ทำเนียบ 4 ก.ค.-“วิษณุ” ระบุ “วันนอร์” เป็นผู้มากประสบการณ์ ไม่มีเรื่องด่างพร้อย เชื่อทำให้สภาเรียบร้อยได้ เทียบเคียงสมัย ‘อุทัย พิมพ์ใจชน’ มีแค่ 3 เสียง แต่เมื่อพรรคใหญ่ตกลงกันไม่ได้ก็ต้องมีคนกลาง อีกทั้งต้องลาออกจากหัวหน้าพรรคประชาชาติตามกฎหมาย ชี้การเสนอชื่อแข่งเก้าอี้รองประธานสภาฯ เป็นเรื่องปกติ
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าว ภายหลังสภาผู้แทนราษฎรโหวตให้นายวันมูหะมัด นอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า เรื่องดังกล่าวไม่มีบทเรียนทางการเมืองอะไร เป็นเรื่องของประวัติศาสตร์ที่หมุนไปหมุนมาซ้ำรอยกัน เพราะเมื่อพรรคการเมืองที่เป็นพรรคใหญ่ไม่สามารถตกลงกันได้ ก็ต้องเสนอทางออก เหมือนสมัยก่อนที่นายอุทัย พิมพ์ใจชน นั่งเป็นประธานสภาแม้จะมีเพียง 3 เสียง แต่ทุกพรรคการเมืองจะต้องมีความไว้วางใจ ซึ่งวันเดียวกันนี้ก็เห็นได้ชัดว่า นอกจากพรรคที่มีเสียงข้างมากคือพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทยจะไว้ใจแล้ว พรรคการเมืองในซีกรัฐบาลปัจจุบัน 188 เสียง ก็ไม่เสนอใครขึ้นไปแข่งขัน ก็แสดงว่าไว้ใจนายวันมูหะมัด นอร์ มะทา อีกทั้งได้ฟังเสียงจากผู้ใหญ่รุ่นเก่าในสภา อย่างนายชวน หลีกภัย อดีตประธานสภาและอดีตนายกรัฐมนตรี ก็ยังชมว่านายวันมูหะมัด นอร์ ฯ มีบุคลิก มีความรู้ มีความสามารถ แค่นี้ก็เพียงพอที่จะบริหารสภาฯไปได้ ด้วยความราบรื่น
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรในการเสนอชื่อนายวิทยา แก้วภราดัย จากพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นคู่แข่ง ชิงตำแหน่งรองประธานสภาคนที่หนึ่ง อย่างไม่คาดคิด นายวิษณุ กล่าวว่า ก็เป็นธรรมดาเมื่อมีการเสนอชื่อชิงอย่างนี้ก็ต้องมีการโหวต และก็ต้องแสดงวิสัยทัศน์ก่อนที่จะโหวตลงคะแนนลับ
ทั้งนี้ หากอ่านเกมแล้วเป็นการสะท้อนคะแนนเสียงของรัฐบาลและพรรคร่วมที่กำลังจัดตั้งรัฐบาลอย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นการสะท้อนตรงนี้เท่านั้น ว่าฝ่ายรัฐบาลซึ่งจะชนะหรือไม่ชนะ ไม่สำคัญ แต่ถือว่าได้มีการแข่งขันกันเท่านั้น หลังจากนี้ก็ต้องไปดูในตำแหน่งรองประธานสภาคนที่สองว่าจะมีการเสนอชื่อแข่งขันกันอีกหรือไม่
“มองเรื่องการเสนอชื่อเพื่อชิงตำแหน่งรองประธานสภาเป็นเรื่องปกติธรรมดา ซึ่งโดยปกติถ้าหากตำแหน่งประธานสภามีการแข่งขัน ก็ต้องมีการลงคะแนนลับไปจนถึงค่ำมืด แต่ครั้งนี้คาดว่าคงไม่ถึงกับค่ำ เพราะในส่วนของประธานสภาเรียบร้อยไปแล้ว”นายวิษณุ กล่าว
ส่วนที่มีการมองกันว่าเป็นการสกัดพรรคก้าวไกลในทุกตำแหน่ง นายวิษณุ กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่า ไม่ใช่ ซึ่งก็ต้องไปดูว่าพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทย มีข้อตกลงกันอย่างไร ซึ่งเราไม่รู้ เพราะแค่สองพรรคก็เกือบจะถึง 300 เสียงอยู่แล้ว ถ้าเขาแพ็คกันได้ตามนั้น การโหวตตำแหน่งประธานสภาคนที่หนึ่งและสองก็คงจะออกมาตามที่พรรคเสียงข้างมากต้องการ
“โดยส่วนตัวแล้ว เชื่อมั่นว่านายวันมูหะมัดนอร์ฯ จะสามารถควบคุมให้สภามีความเรียบร้อยได้ เพราะท่านเป็นรัฐมนตรีมาหลายสมัย ผมเองก็เคยทำงานกับท่านสมัยที่เป็นรัฐมนตรี อีกทั้งท่านก็เคยเป็นอดีตประธานสภา ไม่เคยมีข้อมูลหมองหรือด่างพร้อยอะไร ในส่วนของความเป็นกลางท่านก็มีพอสมควรอยู่แล้ว เพียงแต่ท่านต้องลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคประชาชาติ เพราะตำแหน่งประธานสภาจะเป็นกรรมการบริหารพรรคไม่ได้ ซึ่งก็เป็นขั้นตอนตามปกติธรรมดา” นายวิษณุ กล่าว.-สำนักข่าวไทย