กรุงเทพฯ 28 มิ.ย.-หัวหน้าเพื่อไทยย้ำหลักการจับมือก้าวไกลแน่น ดัน “พิธา” เป็นนายกฯ ให้ได้ เชื่อสองพรรคหาข้อยุติตำแหน่งประธานสภาฯ ได้ ถ้าเห็นตรงกันเดินหน้าต่อทันที มั่นใจ 8 พรรคไม่แตก
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการเจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลนด์ ถึงการเจรจากับพรรคก้าวไกลกรณีตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรว่าท่าทีของพรรคเพื่อไทยเกี่ยวกับเรื่องประธานสภาไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร การเจรจาพูดคุยกันเพิ่งเริ่มต้นไปเพียงครั้งเดียวเท่านั้น และเป็นเพียงการรับข้อเสนอของแต่ละพรรคไปพิจารณา หลังจากนั้นยังไม่ได้พูดคุยกันอีก เพราะเป็นกระบวนการพูดกันภายในของแต่ละพรรค
“การประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคและการประชุมส.ส.ของพรรคเมื่อวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา เรามีข้อสรุปออกมาเป็นเพียงการให้คำตอบกับพี่น้องประชาชนว่าพรรคยืนยันหลักการในสิ่งที่เราได้เสนอไปในการเจรจาครั้งแรกซึ่งได้มีการพิจารณาการทำงานและเฉลี่ยออกมาตามสัดส่วนว่าแต่ละพรรคจะต้องทำอะไร ซึ่งออกมาเป็น 14+1 คือ พรรคก้าวไกลเป็นรัฐมนตรี 14 ตำแหน่งกับนายกรัฐมนตรีดูแลฝ่ายบริหาร และพรรคเพื่อไทย เป็นรัฐมนตรี 14 และจะรับหน้าที่ในการเป็นประธานสภา ซึ่งในส่วนนี้เป็นการสิ่งที่ได้เสนอไปในการเจรจาครั้งแรก” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ที่ผ่านมาที่มีการพูดและนำเสนอความคิดเห็นต่างๆ เป็นเพียงความเห็นต่างภายในของแต่ละพรรค ซึ่งการนำเสนอบางมุม สมาชิกและผู้สนับสนุนพรรคบางส่วนไม่เห็นด้วย แต่พรรคเห็นว่าเมื่อเกิดกระแสความคิดเห็นที่แตกต่างก็ควรมีความชัดเจนไปเจรจากับพรรคก้าวไกล จึงเป็นที่มาของที่ประชุมของพรรคได้ยืนยันหลักการเดิมไม่เปลี่ยนแปลง และที่ผ่านมาพรรคก้าวไกลยังไม่มีคำตอบกลับมา ซึ่งการจะมีคำตอบอย่างไรยังเป็นกระบวนการภายในของพรรคก้าวไกล
“พรรคเพื่อไทยมีสมาชิกพรรคและมีผู้สนับสนุน ซึ่งเราก็ต้องคำนึงถึง เรายืนยันหลักการให้นำข้อเสนอเดิมไปพูดคุยเท่านั้นและไม่ใช่เป็นมติใด ๆ เป็นเพียงแนวทางที่ทุกคนเห็นว่าเมื่อวางหลักการเจรจาไว้ก็ยืนยันไปตามหลักการนั้น ไม่ได้เพิ่มหลักการใหม่ใด ๆ เพื่อไม่ให้กระทบกับการเจรจาสิ่งที่ 8 พรรค และพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลยึดถือโดยตลอด ได้ลงนามร่วมกันในบันทึกความเข้าใจคือเราจะมัดกันแน่นและทำงานด้วยกัน โดยมีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีให้ได้ ยังเป็นประเด็นหลัก” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ประเด็นตำแหน่งประธานสภาฯ จะไม่นำไปสู่ปัญหาความแตกแยกของพรรคร่วมทั้ง 8 พรรค อีกทั้งในส่วนของพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลได้รับฉันทามติมาจากพี่น้องประชาชนในการเลือกตั้งว่าต้องการรัฐบาลประชาธิปไตย ประชาชนรับไม่ได้หากตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งมาทำให้แตกแยก
ผู้ดำเนินรายการถามว่า หากไม่ได้ข้อสรุปอาจเกิดการฟรีโหวตหรือไม่ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยระมัดระวังไม่ให้เกิดการฟรีโหวตอย่างแน่นอน เพราะไม่ได้เป็นประโยชน์กับทั้งสองพรรคเท่านั้น แต่ยังจะเป็นประโยชน์กับกลุ่มที่สามที่รอโอกาสอยู่ สำหรับการเจราจาเรื่องประธานสภาฯ พรรคเพื่อไทยยืนยันหลักการเดิมที่เสนอไปในการเจรจาครั้งแรก หากนำเสนอแล้วทั้งสองพรรคได้ข้อสรุปตรงกันก็พร้อมเดินหน้าต่อทันที.-สำนักข่าวไทย