เปิดบัญชีฯ สส.ก้าวไกล-เท่าพิภพ มี 7.9 ลบ.

ป.ป.ช. 22 ก.ย.- ป.ป.ช.เปิดบัญชีทรัพย์สินฯ 17 สส.ก้าวไกลป้ายแดง “เท่าพิภพ” มีเงิน 7.9 ล้าน หนี้ 2 หมื่นครอบครองปืนสั้น 2 กระบอก มอเตอร์ไซค์ 1 คัน ด้าน “โตโต้ -ปิยรัฐ” มี 6 ล้าน รถยนต์ 5 คัน      


สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ   เปิดเผยแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2566   จำนวน 91 ราย โดยบัญชีที่น่าสนใจในส่วนของ สส.พรรคก้าวไกล 16 คน ประกอบด้วย 

นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร และนางสาวณิธิชา กิตติสิริภัทรา คู่สมรส  มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 7,936,452 บาท  มีหนี้สินทั้งสิ้น 21,358 บาท โดยทรัพย์สินส่วนใหญ่เป็นโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง ที่ดิน และทรัพย์สินอื่น   ในส่วนของยานพาหนะ   นายเท่าพิภพแจ้งว่ามีรถจักรยานยนต์ 1 คัน รายการทรัพย์สินอื่น ครอบครองปืนสั้น 2 กระบอก


นายปิยรัฐ จงเทพ แจ้งว่ามีสถานภาพโสด มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 6,599,577 บาท   มีหนี้สินทั้งสิ้น 3,410,171 บาท  ในส่วนของทรัพย์สินประกอบด้วย เงินฝาก 22,577 บาท ที่ดิน 3,000,000 บาท  ซึ่งเป็นที่ดินในอำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 2,500,000 บาท   เป็นตึกแถว 3 ชั้น ย่านบางพลัด กรุงเทพฯ ยานพาหนะ 1,077,000 บาท    โดยนายปิยรัฐ แจ้งว่า เป็นรถยนต์ 5 คัน ประกอบด้วยรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน ยี่ห้อโฟล์ค ได้มาเมื่อเดือน พ.ย. 2563  รถยนต์ส่วนบุคคล ยี่ห้อโตโยต้า ได้มาเมื่อเดือน ม.ค. 2564   รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ยี่ห้อมินิ รุ่นคูเปอร์ ได้มาเมื่อเดือน มิ.ย. 2566 รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อโตโยต้า ได้มาเมื่อ ก.ย. 2564   รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ไม่เกิน 7 คน ยี่ห้อโตโยต้า ได้มาเมื่อ พ.ย. 2563 จักรยานยนต์ 2 คัน   ประกอบด้วยจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น แอร์เบลด และฮอนด้าคลิก

นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 1,857,680 บาท   หนี้สินทั้งสิ้น 413,950 บาท   ซึ่งนายธัญวัจน์ ระบุว่า มีสิทธิและสัมปทานประกอบด้วย ใบสิทธิในการสอนการแสดง ATOD ประเทศออสเตรเลีย ลิขสิทธิ์หนังสือ “พลิกเพศ สาวน้อย อัศจรรย์”   ลิขสิทธิ์เพลง “หวานอม ขมทิ้ง”   ลิขสิทธิ์เพลง “มือที่ 3” นอกจากนี้ยังมีรายการทรัพย์สินอื่น ได้มีการแจ้งไว้ 18 รายการ  เช่น  กระเป๋ายี่ห้อหรู  ซีดี ของสะสม ตู้เย็น แว่นตาแบรนด์เนม โทรศัพท์ไอโฟน 13 เซตฟูกที่นอนขนเป็ด   โซฟา ภสพถ่ายงานศิลปะ   ชุดนอนโซฟาในห้องนอน กีตาร์ คีย์บอร์ดดนตรี ไอแพด ไมโครเวฟ เซตเบาะยาว โต๊ะหิน เบาะนอน แอร์คอนดิชั่น

นายวุฒินันท์ บุญชู   และนางสุนิดา บุญชู คู่สมรส แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 49,514,917 บาท  เป็นทรัพย์สินของผู้ยื่น 30,679,200 บาท เป็นทรัพย์สินของคู่สมรส 18,835,717 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 375,563 บาท    โดยนายวุฒินันท์ แจ้งว่ามีทรัพย์สินอื่นจำนวน 5 รายการ ประกอบด้วย เพชรทองเครื่องประดับ และพระเครื่อง 9 องค์ และปืนอีก 4 กระบอก 


นายนนท์ ไพศาลลิ้มเจริญกิจ   และนางสาวนันทิพา ไพศาลลิ้มเจริญกิจ   คู่สมรส โดยแจ้งสถานภาพ  ว่าอยู่กินฉันสามีภริยาตามกฎหมาย โดยนายนนท์แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 5,547,048 บาท  เป็นทรัพย์สินของนายนนท์ 1,885,182 บาท ทรัพย์สินของนางสางนันทิพา 3,661,865 บาท และแจ้งว่า มีหนี้สินทั้งสิ้น 1,469,441 บาท    โดยนายนนท์ได้แจ้งรายการทรัพย์สินอื่น 6 รายการ ประกอบด้วยแหวนเพชร ต่างหูเพชร นาฬิกาชาย นาฬิกาหญิง และเครื่อง CNC Router   ซึ่งเป็นเครื่องตัดที่ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์   สำหรับการตัดในงานไม้  

นายนพดล ทิพยชล และนางสุดาววรณ์ ทิพยชล คู่สมรส แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 11,176,768 บาท   เป็นทรัพย์สินของนายนพดล 6,994,642 บาท เป็นทรัพย์สินของนางสุดาววรณ์ 4,182,125 บาท   มีหนี้สินทั้งสิ้น 8,264,680 บาท    โดยนายนพดล แจ้งครอบครองรายการทรัพย์สินอื่น ประกอบด้วย ทองคำ 15 รายการ แหวนเพชร 3 รายการ และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า

นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ และนางอภิรดี ประวีณวงศ์วุฒิ   คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ    แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 38,770,603 บาท   เป็นของนายสุรเชษฐ์ 21, 286,407 บาท   ของนางอภิรดี 17,471,508 บาท และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 12,688 บาท   นอกจากนี้นายสุรเชษฐ์ แจ้งว่า มีหนี้สินทั้งสิ้น 987,177 บาท    โดยนายสุรเชษฐ์แจ้งรายการทรัพย์สินอื่น ได้แก่ พระเครื่อง ปืน 2 กระบอก เครื่องประดับสุภาพสตรี และทรัพย์สินดิจิทัล (เหรียญดิจิทัล รวม 11 รายการ มูลค่า 554,697 บาท)  

นายภัณฑิล น่วมเจิม และนางสาวปภานิน กันตถาวร   คู่สมรส แจ้งว่า มีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 111,515,402 บาท โดยเป็นของนายภัณฑิล 102,158,001 บาท   ของนางสาวปภานิน 9,357,401 บาท และแจ้งว่ามีหนี้สินทั้งสิ้น 215,558 บาท    โดยเป็นหนี้สินของนายภัณฑิลเพียงผู้เดียว    ซึ่งเป็นหนี้จากเงินกู้ธนาคารและสถานบันการเงินอื่น    อย่างไรก็ตามทรัพย์สินส่วนใหญ่ ประกอบด้วยที่ดิน เงินลงทุน เงินฝาก และทรัพย์สินอื่น อย่างไรก็ตาม นายภัณฑิล ครอบครองที่ดินจำนวน 4 แปลง ประกอบที่ดินตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา มูลค่า 9,000,000 บาท ที่ดินที่อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร มูลค่า 5,000,000 บาท ที่ดินที่แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม. มูลค่า 61,500,000 บาท   และห้องชุด “บ้านจันทร์” แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. มูลค่า 3,142,500 บาท    นอกจากนี้ ผู้ยื่นยังได้แจ้งรายการโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างเป็นบ้านพักอาศัย 1 หลัง   อยู่ที่แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม. มูลค่า 7,500,000 บาท และแจ้งว่ามีรายการทรัพย์สินอื่น จำนวน 14 ราย เช่น   นาฬิกาหรูของสุภาพบุรุษ และสุภาพสตรี สร้อยทองรูปพรรณ กระเป๋าถือสุภาพสตรียี่ห้อหรูหลายรายการ 

นางสาวรัชนก สุขประเสริฐ   และนายภฤศภณ บุญจันทร์   โดยแจ้งสถานภาพว่าอยู่กินกันฉันสามีภรรยา มีลูกสาว 1 คน อายุ 8 ปี แจ้งว่า มีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 1,701,208 บาท   ไม่มีหนี้สินโดยเป็นทรัพย์สินของนางสาวรัชนกจำนวน 1,471,578 บาท   และเป็นทรัพย์สินของนายภฤศภณ  จำนวน 229,629 บาท   ประกอบด้วยเงินฝาก 1,273,971 บาทเงินลงทุน 7,236 บาท ยานพาหนะ 420,000 บาท

นายวรภพ วิริยะโรจน์ และนางวรนารี วิริยะโรจน์ คู่สมรส แจ้งมีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 24,989,619 บาท โดยเป็นทรัพย์สินของนายวรภพ 8,810,352 บาท ของนางวรนารี 16,179,267 บาท   และมีหนี้สินรวมทั้งสิ้น 6,247,853 บาท โดยทรัพย์สินส่วนใหญ่ เป็นเงินลงทุน โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง ที่ดิน ยานพาหนะ สิทธิและสัมปทาน

นายพิชัย แจ้งจรรยาวงศ์   และนางสาวสุรีพร กุยยาวัฒนานนท์ คู่สมรส แจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งสิ้น 36,948,808 บาท    โดยเป็นทรัพย์สินของนายพิชัย 3,431,978 บาท เป็นทรัพย์สินของนางสาวสุรีพร 33,516,829 บาท   และมีหนี้สินทั้งสิ้น 64,531 บาท   โดยทรัพย์สินส่วนใหญ่ เป็นที่ดิน ทั้ง 2 โฉนดอยู่ที่อำเภอบางพลี และอำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ นอกจากนี้  ยังมีทรัพย์สินอื่น  เช่น  อาวุธปืน กระเป๋าแบรนด์เนม นาฬิกาหรู เครื่องประดับสุภาพบุรุษ และสุภาพสตรี สร้อยคอทองคำ พระเครื่อง

นายสุรพันธ์  ไวยากรณ์ และนางสาวพิณภา เมฆวัฒน์ คู่สมรส โดยแจ้งว่า มีทรัพย์สินในส่วนของผู้ยื่น 8,725,544 บาท  คู่สมรสแจ้งมีทรัพย์สิน 359,400 บาท จึงได้แจ้งว่ามีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 9,084,944 บาท  และมีหนี้สินทั้งสิ้น 10,901,848 บาท

นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์   แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 4,608,271 บาท ไม่มีหนี้สิน

นางสาวกัลยพัชร  รจิตโรจน์ แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 8,442,944 บาท   มีหนี้สินทั้งสิ้น 2,035,399 บาท 

นางสาวนิตยา มีศรี   และนายดนัย อโสโก คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะแจ้งว่า มีทรัพย์สินรวม 22,618,927 บาท   เป็นทรัพย์สินของนางสาวนิตยา 21,511,838 บาท เป็นทรัพย์สินของดนัย 1,106,588 บาท และทรัพย์สินของบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 500 บาท  และเป็นหนี้สินทั้งสิ้น 547,238 บาท

นายเอกราช อุดมอำนวย แจ้งสถานภาพโสด มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 17,921,202 บาท   มีหนี้สินทั้งสิ้น 15,506,321 บาท   หนี้สินส่วนใหญ่ เป็นเงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น นางสาววรรณวิภา ไม้สน    แจ้งสถานภาพหย่าเมื่อเดือน ต.ค.2562    ซึ่งนางสาววรรณวิภา แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น  1,617,826 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 420,168 บาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิด

17 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด เลื่อนยศ “สิบเอก” รับบำนาญเกือบ 30,000 บาท/เดือน เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาท บรรจุทายาทรับราชการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ฝ่ายกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจสอบสิทธิของข้าราชการทหารในการปฏิบัติราชการสนาม และให้ดำเนินการปูนบำเหน็จแก่พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน สูงสุด เพราะ เป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตยในการ ออกลาดตระเวนและเหยียบกับระเบิดที่เนิน 481 วานนี้ โดย ได้รับการปูนบำเหน็จ เลื่อนชั้นเป็นสิบเอก (ส.อ.) หลังจากรักษาตัวแล้วเสร็จ ปลดเหตุสูญเสียฯจากการรบ ได้รับบำนาญเดือนละ 15,600 บาท ซึ่งเมื่อรวม เงินรายเดือน จากหน่วยงาน/องค์กรต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะได้รับเงิน รวม 29,800 บาท/เดือน (โดยประมาณ) […]