กก.ประชุมออนไลน์ถกทิศทางตั้งรัฐบาล

พรรคก้าวไกล 24 ก.ค.-ก้าวไกลประชุมออนไลน์ส.ส. ถกทิศทางตั้งรัฐบาล “ชัยธวัช” โยน “เพื่อไทย” ตัดสินใจ-นำเสนอผลเจรจา สว.-สส.ในวง 8 พรรคร่วมฯ บอกอย่ารีบสรุปว่าเพื่อไทยจะทิ้งก้าวไกล พร้อมขอบคุณด้อมส้มส่งดอกไม้ให้กำลังใจไม่ขาดสาย


นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กรณีที่เริ่มมีความเคลื่อนไหวจากหลายพรรคที่ประกาศไม่ร่วมงานกับพรรคก้าวไกลว่า คงต้องรอคุยกับพรรคเพื่อไทยพรุ่งนี้ (25 ก.ค.) ซึ่งจาที่คุยกับพรรคเพื่อไทยก่อนหน้านี้ ทางพรรคก้าวไกลอยากทราบรายละเอียดเรื่องให้ถอยจากการแก้ไขมาตรา 112 อย่างเป็นรูปธรรม จึงขอรอฟังก่อน ส่วนที่บางพรรคมีธงว่าไม่ขอร่วมงานกับพรรคก้าวไกลเป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทยคงต้องเลือก แต่เชื่อว่ายังมีความเป็นไปได้ว่า ในที่สุดจะได้เสียงจากส.ว. เพราะได้พูดคุยกับสว. แม้จะไม่มีเสียงส่วนใหญ่ แต่มี 56 คน ซึ่งหากได้เสียงส.ว.มากพอสมควรก็น่าจะได้หรืออาจจะใช้เสียงส.ส.เพิ่มไม่ต้องมาก

เมื่อถามย้ำว่าส.ส.เองมีเงื่อนไขเรื่องมาตรา 112 จะทำอย่างไร เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า หากยังมีเป้าหมายจัดตั้งรัฐบาลรวม 8 พรรคให้ได้ คิดว่ายังมีทางออกเสมอ ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคมก็ยังไม่ได้คุยกัน แต่น่าจะคุยกันพรุ่งนี้ในที่ประชุม 8 พรรคร่วมทีเดียว เห็นจากข่าว ยังไม่ได้นัดหมายอย่างเป็นทางการ


ส่วนหากจะต้องถอย 112จะทำความเข้าใจกับผู้ที่โหวตให้พรรคก้าวไกลอย่างไร นายชัยธวัช กล่าวว่า ต้องดูทางส.ว.ว่าจะให้ถอยอย่างเป็นรูปธรรมอย่างไร ซึ่งที่คุยใน 8 พรรคร่วมได้ขอให้พรรคเพื่อไทยทำการบ้านและทำข้อเสนอให้เป็นรูปธรรม ซึ่งสามารถคุยกันได้  ในส่วนของพรรคเพื่อไทยได้ส่งนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำพรรคเพื่อไทยไปคุยกับส.ว. ขณะที่ตนได้คุยกับส.ว.เช่นกัน คนที่ไม่ได้โหวตในรอบที่แล้วยังคุยกันอยู่

“เที่ยงวันนี้จะประชุมส.ส.พรรคก้าวไกลผ่านระบบออนไลน์ ทิศทางการจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงการถอยเรื่องมาตรา 112 หากมีแนวทางมาเป็นรูปธรรมจะง่ายขึ้น เพราะที่ผ่านมาเป็นเพียงการพูดกว้าง ๆ” เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าว

เมื่อถามย้ำว่ามองอย่างไรที่ขณะนี้เหมือนมีเกมส์บีบก้าวไกลให้เป็นฝ่ายค้าน นายชัยธวัข บอกว่า ไม่แปลกที่คนจะมองแบบนั้น แต่จะทำให้ดีที่สุด


ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่พรรคก้าวไกล ตลอดช่วงเช้าเป็นไปด้วยความเงียบเหงา มีเพียงสื่อมวลชนเข้ามาติดตามสถานการณ์ ยังไม่มีแกนนำเข้ามาที่ทำการพรรค ซึ่งมีรายงานว่าการประชุมเปลี่ยนเป็นทางออนไลน์แทน ขณะเดียวกันยังมีประชาชน นำช่อดอกไม้มามอบให้กับพรรคก้าวไกล เขียนข้อความว่า “รักก้าวไกล” และ “Love You Pita” เพื่อให้กำลังใจด้วย

นายชัยธวัช ให้สัมภาษณ์อีกครั้งก่อนประชุมออนไลน์ ว่า หากมีมติจากที่ประชุมในวันนี้จะนำไปนำเสนอต่อที่ประชุมแกนนำ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลในวันพรุ่งนี้ด้วย ส่วนกรณีที่พรรคการเมืองที่พรรคเพื่อไทยเชิญมาพูดคุยประกาศไม่ร่วมงานกับพรรคที่มีนโยบายแก้ไขมาตรา 112 ว่า ขอให้รอฟังพรุ่งนี้ (25 ก.ค.) เคยยืนยันหลายครั้งเรื่อง ม.112 เป็นแค่ข้ออ้าง สุดท้ายหลายพรรคการเมืองก็พูดออกมาชัดเจนว่าถึงอย่างไรก็จะไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล เพราะมีอุดมการณ์และวิธีทำงานการเมืองที่แตกต่างกัน ตอนนี้พรรคเพื่อไทยเป็นเจ้าภาพในการจัดตั้งรัฐบาล อยู่ที่การตัดสินใจของพรรคเพื่อไทย

เมื่อถามว่าห่วงหรือไม่ว่าท้ายที่สุดแล้วพรรคเพื่อไทยจะปล่อยมือพรรคก้าวไกล เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า อย่าเพิ่งรีบสรุป พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้พูดแบบนั้น

ส่วนกรณีมองว่าการที่พรรคเพื่อไทยเชิญ 5 พรรคการเมืองไปร่วมหารือและแถลงข่าว จะเป็นการยืมมือเพื่อสลัดพรรคก้าวไกล เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า คงห้ามประชาชนมองแบบนั้นไม่ได้ แต่สำหรับพรรคก้าวไกลรอฟังพรรคเพื่อไทยนำเสนอในวันพรุ่งนี้

ส่วนกังวลว่าจะเกิดผลกระทบในบ้านเมืองหรือไม่ เนื่องจากเมื่อวานนี้มีกลุ่มมวลชนไปที่ทำการพรรคเพื่อไทย นายชัยธวัช กล่าวว่า คิดว่าสิ่งที่ต้องกังวลตอนนี้คือประชาชนที่ได้เลือกตั้งไปแล้วไม่อยากให้พรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้งทั้งอันดับหนึ่งและอันดับสองทำให้ประชาชนผิดหวัง ส่วนที่นายกัณวีร์ สืบแสง เลขาธิการพรรคเป็นธรรม เตรียมเสนอให้พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลร่วมลงนาม Advance MOU ยังไม่ได้คุยกันเรื่องนี้

เมื่อถามย้ำถึงความชัดเจนที่อยากได้ในที่ประชุม 8 พรรคร่วมฯ มีอะไรบ้าง เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า เป็นไปตามที่ประชุมร่วมกันครั้งล่าสุด เพียงแต่บอกว่าหลังจากที่พรรคเพื่อไทยไปทำการบ้านมาจะมีข้อเสนออะไรเป็นทางเลือกบ้าง หวังว่าพรุ่งนี้จะได้คุยกันถึงเรื่องแนวทางต่าง ๆ ส่วนรายละเอียด เวลา สถานที่ ยังไม่ได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการ ตอนนี้ทราบผ่านสื่อมวลชนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพรรคก้าวไกลคิดว่าการหาเสียงจาก สว. เพิ่ม ยังมีความเป็นไปได้ เมื่อเปลี่ยนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีแล้ว ก็ยังไม่อยากให้ละทิ้งแนวทางนี้

ส่วน 50 เสียงที่คิดว่าเป็นไปได้มาจากไหน นายชัยธวัช กล่าวว่า คิดว่ามาจากการประเมิน คิดว่าส.ว.เองไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ยืดเยื้อจนไม่มีทางออก

เมื่อถามถึงความเป็นไปได้หรือไม่ที่ 8 พรรคลงมติผลักพรรคก้าวไกลออกจากกลุ่ม เหลือเพียง 7 พรรค เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า คงไม่มีมติแบบนั้น ปัจจัยสำคัญอยู่ที่พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย เพราะรวมกันแล้ว เสียงเกินกึ่งหนึ่ง คือ 292 เสียง

นายชัยธวัช กล่าวถึงกรณีที่ได้ให้สัมภาษณ์ว่าพรรคเพื่อไทยอาจจะต้องเลือกว่าระหว่างอุดมการณ์ของ 5 พรรคฝั่งตรงข้ามหรือใน 8 พรรคร่วมฯ ว่า เรื่องนี้ตนพูดในความหมายที่ว่าหากบอกว่าไม่มีทางอื่น ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ด้วยเหตุผลนี้ พรรคเพื่อไทยไปคุยแล้วถึงสถานการณ์ที่จำเป็นต้องเลือก ซึ่งคิดว่ายังไปไม่ถึง แต่ถ้าต้องเลือก ในเมื่อพรรคจำนวนหนึ่งบอกว่าอุดมการณ์ วิธีการ และแนวทางในการทำงานการเมืองไม่ตรงกับพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทยก็จำเป็นต้องเลือก ถ้าเดินถึงสถานการณ์นั้นจริง ว่าพรรคเพื่อไทยมีอุดมการณ์และแนวทางการเมืองใกล้เคียงกับใครมากกว่า

ส่วนหากมีพรรคภูมิใจไทยเข้ามาเพิ่มเสียง พรรคก้าวไกลจะยอมรับได้หรือไม่ เนื่องจากไม่ใช่พรรคลุง เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกัน ซึ่งวันนี้จะมีการหารือส.ส.ในทางออนไลน์ ส่วนผู้จะไปคุยกับ 8 พรรคในวันพรุ่งนี้ จะยังคงเป็นเป็นคณะเจรจาเปลี่ยนผ่านรัฐบาลเหมือนเดิม ส่วนพรุ่งนี้จะถึงขั้นฉีก MOU เลยหรือไม่ อย่าเพิ่งคิดไปไกลขนาดนั้น

เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกลมีแผนหรือไม่ว่าหากต้องถอยจะถอยได้แค่ไหน นายชัยธวัช กล่าวว่า อยู่ที่ข้อเสนอ ส่วนที่ประเมินว่าอาจเลื่อนการโหวตนายกรัฐมนตรีไปจนถึง 10 เดือน มองว่านานเกินไป ตอนนี้เรายังเชื่อว่าถ้าพรรคอันดับหนึ่ง อันดับสอง รวมถึงอีก 6 พรรค จับมือกันแน่น การจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยเป็นไปได้ยากกว่าของฝั่ง 8 พรรคร่วมฯ

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยยอมทิ้งแฟนเก่าไปเลือกแฟนใหม่ เพื่อให้ได้เป็นรัฐบาลเลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นสิทธิของพรรคเพื่อไทยที่จะตัดสินใจ

ส่วนกรณีที่มีคนส่งดอกไม้มาให้กำลังใจที่พรรคอย่างต่อเนื่อง นายชัยธวัช บอกว่า ขอบคุณสำหรับดอกไม้ และจริงๆก็มีขนมด้วย และข้อความเยอะ ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ และขอไม่ต้องกังวล พวกตนจะไม่หมดกำลังใจและจะเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่  ไม่ได้เสียขวัญ เสียกำลังใจ

ทั้งนี้ บริเวณหน้าเคาน์เตอร์อาคารอนาคตใหม่ซึ่งเป็นที่ทำการของพรรคก้าวไกล  มีช่อดอกไม้สีส้ม จากแฟนคลับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน  หัวหน้าพรรคก้าวไกล และมอบกำลังใจให้พรรคก้าวไกล ทั้งดอกกุหลาบสีส้ม ดอกทิวลิป ช็อคโกแลต พร้อมข้อความให้กำลังใจกับทีมงานพรรคก้าวไกล เช่น “เลือกก้าวไกล ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม”.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

น่านยังอ่วม บางจุดน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร

น่าน 25 ก.ค. – เข้าสู่วันที่ 3 น้ำท่วมใหญ่เป็นประวัติการณ์ของเมืองน่าน แม้ระดับน้ำลดลงบ้างแล้ว แต่ในตัวเมือง-เขตเศรษฐกิจยังท่วมสูง บางจุดระดับน้ำเกือบ 2 เมตร ขณะที่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” นำทีมกู้ภัยฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน .-สำนักข่าวไทย

มีผลทันที! ประกาศกฎอัยการศึก 8 อำเภอ “จันทบุรี-ตราด”

25 ก.ค.- กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ประกาศใช้กฎอัยการศึกบางพื้นที่ มีผลทันที กองทัพเรือ โดย กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด “ประกาศใช้กฎอัยการศึก” บางพื้นที่ ดังนี้ ตามที่ได้มีประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลงวันที่ 19 กันยายน 2549 ให้ใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 เวลา 21.05 นาฬิกา ซึ่งต่อมาได้มีพระบรมราชโองการเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ และให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 นั้น โดยที่ปรากฏว่าประเทศกัมพูชาได้ใช้กำลังและอาวุธรุกรานเข้ามาในราชอาณาจักรไทยตลอดแนวชายแดน จึงมีความจำเป็นโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ที่ต้องใช้กำลังทหาร ตำรวจ พลเรือน ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคน เพื่อป้องกันประเทศให้พ้นจากภัยคุกคามอันมีที่มาจากภายนอกราชอาณาจักรดังกล่าว เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 176 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 จึงให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 จังหวัดจันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี […]

จรวด BM-21 ตกในพื้นที่สุรินทร์ 6 ลูก เร่งอพยพคนเพิ่ม

สุรินทร์ 25 ก.ค. – กระสุนของฝั่งกัมพูชามาตกไกลกว่าเหตุปะทะปี 2554 ตามที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ ล่าสุดมีจรวด BM-21 จำนวน 6 ลูก ตกในพื้นที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เตรียมอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัยกว่า .-สำนักข่าวไทย

สดุดี 3 ทหารกล้า สมรภูมิปราสาทตาควาย

25 ก.ค.- กองทัพภาคที่ 2 สดุดี 3 ทหารกล้า สละชีพ สมรภูมิปราสาทตาควาย หลังกัมพูชายิงจรวด BM-21 หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ยืนยันมีทหารไทยเสียชีวิต 3 นาย จากการปฏิบัติหน้าที่เมื่อช่วงเช้าวันนี้ที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ หลังกัมพูชายิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ซึ่งกัมพูชานำไปจอดไว้ในพื้นที่ชุมชน โรงเรียน และวัด เพื่อเป็นโล่กำบัง โดยทหารที่เสียสละเพื่อประเทศชาติ ได้แก่ 1.สิบเอกนพดล บุญเลิศ 2.สิบเอก กฤษฎา น้อยโคตร 3.สิบเอก จิรายุ สิงห์อ้น กองร้อยลาดตระเวนระยะไกล ที่ 6 กองพลทหารราบที่ 6 ร้อย.ลว.ไกล 6 และมีสิบเอกสุทธิชัย เรื่อเรือง ได้รับบาดเจ็บ -สำนักข่าวไทย