ยอดคนไทยเสียชีวิต ไม่เป็นทางการ 18 คน

ทำเนียบ 10 ต.ค.- รมช.ต่างประเทศ เผยยอดคนไทยเสียชีวิตในอิสราเอล ไม่เป็นทางการล่าสุด 18 คน ประสงค์ขอกลับเพิ่มเป็น 3,000 คน ยันเดินหน้าเจรจาปล่อยตัวประกันอยู่เรื่อยๆ บ่ายนี้ถกชัดแผนพาคนไทยกลับบ้าน


นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอล ว่า เอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอลได้รายงานว่าน่าจะมีข่าวดีเพิ่มเติมในการอพยพคนไทยเพิ่มจำนวนมากขึ้น โดยในช่วงบ่ายวันนี้ (10 ต.ค.) จะเตรียมแผนว่าแต่ละวันจะมีการนำคนไทยเดินทางกลับประเทศจำนวนเท่าไหร่

“ขณะนี้ยอดล่าสุดที่แจ้งความประสงค์จะเดินทางกลับ กว่า 3,000 คนแล้ว จากแรงงานไทยในอิสราเอลที่มีอยู่กว่า 30,000 คน แต่อยู่ในจุดที่มีความเสี่ยงประมาณ 5,000 คน ซึ่งเราได้มีการทยอยอพยพออกมาจากพื้นที่เสี่ยงภัยเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ จะใช้ทุกวิถีทางในการนำคนไทยกลับ ทั้งการเช่าเหมาลำ การใช้เครื่องบินพาณิชย์ของเราเองที่จะนำคนคนไทยกลับเข้ามาให้เร็วที่สุด ชุดแรกที่แน่นอนแล้วจะเดินทางกลับมาถึงวันที่ 12 ต.ค. และชุดที่สองในวันที่ 19 ต.ค. แต่ในระหว่างนั้นจะหาทางเพิ่มเติมในเรื่องของเครื่องบินพาณิชย์ของเราเองที่จะพยายามเข้าไป ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณเอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอล ที่พยายามติดต่อหาทุกช่องทางให้เครื่องบินของเราไปถึงได้เยอะที่สุดเท่าที่ทำได้” นายจักรพงษ์ กล่าว


นายจักรพงษ์ กล่าวว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ (10 ต.ค.) หากประชุมแล้วเสร็จ น่าจะเห็นแผนได้ชัดเจนขึ้นว่าคนไทยจะกลับมาช่วงไหนได้บ้าง ขณะนี้สามารถนำเครื่องไปลงที่ประเทศอิสราเอลได้แล้ว แต่ขณะเดียวกัน ความรุนแรงที่เกิดขึ้น เริ่มขยายวงกว้างเข้าใกล้สนามบิน ซึ่งเราก็เป็นห่วงในจุดนี้ด้วย และจะเห็นได้ว่าเราพยายามเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านรอบประเทศอิสราเอล ถ้าหากจำเป็นจะต้องส่งเครื่องบินไป ซึ่งในการเดินทางที่นั่นค่อนข้างลำบาก”

ทั้งนี้ ยังมีแรงงานไทยที่ประสงค์จะอยู่ต่อหรือไม่ แต่สถานการณ์ยังรุนแรงจะมีการเตือนอย่างไร นายจักรพงษ์ กล่าวว่า ตอนนี้แรงงานที่จะกลับมาประมาณ 3,000 คน แต่ที่ประสงค์จะอยู่ต่อยังอยู่หลักร้อย ซึ่งเป็นความประสงค์ของเขาเอง แต่เราก็คงจะต้องเตือนในเรื่องของความปลอดภัย

ส่วนแรงงานที่ประสงค์จะอยู่ต่อเป็นกลุ่มผีน้อยหรือเป็นแรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย นายจักรพงษ์ กล่าวว่า รวมๆ กัน และต้องเรียนว่าเป็นแรงงานที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ที่มีความขัดแย้งสูงประสงค์ขอกลับ


ส่วนจะมีโอกาสคนไทยกลับก่อนไฟล์แรกวันที่ 12 ต.ค.หรือไม่ นายจักรพงษ์ กล่าวว่า ไม่น่าจะมี อันนี้ถือว่าเร็วสุดแล้ว

เมื่อถามด้วยว่าแรงงานที่ถูกจับไปขายต่อมีการประสานช่วยเหลือหรือไม่ นายจักรพงษ์ กล่าวว่า ได้รับรายงาน แต่ยังไม่มีการยืนยันมาจากสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอล

ขณะที่ประชาชนที่มีความกังวลพยายามจะซื้อตั๋วเครื่องบินพาณิชย์เพื่อเดินทางกลับมาเองก่อนที่จะรอเครื่องของรัฐบาล ตรงนี้รัฐบาลจะมีส่วนช่วยเหลืออย่างไรบ้าง นายจักรพงษ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ทางเอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอลได้พยายามดำเนินการให้คนไทยกลับได้ทุกไฟล์ บางไฟล์มี 2-3 คนก็เอาหมด น่าจะครอบคลุมทั้งหมดแล้ว ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายก็จะดูแลเป็นกรณีๆ ไป

ทั้งนี้ ได้รับรายงานจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอย่างเป็นทางการหรือไม่ นายจักรพงษ์ กล่าวว่า ต้องเรียนว่าทางประเทศอิสราเอล ยังไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้ทั้งหมด ถ้าเป็นทางการยังไม่สามารถตอบได้ แต่การรายงานจากนายจ้างก็มีเข้ามาเรื่อยๆ ตอนนี้เพิ่มเป็น 18 คน ส่วนที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ยังมีการเจรจาอยู่เรื่อยๆ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริง ต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ […]

“บิ๊กเต่า” เผยพบเส้นเงินหลักพันล้าน โยงคนใกล้ชิดอดีตพระอลงกต 30 คน

กรุงเทพฯ 27 ส.ค. – รอง ผบช.ก. เผยพบเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ หลักพันล้านบาท โยงคนใกล้ชิดอดีตพระอลงกต 30 คน เร่งสอบสวนเอาผิดเพิ่มฐานฟอกเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) กล่าวว่า หลักฐานที่ตรวจยึดได้เมื่อวานนี้ ขณะนี้กำลังคัดแยกหลักฐาน เพราะมีข้อมูลเยอะมาก ในเรื่องของพยานหลักฐานที่ได้ตรวจยึดมาจึงต้องคัดแยกเป็นหมวดหมู่และดำเนินการเพื่อตรวจสอบต่อไป ทั้งนี้หมอบีมีคนใกล้ชิดที่พบ 3 คน และคนใกล้ชิดห่างๆ 1 คน โดยในวันที่เข้าตรวจค้นบ้าน มีคนที่อยู่ด้วยกัน 3 คน อีกคนเป็นเลขาฯ และน่าจะมีปัญหาขัดแย้งกันภายใน จึงมีการออกมาพูดถึงเรื่องความผิดปกติต่างๆ ซึ่งตำรวจได้มีการสอบปากคำคนใกล้ชิดเป็นผู้หญิงไว้เป็นพยาน การบริหารงานของหมอบี ยังไม่ดีเท่าวัดเท่าไหร่ ส่วนเน็ตไอดอลขอไม่ลงลึกในรายละเอียด พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า หมอบีเป็นเส้นเลือดใหญ่ กระจายบางส่วนออกไปสู่คนใกล้ชิด เมื่อถามถึงกรณีนักร้อง อินฟลูเอนเซอร์ พล.ต.ต.จรูญเกียรติบอกว่า เป็นคำบ่นของอดีตพระอลงกต ว่ากลุ่มนักร้องที่มาแสดงดนตรี โกงอดีตพระอลงกตเรื่องค่าใช้จ่ายไม่ตรง สมมติขายบัตรได้เท่าไหร่ และจะต้องหักค่าใช้จ่ายให้วัดเท่าไหร่ ส่วนกรณีบ้านดำโอนกลับไปเป็นชื่อของอดีตพระอลงกตแล้วก่อนจะมีเรื่อง โดยบ้านหลังนี้มีการโอนผ่านไปยังอดีตพระอลงกตแล้ว แต่เนื่องจากตำรวจอยากได้เส้นทางการเงินที่ชัดเจน และเป็นเส้นทางการเงินที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ […]

พลทหารเหยียบกับระเบิดพื้นที่ปราสาทตาควาย

สุรินทร์ 27 ส.ค.-พลทหารเหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ขาขวาท่อนล่างขาด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว รายละเอียดอื่นๆ จะรายงานให้ทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ย้ำปฏิบัติตามเงื่อนไขหยุดยิงเคร่งครัด

ศรีสะเกษ 27 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ที่ด่านศุลกากรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ย้ำให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ไม่ขยายขอบเขตความขัดแย้ง ไม่เผยแพร่ข่าวปลอม รวมถึงเห็นชอบให้ความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คำแถลงข่าวร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 ราชอาณาจักรไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ราชอาณาจักรกัมพูชา วันที่ 27 สิงหาคม 2568 จังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ จัดขึ้นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ในจังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย โดยมี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และพลโท […]