ภูมิใจไทยเชื่อใจเพื่อไทย

ทำเนียบรัฐบาล 10 ส.ค. – “อนุทิน” เชื่อใจ “เพื่อไทย” หลังกลับไปคุย ”ก้าวไกล” แต่ถ้าจับมือกันแล้วไม่ทำตามตกลงไม่ได้ ชี้ไม่กดดันตั้งรัฐบาล สถานการณ์การเมืองตอนนี้ “อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้”


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่แถลงไว้ก่อนหน้านี้ ขณะที่ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย นำทีมไปเจรจาพูดคุยกับพรรคก้าวไกล ไม่ทราบว่าพรรคเพื่อไทยไปพูดคุยอะไรกับพรรคก้าวไกลบ้าง เพราะไม่สามารถไปก้าวล่วงได้ พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล การดำเนินการเพื่อให้มีเสียงมากพอในการเสนอนายกรัฐมนตรี ต้องทำตามที่ผู้บริหารพรรคเห็นว่าเหมาะสม

ส่วนจำเป็นหรือไม่ที่พรรคเพื่อไทยจะต้องแจ้งให้พรรคภูมิใจไทยทราบ นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยได้บรรลุข้อตกลงกับพรรคเพื่อไทยแล้ว ซึ่งมีกรอบและเงื่อนไขอยู่ ถ้าทุกอย่างอยู่ในกรอบดังกล่าว ไม่สามารถให้ความเห็นได้ ส่วนข่าวที่ออกมาว่าพรรคเพื่อไทยไปขอให้พรรคก้าวไกลโหวตเลือกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ผู้สื่อข่าวได้ยินที่เขาคุยกันหรือไม่ ซึ่งตนไม่ได้ยิน และเมื่อวานไม่เห็นมีข่าวว่าการสนทนาเป็นอย่างไร และเป็นเรื่องของ 2 พรรค ขออย่าคาดเดากันไป และใช้คำว่า “ถ้า” ไม่ได้ 


ส่วนพรรคภูมิใจไทยไม่สงสัยในสิ่งที่พรรคเพื่อไทยไปพูดคุยกับก้าวไกลเลยหรือ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนผ่านประสบการณ์ชีวิตมาเยอะแล้ว รู้ว่าเมื่อเป็นเช่นนี้ไม่ต้อง “เอ๊ะ” แต่เราแค่ “อืม” ไว้ก่อน เพราะเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพรรคภูมิใจไทย แต่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ก็ต้องให้พรรคเพื่อไทยดำเนินการจัดตั้งรัฐบาลให้เกิดผลสำเร็จภายใต้เงื่อนไขที่มีต่อกันอยู่ ถ้าพรรคเพื่อไทยเห็นว่าช่วงไหนที่ให้พรรคภูมิใจไทย ลองช่วยประสานงานหรือลองช่วยเจรจากับใครหรือติดต่อใคร คงจะต้องแจ้งมา แต่ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้ง

ส่วนในอนาคตจะมีพรรคการเมืองใดร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยอีก นอกเหนือจากพรรคที่แถลงข่าวไป เช่น พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อมาเติมเสียงและปิดสวิตช์ สว. เรื่องนี้ได้มีการพูดคุยกันหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราไม่ได้ถาม เพราะเป็นเรื่องที่แกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลต้องไปบริหารจัดการ และจะไม่ไปเพิ่มเงื่อนไขอะไรที่ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคเรา

ส่วนที่สังคมมองว่าแม้พรรคเพื่อไทยจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ถ้าไม่มีพรรคของลุงคนใดคนหนึ่ง หรือทั้ง 2 ลุง เข้าร่วมจะไม่สามารถสำเร็จได้นั้น นายอนุทิน เชื่อว่าตอนนี้พรรคเพื่อไทยต้องไปตกลงกับแต่ละพรรคที่คิดว่าน่าจะมาทำงานร่วมกับรัฐบาลได้ เมื่อทำความตกลงได้เรียบร้อย ก็คงจะมีการเชิญทุกพรรคมาแถลงข่าวร่วมกัน ก่อนที่จะเลือกนายกรัฐมนตรี


นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ทราบความหมายของรัฐบาลพิเศษที่พรรคเพื่อไทยกล่าวถึง  เพราะในส่วนที่ตนพูดคุยเจรจากับพรรคเพื่อไทยไม่มีคำนี้ และสมมติถ้าพรรคเพื่อไทยโทรมาบอกว่ามีบางอย่างต้องเปลี่ยนแล้วก็ต้องคุยกันใหม่ว่ารับได้แค่ไหน แต่ตอนนี้ยังไม่มี ซึ่งตอนนี้คิดว่าพรรคเพื่อไทยต้องใช้เวลาในการจัดตั้งรัฐบาลเยอะ เราอย่าไปเพิ่มปัญหาอะไรให้กับเขา ถ้าช่วยกันและเจตนาดีต่อกัน ต้องการให้บ้านเมืองก้าวหน้าไปได้ ก็ต้องช่วยกันทำให้สำเร็จ ย้ำว่าพรรคภูมิใจไทยจะไม่กดดัน เพราะต้องการทำให้สำเร็จและให้เกิดปัญหาน้อยที่สุด

นายอนุทิน กล่าวถึง พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้ฝากฝังอะไรหรือไม่ ภายหลังภูมิใจไทยร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยว่า ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี ตนรายงานในส่วนงานที่รับผิดชอบให้นายกฯ รับทราบ บางครั้งจะโทรศัพท์และส่งข้อความผ่านไลน์ไปรายงานท่าน ซึ่งนายกฯ มีคำถามกลับมาว่าเป็นอย่างไร คิดเห็นอย่างไร ซึ่งตนได้รายงานตามสถานการณ์และข้อเท็จจริง เพราะเรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องที่ต้องปิดบังกัน ซึ่งนายกฯ ย้ำเสมอว่าไม่ได้ข้องเกี่ยวทางการเมืองแล้วและจะทำสิ่งไหนก็ต้องคิดถึงบ้านเมือง คิดถึงสถาบัน และประชาชน โดยนายกฯ จะพูดในลักษณะนี้กับตนเสมอ

ส่วนพรรคภูมิใจไทยจะเชื่อใจพรรคเพื่อไทยได้มากน้อยแค่ไหนว่าจะไม่มีพรรคก้าวไกล ไม่เป็นการเหยียบเรือสองแคม นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้คือการบริหารประเทศ ต้องเชื่อใจ ถ้าไม่เป็นไปตามนั้นก็ต้องยอมรับทุกอย่าง เพราะถ้าไม่เชื่อใจกันแล้วมาตกลงจับมือกัน แต่ไม่ได้ทำตามในสิ่งที่ตกลงกันไว้ ทำแบบนี้ไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องการกู้หรือยืมเงินระหว่างกัน แต่นี่คือการบริหารประเทศที่มีปัจจัยสำคัญอื่นๆ ต้องคำนึงถึง ทั้งประชาชนประเทศ เศรษฐกิจ สังคม ความสงบ ความสามัคคี ดังนั้น ต้องเชื่อใจและต้องยอมรับผลที่จะออกมาไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบไหน ซึ่งจะต้องมีเจตนารมณ์ที่ดี 

ขณะที่วันนี้สิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่ แต่สิ่งที่ใช่อาจไม่เห็นหรือไม่ นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่ใช่ ไม่มีอะไร ทุกอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีอะไรที่จะต้องไปคิดให้สลับซับซ้อน

ส่วนไทม์ไลน์การได้นายกฯ และรัฐบาล ทางพรรคเพื่อไทยได้มีการแจ้งพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า เรื่องนี้ไม่ต้องวางไทม์ไลน์ เนื่องจากถึงเวลาจะเป็นไปตามไทม์ไลน์ธรรมชาติ ถ้าทุกอย่างเสียงครบ มั่นใจแล้ว เมื่อเรียกประชุมสภาฯ ก็มั่นใจว่าจะได้เลือกนายกฯ จะมีการเลือกนายกรัฐมนตรีถือเป็นขั้นตอนต่อไป แต่ตอนนี้ยังคงรอคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญอยู่ ส่วนในเดือนสิงหาคมนี้ คาดว่าจะได้ตัวนายกรัฐมนตรีเลยหรือไม่นั้น ถ้าได้เสียงสนับสนุนเกิน 376 เสียง ก็จะได้ ซึ่งทุกฝ่ายต้องช่วยกัน

เมื่อถามว่ามั่นใจจะได้รับการสนับสนุนเสียง สว. หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับสว. ซึ่งในส่วนของพรรคภูมิใจไทยทำตามหน้าที่ ตามข้อตกลงที่มีเสียง 71 เสียง และจะโหวตให้ ส่วนพรรคภูมิใจไทยจะไปช่วยขอเสียงจาก สว. ให้พรรคเพื่อไทยด้วยหรือไม่นั้น ถ้าทำได้ก็ทำ แต่ขณะนี้ต้องรอดูก่อน เพราะตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นนั้น ยังไม่ทราบว่าเพื่อไทยจะเสนอใครเป็นแคนดิเดตนายกฯ เพราะยังไม่มีการแจ้งมายังพรรคภูมิใจไทย ที่ขณะนี้แคนดิเดตของเพื่อไทยมีอยู่ 3 คน และการพูดคุยในวันนั้นเป็นการแจ้งข้อตกลงในเรื่องการร่วมจัดตั้งรัฐบาลเท่านั้น หากพรรคเพื่อไทยเสนอใครก็จะได้รับเสียงสนับสนุนจากภูมิใจไทย พรรคเพื่อไทยยังไม่ระบุว่าจะเสนอนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นแคนดิเดตนายกฯ ทั้งนี้ หากเสนอใคร 1 ใน 3 ชื่อนั้นและไม่มีเงื่อนไขนอกเหนือข้อตกลงระหว่าง 2 พรรคก็จะเป็นคนนั้น

ส่วนการร่วมจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ของเพื่อไทยจะมีพรรคลุงร่วมด้วยหรือไม่ เพื่อให้เป็นรัฐบาลพิเศษ นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยขออยู่ในกรอบของตนเองที่ได้ทำข้อตกลงกับพรรคเพื่อไทยก็จะได้เสียง 212 เสียงแล้ว ก็สร้างความมั่นใจในความแข็งแกร่งของฐานการจัดตั้งรัฐบาลขึ้นมาในอีกระดับหนึ่ง แต่ผู้ที่จะดำเนินการจะเป็นพรรคเพื่อไทยจนกว่าจะมีการแจ้งจากพรรคเพื่อไทยว่าให้ภูมิใจไทยช่วยเหลือก็ต้องช่วยเหลือสนับสนุนพรรคเพื่อไทย 

นายอนุทิน เปรียบสถานการณ์การตั้งรัฐบาลในขณะนี้ว่า “อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้” ส่วนจะเป็นหนูช่วยราชสีห์อีกรอบ แต่เปลี่ยนตัวราชสีห์หรือไม่นั้น นายอนุทิน ระบุว่า “หนูต้องช่วยบ้านเมือง จำได้หรือไม่ที่ตนเคยบอกประชาชนคือราชสีห์ของผม ไม่ใช่ตัวบุคคล”

ส่วนช็อกโกแลตมิ้นต์ที่พรรคเพื่อไทยยังอร่อยอยู่หรือไม่ นายอนุทิน พูดติดตลกว่า เดี๋ยวจะเชิญเพื่อไทยมากินหล่อฮั้งก๊วยบ้าง.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน”

วัดบ้านไร่ 19 ก.ค.-“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน” หวั่นโดนอัดเทปซ้ำรอย ชี้หากพิสูจน์ได้ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ต้องประท้วงตามกติกา ซัดหากเล่นนอกบทต้องดำเนินการ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทหารพรานถูกเหยียบทุ่นระเบิด ที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีกระแสข่าวว่ากว่า 80% จากการตรวจสอบเป็นระเบิดใหม่ว่า ทั้งสองฝ่ายต้องพูดคุยกัน ถ้าไม่คุยกันอยู่อย่างนี้ไม่เป็นผลดี และขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ว่าเป็นระเบิดใหม่หรือเก่า ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แต่ล่าสุดกระแสข่าวจากภาคสองยืนยันว่ากว่า 80% เป็นระเบิดใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่าก็ต้องว่ากันไป ก็ต้องประท้วงตามกติกา และประท้วงเสร็จก็ต้องมาคุยกันทั้งสองฝ่าย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ฝั่งกัมพูชามักเล่นนอกเกมบ่อยๆ เราต้องรับมืออย่างไร นายทักษิณ ระบุว่าก็ว่ากันไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น ถ้าเขาทำอะไรที่นอกกติกา เราก็ต้องดำเนินการ เมื่อถามว่าถ้าพิสูจน์ได้แล้วเป็นเรื่องจริง จะร้ององค์กรโลกหรือไม่ เนื่องจากมีสนธิสัญญาออตตาวา ว่าด้วยเรื่องทุ่นระเบิด นายทักษิณ ระบุว่าที่จริงแล้ว เรามีสนธิสัญญาหลายฉบับ แต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาใช้ เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้จะไม่เจรจาโดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ ยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นว่าไม่มีอีกแล้ว เพราะกลัวโดนอัดเทปเหมือนกัน.-313.-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก. เรียกถกด่วนพรุ่งนี้ นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น

กทม. 19 ก.ค.-ศบ.ทก.เรียกถกด่วน 20 ก.ค. หารือ กต. นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา พร้อมส่งทหารช่าง ปูพรมเก็บกู้วัตถุระเบิดช่องบก พื้นที่อธิปไตยไทย 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เตรียมนัด ศบ.ทก.ประชุมในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เวลา14.00 น. กำหนดแนวทางการดำเนินการ กรณีกำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ซึ่งจากหลักฐานพลว่าเป็นการวางกับระเบิดใหม่นั้น เบื้องต้น พล.อ.ณัฐพล ได้สั่งการกองทัพภาคที่2 เก็บข้อมูลหลักฐานทั้งหมด พร้อมให้แถลงข่าว และรายงานผลเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ทราบ เนื่องจากต้องเก็บทุกอย่างเป็นหลักฐาน เพื่อส่งให้กระทรวงการต่างประเทศต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) จะมีกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาร่วมประชุม ศบ.ทก.ด้วย เพื่อมาให้คำแนะนำว่าขั้นตอนต่อไปในการดำเนินการ ควรจะทำอย่างไร ร่วมถึงตรวจสอบข้อมูลหลักฐานของแต่ละฝ่ายว่าตรงกันหรือไม่ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะแถลงเป็นทางการ ในการประชุม ศบ.ทก. 21 ก.ค.นี้ […]

สำนักพุทธฯ สั่งเข้มทุกวัด เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส.

19 ก.ค.-สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ ให้เร่งดำเนินการจัดทำบัญชีเงินฝาก รายรับ-รายจ่าย และงบดุลของวัด ให้ถูกต้องและเป็นระบบ ตามมติมหาเถรสมาคม ที่มีผลบังคับใช้แล้ว โดยการเปิดบัญชีและการเบิกถอนเงินฝากธนาคารของวัด จะต้องเปิดกับธนาคารที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเดียวกับวัด และระบุชื่อบัญชีเงินฝากเป็นชื่อวัดเท่านั้น โดยมีรายชื่อผู้มีอำนาจถอนเงินอย่างน้อย 3 คน ซึ่งในการถอนเงินต้องมีผู้ลงนามจำนวน 2 ใน 3 และมีเจ้าอาวาสลงนามด้วยทุกครั้ง โดยใช้ใบถอนเงินของธนาคารและสมุดบัญชีเท่านั้น ในส่วนของบัญชีรายรับ-รายจ่าย ให้รายงานบัญชีของวัดทุกบัญชี สรุปเป็นรายเดือน จำนวน 12 เดือน ส่งสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ภายในวันที่ 20 มกราคมของปีถัดไป โดยสำเนาเอกสารไว้ที่วัดด้วยทุกฉบับ นอกจากนี้ทุกวัดควรพิจารณาใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ร่วมด้วย เพื่อแสดงข้อมูลบริจาคที่ครบถ้วน และให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ ติดตามอย่างเคร่งครัด โดยสำนักพระพุทธศาสนาฯ จะกำกับดูแล หรือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบบัญชี และรายงานการตรวจสอบให้มหาเถรสมาคมทราบ.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” สยบข่าวลือพาดพิงพระชั้นผู้ใหญ่

กทม. 19 ก.ค. – รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สยบข่าวลือพาดพิงพระชั้นผู้ใหญ่ ระบุข้อมูลคดีใหม่ เป็นพระในพื้นที่ต่างจังหวัด และไม่เกี่ยวกับคดี “กอล์ฟ” พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า เพิ่งรับทราบจากสื่อมวลชนเกี่ยวกับกระแสข่าวลือพาดพิงถึงพระชั้นผู้ใหญ่บางรูป ซึ่งไม่ต้องการให้มีการเผยแพร่ข่าวลือจนสร้างความเสียหาย โดยยืนยันว่าที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า ยังมีพระชั้นผู้ใหญ่มีความเกี่ยวข้องสีกาอีก แต่ไม่เกี่ยวข้องกับกอล์ฟ เป็นพระที่มีสมณศักดิ์สูงกว่าพระในคดีกอล์ฟ แต่อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ไม่ใช่ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีการกระทำเข้าข่ายผิดวินัยสงฆ์ โดยไม่เกี่ยวข้องกับคดีกอล์ฟ และยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ได้หลักฐานชัดเจนก่อน ส่วนการตั้งศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เพื่อรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพระโดยเฉพาะ ขณะนี้ มีประชาชนแจ้งเบาะแสมาแล้วหลายร้อยสาย ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังคัดแยกข้อมูล จึงยังไม่สามารถตอบได้ว่า จะมีเรื่องที่เกี่ยวกับกอล์ฟอีกหรือไม่.-412-สำนักข่าวไทย