ปธ.รัฐสภา ขอรอผลศาล รธน. ก่อนตัดสินใจ

รัฐสภา 25 ก.ค.-“วันนอร์” รอฟังความเห็นศาล รธน. จะรับคำร้องให้ชะลอการโหวตนายกฯ ออกไปก่อนหรือไม่ สั่งฝ่ายกฎหมายสภาฯ เตรียมแนวทางปฏิบัติต่อ ไม่ว่าผลศาลจะออกมารูปแบบใด เชื่อศาลเร่งพิจารณาเรื่องสำคัญ


นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา กล่าวภายหลังผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกระบวนการตีความข้อบังคับการประชุมรัฐสภาในการเลือกนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมาชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ พร้อมขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้รัฐสภาชะลอกระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีออกไปก่อน  ว่า รับทราบมติดังกล่าวแล้ว  ซึ่งสภาฯ มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายและฝ่ายประสานงานของสภาฯ  ไปพิจารณาแนวทางที่รัฐสภาควรจะดำเนินการอย่างไร  โดยฝ่ายกฎหมายจะเสนอให้ตนรับทราบเวลา 14.00 น. วันนี้  (25 ก.ค.) จากนั้นจะพิจารณาต่อว่าควรจะเลื่อนการประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 3 ในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ออกไปก่อนหรือไม่

“ประธานรัฐสภามีอำนาจสั่งงดหรือเลื่อนการประชุมได้ แต่ต้องรอฟังฝ่ายกฎหมายของรัฐสภาที่จะนำเสนอมาในช่วงบ่ายวันนี้ก่อน ยังมีเวลาพิจารณา และในวันพรุ่งนี้ (26 ก.ค.) ผมนัดหารือร่วมกับพรรคการเมืองและคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา(วิปวุฒิสภา) มาหารือเพื่อให้ได้ข้อมูลครบถ้วนก่อนพิจารณาดำเนินการต่อไป” ประธานรัฐสภา กล่าว


ส่วนกรณีที่นายจรัญ ภักดีธนากุล  อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ระบุว่าศาลรัฐธรรมนูญ ไม่สามารถตีความหรือตรวจสอบข้อบังคับรัฐสภาได้ เพราะเป็นเรื่องภายในของรัฐสภาและศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจรับเรื่องลักษณะดังกล่าวมาพิจารณา ประธานรัฐสภา กล่าวว่า ไต้องรอฟังคำวินิจฉัยหรือคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญว่าจะมีแนวทางปฏิบัติอย่างไร เพราะคำสั่งหรือคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมีผลผูกพันธุ์ทุกองค์กร ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าศาลจะรับคำร้องไว้วินิจฉัยหรือไม่ ซึ่งหากศาล ไม่รับวินิจฉัย รัฐสภาก็ดำเนินกระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีต่อไปได้ หรือหากศาลรับคำร้องไว้วินิจฉัย   ก็จะต้องรอพิจารณาต่อว่าศาลจะมีคำสั่งให้ชะลอกระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีออกไปก่อนหรือไม่

ประธานรัฐสภา เชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะเร่งประชุมเพื่อพิจารณาคำร้องดังกล่าว   เพราะเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายหรือความขัดแย้งในทางปฏิบัติ ภายในวันนี้น่าจะสามารถประเมินสถานการณ์ได้

ทั้งนี้ ประธานรัฐสภา ยังปฏิเสธที่จะยืนยันว่าจะเลื่อนการประชุมรัฐสภาในวันที่ 27 กรกฎาคมไปเป็นวันที่ 3 สิงหาคมนี้ตามที่มีสมาชิกวุฒิสภาคาดการณ์หรือไม่.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นร.หญิง ม.1 จมทะเลดับ หลังโรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่ระยอง

โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ จ.ระยอง นักเรียนหญิง ม.1 ถูกคลื่นดูดลงทะเลขณะเล่นน้ำ เสียชีวิต พ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกสาวคนเดียวของครอบครัว

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่จมบาดาล น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังวิกฤติ หลังน้ำในลำน้ำปิงขึ้นสูงสุดทรงตัวสูงกว่า 5.30 เมตร ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการวัดระดับน้ำปิง

น้ำท่วมขนส่งเชียงใหม่กระทบผู้โดยสาร เปิดจุดจอดรับ-ส่งชั่วคราว

น้ำขยายวงกว้างเข้าท่วมสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 และ 3 เต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงเกือบ 50 ซม. ผู้ประกอบการขนส่งต้องนำรถทัวร์โดยสารออกมาจอดรับ-ส่งบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ยืนยันผู้ประกอบการยังให้บริการตามปกติ

ระทึก! แท็กซี่พลิกคว่ำเกิดเพลิงไหม้ 5 ชีวิตรอดหวุดหวิด

รถแท็กซี่พลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้กลางถนนพระราม 9 ผู้โดยสารหญิงสติดีถีบประตูช่วยตัวเองและคนอื่นออกมาจากตัวรถรวม 5 ชีวิตได้ทัน แต่ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 1 คน เป็นคนขับแท็กซี่ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ

ข่าวแนะนำ

กต.ย้ำมีแผนพร้อมอพยพคนไทยในอิสราเอล-เลบานอน

กต.ประชุมประเมินสถานการณ์อิสราเอล-ฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ย้ำมีแผนอพยพพร้อม เผย 5 แรงงานไทยเตรียมเดินทางกลับ แนะประชาชนตัดสินใจก่อนน่านฟ้าปิด

เตรียมตั้ง 7 เตาไฟฟ้า พิธีพระราชทานเพลิงศพ นร.-ครู 23 คน

เตรียมพื้นที่ตั้ง 7 เตาไฟฟ้า กลางสนามโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ในพิธีพระราชทานเพลิงศพ นักเรียน-ครู 23 คน เหยื่อไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา วันที่ 8 ต.ค.นี้

เชียงใหม่ยังอ่วม เจอน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

แม้ระดับน้ำปิงที่ทะลักท่วมตัวเมืองเชียงใหม่เริ่มลดลง จากที่เคยขึ้นสูงสุดถึง 5.30 เมตร ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเท่าที่เคยวัดระดับมา จนทำให้เชียงใหม่เผชิญกับน้ำท่วมครั้งใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ บ้านเรือนหลายพันหลังและย่านการค้ายังจมน้ำ บางจุดยังท่วมสูงกว่า 2 เมตร ยังต้องเร่งอพยพผู้คนออกจากพื้นที่น้ำท่วม หลายคนต้องใช้ชีวิตอยู่ในรถที่จอดบนสะพาน

ภาคกลางเริ่มกระทบ น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วมบ้านประชาชน

น้ำเจ้าพระยาล้นข้ามถนนเข้าท่วมบ้านกว่า 30 หลังคาเรือน ต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ส่วนชุมชุนริมท่าน้ำปากเกร็ด เริ่มกระทบ