วอน “พิธา” ทำความเข้าใจด้อมส้ม ไม่ถล่มแบนธุรกิจ ส.ว.

กทม. 16 ก.ค. – “ธนกร” วอน “พิธา-ก้าวไกล” ทำความเข้าใจด้อมส้ม ไม่เอาทัวร์ลงถล่มแบนธุรกิจ ส.ว. แนะควรคุยขอคะแนน แทนการปิดสวิตช์ ชี้ประเทศไม่ใช่สมรภูมิรบ อย่าปลุกม็อบลงถนน


นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ว่า จากกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลได้คะแนนเสียงในรัฐสภาไม่ผ่านการโหวตให้เป็นนายกฯ ทำให้กลุ่มผู้สนับสนุนออกมาใช้สื่อโซเชียลบูลลี่ ด่าทอรวมไปถึงการแบนธุรกิจ ส.ว. เข้าข่ายคุกคามครอบครัวของวุฒิสมาชิกหลายคน ซึ่งได้ทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ส่วนตัวมองว่า นายพิธาและพรรคก้าวไกล ควรจะสื่อสารทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้สนับสนุนให้มากกว่านี้ ไม่ควรใช้วิธีในลักษณะข่มขู่คุกคาม เพราะเป็นการกระทำเข้าข่ายผิดกฎหมาย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ สร้างความแตกแยกระหว่างประชาชน และเป็นการเพิ่มอุณหภูมิความขัดแย้งในบ้านเมืองมากขึ้นไปอีก ซึ่งควรจะเคารพการตัดสินใจและประชาธิปไตยเสียงข้างมากในรัฐสภา ตามที่พรรคก้าวไกลมีเจตนารมณ์มาโดยตลอด

ส่วนมองอย่างไรที่นายพิธาได้ออกแถลงการณ์เปิด 2 สมรภูมิเพื่อต่อสู้ให้ไปถึงการจัดตั้งรัฐบาล ควบคู่ไปกับการเคลื่อนมวลชนออกมาชุมนุม นายธนกร ระบุว่า เวลานี้นายพิธาและพรรคก้าวไกล สมควรอย่างยิ่งที่จะเดินหน้าพูดคุยขอการสนับสนุนจากวุฒิสภา ไม่ใช่ยื่นแก้ไขมาตรา 272 เพื่อปิดสวิตช์ ส.ว. แบบนี้เพราะจะยิ่งจะทำให้ยากขึ้นไปอีก จะไปเอาเสียงมาจากไหนถึง 84 ส.ว. ขนาด 60 ส.ว. ยังหาไม่ได้เลย อีกทั้งยังปลุกให้มวลชนไปกดดัน บูลลี่ ข่มขู่ คุกคาม ครอบครัว ส.ว. ซึ่งมองว่าจะไม่เป็นผลดีต่อทุกฝ่าย และทราบมาว่าทาง ส.ว. ก็ได้มีการให้ฝ่ายกฎหมายเตรียมดำเนินคดีกับผู้คุกคามทุกรายแล้ว ท้ายที่สุด หากนายพิธา และพรรคก้าวไกล ยังยึดถือแนวทางการเมืองลักษณะนี้ ประเทศและประชาชนจะมีแต่ความแตกแยก เสียหาย


“ขอฝากไปถึงนายพิธา รวมถึงแกนนำของพรรคก้าวไกล ช่วยสร้างความเข้าใจแก่แฟนคลับผู้สนับสนุน ให้เคารพสิทธิของผู้อื่น เคารพกฎหมายด้วย ขอให้นึกถึงประเทศชาติบ้านเมือง นึกถึงความสงบสุข ตลอด 9 ปีที่ผ่านมา เวลานี้ควรมุ่งหาเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. ด้วยเหตุด้วยผล ด้วยความจริงใจ เพื่อผ่านความเห็นชอบ ก้าวขึ้นสู่การเป็นนายกฯ และจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ เพื่อเข้าไปพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น ไม่ใช่การปิดสวิตช์ ส.ว. แต่ถ้ายังคงใช้วาทะกรรม ปลุกระดมมวลชนสร้างความขัดแย้งแบบนี้ สุดท้ายประเทศชาติ อาจกลายเป็นสมรภูมิรบอย่างที่นายพิธาแถลงก็เป็นได้ แต่ประเทศของเราไม่ใช่สมรภูมิรบ จึงอยากให้นายพิธาและพรรคก้าวไกลได้ทบทวนในเรื่องนี้ นอกจากนั้นผมพูดมาตลอดถ้าพรรคอันดับหนึ่งตั้งรัฐบาลไม่ได้ก็ควรให้อันดับสองและสามเป็นคนจัดตั้ง ไม่ควรเสียเวลาเพราะคนทั้งประเทศรอรัฐบาลใหม่อยู่ไม่ใช่พอตั้งไม่ได้แล้วไปปลุกม็อบลงถนน” นายธนกร กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย