8 พรรคร่วม มีมติให้เพื่อไทยส่งชื่อชิงนายกฯ 27 ก.ค.นี้

พรรคเพื่อไทย 21 ก.ค.-8 พรรคร่วม ให้สิทธิ์ “เพื่อไทย” รวมคะแนนเสียง สว.-สส. หนุนโหวตนายกฯ พร้อมเป็นตัวแทนไปเจรจาเงื่อนไขลดเพดานมาตรา 112 ก่อนคุย “ก้าวไกล” ยอมรับหากรวมเสียงไม่สำเร็จ อาจมีทางเลือกอื่นที่ไม่มีบางพรรคอยู่ร่วมสมการ

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยหัวหน้าพรรค และตัวแทนพรรค 8 ร่วมจัดตั้งรัฐบาล ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังการประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ว่า ที่ประชุมมีมติให้พรรคเพื่อไทย ส่งผู้ซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ โดยพรรคก้าวไกลจะเป็นผู้เสนอชื่อต่อที่ประชุมรัฐสภา


ขณะที่การไปเสียงสนับสนุนเพิ่มเติมนั้น ที่ประชุม มี 3 แนวทาง คือ ขั้นตอนแรกจะไปหาเสียงจาก สว. อีก 63 เสียง เพื่อให้ได้ครบ 375 เสียง ที่ สว. อาจจะมีเงื่อนไขกรณีมาตรา 112 ก็เป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยจะต้องไปพูดคุย และรับข้อเสนอแนะมาหารือกันกับพรรคก้าวไกล และ 8 พรรคร่วมต่อไป แต่หากยังได้เสียงไม่ครบ ขั้นตอนที่ 2 ก็จะไปหาเสียง สส. จากพรรคการเมืองขั้วรัฐบาลเดิม ส่วนแนวทางที่ 3 ที่ประชุมให้สิทธิ์พรรคแกนนำไปพิจารณาดำเนินการหาเสียงในแบบอื่น

ส่วนจะให้ก้าวไกลลดเพดาน ม.112 อย่างไรนั้น ที่ประชุมได้ยกเรื่องนี้มาหารือกัน และพรรคก้าวไกลอยากได้รายละเอียด ว่า เงื่อนไขให้ลดเพดานนั้นคืออะไร โดยให้พรรคเพื่อไทยไปประสานขอรายละเอียดจาก สว. และจะนำไปปรึกษากันในพรรคเพื่อไทยก่อนที่จะไปพูดคุยกับพรรคก้าวไกล และ 8 พรรคร่วมต่อไป


นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวเสริมว่า คงต้องรอดูรายละเอียดจากพรรคเพื่อไทย ที่ได้ให้เวลาไปพูดคุยกัน สว. ถึงรูปแบบการปลดล็อกความไม่สบายใจของทุกฝ่าย รวมถึงแนวทางในการจัดตั้งรัฐบาลได้นั้นเป็นอย่างไร จากนั้นพรรคก้าวไกลจะนำไปพิจารณากันในพรรคอีกครั้ง พร้อมเห็นว่า เรื่องนี้เป็นแค่ข้ออ้าง แต่เป้าหมายสูงสุดตามเจตนารมณ์ของประชาชน คือ ต้องการเห็นการเปลี่ยนขั้วรัฐบาล ส่วนเรื่องรายละเอียดนั้น โดยมารยาทต้องมอบหมายให้เป็นหน้าที่ของพรรคเพื่อไทย ในการบริหารจัดการเรื่องนี้ ที่ต้องไปพูดคุยกันสมาชิกรัฐสภา โดยเฉพาะ สว.

ขณะที่การไปหาเสียงเพิ่มจากพรรคการเมืองอื่น ที่ล่าสุดขณะนี้พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคชาติไทยพัฒนา มีท่าที จะไม่ร่วมรัฐบาล หากยังมีพรรคก้าวไกล นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ประเด็นนี้ 8 พรรคร่วม ได้พูดคุยกันเป็นมุมแนวทางอื่น ซึ่งหากนอกเหนือจากจากแนวทางที่ 8 พรรคร่วมได้คุยกัน ที่ประชุมให้สิทธิ์พรรคเพื่อไทยไปพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร

นายแพทย์ชลน่าน ยังกล่าวถึงเงื่อนไขที่ระบุชัดห้ามแตะมาตรา 112 จะทำอย่างไรนั้น ต้องไปฟังให้ชัดเจน เพราะหน้าที่คือต้องไปพูดคุยหาข้อเท็จจริงให้รอบด้าน และแจ้งต่อพรรคก้าวไกล และที่ประชุม 8 พรรคร่วม เพื่อพิจารณาร่วมกัน


ส่วนจะยังคงมีแค่ 8 พรรคร่วม ไม่มีพรรคที่ 9 พรรคที่ 10 ใช่หรือไม่ นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ประเด็นนี้เป็นทางเลือกที่ 1

สำหรับการหาเสียงสนับสนุนจาก สส. จะต้องเข้าร่วมเป็นรัฐบาลหรือไม่ นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า เป็นรายละเอียดที่ต้องไปพูดคุยกัน แต่ถ้ามีพรรคการเมืองใดพร้อมยกคะแนนให้ โดยไม่ร่วมรัฐบาลก็เป็นมิติทางการเมืองใหม่ในประเทศไทย แต่ก็ขึ้นอยู่กับการพูดคุย

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวอีกว่า ในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ จะเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 1 ชื่อ และเป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทยจะพูดคุยกัน โดยจะประกาศอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 26 กรกฎาคมนี้ แต่ก่อนจะเสนอชื่อ ต้องทำให้มั่นใจว่าจะได้นับเสียงสนับสนุนเกิน 375 คนขึ้นไปก่อน และขณะนี้ไม่ได้ติดต่อไปพูดคุยกับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งหลักการของพรรคเพื่อไทยนั้น จะไปเจรจาอยากเป็นทางการ

ส่วนทุกทางเลือก จะมีพรรคก้าวไกลอยู่ร่วมกันใช่หรือไม่ นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ทางเลือกนั้นอยู่ในแนวทางที่ 1 และ 2 ส่วนทางเลือกอื่น เป็นหน้าที่ของพรรคเพื่อไทยที่ได้รับมอบหมายว่าจะไปดำเนินการอย่างไร โดยพยายามจะทำแนวทางที่ 1 และ 2 ให้สำเร็จให้ได้ก่อน โดยกรอบเวลาช้าสุด คือ วันที่ 25 กรกฎาคม

พรรคเพื่อไทยสามารถการันตีได้หรือไม่ว่าจะไม่ไปจับมือกับขั้วรัฐบาลเดิม นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า สิ่งที่ได้แถลงไปในวันนี้ คือ คำมั่นสัญญาที่จะทำให้ดีที่สุดใน 8 พรรคร่วม นั่นคือเบื้องต้นในสิ่งที่พยายามทำ และจะสังเกตได้ว่า สิ่งที่แถลงในวันนี้ พรรคเพื่อไทยได้สิทธิ์จาก 8 พรรคร่วมในการไปดำเนินการ ส่วนมาตรการอื่นๆ นอกเหนือนอกจากที่จะจับมือกับ 8 พรรคร่วม เพียงแต่ได้สิทธิ์ให้พรรคเพื่อไทยไปดำเนินการ หลังจากกระบวนการทั้งหมดไม่เกิดขึ้น หากการดำเนินการของ 8 พรรคร่วมไม่สำเร็จ พรรคเพื่อไทยก็มีสิทธิ์ไปดำเนินการ

นายแพทย์ชลน่าน ยังกล่างถึงทางเลือกที่ 3 คือ ทางเลือกอื่นๆ ก็คือ ไม่ใช่ทางเลือกที่เป็นการร่วมกันของ 8 พรรคร่วม ซึ่งอาจจะไม่มีพรรคใดพรรคหนึ่งอยู่ในสมการนี้ หรือการจับมือนี้ ซึ่งเป็นสิทธิ์ที่พรรคเพื่อไทยได้รับจาก 8 พรรคร่วมไปดำเนินการ ก่อนนำมาหารือกันอีกครั้ง

ส่วนเงื่อนไข “มีเราไม่มีลุง” ของบางพรรคการเมืองนั้น นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ เพราะเป็นทางเลือกที่ต้องไปแสวงหาให้ได้

สำหรับกรณีการยื่นผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้พิจารณาเรื่องที่ประชุมรัฐสภาในการวินิจฉัยข้อบังคับที่ 41 ซึ่งอาจทำให้เสนอชื่อ นายพิธา รอบ 2 ได้นั้น นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า คงต้องไปดูรายละเอียด เพราะอยู่คนละจังหวะเวลากัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เตือนทั่วไทยฝนตกต่อเนื่อง ‘ตะวันออก’ หนักสุด

กทม. 12 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกต่อเนื่อง เตือนภาคตะวันออกรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “โพดุล” (PODUL) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไต้หวัน และเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณด้านตะวันออกของประเทศจีนในช่วงวันที่ 13 – 14 ส.ค. โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

เสียงสะท้อนจากวีรบุรุษแนวหน้าถึงแนวหลัง

11 ส.ค. – แม้สถานการณ์สู้รบไทย-กัมพูชาเหมือนจะดีขึ้น แต่ยังวางใจไม่ได้ เช่นข่าวทหารไทยเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บอีก 3 นาย วันนี้จะพาไปดูความพร้อมของหน่วยแพทย์ในการดูแลทหารของชาติในฐานะวีรบุรุษ พร้อมข้อคิดจากจ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญชูกล้า หรือจ่าเต้ 1 ในวีรบุรุษ ฝากถึงแนวหลัง.-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” เล็งปิด​ ศบ.ทก. หลังถก​ สมช.​ เคาะสถานการณ์สงบจริง

เมืองทองธานี 11 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ลั่น​ ก็จบ!! ​ หลัง “กองทัพ” ยืนยันแล้ว “แม่ทัพภาค 2” ไม่ได้พูดยึดปราสาทตาควาย ย้ำยังไม่มีอะไรผิดสัญญา เล็งปิด​ ศบ.ทก. หลังประชุม​ สมช.​ 13-14 ส.ค.นี้​ เคาะสถานการณ์สงบจริง​ นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี​ กล่าวถึงกรณีพลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2​ ออกมา ประกาศยึดคืนปราสาทตาควาย จะถือเป็นการละเมิดข้อตกลงไทย-กัมพูชาหรือไม่ ว่า​ ยังไม่ได้ยินแม่ทัพภาคที่ 2 พูด​ แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อตกลง​ เมื่อถามว่าแม้กองทัพ จะออกมาปฏิเสธแล้ว​ แต่ทางกัมพูชา​อาจมองเป็นการกระตุ้นให้เกิดความขัดแย้ง และละเมิดข้อตกลง 13 ข้อ นายภูมิ​ธรรม​ กล่าวว่า​ ยังไม่มีอะไรผิดสัญญา กองทัพซึ่งเป็นตัวหลักได้ยืนยันแล้ว​ ก็จบตามนั้น​ เมื่อถามว่า​ สถานการณ์ชายแดน 2-3 วันที่ผ่านมา​ ถือว่าสงบนิ่งหรือไม่​ เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าเหตุการณ์ความไม่สงบจะกลับมา​อีก […]

ทบ.ยัน ‘มทภ.2’ ไม่ได้กล่าวรุกล้ำอธิปไตยปมปราสาทตาควาย

11 ส.ค.- โฆษกกองทัพบกโต้กัมพูชา ยันแม่ทัพภาค 2 ไม่ได้กล่าวรุกล้ำอธิปไตยปมปราสาทตาควาย ย้ำไทยไม่มีความพยายาม “ยั่วยุ-วางแผน” ใช้กำลังทางทหารตามที่เขมรกล่าวอ้าง พลตรี​ วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงกรณีกระทรวงกลาโหมกัมพูชาแถลงการณ์ถึงคำสัมภาษณ์ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เรื่องของปราสาทตาควาย ว่า “ยืนยันว่าเนื้อหาที่แม่ทัพภาคที่ 2 พูด ไม่ได้มีความหมายในแบบที่โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้แถลงไป โดยเฉพาะท่านไม่พูดเรื่องการเคลื่อนย้ายกำลัง เพื่อรุกล้ำอธิปไตยกัมพูชา สิ่งที่ท่านได้กล่าวในวันนั้นคือ ปราสาทตาควายอยู่ภายใต้อธิปไตยของไทย ในช่วงที่มีการปะทะที่ผ่านมาพยายามเข้าไปยึดด้วยการวางกำลัง แต่ยังไม่สำเร็จ จึงได้ทำการวางกำลังบริเวณด้านนอก ห่างจากตัวปราสาท 30 เมตร แต่ในอนาคตจะต้องพยายามนำกลับมาภายใต้การควบคุมของไทยให้ได้ ตามขั้นตอนที่เหมาะสม พร้อมกล่าวว่าเตรียมนำเรื่องต่างๆ ไปพูดคุยเจรจาในวงเจรจาในกรอบการประชุม RBC ที่จะเกิดขึ้นใน 2 สัปดาห์ และย้ำถึงจุดยืนว่าไทยจะไม่ถอยจากแนวการวางกำลังเดิม ขอยืนยันว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ไม่ได้พูดถึงเรื่องการใช้กำลังทางทหาร ไปดำเนินการอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นที่กล่าวไปในข้างต้น จึงไม่ใช่ความพยายามที่มีการยั่วยุและมีการวางแผนใช้กำลังทางทหารต่อกรณีปราสาทตาควายอย่างที่กัมพูชากล่าวอ้างแต่อย่างใด” -สำนักข่าวไทย