พรรคเพื่อไทย 19 ก.ย.-“พิชิต” เตรียมคุย “ภูมิธรรม” หารือกรอบแก้ รธน. ยันสำเร็จในรัฐบาล “เศรษฐา” ไม่แตะหมวด 1-2 บอกนายกฯ เมตตาตั้งเป็นที่ปรึกษาฯ จะทำให้ดีที่สุด ดีหรือชั่วก็อยู่ที่ตัวเอง
นายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการดูแลเรื่องการแก้ไขหรือยกเลิกกฎหมายสำคัญ ตั้งแต่สมัย คสช. หรือกฎหมายอื่นๆ ที่จำเป็นจะต้องพิจารณาขึ้นมาใหม่หรือไม่ ว่า ส่วนตัวก็คงจะดูหลายๆ เรื่องตามที่ได้รับมอบหมายงานมา ทั้งเรื่องรัฐธรรมนูญและคำสั่ง คสช. และเรื่องที่เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล
ส่วนเรื่องรัฐธรรมนูญจะใช้คำว่าแก้ไขหรือจัดทำฉบับใหม่ นายพิชิต ระบุว่า วันนี้มาหารือรูปแบบวิธีการ แต่เบื้องต้นคณะรัฐมนตรีมีมติให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา มอบหมายให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้รับผิดชอบ วันนี้ก็มาปรึกษารูปแบบวิธีการให้เป็นไปตามนโยบายพรรคในช่วงหาเสียง ส่วนจะเป็นหนึ่งในคณะกรรมการชุดนี้ด้วยหรือไม่ นายพิชิต กล่าวว่า ตนก็กำลังคุยกันอยู่
นายพิชิต กล่าวว่า แนวทางเบื้องต้นในการจัดทำประชามติ ก็คงจะมีการพูดคุยกันในหลายประเด็น เพราะเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จะมีประเด็นเรื่องการแก้ไขรายมาตรา หรือแก้ทั้งฉบับ และจะต้องทำอย่างไร ยืนยันจะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปตามประชาธิปไตยมากที่สุด และจะทำให้สำเร็จภายในรัฐบาลของนายเศรษฐา
ส่วนคำว่าทำให้สำเร็จนั้น หมายถึงการแก้ไขรายมาตรา หรือทั้งฉบับ แนวทางไหนน่าจะเหมาะสมที่สุด นายพิชิต ย้ำว่า ก็ต้องคุยกันก่อน เพราะอะไรที่แก้ได้และเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติบ้านเมืองและประชาชน ให้มีความรู้สึกว่าไม่ถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพ ทำได้ก็น่าทำ ส่วนการแก้ไขทั้งฉบับ ก็มีกรอบคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอยู่แล้วว่าต้องทำอย่างไร แก้ก็ต้องทำให้สำเร็จด้วย เพราะหากเราไปคิดแก้หลายๆ อย่าง เช่น แก้หมวด 1 หมวด 2 หรือเกี่ยวกับพระราชอำนาจ ก็ต้องตระหนักว่า เราจะทำได้หรือไม่เพียงใด และจะทำให้ร่างแก้ไขในวาระแรกในสภาฯ ผ่านหรือไม่ ซึ่งต้องพิจารณาให้รอบด้านถึงรูปแบบวิธีการจะทำอย่างไร ตนมีหลักในการคิดว่า เมื่อถึงเวลาที่บ้านเมืองกลับสู่ประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์แบบแล้ว ก็อยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง หรือรัฐสภาแก้ไขรัฐธรรมนูญให้สำเร็จ ในสมัยของนายกฯ เศรษฐา เพราะได้แถลงนโยบายไว้แล้ว เพื่อมอบให้เป็นของขวัญกับประชาชนทั้งประเทศ
เมื่อถามย้ำถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญในหมวด 1 หมวด 2 นายพิชิต ระบุว่า ยังยืนยันอะไรไม่ได้ แต่ในส่วนของพรรคเพื่อไทย เราไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 และอะไรที่เกี่ยวกับพระราชอำนาจ แต่การสร้างกระบวนการการมีส่วนร่วมในการแก้ไข ในแนวคิดส่วนตัว การแก้ไขรัฐธรรมนูญน่าจะสร้างกระบวนการการมีส่วนร่วมหลายภาคส่วนมานั่งคิดกัน สิ่งที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เราก้าวข้ามความขัดแย้งต่างๆ แล้ว เราต้องรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่ายให้มากที่สุด
ส่วนความคืบหน้าในการตรวจสอบคุณสมบัติของตัวเองนั้น นายพิชิต ตอบว่า ตนทราบอยู่แล้วว่ากฤษฎีกาไม่มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของการเป็นรัฐมนตรี ตนไม่ยึดติดตำแหน่ง เป็นคนทำงาน ถ้าทุกคนที่รู้จักตน รู้ว่าตนเป็นคนทำงาน และก็ขอทำปัจจุบันให้ดีที่สุด อายุก็ 60 กว่าแล้ว ขอโอกาสทำงานให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชนมากที่สุด ในส่วนของกฎหมาย ก็จะทำให้เกิดความเป็นธรรม สร้างกระบวนการหลักนิติธรรมให้เกิดกับประเทศชาติและประชาชนมากที่สุด เรื่องของตนก็ขอให้ติดตามต่อไปว่ามีโอกาสอยู่ตรงไหน ก็ทำจุดนั้นให้ดีที่สุด ขออยู่กับปัจจุบัน
“เมื่อท่านนายกฯ เมตตากรุณา มอบหมายให้ผมมาดูเรื่องกฎหมาย ก็จะทำตรงนี้ให้ดีที่สุด ให้มีความชอบด้วยกฎหมาย และชอบด้วยรัฐธรรมนูญ และเข้าใจว่าเมื่อผมจะเข้าสู่การเมือง ก็ไม่มีอะไร จิตไม่ได้ตกอะไร ดีหรือชั่วก็อยู่ที่ตัวเอง” นายพิชิต กล่าว
นายพิชิต ยังกล่าวถึงกรณีที่มอบหมายให้นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ฟ้องดำเนินคดี นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ในคดีหมิ่นประมาท ว่า เจตนาไม่ได้มีการโกรธแค้น เพียงต้องการให้สาธารณชนรับรู้ตัวตนที่แท้จริงของตนเองไม่ได้เป็นเหมือนที่ถูกกล่าวหา บางทีถ้าล่วงเกินกันเกินไป ก็ต้องใช้สิทธิตามกฎหมาย ซึ่งทำให้กระทบต่อครอบครัวและตำแหน่งหน้าที่การงาน และเมื่อตนได้มาดูกฎหมาย ก็จะไม่ทำอะไรที่ผิดกฎหมาย ทุกอย่างขอให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป.-สำนักข่าวไทย