fbpx

“อ.ยุทธพร” มอง “พิธา” ส่งไม้ต่อให้ “เพื่อไทย” เป็นทางออกดีที่สุด

อสมท 15 ก.ค. – “อ.ยุทธพร” ประเมินโหวตเลือกนายกฯ 19 ก.ค. คะแนนไม่ต่างรอบแรก มอง “พิธา” ประกาศส่งไม้ต่อให้ “เพื่อไทย” หากก้าวไกลทำไม่สำเร็จ เป็นทางออกที่ดีที่สุด วิเคราะห์ “ก้าวไกล” ยื่นแก้ ม.272 ปิดสวิตช์ ส.ว. เป็นเกมสกัดกั้นเพื่อไทย-เชิงสัญลักษณ์


รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มองกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ระบุว่า หากการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ไม่ผ่าน เพราะ ส.ส.บางส่วน และ ส.ว. ติดเงื่อนไขไม่เอาก้าวไกล ต้องให้พรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล โดยพรรคก้าวไกลต้องเสียสละออกไปเป็นฝ่ายค้าน ว่า พรรคก้าวไกลต้องเผชิญกับโมเมนตัมทางการเมืองไม่น้อย โดยเฉพาะเรื่องการโหวตนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีในรอบที่ 1 ไม่ผ่าน แล้วจะต้องมีการโหวตรอบที่ 2 รอบที่ 3 หรือไม่ ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ โมเมนตัมทางการเมืองก็จะเหวี่ยงกลับมาที่พรรคก้าวไกลและนายพิธา เพราะการที่นายพิธาได้รับการเสนอชื่อหลายครั้ง ก็อาจเกิดคำถามว่า ระหว่างผลประโยชน์ทางการเมืองของนายพิธา ของพรรคก้าวไกล และผลประโยชน์ของประเทศที่ไม่สามารถหานายกรัฐมนตรีและจัดตั้งรัฐบาลได้ อะไรคือหมุดหมายที่สำคัญกว่ากัน นี่คือโมเมนตัมที่รออยู่ข้างหน้า อีกทั้งยังมีเรื่องการเมืองของ 8 พรรคร่วมตั้งรัฐบาล ซึ่งมีเสียงสะท้อนออกมาบ้างแล้ว สำหรับความต้องการปรับสมการทางการเมือง เช่น ให้พรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นแกนหลักในการจัดตั้งรัฐบาล หรือแม้แต่ความเห็นที่ไม่ตรงกันและนำไปสู่การข้ามขั้วทางการเมือง

ส่วนมองเกมการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 19 ก.ค.นี้ อย่างไรนั้น รศ.ดร.ยุทธพร กล่าวว่า เกรงคะแนนวันที่ 19 ก.ค. จะคล้ายกับวันที่ 13 ก.ค. เพราะในระยะเวลาไม่กี่วัน การจะไปเปลี่ยนความคิดทัศนคติของผู้คนไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ว่าพรรคก้าวไกลจะมีกลไกต่างๆ ก่อนหน้านี้ โดยการมีคณะทำงานและการไปพูดคุยกับ ส.ว. แต่ก็ไม่เห็นความชัดเจนรายชื่อของ ส.ว. ที่จะสนับสนุนออกมาให้เห็น แม้จะมีคำยืนยันจากพรรคก้าวไกล สุดท้าย ส.ว.หลายคนที่เคยมีชื่อว่าจะสนับสนุนนายพิธา กลับไม่เข้าร่วมประชุม หรืองดออกเสียง หรือบางคนโหวตไม่เห็นชอบ ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่มีความแน่นอนในวันที่ 19 ก.ค. อย่างไรก็ตาม ประเมินคะแนนที่ออกมาน่าจะไม่ต่างกับวันที่ 13 ก.ค. หรืออาจจะน้อยกว่าเดิม เนื่องจากมีการยื่นแก้ไขกฎหมายมาตรา 272 ที่เป็นการตัดอำนาจ ส.ว.


เมื่อถามว่า อุปสรรคที่เกิดขึ้นเป็นที่มาทำให้นายพิธา โพสต์คลิปวิดีโอประกาศจะสู้ต่อ แต่ถ้าไม่สามารถเดินต่อไปได้ จะส่งไม้ต่อให้พรรคเพื่อไทยขึ้นเป็นแกนนำในการตั้งรัฐบาล รศ.ดร.ยุทธพร มองว่า เป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับพรรคก้าวไกล ในชั่วโมงที่พรรคก้าวไกลอาจจะไม่มีความเป็นไปได้ในการเป็นแกนนำ และนายพิธา อาจจะไม่ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งการจับมือกันของ 8 พรรคร่วมตั้งรัฐบาล ที่เป็นเอกภาพ เป็นภาพที่ดูดีและสวยงามในการสะท้อนเจตจำนงของประชาชน เพราะที่ผ่านมาการลงคะแนนเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คะแนนเป็นเอกภาพมาโดยตลอด ดังนั้น ถ้าวันใดวันหนึ่งพรรคก้าวไกลไม่สามารถเดินต่อได้ นายพิธาไม่สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้การเปิดโอกาสให้พรรคอันดับ 2 คือ พรรคเพื่อไทย น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับพรรคก้าวไกล และ 8 พรรคร่วมตั้งรัฐบาล

ส่วนในสมการที่ยังมีก้าวไกล จะยังเป็นไปได้หรือไม่ รศ.ดร.ยุทธพร กล่าวว่า ยังพอเป็นไปได้ แม้ ส.ว.บางส่วนระบุว่า ไม่มีพรรคก้าวไกลถึงจะโหวตให้ แต่ถ้ายังมีพรรคก้าวไกล แม้จะเป็นพรรคเพื่อไทยก็จะไม่โหวตให้ พร้อมมองว่า ส.ว.หลายคนก็ยังพอมีเหตุผล แม้จะมีก้าวไกลเป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็ตาม

เมื่อถามถึงสมการที่พรรคก้าวไกลยื่นขอแก้ไขมาตรา 272 ในชั่วโมงที่ต้องพึ่งเสียง ส.ว. อย่างไรบ้างนั้น รศ.ดร.ยุทธพร ระบุว่า สมการในการแก้มาตรา 272 เป็นสิ่งที่น่าสนใจ มีประเด็นสำคัญอยู่ 2 เรื่อง คือ 1. เป็นการแก้ในเชิงสัญลักษณ์ เพื่อให้สังคมและสมาชิกรัฐสภาได้เห็นว่า มาตรา 272 มีปัญหาจริงๆ ในการทำให้โครงสร้างรัฐสภาบิดเบี้ยว จึงเป็นเชิงสัญลักษณ์ที่ทำโดยไม่ได้หวังผล ตามที่พรรคก้าวไกลได้วางแผนว่า ภายใน 3-4 สัปดาห์ จะสามารถแก้ไขกฎหมายได้เรียบร้อย คิดว่าคงไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะกลไกในการแก้รัฐธรรมนูญ ต้องอาศัยเสียง ส.ว. ในวาระแรกไม่น้อยกว่า 84 เสียง และยังต้องมีเสียงของพรรคที่ไม่มีตำแหน่งรัฐมนตรีอีกร้อยละ 20 ซึ่งเงื่อนไขเหล่านี้เป็นไปได้ยาก แต่จุดสำคัญอยู่ในประการที่ 2 คือ การยื่นขอแก้ไขมาตรา 272 คือเกมสกัดพรรคเพื่อไทย โดยการพยายามตีให้พรรคเพื่อไทยหงายไพ่ถึงความสัมพันธ์ระหว่างพรรคเพื่อไทย และ ส.ว. ในกรณีที่พรรคเพื่อไทยไม่สนับสนุนการแก้ไขมาตรา 272 จนอาจจะมีการพูดถึงดีลลับ ระหว่างเพื่อไทย กับ ส.ว. หรือไม่ อีกประการหนึ่ง หากพรรคเพื่อไทยสนับสนุนการแก้ไขมาตรา 272 เท่ากับว่า พรรคเพื่อไทยจะก้าวเข้ามาเป็นคู่ขัดแย้งร่วมกับพรรคก้าวไกล ในการยืนฝั่งตรงข้ามกับ ส.ว. เพราะวันนี้ชัดเจนว่า ฝ่ายที่เป็นคู่ขัดแย้งกับ ส.ว. คือ พรรคก้าวไกล นั่นหมายถึงว่า การจัดตั้งรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทยก็จะได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. ยากขึ้น


เมื่อถามถึงความเคลื่อนไหวของด้อมส้ม ที่มีปฏิกิริยาถึง ส.ว. สะท้อนอะไรบ้าง รศ.ดร.ยุทธพร กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของมวลชนเป็นปัจจัยของการเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะประชาชนต้องการเข้ามาเป็นผู้เล่นทางการเมือง ซึ่งทุกวันนี้มีโซเชียลมีเดียที่ทำให้คนเข้ามารับรู้ข้อมูลข่าวสาร และเป็นเครื่องมือในการสื่อสารไปยังผู้คนในสังคมและผู้มีอำนาจทางการเมือง นอกจากเรื่องการเคลื่อนไหวของผู้คน ก็ยังมีปัจจัยอื่นด้วย เช่น การประกาศวางมือทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สะท้อนว่า พล.อ.ประยุทธ์ ต้องมีนายกฯ ในดวงใจแล้ว จึงประกาศวางมือทางการเมือง ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีคำถามเรื่องการดำรงตำแหน่งวาระ 8 ปี แต่ก็ยังไม่เคยประกาศวางมือทางการเมือง รวมถึงต้องเช็กเสียงแล้วว่า นายกฯ ในดวงใจมีเสียงที่ไปได้และทุกฝ่ายให้การยอมรับ อีกประการหนึ่งคือ การกลับไทยของนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งถ้าจะกลับประเทศไทย ทางเลือกที่ดีที่สุด คือ พรรคเพื่อไทยต้องเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะฉะนั้น ทางการเมืองแบบมวลชนและการวางมือของ พล.อ.ประยุทธ์ หรือประเด็นนายทักษิณกลับบ้าน ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญในการจัดตั้งรัฐบาล และการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งนี้. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553

พายุโซนร้อนซูลิก

ฤทธิ์พายุโซนร้อนซูลิก ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่นครพนม

ฤทธิ์พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเดินเครื่องสูบน้ำลงน้ำโขง

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง