ปธ.ศาล รธน.-อดีตตุลาการศาล รธน. ร่วมกิจกรรม “ศาลรัฐธรรมนูญพบสื่อมวลชน”

กรุงเทพฯ 25 ก.ค. – ปธ.ศาล รธน.-อดีตตุลาการศาล รธน. ร่วมกิจกรรม “ศาลรัฐธรรมนูญพบสื่อมวลชน” สื่อรอสัมภาษณ์ปมข้อบังคับการประชุมรัฐสภาที่ 41


นายวรวิทย์ กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ เป็นประธานพิธีเปิดโครงการศาลรัฐธรรมนูญพบสื่อมวลชน ประจำปี 2566 ณ อาคารศูนย์ประชุมวายุภักษ์ โรงแรมเซ็นทารา ศูนย์ราชการ และคอนเวนชันเซนเตอร์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ โดยกล่าววว่า โครงการศาลรัฐธรรมนูญพบสื่อมวลชน เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่และอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญและสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ตลอดจนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่างๆเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสื่อมวลชนกับศาลรัฐธรรมนูญและสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ จะเห็นได้ว่าศาลรัฐธรรมนูญและสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้ให้ความสำคัญกับการสื่อสารองค์กร และมุ่งหมายให้สื่อสารมวลชนในฐานะที่เป็นสื่อกลางเป็นกลไกสำคัญในการนำเสนอความรู้ข้อมูลข่าวสารความเคลื่อนไหวต่างๆ เกี่ยวกับศาลรัฐธรรมนูญและสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ประชาชนได้เข้าใจบนพื้นฐานของข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง ชัดเจน ครบถ้วน และรอบด้านร่วมกัน ภายใต้หลักการแห่งการยอมรับในเสรีภาพของสื่อมวลชน ซึ่งในที่สุดจะนำไปสู่เป้าหมายในการส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่จะได้รับข้อมูลข่าวสารต่อไป

นายจรัญ ภักดีธนากุล อดีตตุลาการศาสรัฐธรรมนูญ ขึ้นกล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “บทบาทของสื่อมวลชนในการส่งเสริมประชาธิปไตยและหลักนิติธรรม” โดยตอนหนึ่งได้ระบุว่าที่ผ่านมาศาลรัฐธรรมนูญไม่มีโอกาสได้ชี้แจงต่อสังคม ในหลายเรื่องๆ ที่เข้ามาสู่ศาลฯ แต่ก็มีธรรมเนียมปฏิบัติของศาลฯ เองว่า หากจะวินิจฉัยและตัดสินคดีความใดๆ ก็ต้องอธิบายไปในคำวินิจฉัยอย่างละเอียดเพื่อเป็นการอธิบาย และบอกประชาชนให้เข้าใจว่าทำไมถึงต้องวินิจฉัยเช่นนี้ แน่นอนว่าคำวินิจฉัยไม่สามารถตัดสินได้ถูกใจทุกคน ต้องมีคนที่ไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว ก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา สำหรับการพิจารณาคดี เมื่อคดีเข้าสู่ศาลฯ ต้องสกัดการกดดันทุกรูปแบบ เพื่อลดความหวั่นไหวของตุลาการที่ทำหน้าที่พิพากษา เพราะหากตุลาการตัดสินตามกระแส แบบนี้ทำงานง่าย แต่ความยุติธรรมความถูกต้องอยู่ที่ไหน ขณะที่สื่อมวลชน ควรต้องเป็นกลาง ไม่ต้องไปนำเสนอเข้าข้างรัฐบาล แต่ให้นำเสนอความจริง จนเกิดข้อถกเถียงของทั้ง 2 ฝ่าย จากนั้นให้ไปจบที่ศาลฯ ปล่อยเป็นกระบวนการยุติธรรม ไม่ควรลงถนนประท้วง ขอให้การประท้วงลงถนนนั้น เป็นทางออกทางสุดท้าย


ทั้งนี้ มีสื่อมวลชน มารอสัมภาษณ์นายจรัญ ภักดีธนากุล ประเด็นที่ผู้ตรวจการแผ่นดินเตรียมส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญชะลอการโหวตนายกรัฐมนตรี หลังเกิดปมใช้ข้อบังคับ 41 ห้ามเสนอชื่อซ้ำในการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี โดยก่อนหน้านี้ นายจรัญ ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ ว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจที่จะรับเรื่องวินิจฉัยกรณีผู้ตรวจการแผ่นดินที่ยื่นเรื่องสู่ศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยกรณีรัฐสภาใช้ข้อบังคับการประชุมรัฐสภาที่ 41 ห้ามนำญัตติใดที่ตกไปแล้วนำมาพิจารณาใหม่ เนื่องจากไม่ใช่ประเด็นการละเมิดขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ เพียงแต่รัฐธรรมนุญมาตรา 149 อนุโลมว่า ข้อบังคับการประชุมรัฐสภาถ้ายังไม่ได้ประกาศใช้ สามารถส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบว่าจะขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือได้ แต่ถ้าเป็นข้อบังคับที่ประกาศใช้แล้ว ให้เป็นเรื่องภายในรัฐสภา ไม่มีเหตุที่จะให้ศาลรัฐธรรมนูญจะไปตรวจสอบว่าจะขัดแย้งรัฐธรรมนูญหรือไม่ พร้อมเสนอทางออกว่าอยูที่ประธานรัฐสภาอาจเรียกประชุมหรืออาจหารือสมาชิกเพื่อรับฟังว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อการที่ผู้ตรวจการแผ่นดินส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ และใช้มติที่ประชุมรัฐสภาเป็นทางออก.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Satellite images show wake of destruction of wildfires burning across California

เปิดปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าแอลเอไหม้ลามหนัก

มีหลายปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าในเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอ (LA) ในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐไหม้ลามเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นวิกฤตไฟป่าครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศ

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูงฝั่งปอยเปต พบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูง 18 ชั้น ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เบื้องต้นพบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา และอาคารดังกล่าวถูกระบุเป็นฐานบัญชาการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีคนไทยถูกหลอกไปทำงานที่นี่จำนวนมาก

Palisades Fire

สหรัฐสั่งอพยพกว่าแสนคนหนีไฟป่า 6 จุดในแคลิฟอร์เนีย

ลอสแอนเจลิส 9 ม.ค.- สหรัฐสั่งอพยพประชาชนมากกว่า 100,000 คน เนื่องจากจำนวนไฟป่าที่โหมไหม้ในเทศมณฑลลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนียเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 6 จุดแล้ว เพราะกระแสลมแรงเทียบเท่าเฮอริเคนและสภาพอากาศแล้ง เจ้าหน้าที่เผยว่า ในจำนวนไฟป่าทั้ง 6 จุด มีอยู่ 4 จุดที่ยังไม่สามารถควบคุมได้เลย ไฟป่าจุดแรก คือ พาลิเซดส์ไฟร์ (Palisades Fire) เกิดขึ้นช่วงเช้าวันที่ 7 มกราคมตามเวลาท้องถิ่นใกล้แปซิฟิก พาลิเซดส์ ซึ่งเป็นย่านที่พักอาศัยทางตะวันตกเฉียงเหนือของเทศมณฑล ต้นเพลิงมาจากไฟไหม้พุ่มไม้ที่โหมไหม้จนเกินควบคุมเพราะกระแสลมแรง ต้องอพยพคนอย่างน้อย 30,000 คน ไฟป่าจุดที่ 2 คือ อีตันไฟร์ (Eton Fire) เกิดขึ้นในเย็นวันเดียวกันที่หุบเขาอีตันแคนยอน เผาไหม้พื้นที่ขยายวงกว้างมากพอ ๆ กับไฟป่าจุดแรก ไฟป่าจุดที่ 3 คือ เฮิร์ตส์ไฟร์ (Hurst Fire) เกิดขึ้นกลางดึกวันเดียวกันในย่านซิลมาร์ของนครลอสแอนเจลิส จากนั้นในเช้าวันที่ 8 มกราคมเกิดไฟป่าจุดที่ 4 คือ วูดลีไฟร์ […]

ข่าวแนะนำ

จับนายอำเภอเหนือคลอง เรียกรับเงินผู้รับเหมา แลกจบงาน

ตำรวจแถลงผลปฏิบัติการ “ไม่จ่าย ไม่จบ” จับนายอำเภอเหนือคลอง จ.กระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่ปกครอง เรียกรับเงินใต้โต๊ะบริษัทรับเหมา 50,000 บาท แลกจบงาน

นายกฯ เผยไม่มีคนไทยบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุไฟป่าแอลเอ

นายกฯ เผย ไม่มีคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จากเหตุไฟป่าที่แอลเอ มีเพียงร้านอาหารไทยที่ได้รับความเสียหาย สั่ง กงสุลเปิดศูนย์ช่วยเหลือคนไทย