ทำเนียบรัฐบาล 10 ส.ค. – “อนุทิน” เชื่อใจ “เพื่อไทย” หลังกลับไปคุย ”ก้าวไกล” แต่ถ้าจับมือกันแล้วไม่ทำตามตกลงไม่ได้ ชี้ไม่กดดันตั้งรัฐบาล สถานการณ์การเมืองตอนนี้ “อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้”
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่แถลงไว้ก่อนหน้านี้ ขณะที่ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย นำทีมไปเจรจาพูดคุยกับพรรคก้าวไกล ไม่ทราบว่าพรรคเพื่อไทยไปพูดคุยอะไรกับพรรคก้าวไกลบ้าง เพราะไม่สามารถไปก้าวล่วงได้ พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล การดำเนินการเพื่อให้มีเสียงมากพอในการเสนอนายกรัฐมนตรี ต้องทำตามที่ผู้บริหารพรรคเห็นว่าเหมาะสม
ส่วนจำเป็นหรือไม่ที่พรรคเพื่อไทยจะต้องแจ้งให้พรรคภูมิใจไทยทราบ นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยได้บรรลุข้อตกลงกับพรรคเพื่อไทยแล้ว ซึ่งมีกรอบและเงื่อนไขอยู่ ถ้าทุกอย่างอยู่ในกรอบดังกล่าว ไม่สามารถให้ความเห็นได้ ส่วนข่าวที่ออกมาว่าพรรคเพื่อไทยไปขอให้พรรคก้าวไกลโหวตเลือกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ผู้สื่อข่าวได้ยินที่เขาคุยกันหรือไม่ ซึ่งตนไม่ได้ยิน และเมื่อวานไม่เห็นมีข่าวว่าการสนทนาเป็นอย่างไร และเป็นเรื่องของ 2 พรรค ขออย่าคาดเดากันไป และใช้คำว่า “ถ้า” ไม่ได้
ส่วนพรรคภูมิใจไทยไม่สงสัยในสิ่งที่พรรคเพื่อไทยไปพูดคุยกับก้าวไกลเลยหรือ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนผ่านประสบการณ์ชีวิตมาเยอะแล้ว รู้ว่าเมื่อเป็นเช่นนี้ไม่ต้อง “เอ๊ะ” แต่เราแค่ “อืม” ไว้ก่อน เพราะเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพรรคภูมิใจไทย แต่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ก็ต้องให้พรรคเพื่อไทยดำเนินการจัดตั้งรัฐบาลให้เกิดผลสำเร็จภายใต้เงื่อนไขที่มีต่อกันอยู่ ถ้าพรรคเพื่อไทยเห็นว่าช่วงไหนที่ให้พรรคภูมิใจไทย ลองช่วยประสานงานหรือลองช่วยเจรจากับใครหรือติดต่อใคร คงจะต้องแจ้งมา แต่ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้ง
ส่วนในอนาคตจะมีพรรคการเมืองใดร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยอีก นอกเหนือจากพรรคที่แถลงข่าวไป เช่น พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อมาเติมเสียงและปิดสวิตช์ สว. เรื่องนี้ได้มีการพูดคุยกันหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราไม่ได้ถาม เพราะเป็นเรื่องที่แกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลต้องไปบริหารจัดการ และจะไม่ไปเพิ่มเงื่อนไขอะไรที่ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคเรา
ส่วนที่สังคมมองว่าแม้พรรคเพื่อไทยจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ถ้าไม่มีพรรคของลุงคนใดคนหนึ่ง หรือทั้ง 2 ลุง เข้าร่วมจะไม่สามารถสำเร็จได้นั้น นายอนุทิน เชื่อว่าตอนนี้พรรคเพื่อไทยต้องไปตกลงกับแต่ละพรรคที่คิดว่าน่าจะมาทำงานร่วมกับรัฐบาลได้ เมื่อทำความตกลงได้เรียบร้อย ก็คงจะมีการเชิญทุกพรรคมาแถลงข่าวร่วมกัน ก่อนที่จะเลือกนายกรัฐมนตรี
นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ทราบความหมายของรัฐบาลพิเศษที่พรรคเพื่อไทยกล่าวถึง เพราะในส่วนที่ตนพูดคุยเจรจากับพรรคเพื่อไทยไม่มีคำนี้ และสมมติถ้าพรรคเพื่อไทยโทรมาบอกว่ามีบางอย่างต้องเปลี่ยนแล้วก็ต้องคุยกันใหม่ว่ารับได้แค่ไหน แต่ตอนนี้ยังไม่มี ซึ่งตอนนี้คิดว่าพรรคเพื่อไทยต้องใช้เวลาในการจัดตั้งรัฐบาลเยอะ เราอย่าไปเพิ่มปัญหาอะไรให้กับเขา ถ้าช่วยกันและเจตนาดีต่อกัน ต้องการให้บ้านเมืองก้าวหน้าไปได้ ก็ต้องช่วยกันทำให้สำเร็จ ย้ำว่าพรรคภูมิใจไทยจะไม่กดดัน เพราะต้องการทำให้สำเร็จและให้เกิดปัญหาน้อยที่สุด
นายอนุทิน กล่าวถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้ฝากฝังอะไรหรือไม่ ภายหลังภูมิใจไทยร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยว่า ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี ตนรายงานในส่วนงานที่รับผิดชอบให้นายกฯ รับทราบ บางครั้งจะโทรศัพท์และส่งข้อความผ่านไลน์ไปรายงานท่าน ซึ่งนายกฯ มีคำถามกลับมาว่าเป็นอย่างไร คิดเห็นอย่างไร ซึ่งตนได้รายงานตามสถานการณ์และข้อเท็จจริง เพราะเรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องที่ต้องปิดบังกัน ซึ่งนายกฯ ย้ำเสมอว่าไม่ได้ข้องเกี่ยวทางการเมืองแล้วและจะทำสิ่งไหนก็ต้องคิดถึงบ้านเมือง คิดถึงสถาบัน และประชาชน โดยนายกฯ จะพูดในลักษณะนี้กับตนเสมอ
ส่วนพรรคภูมิใจไทยจะเชื่อใจพรรคเพื่อไทยได้มากน้อยแค่ไหนว่าจะไม่มีพรรคก้าวไกล ไม่เป็นการเหยียบเรือสองแคม นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้คือการบริหารประเทศ ต้องเชื่อใจ ถ้าไม่เป็นไปตามนั้นก็ต้องยอมรับทุกอย่าง เพราะถ้าไม่เชื่อใจกันแล้วมาตกลงจับมือกัน แต่ไม่ได้ทำตามในสิ่งที่ตกลงกันไว้ ทำแบบนี้ไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องการกู้หรือยืมเงินระหว่างกัน แต่นี่คือการบริหารประเทศที่มีปัจจัยสำคัญอื่นๆ ต้องคำนึงถึง ทั้งประชาชนประเทศ เศรษฐกิจ สังคม ความสงบ ความสามัคคี ดังนั้น ต้องเชื่อใจและต้องยอมรับผลที่จะออกมาไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบไหน ซึ่งจะต้องมีเจตนารมณ์ที่ดี
ขณะที่วันนี้สิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่ แต่สิ่งที่ใช่อาจไม่เห็นหรือไม่ นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่ใช่ ไม่มีอะไร ทุกอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีอะไรที่จะต้องไปคิดให้สลับซับซ้อน
ส่วนไทม์ไลน์การได้นายกฯ และรัฐบาล ทางพรรคเพื่อไทยได้มีการแจ้งพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า เรื่องนี้ไม่ต้องวางไทม์ไลน์ เนื่องจากถึงเวลาจะเป็นไปตามไทม์ไลน์ธรรมชาติ ถ้าทุกอย่างเสียงครบ มั่นใจแล้ว เมื่อเรียกประชุมสภาฯ ก็มั่นใจว่าจะได้เลือกนายกฯ จะมีการเลือกนายกรัฐมนตรีถือเป็นขั้นตอนต่อไป แต่ตอนนี้ยังคงรอคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญอยู่ ส่วนในเดือนสิงหาคมนี้ คาดว่าจะได้ตัวนายกรัฐมนตรีเลยหรือไม่นั้น ถ้าได้เสียงสนับสนุนเกิน 376 เสียง ก็จะได้ ซึ่งทุกฝ่ายต้องช่วยกัน
เมื่อถามว่ามั่นใจจะได้รับการสนับสนุนเสียง สว. หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับสว. ซึ่งในส่วนของพรรคภูมิใจไทยทำตามหน้าที่ ตามข้อตกลงที่มีเสียง 71 เสียง และจะโหวตให้ ส่วนพรรคภูมิใจไทยจะไปช่วยขอเสียงจาก สว. ให้พรรคเพื่อไทยด้วยหรือไม่นั้น ถ้าทำได้ก็ทำ แต่ขณะนี้ต้องรอดูก่อน เพราะตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นนั้น ยังไม่ทราบว่าเพื่อไทยจะเสนอใครเป็นแคนดิเดตนายกฯ เพราะยังไม่มีการแจ้งมายังพรรคภูมิใจไทย ที่ขณะนี้แคนดิเดตของเพื่อไทยมีอยู่ 3 คน และการพูดคุยในวันนั้นเป็นการแจ้งข้อตกลงในเรื่องการร่วมจัดตั้งรัฐบาลเท่านั้น หากพรรคเพื่อไทยเสนอใครก็จะได้รับเสียงสนับสนุนจากภูมิใจไทย พรรคเพื่อไทยยังไม่ระบุว่าจะเสนอนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นแคนดิเดตนายกฯ ทั้งนี้ หากเสนอใคร 1 ใน 3 ชื่อนั้นและไม่มีเงื่อนไขนอกเหนือข้อตกลงระหว่าง 2 พรรคก็จะเป็นคนนั้น
ส่วนการร่วมจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ของเพื่อไทยจะมีพรรคลุงร่วมด้วยหรือไม่ เพื่อให้เป็นรัฐบาลพิเศษ นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยขออยู่ในกรอบของตนเองที่ได้ทำข้อตกลงกับพรรคเพื่อไทยก็จะได้เสียง 212 เสียงแล้ว ก็สร้างความมั่นใจในความแข็งแกร่งของฐานการจัดตั้งรัฐบาลขึ้นมาในอีกระดับหนึ่ง แต่ผู้ที่จะดำเนินการจะเป็นพรรคเพื่อไทยจนกว่าจะมีการแจ้งจากพรรคเพื่อไทยว่าให้ภูมิใจไทยช่วยเหลือก็ต้องช่วยเหลือสนับสนุนพรรคเพื่อไทย
นายอนุทิน เปรียบสถานการณ์การตั้งรัฐบาลในขณะนี้ว่า “อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้” ส่วนจะเป็นหนูช่วยราชสีห์อีกรอบ แต่เปลี่ยนตัวราชสีห์หรือไม่นั้น นายอนุทิน ระบุว่า “หนูต้องช่วยบ้านเมือง จำได้หรือไม่ที่ตนเคยบอกประชาชนคือราชสีห์ของผม ไม่ใช่ตัวบุคคล”
ส่วนช็อกโกแลตมิ้นต์ที่พรรคเพื่อไทยยังอร่อยอยู่หรือไม่ นายอนุทิน พูดติดตลกว่า เดี๋ยวจะเชิญเพื่อไทยมากินหล่อฮั้งก๊วยบ้าง.-สำนักข่าวไทย