เปิดบัญชีฯ สส.ก้าวไกล-เท่าพิภพ มี 7.9 ลบ.

ป.ป.ช. 22 ก.ย.- ป.ป.ช.เปิดบัญชีทรัพย์สินฯ 17 สส.ก้าวไกลป้ายแดง “เท่าพิภพ” มีเงิน 7.9 ล้าน หนี้ 2 หมื่นครอบครองปืนสั้น 2 กระบอก มอเตอร์ไซค์ 1 คัน ด้าน “โตโต้ -ปิยรัฐ” มี 6 ล้าน รถยนต์ 5 คัน      


สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ   เปิดเผยแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2566   จำนวน 91 ราย โดยบัญชีที่น่าสนใจในส่วนของ สส.พรรคก้าวไกล 16 คน ประกอบด้วย 

นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร และนางสาวณิธิชา กิตติสิริภัทรา คู่สมรส  มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 7,936,452 บาท  มีหนี้สินทั้งสิ้น 21,358 บาท โดยทรัพย์สินส่วนใหญ่เป็นโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง ที่ดิน และทรัพย์สินอื่น   ในส่วนของยานพาหนะ   นายเท่าพิภพแจ้งว่ามีรถจักรยานยนต์ 1 คัน รายการทรัพย์สินอื่น ครอบครองปืนสั้น 2 กระบอก


นายปิยรัฐ จงเทพ แจ้งว่ามีสถานภาพโสด มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 6,599,577 บาท   มีหนี้สินทั้งสิ้น 3,410,171 บาท  ในส่วนของทรัพย์สินประกอบด้วย เงินฝาก 22,577 บาท ที่ดิน 3,000,000 บาท  ซึ่งเป็นที่ดินในอำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 2,500,000 บาท   เป็นตึกแถว 3 ชั้น ย่านบางพลัด กรุงเทพฯ ยานพาหนะ 1,077,000 บาท    โดยนายปิยรัฐ แจ้งว่า เป็นรถยนต์ 5 คัน ประกอบด้วยรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน ยี่ห้อโฟล์ค ได้มาเมื่อเดือน พ.ย. 2563  รถยนต์ส่วนบุคคล ยี่ห้อโตโยต้า ได้มาเมื่อเดือน ม.ค. 2564   รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ยี่ห้อมินิ รุ่นคูเปอร์ ได้มาเมื่อเดือน มิ.ย. 2566 รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อโตโยต้า ได้มาเมื่อ ก.ย. 2564   รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ไม่เกิน 7 คน ยี่ห้อโตโยต้า ได้มาเมื่อ พ.ย. 2563 จักรยานยนต์ 2 คัน   ประกอบด้วยจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น แอร์เบลด และฮอนด้าคลิก

นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 1,857,680 บาท   หนี้สินทั้งสิ้น 413,950 บาท   ซึ่งนายธัญวัจน์ ระบุว่า มีสิทธิและสัมปทานประกอบด้วย ใบสิทธิในการสอนการแสดง ATOD ประเทศออสเตรเลีย ลิขสิทธิ์หนังสือ “พลิกเพศ สาวน้อย อัศจรรย์”   ลิขสิทธิ์เพลง “หวานอม ขมทิ้ง”   ลิขสิทธิ์เพลง “มือที่ 3” นอกจากนี้ยังมีรายการทรัพย์สินอื่น ได้มีการแจ้งไว้ 18 รายการ  เช่น  กระเป๋ายี่ห้อหรู  ซีดี ของสะสม ตู้เย็น แว่นตาแบรนด์เนม โทรศัพท์ไอโฟน 13 เซตฟูกที่นอนขนเป็ด   โซฟา ภสพถ่ายงานศิลปะ   ชุดนอนโซฟาในห้องนอน กีตาร์ คีย์บอร์ดดนตรี ไอแพด ไมโครเวฟ เซตเบาะยาว โต๊ะหิน เบาะนอน แอร์คอนดิชั่น

นายวุฒินันท์ บุญชู   และนางสุนิดา บุญชู คู่สมรส แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 49,514,917 บาท  เป็นทรัพย์สินของผู้ยื่น 30,679,200 บาท เป็นทรัพย์สินของคู่สมรส 18,835,717 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 375,563 บาท    โดยนายวุฒินันท์ แจ้งว่ามีทรัพย์สินอื่นจำนวน 5 รายการ ประกอบด้วย เพชรทองเครื่องประดับ และพระเครื่อง 9 องค์ และปืนอีก 4 กระบอก 


นายนนท์ ไพศาลลิ้มเจริญกิจ   และนางสาวนันทิพา ไพศาลลิ้มเจริญกิจ   คู่สมรส โดยแจ้งสถานภาพ  ว่าอยู่กินฉันสามีภริยาตามกฎหมาย โดยนายนนท์แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 5,547,048 บาท  เป็นทรัพย์สินของนายนนท์ 1,885,182 บาท ทรัพย์สินของนางสางนันทิพา 3,661,865 บาท และแจ้งว่า มีหนี้สินทั้งสิ้น 1,469,441 บาท    โดยนายนนท์ได้แจ้งรายการทรัพย์สินอื่น 6 รายการ ประกอบด้วยแหวนเพชร ต่างหูเพชร นาฬิกาชาย นาฬิกาหญิง และเครื่อง CNC Router   ซึ่งเป็นเครื่องตัดที่ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์   สำหรับการตัดในงานไม้  

นายนพดล ทิพยชล และนางสุดาววรณ์ ทิพยชล คู่สมรส แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 11,176,768 บาท   เป็นทรัพย์สินของนายนพดล 6,994,642 บาท เป็นทรัพย์สินของนางสุดาววรณ์ 4,182,125 บาท   มีหนี้สินทั้งสิ้น 8,264,680 บาท    โดยนายนพดล แจ้งครอบครองรายการทรัพย์สินอื่น ประกอบด้วย ทองคำ 15 รายการ แหวนเพชร 3 รายการ และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า

นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ และนางอภิรดี ประวีณวงศ์วุฒิ   คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ    แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 38,770,603 บาท   เป็นของนายสุรเชษฐ์ 21, 286,407 บาท   ของนางอภิรดี 17,471,508 บาท และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 12,688 บาท   นอกจากนี้นายสุรเชษฐ์ แจ้งว่า มีหนี้สินทั้งสิ้น 987,177 บาท    โดยนายสุรเชษฐ์แจ้งรายการทรัพย์สินอื่น ได้แก่ พระเครื่อง ปืน 2 กระบอก เครื่องประดับสุภาพสตรี และทรัพย์สินดิจิทัล (เหรียญดิจิทัล รวม 11 รายการ มูลค่า 554,697 บาท)  

นายภัณฑิล น่วมเจิม และนางสาวปภานิน กันตถาวร   คู่สมรส แจ้งว่า มีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 111,515,402 บาท โดยเป็นของนายภัณฑิล 102,158,001 บาท   ของนางสาวปภานิน 9,357,401 บาท และแจ้งว่ามีหนี้สินทั้งสิ้น 215,558 บาท    โดยเป็นหนี้สินของนายภัณฑิลเพียงผู้เดียว    ซึ่งเป็นหนี้จากเงินกู้ธนาคารและสถานบันการเงินอื่น    อย่างไรก็ตามทรัพย์สินส่วนใหญ่ ประกอบด้วยที่ดิน เงินลงทุน เงินฝาก และทรัพย์สินอื่น อย่างไรก็ตาม นายภัณฑิล ครอบครองที่ดินจำนวน 4 แปลง ประกอบที่ดินตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา มูลค่า 9,000,000 บาท ที่ดินที่อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร มูลค่า 5,000,000 บาท ที่ดินที่แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม. มูลค่า 61,500,000 บาท   และห้องชุด “บ้านจันทร์” แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. มูลค่า 3,142,500 บาท    นอกจากนี้ ผู้ยื่นยังได้แจ้งรายการโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างเป็นบ้านพักอาศัย 1 หลัง   อยู่ที่แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม. มูลค่า 7,500,000 บาท และแจ้งว่ามีรายการทรัพย์สินอื่น จำนวน 14 ราย เช่น   นาฬิกาหรูของสุภาพบุรุษ และสุภาพสตรี สร้อยทองรูปพรรณ กระเป๋าถือสุภาพสตรียี่ห้อหรูหลายรายการ 

นางสาวรัชนก สุขประเสริฐ   และนายภฤศภณ บุญจันทร์   โดยแจ้งสถานภาพว่าอยู่กินกันฉันสามีภรรยา มีลูกสาว 1 คน อายุ 8 ปี แจ้งว่า มีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 1,701,208 บาท   ไม่มีหนี้สินโดยเป็นทรัพย์สินของนางสาวรัชนกจำนวน 1,471,578 บาท   และเป็นทรัพย์สินของนายภฤศภณ  จำนวน 229,629 บาท   ประกอบด้วยเงินฝาก 1,273,971 บาทเงินลงทุน 7,236 บาท ยานพาหนะ 420,000 บาท

นายวรภพ วิริยะโรจน์ และนางวรนารี วิริยะโรจน์ คู่สมรส แจ้งมีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 24,989,619 บาท โดยเป็นทรัพย์สินของนายวรภพ 8,810,352 บาท ของนางวรนารี 16,179,267 บาท   และมีหนี้สินรวมทั้งสิ้น 6,247,853 บาท โดยทรัพย์สินส่วนใหญ่ เป็นเงินลงทุน โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง ที่ดิน ยานพาหนะ สิทธิและสัมปทาน

นายพิชัย แจ้งจรรยาวงศ์   และนางสาวสุรีพร กุยยาวัฒนานนท์ คู่สมรส แจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งสิ้น 36,948,808 บาท    โดยเป็นทรัพย์สินของนายพิชัย 3,431,978 บาท เป็นทรัพย์สินของนางสาวสุรีพร 33,516,829 บาท   และมีหนี้สินทั้งสิ้น 64,531 บาท   โดยทรัพย์สินส่วนใหญ่ เป็นที่ดิน ทั้ง 2 โฉนดอยู่ที่อำเภอบางพลี และอำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ นอกจากนี้  ยังมีทรัพย์สินอื่น  เช่น  อาวุธปืน กระเป๋าแบรนด์เนม นาฬิกาหรู เครื่องประดับสุภาพบุรุษ และสุภาพสตรี สร้อยคอทองคำ พระเครื่อง

นายสุรพันธ์  ไวยากรณ์ และนางสาวพิณภา เมฆวัฒน์ คู่สมรส โดยแจ้งว่า มีทรัพย์สินในส่วนของผู้ยื่น 8,725,544 บาท  คู่สมรสแจ้งมีทรัพย์สิน 359,400 บาท จึงได้แจ้งว่ามีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 9,084,944 บาท  และมีหนี้สินทั้งสิ้น 10,901,848 บาท

นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์   แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 4,608,271 บาท ไม่มีหนี้สิน

นางสาวกัลยพัชร  รจิตโรจน์ แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 8,442,944 บาท   มีหนี้สินทั้งสิ้น 2,035,399 บาท 

นางสาวนิตยา มีศรี   และนายดนัย อโสโก คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะแจ้งว่า มีทรัพย์สินรวม 22,618,927 บาท   เป็นทรัพย์สินของนางสาวนิตยา 21,511,838 บาท เป็นทรัพย์สินของดนัย 1,106,588 บาท และทรัพย์สินของบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 500 บาท  และเป็นหนี้สินทั้งสิ้น 547,238 บาท

นายเอกราช อุดมอำนวย แจ้งสถานภาพโสด มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 17,921,202 บาท   มีหนี้สินทั้งสิ้น 15,506,321 บาท   หนี้สินส่วนใหญ่ เป็นเงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น นางสาววรรณวิภา ไม้สน    แจ้งสถานภาพหย่าเมื่อเดือน ต.ค.2562    ซึ่งนางสาววรรณวิภา แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น  1,617,826 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 420,168 บาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา ยึดหลักการสันติวิธี ยันไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ชี้ต้องคุยเฉพาะพื้นที่เป็นปัญหา ไม่ขยายประเด็น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ถึงการหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า “จากกรณีที่ทางรัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ดิฉันได้หารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และท่านรองนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งได้โทรศัพท์เข้ามารายงานเรื่องการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ณ จังหวัดอุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินภาพรวมอย่างรอบด้าน รัฐบาลไทยขอยืนยันในหลักการแก้ไขปัญหาด้วยแนวทางสันติวิธี ภายใต้ความเคารพในอธิปไตยและดินแดนของกันและกัน ในกรณีที่กัมพูชาประสงค์จะเสนอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เข้ามามีบทบาท รัฐบาลไทยขอเรียนว่า ประเทศไทยไม่ได้ให้การยอมรับเขตอำนาจศาล ICJ ในกรณีพิพาทต่างๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบัน และขอย้ำว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นควรได้รับการแก้ไขปัญหาในบริเวณที่มีการกระทบกระทั่งกันเท่านั้น ไม่ขยายประเด็นปัญหาออกไป ประเทศไทยยังยึดมั่นในกลไกการหารือทวิภาคีที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้มาโดยตลอด เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศค่ะ.-315.-สำนักข่าวไทย

ไทยไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลก ย้ำขอใช้กรอบ JBC

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-รัฐบาลออกแถลงการณ์กรณีไทย-กัมพูชา ยืนยันประเทศไทยไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลกมาตั้งแต่ พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบันแล้ว ย้ำขอใช้กรอบ JBC ในทุกระดับแก้ปัญหาระหว่างกัน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังเกิดแหตุการณ์ที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมานั้น เวลา 16.30 น. รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์กรณีดังกล่าว เป็นฉบับที่ 2 ดังนี้ นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ปะทะที่บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ทั้งสองฝ่ายได้หารือและตกลงกันที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา ได้แก่ คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Border Commission: JBC) คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (General Border Committee: GBC) และคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee: RBC) บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นผลมาจากการหารือระหว่างผู้บัญชาการทหารบกของทั้งสองฝ่าย เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม […]

อัยการสั่งฟ้อง 5 ผู้ต้องหา คดีนอมินี ตึกสตง.

5 มิ.ย. – พนักงานอัยการคดีพิเศษ สั่งฟ้อง 5 ผู้ต้องหา คดีตึก สตง.ถล่ม ในส่วนความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวฯ นายศักดิ์เกษม นิไทรโยค โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผยว่า วันนี้ พนักงานอัยการคดีพิเศษ มีความเห็นสั่งฟ้อง 5 ผู้ต้องหา คดีพิเศษที่เกี่ยวข้องกับตึก สตง.ถล่ม ในส่วนของความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวฯ มาตรา 36 มาตรา 37 และมาตรา 41 ในทุกข้อหา ยกเว้น นายประจวบ ศิริเขตร ซึ่งอัยการสั่งไม่ฟ้อง 1 ข้อหา ตามมาตรา 41 ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ประกอบด้วย นายโสภณ มีชัย, นายประจวบ ศิริเขตร, นายมานัส ศรีอนันท์,นายชวนหลิง จาง ชาวจีน กรรมการบริษัท ไชน่า เรลเวย์ และ […]

กัมพูชาจะไม่นำเรื่องพื้นที่พิพาทเข้าสู่วาระการประชุมเจบีซีกับไทย

กรุงเทพ 5 มิ.ย. – รัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์ลงวันที่ 4 มิถุนายนตำหนิเหตุการณ์ยิงปะทะกับทหารไทย พร้อมประกาศนำข้อพิพาทเรื่องดินแดนในพื้นที่ 4 จุดต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ โดยจะไม่นำเข้าวาระการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Committee- JBC) หรือ เจบีซี ไทย-กัมพูชา กลางเดือนนี้ แถลงการณ์ของรัฐบาลกัมพูชา รัฐบาลกัมพูชาได้ดำเนินนโยบายต่างประเทศบนรากฐานแห่งสันติภาพ มิตรภาพ และความร่วมมือระหว่างประเทศ เสมอมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนร่วมกันตามที่กำหนดไว้ตั้งแต่สมัยอาณานิคมฝรั่งเศส นับตั้งแต่ได้รับเอกราช ยกเว้นช่วงระบอบการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของเขมรแดง กัมพูชายังคงยึดมั่นอย่างแน่วแน่ในการเปลี่ยนชายแดนร่วมเหล่านี้ให้เป็นเขตแห่งสันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนา แม้จะมีความท้าทายเกิดขึ้นตลอดเส้นทางที่ผ่านมา กัมพูชาได้ให้ความสำคัญกับการยุติปัญหาชายแดนอย่างสันติ แม้ในช่วงเวลาที่มีความตึงเครียดเป็นครั้งคราวและมีการสูญเสียชีวิตของทหารผู้กล้าหาญที่ยืนหยัดปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของชาติ ความมุ่งมั่นที่ไม่เปลี่ยนแปลงของรัฐบาลกัมพูชา ในการแก้ไขปัญหาอย่างสันติเป็นที่ประจักษ์ในการดำเนินงานในอดีตที่ผ่านมา รวมถึงการส่งข้อพิพาทไปยังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ICJ ซึ่งมีคำวินิจฉัยเป็นคุณแก่กัมพูชาในปี 2505 และอีกครั้งหนึ่งในปี 2556 ในข้อพิพาทชายแดนกับประเทศไทย การกระทำเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกัมพูชาต่อกฎหมายระหว่างประเทศและการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งอย่างสันติ อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจ ที่ในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 28 พฤษภาคม 2565 เวลาประมาณ 05:30 น. เกิดเหตุการณ์ที่ทหารไทยได้เปิดฉากยิงเข้าใส่ทหารกัมพูชาในพื้นที่หมู่บ้านเตโชมรกต ตำบลมรกต […]