กระทรวงการต่างประเทศ 4 ต.ค.-“กต.-ท่องเที่ยว” แถลงเสียใจเหตุรุนแรงห้างพารากอน นายกฯ ยกหูคุยทูตจีน-เมียนมา แจงเหตุหลังนทท.เสียชีวิต ยันเยียวยาเต็มที่ เร่งเรียกความเชื่อมั่น หวั่นกระทบท่องเที่ยว
กระทรวงการต่างประเทศแถลงข่าวผลการประชุมหารือเพื่อพัฒนามาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่สาธารณะและแหล่งท่องเที่ยวที่มีนาย จักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงแสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตและบาดเจ็บต่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่ห้างพารากอนเมื่อวานนี้(3 ต.ค.) ที่จะต้องคำนึงถึงสภาพจิตใจของคนไทยทุกคน การควบคุมกฎหมาย เช่น การซื้ออาวุธปืน ซึ่งเหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบลงแล้วไม่ได้มีเหตุการณ์ต่อเนื่อง
“ล่าสุดนายกรัฐมนตรีได้ติดต่อผ่านทางโทรศัพท์กับ เอกอัครราชทูตจีน และเมียนมาประจำประเทศไทย ซึ่ง หลังจากการแถลงข่าวเสร็จ เราจะเดินทางไปห้างพารากอน และสถานทูตจีนและเมียนมารวมถึงสถานทูตอื่นที่มีผู้ได้รับผลกระทบ” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าว
ด้านน.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าววา รัฐบาลไทยขอแสดงความเสียใจอย่างลึกซึ้ง แก่ผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทุกคน กับเหตุการณ์สุดวิสัยที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ไม่มีใครอยากให้เกิด ไม่ว่าที่ใดในโลกก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาวจีน 1 คนที่เดินทางมาในวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ในช่วงฟรีวีซ่าในไทย และอีก1 คนเป็นคนเมียนมา ส่วนผู้บาดเจ็บ มี 5 ราย เป็น ชาวจีน 1 ราย ที่มากับผู้เสียชีวิต และชาวสปป.ลาว 1 รายและคนไทย 3 ราย โดยทางรัฐบาลไทยจะดูแลทุกอย่างให้ดีที่สุด รวมทั้งอำนวยความสะดวกให้ครอบครัวผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต
“ผู้บาดเจ็บทั้ง 5 ราย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ได้รับไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ส่วนการดำเนินการของกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้จัดตั้ง situation Command Center ไว้ที่กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อสื่อสารกับทุกภาคส่วนและอัพเดตสถานการณ์ ซึ่งเป็นการติดตั้งเพียงชั่วคราวเฉพาะเหตุการณ์นี้ เพื่อประสานงานกับสถานทูตต่าง ๆ ดูแลครอบครัวของนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ได้รับผลกระทบด้วย” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ กล่าว
น.ส.สุดาวรรณ กล่าวว่า มีโอกาสได้อยู่กับนายกรัฐมนตรีในช่วงติดต่อกับเอกอัครราชทูตจีน ซึ่งทางเอกอัครราชทูตจีนได้ขอบคุณที่นายกรัฐมนตรีรีบดำเนินการ
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ในช่วงฟรีวีซ่า จะ เรียกความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวอย่างไร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องพยายามสร้างความเชื่อมั่น ส่วนผลกระทบนั้นก็ต้องติดตามต่อไป
เมื่อถามถึงระบบ Emergency alert ที่เป็นมากว่าการส่ง SMS แจ้งเตือนประชาชน สามารถ Kick Off ได้เมื่อใด น.ส.สุดาวรรณ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องพูดคุยกันหลายภาคส่วน และจะต้องบูรณาการกันต่อ
ส่วนที่ผ่านมาเมื่อเกิดเหตุการณ์รุนแรง รัฐบาลก็บอกแต่ว่าถอดบทเรียนแต่ก็เกิดเหตุการณ์ซ้ำ จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวอย่างไร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ กล่าวว่า เหตุการณ์นี้ผิดปกติ และไม่ได้เกิดประจำ จะพยายามควบคุมไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
“ส่วนเรื่องการเยียวยาผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ รัฐบาลไทยเยียวยาเต็มที่ กรณีนี้ควรมีมาตรการช่วยเหลือ อาจจะใช้งบปกติหรืองบกลาง ต้องหารือกันอีกครั้ง ซึ่งทางด้านครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บได้ติดต่อมาแล้ว แต่ยังไม่ได้พูดถึงการเยียวยา ซึ่งทางการไทย ก็จะดูแลผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตให้ดีที่สุด” น.ส.สุดาวรรณ กล่าว
ขณะที่พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผ็บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)ประเมินเหตุการณ์ว่าเป็น active shooter ซึ่งเราได้ฝึกซ้อมการรับมือ และผลการปฏิบัติงานสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดี รับมือได้เร็ว
“ผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนแบลงค์กันซึ่งเป็นปืนพลาสติก แล้วมาดัดแปลงเปลี่ยนลำกล้อง ต่อไปต้องเพิ่มมาตรการควบคุม เช่น กฎหมายที่ควบคุมแบลงค์กัน การแปลงสภาพอาวุธปืน โดยจะเพิ่มเติมในเรื่องของวัสดุเทียมที่สามารถนำมาเป็นอาวุธปืนได้” ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าว
ส่วนประสานกับผู้ประกอบการถึงมาตราการตรวจสอบอาวุธก่อนเข้าห้างอย่างไร พล.ต.ท. สำราญ กล่าวว่า ทางตร.พูดคุยและฝึกซ้อมกับทางห้างไว้แล้ว ทำให้สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว แต่ต้องหารือกันเพื่อกำหนดมาตรการต่อไป
น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เราบริหารจัดการมอนิเตอร์ข่าวต่าง ๆ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ และดำเนินการ 3 ส่วน 1. มาตรการด้านความปลอดภัย ที่ต้องยกระดับในทุกพื้นที่ เพื่อนนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศ 2. มาตรการเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจ อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตทั้งชาวไทยและต่างประเทศ 3.มาตรการสื่อสารภาครัฐและสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศ
“ในส่วนของการสื่อสารภาครัฐเองได้แบ่งเป็น 3 ระยะ สั้น กลางและยาว ซึ่งในระยะยาวจะทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและสร้างความมั่นใจ ซึ่งรัฐมนตรีท่องเที่ยวฯ และกระทรวงการต่างประเทศจะเริ่มดำเนินการในวันพรุ่งนี้(5 ต.ค.) ส่วนตัวเลขการท่องเที่ยว ททท.จะเป็นผู้ประเมิน การบริหารนั้นภาครัฐบาลทำเต็มที่ เอกอัครราชทูตจีนแสดงความชื่นชม ส่วนสถานทูตเมียนมาได้ติดต่อกับกระทรวงการต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว.-สำนักข่าวไทย