วัดโพสพผลเจริญ 30 ก.ค. – “ร.อ.ธรรมนัส” เชื่อได้นายกฯ ก่อน 15 ส.ค.นี้ รอเพื่อไทยให้ความชัดเจนสูตรจัดตั้งรัฐบาล ยืนยันร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยได้ ไม่มีปัญหา ยันไม่มีเสนอ “พล.อ.ประวิตร” แข่ง ปัดบินพบ “ทักษิณ” ที่ฮ่องกง
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวภายหลังร่วมพิธียกช่อฟ้า อุโบสถวัดโพสพผลเจริญ อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ถึงการจัดตั้งรัฐบาล ภายหลังจากได้หารือกับพรรคเพื่อไทย หลังจากวันนั้นยังไม่มีการติดต่อหรือหารือใดๆ ซึ่งพรรคพลังประชารัฐก็รอว่า ก่อนวันที่ 4 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันนัดโหวตนายกรัฐมนตรี จะมีการประสานงานอย่างไรต่อไป
ขณะที่กระแสข่าวสูตรการจัดตั้งรัฐบาลที่ว่า พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลโดยที่ไม่มีพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ ส่วนพรรคก้าวไกลถอยมาเป็นฝ่ายค้าน แต่ยังโหวตสนับสนุนนายกรัฐมนตรีที่มาจากพรรคเพื่อไทย ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า โดยหลักแล้ว พรรคพลังประชารัฐมีจุดยืนที่ชัดเจน จะทำหน้าที่ในฐานะเป็นผู้แทนของประชาชน จะทำหน้าที่ในตำแหน่งไหนหรือฝ่ายไหนก็ตาม ก็จะทำหน้าที่เป็นผู้แทนของปวงชนชาวไทยให้ดีที่สุด ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า พรรคพลังประชารัฐจะทำหน้าที่ฝ่ายไหนกันแน่ เพราะต้องรอความชัดเจนก่อน และเชื่อว่าหลังจากนี้ การจัดตั้งรัฐบาลจะเปิดการเจรจาพูดคุยกัน และคงจะได้ทิศทางที่ชัดเจนในการเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ของประเทศไทย ซึ่งจะโหวตได้ในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ ขณะเดียวกันก็เห็นว่า ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ จะรู้ทิศทางการโหวตนายกรัฐมนตรี และการเลือกนายกรัฐมนตรีจะจบก่อนวันที่ 15 สิงหาคม หลังจากนั้นจะเป็นการฟอร์มทีมจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ซึ่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่จะโหวตในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ ก็จะมาจากพรรคเพื่อไทย ส่วนแนวทางการโหวตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ จะต้องเป็นมติพรรคและโหวตไปในทิศทางเดียวกัน ย้ำว่าให้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลไปก่อน ส่วนจะได้หรือไม่ได้ ก็ต้องรอดูอีกที
ส่วนจะเสนอ พล.อ.ประวิตร เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ย้ำว่า พรรคพลังประชารัฐมีเพียง 40 เสียง การจะเสนอชื่อแข่งเป็นไปไม่ได้ การร่วมรัฐบาลก็ต่อเมื่อมีนายกรัฐมนตรี และถูกเชิญเข้าร่วมรัฐบาล ส่วนจะต้องไม่มีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาลด้วยหรือไม่นั้น พรรคพลังประชารัฐมีจุดยืนชัดเจน อย่ามองแค่พรรคก้าวไกลเพียงพรรคเดียว ส่วนการร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย สามารถร่วมงานกันได้ เพราะ สส.ส่วนใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐ เป็น สส.เก่าของพรรคเพื่อไทย ดังนั้น การทำงานหากได้ร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ก็จะไม่มีปัญหา
ทั้งนี้ ร.อ.ธรรมนัส ยืนยันไม่มีการซื้อ สส.จากพรรคก้าวไกล 30 ที่นั่ง มาที่พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะที่ตนเองเป็นเลขาธิการพรรค ขอยืนยันว่า ไม่ใช่ข้อมูลที่เป็นความจริง
ส่วนการที่พรรคพลังประชารัฐปรับโครงสร้างและให้ตนเองเป็นเลขาธิการพรรคนั้น ไม่เกี่ยวกับการดีลการจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย การปรับโครงสร้างพรรคเป็นเรื่องที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค คิดมานานแล้วภายหลังการเลือกตั้ง เนื่องจากได้ สส.เพียง 40 ที่นั่ง เพื่อให้พรรคกลับมาเจริญเติบโตเหมือนเดิม ยืนยันไม่ใช่ให้ตนเองมาดีลการจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคอื่น หากพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ซึ่งเป็นคนละเรื่องกัน
ส่วนการที่พรรคตั้ง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เป็นประธานที่ปรึกษาพรรคพลังประชารัฐ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับ พล.ต.อ.พัชรวาท และไม่มั่นใจว่าท่านจะรับตำแหน่งนี้หรือไม่ ซึ่งเป็นการเสนอชื่อไปก่อนได้ โดยล่าสุด พล.ต.อ.พัชรวาท ยังไม่ตอบรับในตำแหน่งนี้
ขณะที่กระแสข่าวที่ว่า พล.ต.อ.พัชรวาท จะมารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็เป็นเพียงกระแสข่าว ซึ่งตนไม่ทราบข่าวนี้ และรู้จากสื่อมวลชนเท่านั้น ซึ่ง พล.ต.อ.พัชรวาท ได้มาทำงานร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ ถือเป็นบุคคลที่มีคุณค่า มีประสบการณ์ เพราะเป็นอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในเรื่องขององค์ความรู้ คุณสมบัติ ต่างก็มีความพร้อม แต่ส่วนตัวไม่ทราบว่าจะสนใจการเมืองหรือไม่
ร.อ.ธรรมนัส ยังกล่าวถึงการเดินทางกลับของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าจะไม่ทำให้การเมืองเปลี่ยน เพราะเป็นคนละเรื่องกัน ส่วนกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาระบุว่า นายทักษิณ มีดีลกับ ป. ในการเดินทางกลับประเทศไทย ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับ พล.อ.ประวิตร ไม่มีการดีลกับขั้วอำนาจเดิม และไม่เกี่ยวกัน ซึ่งนายทักษิณ กลับมาตามกระบวนการของกฎหมาย ไม่ได้มาด้วยอภิสิทธิ์ใดๆ ส่วนนายทักษิณจะได้กลับมาในวันที่ 10 สิงหาคม หรือไม่นั้น ถือเป็นเรื่องส่วนตัวของนายทักษิณ ไม่สามารถก้าวล่วงได้ และเป็นสิทธิในฐานะคนไทยคนหนึ่ง อย่าโยงว่าการเมืองจะพลิกโฉมกับนายทักษิณ เพราะเป็นคนละเรื่องกัน
ส่วนการเดินทางไปฮ่องกงของตนเองนั้น เป็นการเดินทางไปเรื่องธุรกิจส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับการบินไปหาใคร และไปมาหลายอาทิตย์แล้ว โดยไปพักที่ฮ่องกงและทำธุระที่ดีลไว้ยังไม่จบ ไม่มีดีลการเมือง เพราะเป็นคนละเรื่องกัน และไม่ได้เจอกับนายทักษิณ พร้อมพูดติดตลกว่า รอแฮปปี้เบิร์ธเดย์ วันที่ 11 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันเกิด พล.อ.ประวิตร และตนเองเกิดวันที่ 18 สิงหาคม. – สำนักข่าวไทย