นายกฯ พอใจภาพรวมประชุม UNGA

สหรัฐ 23 ก.ย.- นายกฯ พอใจภาพรวมประชุม UNGA เดินหน้าแก้ปัญหาภูมิอากาศ-สิทธิมนุษยชน รวมถึงยกระดับระบบสาธารณสุขไทย


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลังเสร็จสิ้นภารกิจ การเข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่นับว่าเป็นการเข้าร่วมประชุมเป็นครั้งแรก พร้อมกับมีภารกิจเป็นจำนวนมาก ว่า ไม่ใช่ตนคนเดียวที่มีภารกิจจำนวนมาก นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ก็มีภารกิจเป็นจำนวนมากเช่นกัน ซึ่งก็ได้มีโอกาสพูดคุยในหลายเวที อย่างเช่นเรื่องของภาวะโลกร้อน เรื่องสันติภาพ เรื่องอากาศบริสุทธิ์ เรื่องความมั่นคงทางอาหาร เรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หรืออารยะเกษตร รวมถึงมีโอกาสได้เข้าไปพบปะกับผู้นำประเทศหลายประเทศ เช่น นายกรัฐมนตรีของประเทศมาเลเซีย ซึ่งในการพูดคุยกันในเรื่องของความมั่นคงด้านชายแดน รวมไปถึงการสนับสนุนให้มีการค้าระหว่างการที่สูงขึ้น

นอกจากนี้ยังมีสาระสำคัญที่พูดในถ้อยแถลง General debate ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของงาน โดยได้พูดถึงปัญหาของโลกที่เกิดขึ้น จากการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ ซึ่งหลายๆ ประเทศยังล้าหลัง เรื่องตัวเลขดัชนีชี้วัดต่างๆ ซึ่งต้องรวมพลังกันแก้ไขปัญหา และต้องทำให้เกิดขึ้นได้ ซึ่งก็ได้พูดไปได้หลายเวทีแล้วว่า สหประชาชาติประชุมครั้งนี้มีเรื่องของภูมิรัฐศาสตร์ ที่ยังคงมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันในหลายๆ เรื่อง แต่มีเรื่องเดียวที่เห็นตรงกัน คือ เรื่องความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะภาวะโลกเดือด ทำให้มีความไม่แน่นอนทางด้านสภาพอากาศ ที่เหมาะกับการทำเกษตรกรรม ซึ่งประเทศไทยก็เป็นผู้นำทางด้านเกษตรกรรม และมีความมั่นคงทางอาหารสูง แต่มีจำนวนที่ลดลง เพราะเกิดปัญหาภาวะน้ำท่วมและน้ำแล้ง ที่เกิดจากสภาพปัญหาที่ผันผวน อย่างเช่นปรากฏการณ์เอลนีโญ จึงต้องกลับมาดูเรื่องนี้ ว่าจะสามารถแก้ไขอย่างไรได้บ้าง


เรื่องของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และดำเนินไปถึงเรื่องของอารยะเกษตร ซื้อต้องใช้พื้นที่ให้เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเพาะปลูก ไม้ยืนต้นไม้ชั่วคราว การใช้หนองน้ำในที่เลี้ยงปลา หลายอย่างเชื่อว่า สามารถมาประยุกต์ใช้ได้

ส่วนเรื่องที่มีความเป็นห่วงของเรื่องสุขภาพ จาก สถานการณ์ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมไปถึงโรคอุบัติใหม่ เราต้องลุกขึ้นมาพูดคุยเรื่องนี้อย่างจริงจัง ในเรื่องของสิทธิเสรีภาพพื้นฐาน และทำให้มนุษยชนถูกจำกัด หรือได้รับการดูแลเยียวยาไม่ทั่วถึง แต่ประเทศไทยโชคดี ที่มีระบบสาธารณสุขที่แข็งแกร่ง แต่ปัจจุบันโลกมีการเคลื่อนไหวของประชากรเป็นจำนวนมาก ถึงแม้จะดูแลเป็นอย่างดี ก็ไม่เพียงพอ และถ้าประเทศอื่นไม่ดูแลเพียงพอ อย่างนั้นสหประชาชาติ ควรต้องรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ ในการที่จะทำให้ทุกประเทศมั่นใจว่า มีระบบดูแลสุขภาพที่ดี เหมือนกับประเทศไทย ซึ่งประเทศไทยก็ต้องไม่หยุดยั้งในการยกระดับ ในนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ซึ่งจะทำให้ประชาชนมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ในการเข้าถึงระบบสาธารณสุข

ส่วนเรื่องที่สหประชาชาติมุ่งหวัง ในเป้าหมายพัฒนาสันติภาพที่ยั่งยืน ซึ่งตนคิดว่า เป็นเรื่องละเอียดอ่อน และประเทศไทยมีความเชื่อถือความสงบ มีความเชื่อในความเจริญที่ยั่งยืน โดยไม่ไปก้าวก่ายกิจการภายในของแต่ละประเทศ แต่ว่า ปัจจุบันทราบดีว่ามีเรื่องระหอง ระแหง ระหว่างประเทศไทย หรือความขัดแย้งระหว่างประเทศ ที่มีอยู่หลายประเทศ ซึ่งประเทศไทย แม้เป็นประเทศเล็กๆ แต่ก็ภูมิใจในเอกราชที่มีมาโดยตลอด และสบายใจ ที่อยู่ในยุทธศาสตร์ที่เป็นที่ยอมรับของทุกประเทศ และเป็นหน้าที่ของผู้นำประเทศ และรัฐบาลดีที่จะต้องดำรงไว้ซึ่งความเป็นเอกราช โดยที่ต้องไม่เข้าข้างใคร รวมทั้งความเชื่อที่สันติสุข และความเจริญที่ยั่งยืน


ขณะที่เรื่องของสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยจะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ หรือ HRC วาระปี ค.ศ. 2025-2027 นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญ ไม่ใช่ดูแลสิทธิมนุษยชนในประเทศเพียงอย่างเดียว เพราะประเทศไทยมีประเทศเพื่อนบ้านอยู่หลายประเทศ หรือว่าจะเป็นประเทศมาเลเซียลาว กัมพูชา และที่ละเอียดอ่อนที่สุดคือประเทศเมียนมา ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ที่จะต้องดูแล ถ้าเกิดมีผู้อพยพเข้ามาในประเทศ หรือมีผู้ที่เดือนร้อนอยู่ตามแนวชายแดน ก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะไทยมีชายแดนติดกับประเทศเมียนมา กว่า 1,000 กิโลเมตร จึงต้องช่วยกันดูแลกันต่อไป

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการเดินทางมาประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 ว่า ถึงว่าไปดูเรื่องที่ประสบความสำเร็จ และขอขอบคุณกระทรวงการต่างประเทศ, สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI ที่ช่วยดูแลเป็นหลัก นำนักธุรกิจที่เก่ง และสนใจที่จะลงทุนในประเทศไทยให้มาพบปะกับตนเอง รวมถึงทีมงาน ซึ่งถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี ไปจุดเริ่มต้นที่ดี โดย 4 วันที่ผ่านมา ก็ได้ทำหน้าที่ในก้าวแรก และได้ประกาศให้ชาวโลกรู้ว่า ประเทศไทยเปิดแล้ว และพร้อมที่จะมีการลงทุนข้ามชาติทั้ง 2 ทาง รวมถึงเอกชนไทยก็มีความแข็งแกร่งหลายราย ซึ่งก็มีความพร้อมที่จะลงทุนในต่างประเทศ โดยนำองค์ความรู้มาใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งทุกประเทศก็ยินดีตอบรับ ที่ประเทศไทยมีรัฐบาลจากประชาธิปไตย

ทั้งนี้ ผู้นำจากหลายประเทศก็ให้การตอบรับเป็นอย่างดี เวลาและเข้าใจว่าถึงเวลาแล้ว ที่ประเทศไทยต้องมีผู้นำ และต้องออกมาค้าขายกันอีก .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน

2 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน ลั่นมีเอกภาพ แจงรัฐบาลเชื่อมั่นท่าที 2 ประเทศลดความรุนแรงได้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม โพสต์ข้อความชี้แจงทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าเรียน สื่อมวลชน ทุกท่าน ตามที่มีข่าวกระจายกันในแวดวงสื่อสังคมออนไลน์ เรื่องความขัดแย้งระหว่างฝ่ายการเมืองกับฝ่ายทหาร ในการจัดการปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดต่อปัญหาการจัดการระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการปิดด่านชายแดน ผมขอยืนยันว่า ผมกับกองทัพได้หารือร่วมกันหลายครั้ง และเห็นตรงกันว่าสถานการณ์ปัจจุบัน รัฐบาลทั้งสองประเทศต่างพยายามหาทางออกในการคลี่คลายวิกฤติ โดยยึดผลประโยชน์ประชาชนและอธิปไตยของชาติเป็นสำคัญ เราจึงกำหนดขอบเขตในการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และพยายามลดเงื่อนไขที่จะระงับยับยั้งมิให้เหตุการณ์ความขัดแย้งขยายตัวมากไปกว่านี้ สำหรับเรื่องการปิดชายแดนขณะนี้ รัฐบาลเห็นว่าท่าทีและการแสดงออกของทั้งสองประเทศ ยังเป็นการแสดงออกที่สามารถลดระดับความรุนแรงได้ เพราะการปิดด่านชายแดนแม้ไม่ใช่เรื่องการสู้รบทางตรง แต่กลับจะเกิดปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ที่จะกระทบกับวิถีชีวิตประชาชน ทำให้สถานการณ์ยากต่อการคลี่คลาย แต่ขณะเดียวกัน กองทัพก็ตั้งอยู่ในความระมัดระวังและไม่ได้ละเลยในการปกป้องตนเองและอธิปไตยเหนือดินแดน ขณะนี้รัฐบาล ร่วมกับกำลังเหล่าทัพและกระทรวงต่างประเทศ กำลังใช้กลไก JBC เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาตามขั้นตอนอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดเวทีถกเถียงตามข้อเท็จจริงตามกฎหมาย ผมจึงขอเรียนชี้แจงยืนยันว่า รัฐบาลและกองทัพมีความเป็นเอกภาพ และมีพันธะสัญญาที่มั่นคงในการรักษาความสงบสุขให้ประชาชนได้รับประโยชน์ และความปลอดภัยมากที่สุด ขอให้มั่นใจว่าเราจะหลีกเลี่ยงการยกระดับความขัดแย้งที่จะนำไปสู่ความสูญเสียทั้งสองฝ่ายในทุกด้าน ที่ผ่านมา เราร่วมกันใช้ความพยายามอย่างยิ่ง ทั้งการประชุม หารือ […]

แผ่นดินไหวเชียงใหม่ ขนาด 4.5 รอยเลื่อนแม่ทาขยับ

เชียงใหม่ 2 มิ.ย.- ระทึก! แผ่นดินไหว ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ลึก 1 กม. ประชาชนแจ้งรู้สึกสั่นไหว 4 จังหวัด สาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง แผ่นดินไหวที่ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ฉบับที่ 1/2568 กอง​เฝ้า​ระวัง​แผ่นดินไหว​ กรม​อุตุนิยม​วิทยา​รายงาน​ว่า​ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2568 เวลา 14.07 น. เกิดแผ่นดินไหว จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ความลึก 1 กิโลเมตร ได้รับแจ้งรู้สึกสั่นไหวบริเวณ จังหวัดเชียงใหม่ พะเยา ลำปาง และแม่ฮ่องสอน โดยสาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ สั่งการอำเภอพร้าว และอำเภอใกล้เคียง ลงพื้นที่ตรวจสอบผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือน เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตและความเสียหาย […]

ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง

2 มิ.ย.- ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง ย่านท่าเรือคลองเตย ส่วนคนขับรถชน รปภ. เสียชีวิต โดนฆ่าคนตาย เพิ่มอีก 1 ข้อหา 13.00 น. ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา การดำเนินคดี 6 ทรชนผู้ก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้าของกลางของกรมศุลกากรและก่อเหตุถอยรถตู้พุ่งชนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิต โดย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ข้อมูลว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับทั้ง 6 คนถูกดำเนินคดีในข้อหา 4 ข้อหา ในแก่ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้าย และกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และซ่องโจร ขณะที่นายสิทธิศักดิ์ หรือแบงค์ ถูกดำเนินคดีเพิ่มอีกหนึ่งข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดของตนหรือหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนกระทำไว้ ทั้งนี้ หลังศาลอนุมัติออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว […]

โควิด-19 ระบาดปักธงชัย ตายแล้ว 2

นครราชสีมา 2 มิ.ย.- เชื้อโควิด-19 แพร่ระบาดที่ อ.ปักธงชัย จ.นคราชสีมา รุนแรงถึงขั้นมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย รัฐบาลเตือนระวังสายพันธุ์ใหม่ NB.1.8.1 แพร่กระจายไว ที่ อ.ปักธงชัย พบผู้เสียชีวิตจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 รอบนี้แล้ว 2 ราย ผู้ป่วยรายแรกเป็นชายเสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ส่วนรายที่ 2 เสียชีวิตช่วงค่ำวานนี้ เป็นชายอายุ 72 ปี ที่โรงพยาบาลปักธงชัย ไปประกอบพิธีทางศาสนา โควิด-19 แม้จะกลายเป็นโรคประจำถิ่น ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก แต่ต้องรู้จักวิธีการป้องกันตัวเองและดูแลบุคคลในครอบครัวอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย โดยเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกประกาศเตือนหลังพบพฤติกรรมของเชื้อ SARS-CoV-2 สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญใน 3 ภูมิภาคทั่วโลก ได้แก่ แปซิฟิกตะวันตก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก จากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ NB.1.8.1 ที่กำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว และเชื้อโควิด-19 […]