ก้าวไกล ยื่นปิดสวิตช์ ส.ว. เปิดทางออกให้ประเทศ

รัฐสภา 14 ก.ค.-“ก้าวไกล” ยื่นปิดสวิตช์ ส.ว.โหวตเลือกนายกฯ เปิดทางออกให้ประเทศ หลัง ส.ว. งดออกเสียง-โดดประชุม เท่ากับไม่อยากใช้อำนาจ ขณะที่ “วันนอร์” นัดสมาชิกรัฐสภาโหวตนายกฯ รอบสอง 19 ก.ค.นี้


สมาชิกพรรคก้าวไกล นำโดยนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค พร้อมด้วย ส.ส.ของพรรคก้าวไกล ยื่นหนังสือต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประเด็นการแก้ไขกฎหมาย โดยยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญยกเลิกมาตรา 272 ในบทเฉพาะกาลที่ให้อำนาจวุฒิสมาชิก มีส่วนร่วมในการเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นการชั่วคราว หรือเรียกว่าเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อคืนอำนาจในการเลือกนายกรัฐมนตรีให้กับประชาชน หรือ ปิดสวิตช์ ส.ว.

ด้านนายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า จะให้เจ้าหน้าที่สภาฯ ตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนของรายชื่อและเอกสารนี้ เพื่อบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระต่อไป ส่วนวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในครั้งถัดไป ได้ออกหนังสือเชิญสมาชิกรัฐสภามาประชุมในวันที่ 19 กรกฎาคม 2566 เวลา 09.30 น.


นายชัยธวัช กล่าวถึงการยื่นแก้กฎหมาย ว่า เนื่องจากการประชุมรัฐสภาเมื่อ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏชัดว่ามี ส.ว.จำนวนมากได้งดออกเสียง 159 คน และไม่มาประชุมอีก 43 คน หลายคนได้แสดงออกชัดเจนว่าตนเองไม่ประสงค์ที่จะใช้สิทธิ ใช้อำนาจทำหน้าที่เลือกนายกรัฐมนตรี และเป็นเรื่องของ ส.ส. ดังนั้นเมื่อ ส.ว.จำนวนมากประสงค์เช่นนั้น ไม่ใช้สิทธิของตนเองโดยการงดออกเสียง ก็จะนำไปสู่ทางตันทางการเมือง พรรคก้าวไกลจึงเสนอทางออกให้กับสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งเชื่อว่าทางนี้จะเป็นทางออกที่ตอบโจทย์ของทั้งสมาชิกวุฒิสภาเอง และตอบโจทย์ในระบบรัฐสภาของไทย และเพื่อทำให้การเมืองไทยเดินหน้าไปได้ และจะได้มีรัฐบาลชุดใหม่โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

ทั้งนี้ เรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเป็นคนละส่วนกับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งทั้งสองส่วนสามารถดำเนินการคู่ขนานไปได้ แต่ก็ไม่ทราบว่าการเลือกนายกรัฐมนตรีจะดำเนินการไปอีกกี่ครั้ง ดังนั้นก็พยายามหาทุกช่องทางที่จะทำให้สามารถมีข้อยุติเรื่องการเลือกนายกรัฐมนตรีได้ และพรรคก้าวไกล รวมถึงอีก 7 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลก็คงจะพยายามที่จะขอเสียงจาก ส.ว. เพิ่มมากขึ้นด้วย

ส่วนการยื่นร่างแก้ไขมาตรา 272 ในวันนี้ ได้แจ้งไปยังพรรคเพื่อไทยให้ทราบแล้ว และพรรคเพื่อไทยไม่ได้ขัดข้องแต่อย่างใด เพราะพรรคก้าวไกลได้เตรียมร่างฯ นี้มาสักระยะหนึ่งแล้ว เพื่อนสมาชิกได้เซ็นเสนอร่างไว้แล้ว และมีการตัดสินใจเมื่อคืนที่ผ่านมา ที่จะยื่นต่อสภาฯ ในทันที เพื่อที่จะใช้เวลาให้สั้นที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเข้าใจดีว่าเมื่อเร่งรีบและต้องการให้ระยะเวลาสั้นที่สุดก็ไม่สามารถที่จะมีเวลารอให้สมาชิกจากพรรคอื่นมาร่วมเซ็นด้วย ไม่ได้หมายความว่าพรรคเพื่อไทยหรือพรรคอื่นจะไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้


ส่วนการยื่นแก้กฎหมายมาตรา 272 ในครั้งนี้ จะส่งผลต่อการตัดสินใจของ ส.ว. ในการโหวตเลือกนายพิธา หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า แล้วแต่มุมมอง แต่เชื่อว่าไม่ได้กระทบอะไร เพราะเนื่องจาก ส.ว. ก็ไม่ประสงค์ที่จะออกเสียงอยู่แล้ว จึงมองหาทางออกให้กับทุกฝ่าย ในเมื่อลงคะแนนงดออกเสียง 159 คน และไม่มาประชุมเลย 43 คน ดังนั้น ส.ว.จำนวนมากก็ควรที่จะยินดี หากไม่ต้องใช้สิทธิอย่างเป็นทางการ  

ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลจะเห็นด้วยกับการยื่นครั้งนี้หรือไม่นั้น คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะร่างนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ มีการเสนอไปหลายครั้ง ในสภาฯ สมัยที่แล้ว แต่ครั้งนั้นพรรคที่เป็นฝั่งรัฐบาล เช่น พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ ก็ออกเสียงให้ ในครั้งนี้ก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร และ ส.ว.จำนวนมากก็เห็นด้วยกับร่างดังกล่าว และ ส.ว.หลายคนมีความประสงค์ที่ไม่เห็นด้วยกับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี นี่คือทางออกที่ดีที่สุด

ส่วนถ้า ส.ว. จะเอาเรื่องการแก้ไข ม.112 มาเป็นเงื่อนไขในการไม่ร่วมแก้ไขมาตรา 272 นั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า ไกลเกินกว่าที่จะโยง เพราะเรื่องนี้เป็นการหาทางออกให้ทุกฝ่ายสบายใจ ในเมื่อมีมโนธรรมสำนึกในใจว่าไม่สามารถโหวตนายกรัฐมนตรีได้ ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันไป ดังนั้นเพื่อไม่ให้กระทำการอะไรที่ไม่ขัดกับมโนธรรมสำนึก ก็ยกเลิกมาตรานี้ และคืนอำนาจการเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นของประชาชน เมื่อประชาชนตัดสินใจไปแล้ว จะถูกจะผิด ก็ไม่เกี่ยวกับ ส.ว. พร้อมย้ำว่า นี่เป็นทางออกที่ดีที่สุด

นายชัยธวัช ยังกล่าวว่า ไม่กังวลว่าการยื่นแก้ไขมาตรา 272 จะพาพรรคก้าวไกลไปสู่ฝ่ายค้าน เพราะเราต้องการทำตามความประสงค์ของ ส.ว.จำนวนมาก และไม่เกี่ยวกับการโหวตนายกรัฐมนตรี และต้องไปถาม ส.ว. ว่าในเมื่อไม่ประสงค์ที่จะโหวตนายกรัฐมนตรี จะเห็นด้วยหรือไม่กับร่างดังกล่าว

ส่วนข้อกังวลที่ว่า ระยะเวลาในการแก้กฎหมายอาจจะยาวนาน และไม่ทันกับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี นายชัยธวัช กล่าวว่า การแก้กฎหมายไม่ยาวนานขนาดนั้น เพราะเนื้อหาสาระไม่ได้มีอะไรมาก นอกจากการยกเลิกมาตรา 272 ซึ่งสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว ก็ไม่สามารถบอกได้ว่า การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีจะใช้เวลาอีกกี่ครั้ง ดังนั้นเราจะพยายามที่สุดที่จะหาทางเลือกใหม่ๆ ให้กับสังคมไทย และคาดหวังว่าสมัยประชุมนี้ ฝ่ายรัฐบาลเดิมจะมีจุดยืนเช่นเดิม แม้ในขณะนี้จะไม่มีฝ่ายค้านก็ตาม ซึ่งเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะมีปัญหา

สำหรับ ส.ว.ที่งดออกเสียง อาจเป็นเพราะอคติต่อพรรค หรือต่อนายพิธา ไม่ใช่อยากปิดสวิตช์ตัวเองนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า ตนทราบว่า ส.ว.ที่งดออกเสียง ไม่ได้หมายความว่าต้องการจะปิดสวิตช์ตัวเองทั้งหมด แต่น่าจะมี 1 ใน 3 ที่มีความประสงค์ที่จะไม่ใช้เสียงในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีจริงๆ

พร้อมกันนี้ นายชัยธวัช กล่าวถึงการที่ ส.ว. ยกข้อบังคับที่ 41 ที่ว่าไม่ให้มีการเสนอญัตติซ้ำ ซึ่งการเสนอนายพิธาอีกครั้งในการโหวตครั้งต่อไปจะขัดต่อข้อบังคับ ว่าเป็นการตีความที่ผิด   

สำหรับที่มีแกนนำหลายจังหวัดให้พรรคก้าวไกลถอยเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 เพื่อรักษานโยบายอื่นๆ นายชัยธวัช กล่าวว่า ถ้าเป็นความเห็นจากแกนนำในพรรคในแต่ละจังหวัด หรือ ส.ส.พรรค คงมีกระบวนการหารือกัน แต่เบื้องต้นพยายามทำความเข้าใจก่อนว่า เรื่องนี้เป็นข้ออ้างบังหน้าเท่านั้น เพราะก่อนหน้านี้ได้เห็นข้อความที่ส่งกันในแอปพลิเคชันไลน์ของ ส.ว.ที่อ้างว่า “ให้ระวังไว้ว่า นายพิธาจะประกาศในรัฐสภาว่าจะไม่แก้ ม.112 แล้ว แต่ขออย่าให้เชื่อ อย่าให้ถูกหลอก เพราะพวกเขามีวัตถุประสงค์ในทางไม่ดี…”  และในการประชุมรัฐสภาก็มี ส.ว.บางคนที่เป็นผู้นำจิตวิญญาณที่ระบุว่า “ต่อให้นายพิธาประกาศว่าไม่แก้ ม.112 ก็ไม่เชื่อ เพราะมีความเลวร้ายอื่นอีก” ดังนั้น ไม่มีเรื่องนี้ก็มีเรื่องอื่นอีก

“ไม่สามารถเอาวาระการเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำหนดไว้แยกเป็นการเฉพาะอยู่ในรัฐธรรมนูญ ไปตีความรวมเป็นญัตติทั่วๆ ไป เหมือนญัตติอื่นๆ ในสภาได้ ดังนั้นต้องแยกออกจากกัน ซึ่งที่ผ่านมาทั้ง 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลได้มีการพูดคุยถึงเรื่องนี้กันแล้ว และเห็นตรงกันว่าไม่สามารถตีความข้อบังคับแบบนั้นได้ และไม่กังวลว่า ส.ว. จะนำข้อบังคับ 41 นี้เข้ามาตีรวนในสภาฯ จนไม่สามารถเสนอนายพิธาในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งต่อไปได้ ส่วนถ้าเพื่อไทยจะเสนอแคนดิเดตของตนเองนั้น ตนคิดว่าก้าวไกลยังมีสิทธิที่จะเสนออยู่” นายชัยธวัช กล่าว

“สำหรับ ส.ว.จำนวนหนึ่ง ต้องทำความเข้าใจว่า เหตุผลที่แท้จริง คือ มีกลุ่มขั้วอำนาจเดิมยังพยายามที่จะพลิกขั้วในการจัดตั้งรัฐบาล โดยร่วมมือกับกลุ่มผลประโยชน์ กลุ่มทุนที่ไม่ต้องการเห็นพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล เพราะไม่ต้องการเสียผลประโยชน์จากนโยบายของเรา ดังนั้นจึงพยายามทุกวิถีทาง ทั้งผ่านรัฐสภา หรือผ่านกระบวนการอื่นๆ รวมถึงข้อสงสัยเรื่องการทำงานขององค์กรอิสระบางองค์กรด้วยเพื่อเป้าหมายเดียว” นายชัยธวัช กล่าว

นายชัยธวัช กล่าวถึงอาจมีการเสนอชื่อของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ว่าไม่เกี่ยวข้องกับพรรคก้าวไกล ตนยังเชื่อว่า ยังมีอีกหลายพรรคการเมืองที่ก่อนหน้านี้ยืนยันว่าไม่เห็นด้วยกับการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย หวังว่าพรรคการเมืองเหล่านั้นจะยังรักษาหลักการและจุดยืนไม่โหวตให้ พล.อ.ประวิตร เพราะรัฐบาลเสียงข้างน้อยบริหารไม่ได้

“สำหรับ ส.ว. คงไม่มีข้ออ้างใดในการฝืนมติมหาชน แต่ในสัปดาห์ต่อมาเปลี่ยนมาเลือกแคนดิเดตนายกฯ จากฝ่ายเสียงข้างน้อย อันนี้ยิ่งไปกันใหญ่ ผมคิดว่าควรโหวตคืนอำนาจ ตามการเสนอยกเลิกมาตรา 272 ที่พรรคก้าวไกลเสนอ จะทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ เราอาจมีรัฐบาลหรือมีนายกฯ เร็วขึ้นจากเสียงข้างน้อย แต่เป็นความเร็วขึ้นที่ไม่เห็นอนาคตเลยว่ารัฐบาลชุดนี้จะมีอายุเท่าไหร่” นายชัยธวัช กล่าว

ส่วนที่กังวลว่าจะมีเกมการเมืองที่ทำให้พรรคก้าวไกลพลิกขั้วไปเป็นฝ่ายค้านหรือไม่ นายชัยธวัช ระบุว่า อย่าเปิดประเด็นใหม่ พร้อมไม่ขอบอกรายละเอียดการประชุมร่วมกับพรรคเพื่อไทย ในเย็นวันนี้ (14 ก.ค.)

ด้านนายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตอบคำถามเป็นภาษาอังกฤษ ถึงระยะเวลาในการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า ประเด็นสำคัญคือพรรคก้าวไกลยังไม่ยอมแพ้ เราต้องการเพียงคืนความปกติให้ระบอบประชาธิปไตยของไทย เพื่อให้อำนาจอธิปไตยยังเป็นของประชาชน และหวังว่าจะได้รับแรงสนับสนุนจากประเทศที่เป็นประชาธิปไตยทั่วโลกในความพยายามครั้งนี้ และพรรคก้าวไกลได้ตกลงกับอีก 7 พรรคแล้วว่าจะพยายามเสนอชื่อนายพิธาต่อไปเรื่อยๆ พร้อมกับหาวิธีแก้ปัญหาใหม่ๆ รวมถึงการยกเลิกมาตรา 272 ในครั้งนี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย