลุ่มสนับสนุนอำนาจเดิมที่ประกอบด้วยพรรคร่วมรัฐบาลกับกลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตยที่ประกอบด้วยพรรคฝ่ายค้าน พรรคการเมืองใหญ่ล้วนหาเสียงด้วยนโยบายคล้าย ๆ กันเรื่องแจกเงิน ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ และพักชำระหนี้ หวังได้คะแนนจากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 52 ล้านคน รายงานระบุว่า สวนดุสิตโพลสอบถามผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศประมาณ 162,000 คนระหว่างวันที่ 10-20 เมษายนแล้วเผยแพร่ผลโพลเมื่อวันเสาร์ว่า พรรคเพื่อไทยมีคะแนนนิยมมากที่สุดร้อยละ 41.37 พรรคก้าวไกลมีคะแนนนิยมเป็นอันดับ 2 ร้อยละ 19.32 พรรครวมไทยสร้างชาติมีคะแนนนิยมร้อยละ 8.48 และพรรคพลังประชารัฐมีคะแนนนิยมร้อยละ 7.49 รายงานยังได้อ้างถึงผลโพลของหนังสือพิมพ์มติชน-เดลินิวส์ที่สอบถามออนไลน์กับผู้ตอบ 78,000 คน ระหว่างวันที่ 22-28 เมษายน และเผยแพร่เมื่อวันเสาร์เช่นเดียวกันว่า พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลได้รับเสียงสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีมากที่สุดด้วยคะแนนร้อยละ 49.17 ตามด้วยแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย 2 คนคือ แพทองธาร ชินวัตร ร้อยละ 19.59 และเศรษฐา ทวีสินร้อยละ 15.54 ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ […]