“อ.ยุทธพร” มอง “พิธา” ส่งไม้ต่อให้ “เพื่อไทย” เป็นทางออกดีที่สุด

อสมท 15 ก.ค. – “อ.ยุทธพร” ประเมินโหวตเลือกนายกฯ 19 ก.ค. คะแนนไม่ต่างรอบแรก มอง “พิธา” ประกาศส่งไม้ต่อให้ “เพื่อไทย” หากก้าวไกลทำไม่สำเร็จ เป็นทางออกที่ดีที่สุด วิเคราะห์ “ก้าวไกล” ยื่นแก้ ม.272 ปิดสวิตช์ ส.ว. เป็นเกมสกัดกั้นเพื่อไทย-เชิงสัญลักษณ์


รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มองกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ระบุว่า หากการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ไม่ผ่าน เพราะ ส.ส.บางส่วน และ ส.ว. ติดเงื่อนไขไม่เอาก้าวไกล ต้องให้พรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล โดยพรรคก้าวไกลต้องเสียสละออกไปเป็นฝ่ายค้าน ว่า พรรคก้าวไกลต้องเผชิญกับโมเมนตัมทางการเมืองไม่น้อย โดยเฉพาะเรื่องการโหวตนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีในรอบที่ 1 ไม่ผ่าน แล้วจะต้องมีการโหวตรอบที่ 2 รอบที่ 3 หรือไม่ ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ โมเมนตัมทางการเมืองก็จะเหวี่ยงกลับมาที่พรรคก้าวไกลและนายพิธา เพราะการที่นายพิธาได้รับการเสนอชื่อหลายครั้ง ก็อาจเกิดคำถามว่า ระหว่างผลประโยชน์ทางการเมืองของนายพิธา ของพรรคก้าวไกล และผลประโยชน์ของประเทศที่ไม่สามารถหานายกรัฐมนตรีและจัดตั้งรัฐบาลได้ อะไรคือหมุดหมายที่สำคัญกว่ากัน นี่คือโมเมนตัมที่รออยู่ข้างหน้า อีกทั้งยังมีเรื่องการเมืองของ 8 พรรคร่วมตั้งรัฐบาล ซึ่งมีเสียงสะท้อนออกมาบ้างแล้ว สำหรับความต้องการปรับสมการทางการเมือง เช่น ให้พรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นแกนหลักในการจัดตั้งรัฐบาล หรือแม้แต่ความเห็นที่ไม่ตรงกันและนำไปสู่การข้ามขั้วทางการเมือง

ส่วนมองเกมการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 19 ก.ค.นี้ อย่างไรนั้น รศ.ดร.ยุทธพร กล่าวว่า เกรงคะแนนวันที่ 19 ก.ค. จะคล้ายกับวันที่ 13 ก.ค. เพราะในระยะเวลาไม่กี่วัน การจะไปเปลี่ยนความคิดทัศนคติของผู้คนไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ว่าพรรคก้าวไกลจะมีกลไกต่างๆ ก่อนหน้านี้ โดยการมีคณะทำงานและการไปพูดคุยกับ ส.ว. แต่ก็ไม่เห็นความชัดเจนรายชื่อของ ส.ว. ที่จะสนับสนุนออกมาให้เห็น แม้จะมีคำยืนยันจากพรรคก้าวไกล สุดท้าย ส.ว.หลายคนที่เคยมีชื่อว่าจะสนับสนุนนายพิธา กลับไม่เข้าร่วมประชุม หรืองดออกเสียง หรือบางคนโหวตไม่เห็นชอบ ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่มีความแน่นอนในวันที่ 19 ก.ค. อย่างไรก็ตาม ประเมินคะแนนที่ออกมาน่าจะไม่ต่างกับวันที่ 13 ก.ค. หรืออาจจะน้อยกว่าเดิม เนื่องจากมีการยื่นแก้ไขกฎหมายมาตรา 272 ที่เป็นการตัดอำนาจ ส.ว.


เมื่อถามว่า อุปสรรคที่เกิดขึ้นเป็นที่มาทำให้นายพิธา โพสต์คลิปวิดีโอประกาศจะสู้ต่อ แต่ถ้าไม่สามารถเดินต่อไปได้ จะส่งไม้ต่อให้พรรคเพื่อไทยขึ้นเป็นแกนนำในการตั้งรัฐบาล รศ.ดร.ยุทธพร มองว่า เป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับพรรคก้าวไกล ในชั่วโมงที่พรรคก้าวไกลอาจจะไม่มีความเป็นไปได้ในการเป็นแกนนำ และนายพิธา อาจจะไม่ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งการจับมือกันของ 8 พรรคร่วมตั้งรัฐบาล ที่เป็นเอกภาพ เป็นภาพที่ดูดีและสวยงามในการสะท้อนเจตจำนงของประชาชน เพราะที่ผ่านมาการลงคะแนนเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คะแนนเป็นเอกภาพมาโดยตลอด ดังนั้น ถ้าวันใดวันหนึ่งพรรคก้าวไกลไม่สามารถเดินต่อได้ นายพิธาไม่สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้การเปิดโอกาสให้พรรคอันดับ 2 คือ พรรคเพื่อไทย น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับพรรคก้าวไกล และ 8 พรรคร่วมตั้งรัฐบาล

ส่วนในสมการที่ยังมีก้าวไกล จะยังเป็นไปได้หรือไม่ รศ.ดร.ยุทธพร กล่าวว่า ยังพอเป็นไปได้ แม้ ส.ว.บางส่วนระบุว่า ไม่มีพรรคก้าวไกลถึงจะโหวตให้ แต่ถ้ายังมีพรรคก้าวไกล แม้จะเป็นพรรคเพื่อไทยก็จะไม่โหวตให้ พร้อมมองว่า ส.ว.หลายคนก็ยังพอมีเหตุผล แม้จะมีก้าวไกลเป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็ตาม

เมื่อถามถึงสมการที่พรรคก้าวไกลยื่นขอแก้ไขมาตรา 272 ในชั่วโมงที่ต้องพึ่งเสียง ส.ว. อย่างไรบ้างนั้น รศ.ดร.ยุทธพร ระบุว่า สมการในการแก้มาตรา 272 เป็นสิ่งที่น่าสนใจ มีประเด็นสำคัญอยู่ 2 เรื่อง คือ 1. เป็นการแก้ในเชิงสัญลักษณ์ เพื่อให้สังคมและสมาชิกรัฐสภาได้เห็นว่า มาตรา 272 มีปัญหาจริงๆ ในการทำให้โครงสร้างรัฐสภาบิดเบี้ยว จึงเป็นเชิงสัญลักษณ์ที่ทำโดยไม่ได้หวังผล ตามที่พรรคก้าวไกลได้วางแผนว่า ภายใน 3-4 สัปดาห์ จะสามารถแก้ไขกฎหมายได้เรียบร้อย คิดว่าคงไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะกลไกในการแก้รัฐธรรมนูญ ต้องอาศัยเสียง ส.ว. ในวาระแรกไม่น้อยกว่า 84 เสียง และยังต้องมีเสียงของพรรคที่ไม่มีตำแหน่งรัฐมนตรีอีกร้อยละ 20 ซึ่งเงื่อนไขเหล่านี้เป็นไปได้ยาก แต่จุดสำคัญอยู่ในประการที่ 2 คือ การยื่นขอแก้ไขมาตรา 272 คือเกมสกัดพรรคเพื่อไทย โดยการพยายามตีให้พรรคเพื่อไทยหงายไพ่ถึงความสัมพันธ์ระหว่างพรรคเพื่อไทย และ ส.ว. ในกรณีที่พรรคเพื่อไทยไม่สนับสนุนการแก้ไขมาตรา 272 จนอาจจะมีการพูดถึงดีลลับ ระหว่างเพื่อไทย กับ ส.ว. หรือไม่ อีกประการหนึ่ง หากพรรคเพื่อไทยสนับสนุนการแก้ไขมาตรา 272 เท่ากับว่า พรรคเพื่อไทยจะก้าวเข้ามาเป็นคู่ขัดแย้งร่วมกับพรรคก้าวไกล ในการยืนฝั่งตรงข้ามกับ ส.ว. เพราะวันนี้ชัดเจนว่า ฝ่ายที่เป็นคู่ขัดแย้งกับ ส.ว. คือ พรรคก้าวไกล นั่นหมายถึงว่า การจัดตั้งรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทยก็จะได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. ยากขึ้น


เมื่อถามถึงความเคลื่อนไหวของด้อมส้ม ที่มีปฏิกิริยาถึง ส.ว. สะท้อนอะไรบ้าง รศ.ดร.ยุทธพร กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของมวลชนเป็นปัจจัยของการเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะประชาชนต้องการเข้ามาเป็นผู้เล่นทางการเมือง ซึ่งทุกวันนี้มีโซเชียลมีเดียที่ทำให้คนเข้ามารับรู้ข้อมูลข่าวสาร และเป็นเครื่องมือในการสื่อสารไปยังผู้คนในสังคมและผู้มีอำนาจทางการเมือง นอกจากเรื่องการเคลื่อนไหวของผู้คน ก็ยังมีปัจจัยอื่นด้วย เช่น การประกาศวางมือทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สะท้อนว่า พล.อ.ประยุทธ์ ต้องมีนายกฯ ในดวงใจแล้ว จึงประกาศวางมือทางการเมือง ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีคำถามเรื่องการดำรงตำแหน่งวาระ 8 ปี แต่ก็ยังไม่เคยประกาศวางมือทางการเมือง รวมถึงต้องเช็กเสียงแล้วว่า นายกฯ ในดวงใจมีเสียงที่ไปได้และทุกฝ่ายให้การยอมรับ อีกประการหนึ่งคือ การกลับไทยของนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งถ้าจะกลับประเทศไทย ทางเลือกที่ดีที่สุด คือ พรรคเพื่อไทยต้องเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะฉะนั้น ทางการเมืองแบบมวลชนและการวางมือของ พล.อ.ประยุทธ์ หรือประเด็นนายทักษิณกลับบ้าน ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญในการจัดตั้งรัฐบาล และการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งนี้. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

ผู้สมัคร “ภูมิใจไทย” ประกาศชัยชนะ เลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5

28 ก.ย. – “จินณ์ตวรรณ” ผู้สมัครหมายเลข 2 จากพรรคภูมิใจไทย ประกาศชัยชนะ หลังทราบผลคะแนนเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 อย่างไม่เป็นทางการ นำคู่แข่งจากพรรคเพื่อไทย ขอบคุณประชาชนที่ไว้วางใจให้เข้าไปทำหน้าที่ สำหรับผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 19.40 น. หมายเลข 1 ภูริกา สมหมาย พรรคเพื่อไทย ได้คะแนน 24,681 คะแนนหมายเลข 2 จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล พรรคภูมิใจไทย ได้คะแนน 31,653 คะแนน.-สำนักข่าวไทย

เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุม คืนผิวจราจร 8 ต.ค.

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – แก้ถนนทรุดคืบหน้า จนท.ยุติการเทปูนแล้ว เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุมออก เพื่อถมทรายผสมปูนอีก 5 เมตร คาดหากไม่มีอุปสรรคเพิ่ม จะคืนผิวจราจรได้อย่างน้อย 2 ช่องทาง 8 ต.ค.นี้.-สำนักข่าวไทย

“สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – “สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา มองโอกาสนำไทยสู่จอเรดาร์โลก นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ก่อนการเดินทางกลับจากการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีการพูดถึงถ้อยแถลงในที่ประชุม ประเด็นเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา รวมถึงบทบาทของไทยในเวทีสหประชาชาติ (ยูเอ็น) นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า การเดินทางเข้าร่วมการประชุม UNGA ในครั้งนี้ ต้องการให้ประเทศต่างๆ เห็นว่า การต่างประเทศของไทยกำลังขับเคลื่อนประเทศไทย และไทยจะมีบทบาทสำคัญในเวทีโลก ถึงแม้รัฐบาลชุดนี้จะอยู่แค่ 4 เดือน แต่จะใช้ช่วงเวลานี้ให้มีความหมาย สำหรับประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า เดิมทีจะใช้ถ้อยแถลงใน UNGA เพื่อบอกว่าไทยอยากเห็นแนวทางในการแก้ไขปัญหานี้ เพราะช่วงที่ผ่านมาก็มีการประชุมที่ประเทศมาเลเซีย ที่มีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง และการประชุมของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ทำให้เกิดข้อตกลงเรื่องการรักษาข้อตกลงหยุดยิง การเก็บกู้ทุ่นระเบิด การถอนอาวุธหนัก และการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เป้าหมายของไทยคือ การสร้างความปลอดภัยและนำความสงบมาสู่ชายแดน หากต่างฝ่ายต่างมีความจริงใจและมุ่งมั่นทำให้ข้อตกลงต่างๆ เป็นรูปธรรม ก็คิดว่าไทยจะดำเนินการเป็นขั้นตอนในการปรับความสัมพันธ์ อย่างไรก็ตาม นายปรัก สุคน […]

นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ แต่ขณะเดียวกันก็กดดันความคาดหวังประชาชน ย้ำต้องทำงานหนักตอบแทน ไม่ให้กลายเป็นยาพิษ ยันยึดสันติแก้ชายแดน บอกไทยนี้รักสงบ แต่ถ้ารบก็ลองดู ลั่นที่ผ่านมาเห็นความอัปยศอดสู วันนี้จะไม่มีวันให้เกิดขึ้นกับประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ความพร้อมในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29-30 ก.ย.นี้ว่า ร่างนโยบายได้ส่งให้ทุกฝ่ายศึกษาแล้ว พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) ตามรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรีต้องลุกขึ้นอ่านนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาให้ได้รับทราบ ส่วนถามว่ามีความกังวลหรือไม่ด้วยระยะเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด นายอนุทิน กล่าวว่า จริงๆ แล้วเราไม่ได้เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ สำหรับพรรคภูมิใจไทยทำงานต่อเนื่องมากกว่า 6 ปีแล้ว เพิ่งไปพักร้อนช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้น สิ่งที่ยังทำค้างอยู่ในช่วง 2 เดือนที่หยุดไป คงไม่ถึงขั้นที่ต้องทำให้ยกเลิก สิ่งที่เราอยากจะทำอะไรไป เราสามารถสานต่อ และมีนโยบายใหม่ๆ ในฐานะที่เรามาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะสามารถใช้นโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจได้เพิ่มมากขึ้น หลายคนมีความคาดหวังกับรัฐบาลใหม่ และผลโพลหลายสำนัก คะแนนความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีเพิ่มสูงขึ้น จะสอดคล้องกับนโยบายและเป็นความคาดหวังให้กับประชาชนได้มากน้อยแค่ไหนนั้น […]