“อ.ยุทธพร” มอง “พิธา” ส่งไม้ต่อให้ “เพื่อไทย” เป็นทางออกดีที่สุด

อสมท 15 ก.ค. – “อ.ยุทธพร” ประเมินโหวตเลือกนายกฯ 19 ก.ค. คะแนนไม่ต่างรอบแรก มอง “พิธา” ประกาศส่งไม้ต่อให้ “เพื่อไทย” หากก้าวไกลทำไม่สำเร็จ เป็นทางออกที่ดีที่สุด วิเคราะห์ “ก้าวไกล” ยื่นแก้ ม.272 ปิดสวิตช์ ส.ว. เป็นเกมสกัดกั้นเพื่อไทย-เชิงสัญลักษณ์


รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มองกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ระบุว่า หากการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ไม่ผ่าน เพราะ ส.ส.บางส่วน และ ส.ว. ติดเงื่อนไขไม่เอาก้าวไกล ต้องให้พรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล โดยพรรคก้าวไกลต้องเสียสละออกไปเป็นฝ่ายค้าน ว่า พรรคก้าวไกลต้องเผชิญกับโมเมนตัมทางการเมืองไม่น้อย โดยเฉพาะเรื่องการโหวตนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีในรอบที่ 1 ไม่ผ่าน แล้วจะต้องมีการโหวตรอบที่ 2 รอบที่ 3 หรือไม่ ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ โมเมนตัมทางการเมืองก็จะเหวี่ยงกลับมาที่พรรคก้าวไกลและนายพิธา เพราะการที่นายพิธาได้รับการเสนอชื่อหลายครั้ง ก็อาจเกิดคำถามว่า ระหว่างผลประโยชน์ทางการเมืองของนายพิธา ของพรรคก้าวไกล และผลประโยชน์ของประเทศที่ไม่สามารถหานายกรัฐมนตรีและจัดตั้งรัฐบาลได้ อะไรคือหมุดหมายที่สำคัญกว่ากัน นี่คือโมเมนตัมที่รออยู่ข้างหน้า อีกทั้งยังมีเรื่องการเมืองของ 8 พรรคร่วมตั้งรัฐบาล ซึ่งมีเสียงสะท้อนออกมาบ้างแล้ว สำหรับความต้องการปรับสมการทางการเมือง เช่น ให้พรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นแกนหลักในการจัดตั้งรัฐบาล หรือแม้แต่ความเห็นที่ไม่ตรงกันและนำไปสู่การข้ามขั้วทางการเมือง

ส่วนมองเกมการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 19 ก.ค.นี้ อย่างไรนั้น รศ.ดร.ยุทธพร กล่าวว่า เกรงคะแนนวันที่ 19 ก.ค. จะคล้ายกับวันที่ 13 ก.ค. เพราะในระยะเวลาไม่กี่วัน การจะไปเปลี่ยนความคิดทัศนคติของผู้คนไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ว่าพรรคก้าวไกลจะมีกลไกต่างๆ ก่อนหน้านี้ โดยการมีคณะทำงานและการไปพูดคุยกับ ส.ว. แต่ก็ไม่เห็นความชัดเจนรายชื่อของ ส.ว. ที่จะสนับสนุนออกมาให้เห็น แม้จะมีคำยืนยันจากพรรคก้าวไกล สุดท้าย ส.ว.หลายคนที่เคยมีชื่อว่าจะสนับสนุนนายพิธา กลับไม่เข้าร่วมประชุม หรืองดออกเสียง หรือบางคนโหวตไม่เห็นชอบ ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่มีความแน่นอนในวันที่ 19 ก.ค. อย่างไรก็ตาม ประเมินคะแนนที่ออกมาน่าจะไม่ต่างกับวันที่ 13 ก.ค. หรืออาจจะน้อยกว่าเดิม เนื่องจากมีการยื่นแก้ไขกฎหมายมาตรา 272 ที่เป็นการตัดอำนาจ ส.ว.


เมื่อถามว่า อุปสรรคที่เกิดขึ้นเป็นที่มาทำให้นายพิธา โพสต์คลิปวิดีโอประกาศจะสู้ต่อ แต่ถ้าไม่สามารถเดินต่อไปได้ จะส่งไม้ต่อให้พรรคเพื่อไทยขึ้นเป็นแกนนำในการตั้งรัฐบาล รศ.ดร.ยุทธพร มองว่า เป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับพรรคก้าวไกล ในชั่วโมงที่พรรคก้าวไกลอาจจะไม่มีความเป็นไปได้ในการเป็นแกนนำ และนายพิธา อาจจะไม่ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งการจับมือกันของ 8 พรรคร่วมตั้งรัฐบาล ที่เป็นเอกภาพ เป็นภาพที่ดูดีและสวยงามในการสะท้อนเจตจำนงของประชาชน เพราะที่ผ่านมาการลงคะแนนเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คะแนนเป็นเอกภาพมาโดยตลอด ดังนั้น ถ้าวันใดวันหนึ่งพรรคก้าวไกลไม่สามารถเดินต่อได้ นายพิธาไม่สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้การเปิดโอกาสให้พรรคอันดับ 2 คือ พรรคเพื่อไทย น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับพรรคก้าวไกล และ 8 พรรคร่วมตั้งรัฐบาล

ส่วนในสมการที่ยังมีก้าวไกล จะยังเป็นไปได้หรือไม่ รศ.ดร.ยุทธพร กล่าวว่า ยังพอเป็นไปได้ แม้ ส.ว.บางส่วนระบุว่า ไม่มีพรรคก้าวไกลถึงจะโหวตให้ แต่ถ้ายังมีพรรคก้าวไกล แม้จะเป็นพรรคเพื่อไทยก็จะไม่โหวตให้ พร้อมมองว่า ส.ว.หลายคนก็ยังพอมีเหตุผล แม้จะมีก้าวไกลเป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็ตาม

เมื่อถามถึงสมการที่พรรคก้าวไกลยื่นขอแก้ไขมาตรา 272 ในชั่วโมงที่ต้องพึ่งเสียง ส.ว. อย่างไรบ้างนั้น รศ.ดร.ยุทธพร ระบุว่า สมการในการแก้มาตรา 272 เป็นสิ่งที่น่าสนใจ มีประเด็นสำคัญอยู่ 2 เรื่อง คือ 1. เป็นการแก้ในเชิงสัญลักษณ์ เพื่อให้สังคมและสมาชิกรัฐสภาได้เห็นว่า มาตรา 272 มีปัญหาจริงๆ ในการทำให้โครงสร้างรัฐสภาบิดเบี้ยว จึงเป็นเชิงสัญลักษณ์ที่ทำโดยไม่ได้หวังผล ตามที่พรรคก้าวไกลได้วางแผนว่า ภายใน 3-4 สัปดาห์ จะสามารถแก้ไขกฎหมายได้เรียบร้อย คิดว่าคงไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะกลไกในการแก้รัฐธรรมนูญ ต้องอาศัยเสียง ส.ว. ในวาระแรกไม่น้อยกว่า 84 เสียง และยังต้องมีเสียงของพรรคที่ไม่มีตำแหน่งรัฐมนตรีอีกร้อยละ 20 ซึ่งเงื่อนไขเหล่านี้เป็นไปได้ยาก แต่จุดสำคัญอยู่ในประการที่ 2 คือ การยื่นขอแก้ไขมาตรา 272 คือเกมสกัดพรรคเพื่อไทย โดยการพยายามตีให้พรรคเพื่อไทยหงายไพ่ถึงความสัมพันธ์ระหว่างพรรคเพื่อไทย และ ส.ว. ในกรณีที่พรรคเพื่อไทยไม่สนับสนุนการแก้ไขมาตรา 272 จนอาจจะมีการพูดถึงดีลลับ ระหว่างเพื่อไทย กับ ส.ว. หรือไม่ อีกประการหนึ่ง หากพรรคเพื่อไทยสนับสนุนการแก้ไขมาตรา 272 เท่ากับว่า พรรคเพื่อไทยจะก้าวเข้ามาเป็นคู่ขัดแย้งร่วมกับพรรคก้าวไกล ในการยืนฝั่งตรงข้ามกับ ส.ว. เพราะวันนี้ชัดเจนว่า ฝ่ายที่เป็นคู่ขัดแย้งกับ ส.ว. คือ พรรคก้าวไกล นั่นหมายถึงว่า การจัดตั้งรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทยก็จะได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. ยากขึ้น


เมื่อถามถึงความเคลื่อนไหวของด้อมส้ม ที่มีปฏิกิริยาถึง ส.ว. สะท้อนอะไรบ้าง รศ.ดร.ยุทธพร กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของมวลชนเป็นปัจจัยของการเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะประชาชนต้องการเข้ามาเป็นผู้เล่นทางการเมือง ซึ่งทุกวันนี้มีโซเชียลมีเดียที่ทำให้คนเข้ามารับรู้ข้อมูลข่าวสาร และเป็นเครื่องมือในการสื่อสารไปยังผู้คนในสังคมและผู้มีอำนาจทางการเมือง นอกจากเรื่องการเคลื่อนไหวของผู้คน ก็ยังมีปัจจัยอื่นด้วย เช่น การประกาศวางมือทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สะท้อนว่า พล.อ.ประยุทธ์ ต้องมีนายกฯ ในดวงใจแล้ว จึงประกาศวางมือทางการเมือง ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีคำถามเรื่องการดำรงตำแหน่งวาระ 8 ปี แต่ก็ยังไม่เคยประกาศวางมือทางการเมือง รวมถึงต้องเช็กเสียงแล้วว่า นายกฯ ในดวงใจมีเสียงที่ไปได้และทุกฝ่ายให้การยอมรับ อีกประการหนึ่งคือ การกลับไทยของนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งถ้าจะกลับประเทศไทย ทางเลือกที่ดีที่สุด คือ พรรคเพื่อไทยต้องเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะฉะนั้น ทางการเมืองแบบมวลชนและการวางมือของ พล.อ.ประยุทธ์ หรือประเด็นนายทักษิณกลับบ้าน ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญในการจัดตั้งรัฐบาล และการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งนี้. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” โพสต์แจง 2 ฉบับ ย้ำเจตนารมณ์รัฐบาลคืนอำนาจให้ ปชช.

กทม. 4 ก.ย.- “ภูมิธรรม” โพสต์ข้อความชี้แจง 2 ฉบับ “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา – เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจง 2 ฉบับ “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา – เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” โดยฉบับที่ 1 ระบุว่า “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา” ในช่วงที่การเมืองยังสับสน ผมขอเรียนชี้แจงให้เกิดความกระจ่างชัดในประเด็นร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรดังนี้ รัฐบาลได้ดำเนินการจัดทำร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร และส่งให้สำนักงานองคมนตรีพิจารณาแล้วเมื่อเย็นวันที่ 2 กันยายน 2568 ต่อมาได้รับแจ้งจากสำนักงานองคมนตรี ว่ายังมีประเด็นข้อกฎหมายที่มีการโต้แย้งและยังไม่เป็นข้อยุติ โดยเฉพาะประเด็นอำนาจของรองนายกรัฐมนตรีผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีในการถวายคำแนะนำ จึงยังไม่เห็นสมควรนำร่างพระราชกฤษฎีกาขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายในเวลานี้ รัฐบาลเคารพในขั้นตอนและหลักนิติธรรมทุกประการ และจะนำกลับมาทบทวนและพิจารณาเพื่อให้เกิดความเหมาะสมถูกต้อง แต่ขอย้ำชัดว่า เจตนารมณ์ของรัฐบาลคือการคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด จากนั้นได้โพสต์ ฉบับที่ 2 “เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” ระบุ เมื่อพรรคประชาชนได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่าจะโหวตสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย และมีการบรรจุวาระเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว ทุกพรรคการเมืองต้องแสดงความรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตน ให้ประชาชนได้เห็นว่ากลไกสภายังคงทำงานตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ สำหรับพรรคเพื่อไทย เราพร้อมเสนอชื่อศาสตราจารย์ชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกรัฐมนตรี และขอยืนยันต่อประชาชนว่า หากเราได้รับเสียงสนับสนุน […]

ชาวกัมพูชาลุกฮือประชิดชายแดนบ้านหนองจาน

4 ก.ย. – สระแก้วตึงเครียด! ชาวกัมพูชาลุกฮือประชิดชายแดนบ้านหนองจาน หลังไทยปักป้ายประกาศให้ออกจากพื้นที่ ขณะที่จังหวัดสุรินทร์ เจ้าหน้าที่พบหลักฐานชิ้นสำคัญลูกเหล็กสะเก็ดระเบิด “Ball Bearing” ในบ้านประชาชนเหยื่อจรวด BM-21 สถานการณ์ล่าสุดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา บ้านหนองจาน ตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว หลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย นำโดยกำลังทหาร กรมป่าไม้ ตำรวจตระเวนชายแดน และฝ่ายปกครองในพื้นที่ ได้ร่วมกันติดตั้งป้ายประกาศ 3 ภาษา (ไทย–อังกฤษ–เขมร) เพื่อแจ้งเตือนให้ชาวกัมพูชาที่บุกรุกเข้ามาในพื้นที่เขตไทย ออกจากบริเวณดังกล่าวโดยทันที หากฝ่าฝืนจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากกระทำในพื้นที่เกินกว่า 25 ไร่ ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 2 ปี ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 ถึง 100,000 บาท ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป การติดตั้งป้ายดังกล่าว ทำให้กลุ่มชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่บริเวณแนวชายแดนไม่พอใจ และได้รวมตัวกันจำนวนหนึ่ง เคลื่อนเข้ามาใกล้แนวชายแดนฝั่งไทย […]

เพื่อไทย เสนอสูตรใหม่ โหวต “ชัยเกษม” แลกยุบสภาทันที

รัฐสภา 4 ก.ย.-เพื่อไทย เสนอสูตรใหม่ ชวน ปชน. โหวต “ชัยเกษม” แลกยุบสภาทันทีหลังแถลงนโยบาย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ และประธาน สส.พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณถึงการบรรจุวาระโหวตนายกฯ ไว้ต่อที่ประชุมสภาฯ วันที่ 5 ก.ย. นี้ ว่า เข้าใจว่าอาจจะมีการเสนอให้เลื่อนระเบียบวาระขึ้นมาพิจารณา แต่พรรคเพื่อไทยจะขอให้พิจารณาไปตามระเบียบวาระและไม่ยอมให้เลื่อนวาระขึ้นมาพิจารณาก่อน อย่างไรก็ดีเชื่อว่าหากมีการลงมติจะมีเสียงสนับสนุนเพียงพอ นายวิสุทธิ์ กล่าวต่อว่าตนได้รับการประสานมาจากพรรคประชาชน ให้ขอให้พรรคเพื่อไทยยืนยันต่อการเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย ต่อที่ประชุมสภาฯ ขณะเดียวกันนั้นได้เรียกร้องว่าหาก นายชัยเกษมได้เป็นนายกฯ หลังการแถลงนโยบายแล้วต้องประกาศยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ทันที “ตอนนี้มีข้อเสนอแบบนี้หหลังจากที่แถลงนโยบาย เราจะยุบสภาทันที หากพรรคประชาชนไม่อยากให้เกิดปัญหา กรณีที่ชาวบ้านไม่ยอมรับ ต้องทำตามนี้ ส่วนหนึ่งที่ต้องทำแบบนี้ เพื่อให้นายกฯ ของพรรคเพื่อไทยมีอำนาจยุบสภา หลังจากที่ขณะนี้มีปัญหา” นายวิสุทธิ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ห้องประชุมสภา คึกคัก “อนุทิน” เดินทักทายรอบห้อง

รัฐสภา 4 ก.ย.- ห้องประชุมสภาฯ คึกคัก “อนุทิน” เดินทักทายรอบห้อง ไม่เว้นโซน “เพื่อไทย” ขณะที่ สส.พรรคประชาชน บอกลำบากใจโหวตให้ “เสี่ยหนู” แต่จำเป็น เพื่อผ่าทางตัน พร้อมฝากถึง “แพทองธาร” สารตั้งต้นปัญหา ควรรับผิดชอบมากกว่านี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม โดยเปิดให้สมาชิกหารือปัญหาเดือดร้อน โดยบรรยากาศ เป็นไปด้วยความคึกคัก เมื่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ได้รับการสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะมีการเลือกกันในวันที่ 5 ก.ย.นี้ เดินเข้าห้องประชุมเมื่อเวลา 09.20 น.ได้เดินทักทาย สส.พรรคภูมิใจไทย และมีการถ่ายภาพหมู่ในห้องประชุม จากนั้นได้เดินทักทายพูดคุยกับ สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ และ สส.พรรคประชาชน ในที่นั่งของพรรครวมไทยสร้างชาติ และที่นั่งพรรคประชาชน ขณะที่มี สส.ส่วนหนึ่งก็เดินเข้ามาทักทาย จับมือ แสดงความยินดีล่วงหน้าที่นายอนุทิน จะได้รับการโหวตเป็นนายกฯ นอกจากนั้นนายอนุทิน ยังเดินไปทักทายพูดคุยกับ สส.พรรคเพื่อไทย […]