เปิดเกณฑ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยโกดังเก็บพลุระเบิด

กรุงเทพฯ 30 ก.ค. – สปน.เปิดเกณฑ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยโกดังเก็บพลุดอกไม้ไฟระเบิดกลางตลาดมูโนะ และเปิดรับบริจาคเข้ากองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย


เมื่อวันที่ 30 ก.ค.66 นายมงคลชัย สมอุดร รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์โกดังเก็บพลุดอกไม้ไฟระเบิดกลางตลาดมูโนะ จังหวัดนราธิวาส พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้ความช่วยเหลือดูแลพี่น้องประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถ ดังนั้น สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี โดยนายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ร่วมกับจังหวัดนราธิวาสและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ในวันจันทร์ที่ 31 กรกฎาคม 2566 ที่ตลาดมูโนะ ตำบลมูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส โดยความช่วยเหลือเบื้องต้นจากกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ตามหลักเกณฑ์และแนวทางการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ดังนี้

  1. กรณีเสียชีวิต ค่าจัดการศพ รายละ 50,000 บาท เงินทุนเลี้ยงชีพแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต ครอบครัวละ 30,000 บาท เงินทุนเลี้ยงชีพแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตที่มีบุตรอายุไม่เกิน 25 ปีบริบูรณ์ อีกครอบครัวละ 50,000 บาท
  2. กรณีบาดเจ็บ เงินทุนเลี้ยงชีพผู้บาดเจ็บสาหัส รายละ 30,000 บาท เงินทุนเลี้ยงชีพผู้บาดเจ็บทั่วไป รายละ 15,000 บาท
  3. กรณีบ้านเรือนเสียหาย ค่าวัสดุในการก่อสร้าง/ซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหาย ตามความเสียหายเท่าที่จ่ายจริง ไม่เกินหลังละ
    3.1 เสียหายหลังละเกิน 70% จำนวน 230,000 บาท เสียหายมาก (30%-70%) จำนวน 70,000 บาท เสียหายน้อย (น้อยกว่า 30%) จำนวน 15,000 บาท
    3.2 ค่าเครื่องอุปโภคและเครื่องใช้อื่นๆ ที่จำเป็น (เฉพาะบ้านเรือนที่เสียหายทั้งหลังและเสียหายมาก) ครัวเรือนละ 5,000 บาท

นายมงคลชัย กล่าวว่า ทางสำนักนายกฯ ได้ขอให้ทางจังหวัดนราธิวาส โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาส รวบรวมข้อมูลความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อเสนอให้คณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ที่มีนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ พิจารณาให้ความช่วยเหลือโดยเร็วต่อไป


“นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ประสานงานในการช่วยเหลือกรณีเหตุการณ์ดังกล่าว โดยประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเครือข่ายภาคจิตอาสาในพื้นที่ ในการเตรียมการให้ความช่วยเหลือดูแลพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยอย่างทั่วถึงและครอบคลุมอย่างเต็มกำลังความสามารถ” นายมงคลชัย กล่าว

นายมงคลชัย กล่าวว่า หากประชาชนทั่วไปต้องการสนับสนุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สามารถบริจาคเงินเข้ากองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาทำเนียบรัฐบาล ชื่อบัญชี กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี เลขที่บัญชี 067-0-06895-0. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

“อัจฉริยะ” ยื่นสอบปม “ทนายตั้ม” ปูดข่าวผู้บริหารปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดี เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

MOU44

MOU 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง ตอนที่ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องเอ็มโอยู 44 และเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเล หรือเส้นเคลม กลายเป็นปมร้อน ท่ามกลางความกังวลถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสิทธิเหนือเกาะกูด ติดตามความเห็นและมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องในรายงาน “ปมร้อน เอ็มโอยู 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง”

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” สร้างตัวตนผ่านสื่อ หวังหาผลประโยชน์หรือไม่

หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัว “ทนายตั้ม” และภรรยา เข้าเรือนจำไปแล้ว มีคำถามตามมาว่า ทนายคนดังสร้างตัวตนจนโดดเด่นในสังคม เพื่อหาผลประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้หรือไม่