พรรคเพื่อไทย 10 ก.ค.-“ประเสริฐ” เชื่อกกต.ให้ความเป็นธรรม “พิธา” ปมถือหุ้นสื่อไอทีวี หลังเจ้าตัวยื่นคำร้องให้กกต.ไต่สวนก่อนส่งเรื่องศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย มั่นใจไม่กระทบวันโหวตนายกฯ 13 ก.ค.นี้ ส่วนการคุยส.ว. เชื่อรวมเสียงได้ทัน ย้ำเพื่อไทยไม่มีแผนสำรอง หากโหวตนายกฯรอบแรกไม่ผ่าน
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการประชุม 8 พรรคร่วมก่อนวันที่ 13 ก.ค.ประชุมสภาเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ว่า ในวันพรุ่งนี้ 09.30 น.จะนัดแกนนำ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลประชุมกันที่รัฐสภาโดยจะพูดคุยเกี่ยวกับการเตรียมความพน้อมการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นหลัก รวมถึงประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง อาทิ เรื่องคณะกรรมการเปลี่ยนผ่าน หลังจากนั้นเวลา 11.00 น. จะนัดประชุม 3 ฝ่าย ประกอบด้วยสมาชิกวุฒิสภา 8 พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และพรรคการเมืองขั้วรัฐบาลเดิม โดยประธานรัฐสภาจะเป็นผู้นัดหมาย ซึ่งเนื้อหาหลักจะเป็นแนวทางการประชุมในวันที่ 13 ก.ค.นี้ในเรื่องของการโหวตนายกรัฐมนตรีจะต้องมีข้อบังคับหรือข้อกำหนดใดบ้าง ซึ่งก่อนการโหวตจะต้องมีการแสดงวิสัยทัศน์ หรือควรมีการแสดงความคิดเห็นใด ๆ ในที่ประชุมด้วยหรือไม่
“ยืนยันว่า 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลยังชัดเจนและมีแนวทางเดียวกันคือโหวตนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกลเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นเอกภาพ และ 8 พรรคยืนยันว่าข้อตกลงเป็นไปตาม MOU ที่จะสนับสนุนนายพิธาอย่างเต็มที่” เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าว
ส่วนประเด็นเสียงของส.ว. นายประเสริฐ กล่าวว่า เท่าที่สอบถามแกนนำพรรคก้าวไกลยังยืนยันว่าสามารถรวบรวมเสียงส.ว.ได้เพียงพอ เรื่องนี้เข้าใจพรรคก้าวไกลดีที่ไม่อยากเปิดเผยรายละเอียด เรื่องเสียงการโหวตของส.ว.มากเท่าใดนัก การโหวตครั้งนี้มีความสำคัญมาก
เมื่อถามย้ำว่าต้องสอบถามทางพรรคก้าวไกลหรือไม่ว่าพรรคเพื่อไทยจะเข้าไปช่วยพูดคุยกับส.ว.บางคนที่รู้จัก เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สอบถามไปบ้าง แต่การพูดคุยหลัก ๆ เป็นของพรรคก้าวไกล ซึ่งที่กล่าวไปข้างต้นพรรคก้าวไกลยังไม่เปิดเผยรายละเอียดมากนักเพราะอาจส่งผลกระทบต่อคะแนนเสียง พรรคเพื่อไทยเข้าใจดีว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนหากจะต้องมาเปิดเผยชื่อ “พรรคเพื่อไทยจะถามเท่าที่ถามได้”
ส่วน 8 พรรคที่พูดคุยกันจะต้องยืนยันเสียงว่าพอหรือไม่พอเพื่อเป็นการวางแผนสำรองหากขั้วรัฐบาลเดิมจะส่งชื่อชิงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีตามที่วิเคราะห์กัน นายประเสริฐ กล่าวว่า วันพรุ่งนี้อาจจะนำเรื่องนี้เข้ามาพูดคุยกัน แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะได้รายละเอียดมากน้อยเพียงใด เพราะพรรคก้าวไกลยืนยันว่าได้เสียงครบมาโดยตลอด หากจะนำเรื่องนี้ไปสอบถามบ่อยๆก็จะดูไม่เหมาะสม ต้องให้เกียรติในฐานะพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและยังเป็นพรรคหลักรวบรวมเสียงส.ว.
เมื่อถามว่า หากพิจารณาตามเสียงวิเคราะห์อาจได้คะแนนไม่พอในการโหวตครั้งแรก พรรคเพื่อไทยมองว่าจะต้องโหวตกี่ครั้ง นายประเสริฐ กล่าวว่า นายวันมูหัมมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาจะต้องนำเรื่องนี้มาหารือกับแกนนำจัดตั้งรัฐบาลทั้ง 8 พรรค หากครั้งแรกไม่ผ่านจะมีแนวทางอย่างไรในครั้งต่อไป ส่วนพรรคเพื่อไทยยังไม่มองไกลและไม่มีแผนสำรอง เพราะต้องให้เกียรติพรรคก้าวไกลก่อน พรรคเพื่อไทยจึงยังไม่สมควรพูดเรื่องนี้ ให้ดูกันวันที่ 13 ก.ค.ก่อนค่อยมาคุยกันอีกครั้ง
ส่วนประเด็นและเงื่อนไขหลักที่ส.ว.จะไม่ยกมือให้นายพิธาคือเรื่องการแก้ไขม.112 จุดยืนของพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างไร เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันที่พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลแถลงข่าวในวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา เราได้พูดคุยเรื่องข้อตกลง MOU กันแล้วว่าพรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยกับการแก้ไข และพรรคเพื่อไทยขอสงวนความเห็นหากจะหยิบยกเรื่องนี้มาพิจารณา จุดยืนของพรรคเพื่อไทยมีความชัดเจนอยู่แล้ว
เมื่อถามถึงกรณีส.ว.เตือนหาก 8 พรรคร่วมฯ หากโหวตบุคคลที่ไม่มีคุณสมบัติจะเข้าข่ายผิดกฎหมายได้ พรรคเพื่อไทยกังวลหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นดุลยพินิจของส.ว.แต่ละคน ส่วนตัวมองว่าเป็นเพียงการส่งสัญญาณออกมาแต่ท้ายที่สุดแล้ว เชื่อไม่ว่าส.ส.หรือส.ว.ทุกคนมีวุฒิภาวะ ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจที่จะตัดสินใจ
ส่วนกังวลหรือไม่หากมีความวุ่นวายเกิดขึ้นในวันโหวตนายกรัฐมนตรีหากไม่ผ่านในวันแรกเพราะจะมีมวลชนมาให้กำลังใจ นายประเสริฐ กล่าวว่า ไม่กังวล ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองประชาธิปไตย สามารถชี้แจงกับทุกฝ่ายได้ถึงที่มาที่ไป มั่นใจว่าสภาฯ ให้เหตุผลกับประชาชนได้ และมั่นใจว่าประชาชนจะเข้าใจด้วยเช่นกัน ส่วนที่กกต.เตรียมประชุมส่งเรื่องหุ้นไอทีวีของนายพิธาให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นก่อนวันที่ 13 ก.ค. 8 พรรคร่วมจะนำเรื่องนี้มาพูดคุยหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้อยู่ในหัวข้อการพูดคุยในวันพรุ่งนี้ แต่หากดูจากข่าว คำร้องที่กกต.จะยื่นศาลรัฐธรรมนูญ และคำร้องที่นายพิธายื่นไปยังกกต.ขอให้มีการไต่สวนข้อเท็จจริงก่อน ส่วนตัวเชื่อว่า ในเรื่องนี้กกต.จะให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกร้อง เชื่อว่าหากมีการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมานายพิธาและพรรคก้าวไกลจะสามารถตอบคำถามและชี้แจงเรื่องนี้ได้ ส่วนตัวจึงมั่นใจว่า ไม่กระทบกับวันที่ 13 ก.ค.การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีจะยังคงดำเนินต่อไปไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง.-สำนักข่าวไทย