ป.ป.ช. 22 ก.ย. – “นิวัติไชย” รอดูคำวินิจฉัยศาล หลังพิพากษา ป.ป.ช.ปฏิบัติหน้าที่มิชอบคดี “พ่อ-ลูกวิลาวัลย์” รุกป่าเขาใหญ่ ยันไม่แพ้ หลักฐานแน่น ถ้า ป.ป.ช.ไม่ทำ ใครจะสู้กับผู้มีอิทธิพล
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีที่ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 2 จ.ระยอง ยกฟ้องนายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี และนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ อดีต รมช.ศึกษาธิการ กับพวกอีก 8 ราย ในคดีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดกรณีบุกรุกที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ เขาใหญ่ จ.ปราจีนบุรี เมื่อช่วงปี 45 ว่า การยกฟ้องดังกล่าวเป็นศาลชั้นต้น โดยจะมีการอุทธรณ์ในบางกรณี เรื่องนี้เราต้องนำคำพิพากษามาวินิจฉัย ปัจจุบันยังไม่ได้รับคำพิพากษาฉบับเต็มที่จะเอามาดูแต่ละประเด็น ว่าที่ศาลยกฟ้องไปมีประเด็นอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะเรื่องเจตนาว่ารู้หรือไม่รู้ว่ามีการบุกรุกที่อุทยานแห่งชาติ รวมถึงกรณีที่ว่าใช่แนวเขตอุทยานหรือไม่ ถ้าใช่ต้องดูว่ามีเจตนาเข้าไปบุกรุกหรือไม่ ตรงนี้ยังไม่เห็นคำพิพากษา เลยไม่แน่ใจว่าศาลได้วินิจฉัยเกี่ยวกับที่ดินที่เข้าไปครอบครองว่าเป็นที่ดินอุทยานหรือไม่ เพราะจากการพิสูจน์ของเรา เรามีภาพถ่ายทางอากาศ รวมถึงสอดคล้องตรงกับที่อุทยานวิเคราะห์ว่าเป็นที่ดินของกรมอุทยาน ฉะนั้น อาจจะต้องดูคำพิพากษาตรงนี้ก่อนว่าวินิจฉัยอย่างไร แล้วค่อยไปดูการกระทำว่าถ้าใช่แล้ว การเข้าไปอยู่มีเจตนาหรือไม่มีเจตนา แต่วันนี้ยังไม่เห็นรายละเอียด จึงยังระบุว่าจะอุทธรณ์ในประเด็นไหนยังไม่ได้
“มันมีกรอบระยะเวลาในการยื่นอุทธรณ์ เพียงแต่ว่าอาจจะขยายได้ แต่ยืนยันว่าไม่ช้า เพราะดูประเด็นแปบเดียวก็รู้แล้ว ว่าข้อพิจารณาของศาลวินิจฉัยในประเด็นไหน มีเหตุผลอย่างไร”นายนิวัติไชย กล่าว
สำหรับกรณีที่ศาลระบุว่า ป.ป.ช.ไต่สวนโดยมิชอบ จะส่งผลกระทบต่อการทำงานของ ป.ป.ช.หรือไม่ นายนิวัติไชย กล่าวว่า วันนี้อาจจะต้องดูว่าศาลพิพากษาว่าโดยมิชอบนั้น มิชอบอย่างไร มันเป็นประเด็นหรือไม่ ในประเด็นที่มีการกล่าวหานายสุนทรหรือไม่ เพราะศาลต้องพิจารณาตามคำร้องหรือการที่มีการยื่นไป ส่วนคำวินิจฉัยอาจจะต้องดูว่าท่านมีพยานหลักฐานอะไร ที่ว่า ป.ป.ช.ไต่สวนมิชอบ ต้องชัดเจนว่าประเด็นไหน หลักฐานคืออะไร สำคัญที่สุด เพราะเราอยู่ในกระบวนการยุติธรรมด้วยกัน การทำงานอันนี้ต้องขอดูก่อน เราถึงจะวิพากษ์กันได้ อย่างไรก็ดี เราเคารพคำดุลยพินิจ แต่ในส่วนที่ส่งผลกระทบ บางคนอาจจะบอกว่า ป.ป.ช.ปฏิบัติหน้าที่มิชอบก็ฟ้อง ป.ป.ช.ได้
เมื่อถามอีกว่า ถ้านายสุนทรอยากจะฟ้องกลับ ป.ป.ช. จะทำอย่างไร นายนิวัติไชย กล่าวว่า เป็นสิทธิของผู้ถูกกล่าวหาอยู่แล้ว ถ้าเห็นว่าการทำงานของคณะตรวจสอบเป็นการปฏิบัติหน้าที่มิชอบ มีพฤติการณ์ทุจริตอย่างไร เพราะวันนี้ผู้เสียหายฟ้องโดยตรงกับศาลอาญาคดีทุจริตฯ ได้เลย วันนี้ผลในสิ่งที่ ป.ป.ช.ทำงาน เราต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เราทำ อันนี้ต้องยอมรับ แต่ขอให้มีหลักฐานคืออะไร
ทั้งนี้ยืนยันว่าทำสำนวนแน่นหน้า เพราะผลการตรวจสอบสอดคล้องตรงกับที่กรมอุทยานตรวจสอบในทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้เทคโนโลยี ไม่ได้ใช้คนไปชี้ มีแผนที่ มีการแปรภาพถ่ายทางอากาศ มีการประมวลผล
“และผมถามว่าที่นักข่าวไปเห็นสภาพมันใช่มั้ย เอาง่ายๆ วิญญูชนที่ไปดูสภาพป่าวันนั้น มันเป็นป่าหรือเปล่า หรือมันเป็นคนที่เขาทำการเกษตรอยู่ก่อน ฉะนั้น ผมถึงบอกว่านี่แหละคือสิ่งที่เราจะต้องดูตามข้อเท็จจริง วันนี้ ป.ป.ช.ทำงานเพื่อเรียกร้องทรัพยากรธรรมชาติกลับมาเป็นของแผ่นดิน เราทำงาน ไม่ได้ไปปรักปรำหรือใส่ร้ายใคร ป.ป.ช.ก็พาผู้สื่อข่าวออกไปดูการทำงานในสิ่งต่างๆ ที่เห็นมาว่าวันนี้ทรัพยากรธรรมชาติของเราถูกทำลาย เขาเบียดบังไป ไปออกเอกสารสิทธิ ออกอะไรต่างๆ เยอะแยะไปหมด ในวันนี้ถ้า ป.ป.ช.ไม่ทำก็ไม่รู้ใครจะทำ เพราะคนที่ทำมีอิทธิพล” นายนิวัติไชย กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า แรงสะท้อนกลับมาทำให้ท้อใจหรือไม่กับการทำงาน เลขาฯป.ป.ช. กล่าวว่า ตนคิดว่าทำให้ ป.ป.ช.เข้มแข็งขึ้น ต้องตรวจสอบดูว่าเราทำอะไรที่มันยังบกพร่อง ขาด แต่ไม่มีวันแพ้ เป็นหน้าที่ที่เราต้องทำ ถ้าเราไม่ทำแล้วใครจะทำ เขาสร้างองค์กรนี้ให้มาทำงานกับผู้มีอิทธิพลหรือนักการเมืองที่กำลังกระทำการมิชอบ ไม่ถูกต้อง ยืนยันว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด นายนิวัติไชย ยังกล่าวถึงคดีของนางกนกวรรณ ที่ยังอยู่ในชั้นของ ป.ป.ช.อีกสำนวนหนึ่ง จะส่งผลต่อการทำงานของ ป.ป.ช. ให้ต้องเข้มงวดขึ้นว่า จะต้องดูข้อเท็จจริงที่ศาลออกมาตัดสินก่อน วันนี้อย่างไรต้องรอคำพิพากษา เพราะเราไม่รู้รายละเอียดที่ท่านวินิจฉัย ถ้าเราเอามาดูอาจจะเอาไปอุดช่องโหว่เพิ่มเติม แต่อย่างไรก็ดี ตนคิดว่าทุกคดีที่เราทำมีความมั่นคงในทุกคดี.สำนักข่าวไทย