สำนักงาน กกต. 9 ต.ค.-“ชาย นครชัย” รับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ก่อนเข้าทำหน้าที่ กกต.ใหม่ ย้ำยึดกฎหมาย ประโยชน์ประชาชน อะไรถูกว่าถูก อะไรผิดว่าผิด ไม่กลัวทัวร์ลง ไม่หวั่นการเมืองกดดัน กินเงินเดือนจากภาษีประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดพิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายชาย นครชัย เป็นกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ร่วมพิธี พร้อมกรรมการการเลือกตั้ง เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง และผู้บริหารของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งเมื่อถึงเวลา 09.09 น. นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง อัญเชิญพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เข้าสู่สถานที่ประกอบพิธี และอ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง หน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้น นายชาย ถวายความเคารพ เปิดกรวยดอกไม้ถวายราชสักการะ พร้อมถวายความเคารพ จากนั้นคณะกรรมการการเลือกตั้งและผู้เข้าร่วมพิธี ร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายชายได้สักการะพระพรหมและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศูนย์ราชการฯ เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนเข้าทำหน้าที่อย่างเป็นทางการ สำหรับการเข้าทำหน้าที่ กกต. นายชาย ใช้ห้องทำงานของนายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี ที่พ้นจากหน้าที่ไปก่อนหน้านี้
นายชาย กล่าวภายหลังเข้ารับตำแหน่งใหม่ ว่า ตั้งใจเข้ามาทำอะไรให้ดีขึ้น ตอนช่วงเลือกตั้งเห็นมีคนบ่นกันมาก คิดว่าติดขัดอะไรก็อยากเข้ามาช่วยผลักดันให้เกิดสิ่งที่ดีขึ้น ที่เห็นว่าเป็นปัญหาแรกควรแก้ไข คือ ต้องพยายามทำความเข้าใจ เพราะข้อกฎหมายกำหนดว่าให้ กกต.ดูแลเชิงนโยบาย และสำนักงานฯ ทำงานด้านธุรการ แต่คนเหมารวมว่า กกต.ดูแลทุกอย่าง ซึ่งไม่ใช่เช่นนั้น จึงอยากทำความเข้าใจ และถ้าติดขัดอะไรก็จะได้ช่วยแก้ไขให้ดีขึ้น คิดว่าทำแล้วทุกคนได้สิ่งที่ถูกใจ มีผลกับประเทศชาติในทางที่ดีจะเป็นเรื่องดี
“ส่วนที่งานเลือกตั้งเกี่ยวข้องกับฝ่ายการเมือง เห็นว่า การเมืองอยู่ที่คนคิด แต่ในฐานะเป็น กกต. เราต้องทำตามข้อกฎหมาย จะทำนอกเหนือที่กฎหมายกำหนดไม่ได้ เพราะถ้าการเมืองผลักดันอะไรมาแล้วเราทำอะไรที่มันไม่ใช่ ปัญหาที่ตามมาจะเกิดที่เรา จึงต้องดูว่ากฎหมายเขียนอะไรให้เราทำ เพราะกฎหมายเขียนมาเพื่อประโยชน์ของคนทั้งประเทศ เราต้องทำเพื่อประโยชน์ของคนทั้งประเทศเป็นหลัก” นายชาย กล่าว
เมื่อถามย้ำว่า ไม่กลัวความกดดันจากการเมืองใช่หรือไม่ นายชาย กล่าวว่า เขาจะกดดันอะไร เราไม่ได้กินเงินเดือนเขา เงินเดือนรัฐบาลก็ไม่ใช่ แต่กินเงินเดือนจากภาษีประชาชน คิดว่าถ้าเขามีปัญหาแล้วมาคุยกัน หาทางแก้ไขปัญหา เช่น กฎหมายนี้ใช้แล้วติดขัด ก็มาคุยกันเพื่อหาทางออก อาจจะแก้ไขกฎหมาย คิดว่าทุกเรื่องมีทางออก แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกทางออกอย่างไรในการแก้ปัญหา เพื่อให้ทุกคนอยู่อย่างมีความสุข ไม่มีปัญหากัน
“ถ้าเราคิดตามกระแสก็จะหนักใจว่าทัวร์จะลงไหม แต่เราก็ไม่ได้เล่นโซเชียล ก็ไม่ได้แคร์อะไรเท่าไร บางเรื่องเขาก็ต้องดูด้วยว่าอะไรเหมาะ อะไรควร สังคมต้องอยู่ด้วยกันด้วยความรอมชอม ไม่ใช่ทุกคนต่างมุ่งเป้าเอาของตัวเอง ทุกคนมีสิทธิ แต่สิทธิของคนอื่นเราไม่สนใจก็จะอยู่อย่างลำบาก และจะมีปัญหาไปเรื่อย ๆ เราต้องช่วยกัน และทำให้เมืองไทยน่าอยู่” นายชาย กล่าว
นายชาย กล่าวว่า แม้จะมาจากกระทรวงวัฒนธรรม แต่คิดว่ามาทำงาน กกต. น่าจะได้เปรียบ เพราะการที่เคยอยู่งานวัฒนธรรมมา ทำให้มีเครือข่ายมาก ได้รับฟังปัญหาและวัฒนธรรมของแต่ละพื้นถิ่น แต่ละกลุ่มเป็นอย่างไร จะได้นำมาปรับปรุงให้เข้าบริบทของคนไทยในการทำงาน ส่วนข้อกฎหมายคิดว่าเราศึกษาได้ ระเบียบ กกต.มีอยู่ไม่เท่าไร ก็ดูและพิจารณาไปตามข้อกฎหมาย
เมื่อถามว่า หนักใจหรือไม่ที่ต้องมาร่วมพิจารณาเรื่องร้องเรียน ร้องคัดค้านผลการเลือกตั้ง สส. ซึ่งอาจถูกฟ้องร้อง ทั้งที่ไม่ได้ร่วมจัดการเลือกตั้งกับ กกต.มาแต่แรก นายชาย กล่าวว่า ต้องไปเป็นหมู่คณะ คิดว่าเข้ามาแล้วก็ต้องช่วยกันทำให้ดี หลักของตนต้องว่าไปตามเนื้อผ้า ถ้าเขาทำถูกก็ว่าถูก ถ้าทำผิดก็ว่าผิด และ กกต.ต้องทำงานจริงจัง ถ้าผิดก็ต้องว่าผิด คนจะได้เข็ดหลาบ ไม่ทำเรื่องที่จะเกิดปัญหาต่อไป
เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าไม่กลัวทัวร์ด้วยใช่หรือไม่ นายชาย กล่าวติดตลกว่า ไม่กลัวหรอก และว่า “มีคนถามผมบ่อยว่าทำทัวร์หรือเปล่า”.-สำนักข่าวไทย