ตร.ไซเบอร์ค้นบ้าน “บิ๊กโจ๊ก”ตามขั้นตอน

กรุงเทพฯ 26 ก.ย.-“ทนายเชาว์” ยกข้อกฎหมาย ตำรวจไซเบอร์ค้นบ้าน “บิ๊กโจ๊ก” ทำตามขั้นตอน ทั้งการขอออกหมาย การเข้าค้น ไม่จำเป็นต้องระบุว่าเป็นบ้านใคร  ชี้ ไล่ตำรวจกลับ สุ่มเสี่ยงผิด ขัดขวาง ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน


นายเชาว์ มีขวด ทนายความ อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นเรื่อง หมายค้น “บ้านบิ๊กโจ๊ก” ใครทำผิดกฎหมาย มีเนื้อหาระบุว่า มีข้อถกเถียงภายหลังตำรวจไซเบอร์ เข้าค้นบ้านพักพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. เมื่อช่วงเช้าวานนี้(25 ก.ย.) โดยเฉพาะบิ๊กโจ๊กเจ้าของบ้านให้สัมภาษณ์หลายครั้ง ว่า “จากการดูหมายค้นไม่มีชื่อของตน เข้าใจได้ว่าการขอหมายค้นเป็นการหลอกศาล ไม่สุจริต เพราะการขอหมายค้นเป็นการขอหมายค้นเพียงแค่บ้านเลขที่ ไม่ได้บอกศาลว่าเป็นบ้านใคร ทั้งๆ ที่ตนอยู่บ้านนี้มาตลอดและใครๆ ก็รู้ว่าผมอยู่บ้านหลังนี้ และการค้นบ้าน ให้มีตำรวจชั้นผู้ใหญ่เข้ามาค้น ซึ่งจากการค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ไม่มีเส้นเงินที่สาวมาถึงตน ทั้งนี้ ได้ตั้งทีมกฎหมายถ้ามีความผิดจะไล่ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง มองว่าทำเกินกว่าเหตุและตัวเองไม่มีคดี แต่แค่ต้องการให้เสียชื่อเสียง ถ้าเป็นบ้านผู้ใหญ่ระดับ รอง ผบ.ตร. ศาลจะไม่ออกหมายค้น ชื่อบ้าน 5 หลังเป็นญาติของตัวเองมาจากสงขลา เป็นชื่อผู้ซื้อตัวเอง เมื่อเช้ามีการเข้าค้นไม่มีของผิดกฎหมายอะไร มีการจับกุมลูกน้องที่วิ่งงานเป็นตำรวจชั้นประทวน ข้อหาเว็บพนันและอยู่ระว่างส่งตัวไปประกันที่ศาล”

นายเชาว์ ระบุว่า คำสัมภาษณ์ของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หรือ บิ๊กโจ๊ก นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ระดับ 1 ใน 4 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาจทำให้สังคมเข้าใจผิดเกี่ยวกับหลักกฎหมายเรื่องหมายค้นและการออกหมายค้นของศาล โดยเฉพาะประเด็นที่ว่า” ถ้าศาลรู้ว่าเป็นบ้านของตนก็จะไม่ออกหมายค้นให้”  และ”ไล่เจ้าพนักงานตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ตามหมายให้กลับไป อ้างว่าตนเป็นรอง ผบ. ตร ต้องมีตำรวจระดับผู้ใหญ่มาค้น”  ยิ่งไม่ถูกไม่ถูกต้องตามหลักกฎหมายบัญญัติไว้ใน ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 69 ซึ่งบัญญัติว่า


ส่วนเหตุที่จะออกหมายค้นได้มีดังต่อไปนี้ 1.เพื่อพบและยึดสิ่งของซึ่งจะเป็นพยานหลักฐานประกอบการสอบสวน ไต่สวนมูลฟ้อง หรือพิจารณา 2.เพื่อพบและยึดสิ่งของซึ่งมีไว้เป็นความผิด หรือได้มาโดยผิดกฎหมาย หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าได้ใช้หรือตั้งใจจะใช้ในการกระท าความผิด 3. เพื่อพบและช่วยบุคคลซึ่งได้ถูกหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังโดยมิชอบด้วยกฎหมาย 4.เพื่อพบบุคคลซึ่งมีหมายให้จับ 5. เพื่อพบหรือยึดสิ่งของตามค าพิพากษาหรือตามค าสั่งศาล ในกรณีที่จะพบหรือจะยึดโดยวิธีอื่นไม่ได้แล้ว

นายเชาว์ ระบุว่า ส่วนหมายค้น ต้องมีรายละเอียดอะไรบ้าง มีบัญญัติไว้ในมตรา 60 ว่า “กรณีที่มีการออกหมายค้น จะต้องทำเป็นหนังสือและมีข้อความดังต่อไปนี้ 1)  สถานที่ที่ออกหมาย 2) วันเดือนปีที่ออกหมาย 3) เหตุที่ต้องออกหมาย 4) ระบุสถานที่ที่จะค้น ชื่อหรือรูปพรรณบุคคล หรือลักษณะสิ่งของที่ต้องการค้น กำหนดวันเวลาที่จะทำการค้น และชื่อกับตำแหน่งของเจ้าพนักงานผู้จะทำการค้น 5) ระบุความผิด หรือวิธีการเพื่อความปลอดภัย 6) ลายมือชื่อและประทับตราของศาล

นายเชาว์ ระบุว่า มีคำชี้แจงจากพล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์)เปิดเผยภายหลังการเข้าร่วมตรวจค้นบ้านพักของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ว่า เป็นการขยายผลจากการจับกุมเว็บไซต์พนันออนไลน์ โดยชุด pct  ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เปิดปฏิบัติการตรวจค้นสถานที่หลายแห่งทั่วประเทศที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนันออนไลน์  โดยสาเหตุที่ต้องตรวจค้นบ้านของบพลอตำรวจเอกสุรเชษฐ์ เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับที่คาดว่าอาจจะพักอยู่บริเวณนี้ และเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ส่วนสาเหตุที่วันนี้ตนเองต้องเดินทางมาร่วมด้วยเนื่องจากรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติต้องการให้มีผู้บังคับบัญชาระดับสูงร่วมด้วย และสามารถจับบุคคลตามหมายจับที่พักอาศัยอยู่ในบ้าน ตามหมายค้นได้หนึ่งคน “ผมจึงเห็นว่าการขอออกหมายค้นต่อศาล ของตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์)เพื่อค้นบ้านพล.ต.อ.ตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ของการออกหมายค้นได้  คือ 1. ค้นเพื่อพบและยึดสิ่งของ 2. ค้นเพื่อจับกุมผู้มีหมายจับ ส่วนรายละเอียดในหมายค้น เพียงระบุสถานที่ที่จะค้น ว่าเป็นบ้านเลขที่ใดก็เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องระบุว่าบ้านหลังนี้เป็นของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หรือเป็นของใคร ที่สำคัญ การที่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ รับทราบหมายค้นตามคำสั่งศาลแล้ว พูดจาเชิงข่มขู่ไล่เจ้าพนักงานตำรวจผู้ปฎิบัติตามหมายศาลให้กลับบ้าน ถือเป็นพฤติการณ์ที่สุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย  ถือว่าขัดขวางการค้น และอาจถือเป็นถ้อยคำ สบประมาท หรือทำให้อับอาย เป็นความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงาน เพราะพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ย่อมทราบดีอยู่แล้วว่า ผู้มีอำนาจจัดการตามหมายค้น ตามกฎหมายคือ เจ้าพนักงานผู้ที่มีชื่อในหมายค้น หรือผู้รักษาการแทน จะมีอำนาจเป็นหัวหน้าในการจัดการให้เป็นไปตามหมายค้น เพียงแต่ต้องเป็นเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองตั้งแต่ระดับสาม หรือ ตำรวจซึ่งมียศตั้งแต่ชั้นร้อยตำรวจตรีขึ้นไปเท่านั้น ไม่ได้ระบุว่าการค้นบ้านนายตำรวจระดับสูงยศพลตำรวจเอกต้องให้นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่เป็นผู้นำค้นด้วย “นายเชาว์ ระบุ.-สำนักข่าวไทย  


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชนรถบรรทุก

แพทย์หญิงดับสลด ขับชนท้ายรถบรรทุก

แพทย์หญิง ขับรถพุ่งชนท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ เสียชีวิตคาที่ บริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรี มุ่งหน้าสะพานตากสิน ถนนกรุงธนบุรี ตรวจสอบในรถพบซองยาแก้หวัด-คัดจมูก

แสตมป์ถูกข่มขู่

โฆษก ทบ. พร้อมให้ความเป็นธรรม​​ “แสตมป์​-​ภรรยา​”

โฆษกกองทัพบก พร้อมให้ความเป็นธรรม​​ “แสตมป์​-​ภรรยา​” ถูกนายพลข่มขู่​ ขอข้อมูลเพิ่มตรวจสอบอยู่ในประจำการหรือไม่​ ลั่น​ หากยังรับราชการถือผู้วินัยร้ายแรง​แม้เป็นเรื่องส่วนตัว​

ข่าวแนะนำ

แสตมป์ถูกข่มขู่

โฆษก ทบ. พร้อมให้ความเป็นธรรม​​ “แสตมป์​-​ภรรยา​”

โฆษกกองทัพบก พร้อมให้ความเป็นธรรม​​ “แสตมป์​-​ภรรยา​” ถูกนายพลข่มขู่​ ขอข้อมูลเพิ่มตรวจสอบอยู่ในประจำการหรือไม่​ ลั่น​ หากยังรับราชการถือผู้วินัยร้ายแรง​แม้เป็นเรื่องส่วนตัว​

เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

“ทักษิณ” เผยเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ กาสิโนแค่ 10%

“ทักษิณ” ฉายภาพเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ บอกกาสิโนแค่ 10% สร้างงานมากกว่า 20,000 คน ประกันรายได้มากกว่า 20,000 บาท ยกพนันออนไลน์ขึ้นมาถูกกฎหมาย บอก “อิ๊งค์” คิด-ทำ เหมือนพ่อ ยันเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริง แค่มีเงาแก่ ๆ อยู่ข้างหลัง เผยนักลงทุนเอเชียจ่อคุยหลังสหรัฐประกาศให้ความสำคัญคริปโต

สถานบันเทิงครบวงจร

“จิรายุ” ย้ำจำเป็นต้องทำ “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”

“จิรายุ” กางไทม์ไลน์ร่างกฎหมาย Entertainment Complex ถ้าใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือน ย้ำจำเป็นต้องทำ เพื่อควบคุมธุรกิจใต้ดิน​ ค้ามนุษย์ ไม่ให้เงินทองไหลออกนอกประเทศ ประเมินนักท่องเที่ยวปีนี้อาจแตะ 38 ล้านคน หลังลดลงช่วงโควิด