ร้อยเอ็ด 7 ต.ค. – นายกฯ เยือนร้อยเอ็ด ประชาชนแห่ทวงเงินหมื่น ชม อ.สุวรรณภูมิ ใช้ความเข้มแข็งครอบครัวปราบยาเสพติด หลังกัดกร่อนสังคมไทยมานาน ลั่นต้องปราบปราม ยึดทรัพย์โดยเร็ว เตรียมสั่งการใน ครม.ครั้งหน้า
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และคณะ เดินทางมายังสถานีตำรวจภูธรหัวโทน อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อตรวจเยี่ยมโครงการบำบัดยาเสพติด โดยมี น.ส.จิราพร สินธุไพร น.ส.ชญาภา สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย รวมถึงประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับ และถือป้ายเรียกร้องโครงการดิจิทัลวอลเล็ต โดยป้ายข้อความระบุว่า “เราต้องการเงินดิจิทัล 10,000 บาท, ชาวร้อยเอ็ดอยากได้ 10,000 บาท, เศรษฐกิจร้อยเอ็ดแย่ เอาเงิน 10,000 บาท มาเยียวยาก่อนได้ไหม”
โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ประชาชนที่มารอต้อนรับได้นำผ้าขาวม้ามาผูกเอว ก่อนที่นายกฯ จะเดินไปยังป้ายข้อความที่เรียกร้องโครงการเงินดิจิทัล พร้อมถ่ายรูปกับประชาชนที่ถือป้ายดังกล่าวอย่างเป็นกันเอง พร้อมกล่าวกระเซ้า นายกิตติ สมทรัพย์ สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ที่เดินมาเพื่อร่วมถ่ายรูปด้วยว่า “คุณจะมาถ่ายรูปกับผมทำไมเล่า เฮ้อ!” ก่อนจะใช้มือดันนายกิตติ ออกนอกเฟรมถ่ายภาพ พร้อมชูนิ้วโป้ง เพื่อถ่ายรูปร่วมกับประชาชน และกล่าวว่า “เงินหมื่น”
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่ 2 ที่ลงพื้นที่อีสาน ดูน้ำท่วมที่ จ.อุบลราชธานี และ จ.ยโสธร ดีใจที่ปัญหาคลี่คลายไปบ้าง แต่ปัญหาที่มีอยู่คือเรื่องปากท้อง ผลิตผลทางการเกษตร ข้าว ซึ่งที่ จ.ร้อยเอ็ด ปลูกกันเยอะ รัฐบาลจะไปเปิดตลาดใหม่ นำนวัตกรรมเข้ามาเสริม เพื่อให้รายได้สุทธิต่อครัวเรือนสูงขึ้น ส่วนค่าใช้จ่ายของประชาชนที่สูง รัฐบาลได้ดำเนินการพักหนี้ ลดค่าน้ำและค่าไฟ ประชาชนจะได้ลืมตาอ้าปาก มีกำลังใจในการทำงาน ขณะที่ปัญหาที่กัดกินสังคม เช่น เรื่องยาเสพติดที่แพร่หลาย เรายอมไม่ได้ที่จะให้ลูกหลานเป็นทาสของยาเสพติด ที่ อ.สุวรรณภูมิ ถือว่าทำได้ดี โดยใช้ชุมชนป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างครบวงจร และไม่ใช้ความรุนแรง ใช้ความเข้มแข็งของครอบครัวมาช่วย หวังว่าโมเดลนี้จะถูกนำไปใช้ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในที่อื่นต่อไป
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ดูได้จากแววตามีความจริงใจจริงจัง และอยากให้มีผลสัมฤทธิ์ แก้ไขปัญหาได้ทั่วประเทศ และขอชื่นชมการบูรณาการความร่วมมือจากหลายภาคส่วนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการของสถานีตำรวจภูธรหัวโทน ที่สามารถแก้ไขปัญหายาเสพติดได้อย่างเป็นรูปธรรม จึงต้องขอชื่นชม ดังนั้น ขอให้หน่วยงานราชการบูรณาการและเป็นเสาหลักในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด ร่วมกันปราบปรามผู้มีอิทธิพล ดำเนินการอย่างจริงจังและเป็นระบบ ขณะที่ผู้ค้าต้องถูกปราบปรามอย่างเคร่งครัด และยึดทรัพย์โดยเร็วที่สุด และขอเน้นย้ำรัฐบาลนี้เอาจริงกับเรื่องยาเสพติด เพราะเป็นเรื่องที่กัดกร่อนสังคมไทยมาอย่างยาวนาน และถึงเวลาที่จะต้องจัดการต่อไป โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เป็นหน่วยงานสำคัญที่จะช่วยผลักดันเรื่องนี้ได้ จึงขอฝากถ้าเป็นไปได้อยากให้เอางานของสถานีตำรวจภูธรหัวโทน โมเดลนี้ไปแพร่ขยายในทุกสถานีตำรวจ เพื่อทำงานร่วมกับชุมชนและหน่วยงานรัฐทุกหน่วยงาน ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งต่อไป ตนจะสั่งการในเรื่องนี้ด้วย
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เดินพูดคุยและให้กำลังใจผู้ติดยาเสพติดที่ได้รับการบำบัด
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเดินทางกลับออกจาก จ.ร้อยเอ็ด นายกรัฐมนตรีได้ถ่ายภาพหมู่เป็นที่ระลึกหน้า สภ.หัวโทน ซึ่งมีข้าราชการตั้งแถวรอจำนวนมาก ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ถามหาบรรดา สส.ว่าอยู่ไหน และให้จัดพื้นที่มาถ่ายรูปร่วมกันเป็นที่ระลึก. – สำนักข่าวไทย