“เพื่อไทย” ต้องชัดหลักการโหวต ปธ.สภาฯ

อสมท 21 มิ.ย. – “อ.โอฬาร” ชี้ “เพื่อไทย” ต้องชัดหลักการโหวตประธานสภาฯ ระบุหากซ้อนแผนมองแค่ชนะทางการเมือง มีราคาต้องจ่ายสูง เตือนประชาชนกำลังจับตา อย่าเปลี่ยนเจตนารมณ์ บอก “ดีลลับพลิกขั้ว” เกิดขึ้นได้ แนะขอให้ใจเย็น การเดินต้องสุขุม หาก “พิธา” สะดุด มีสิทธิเป็นแกนตั้งรัฐบาล


รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวถึงท่าทีของพรรคเพื่อไทย เอาตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ยังไม่ชัดเจนจะเกิดการซ้อนแผนหรือไม่ ว่า ขณะนี้เพื่อไทยได้สื่อสารชัดถึงหลักการว่า พรรคอันดับ 1 ต้องได้ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร พรรคอันดับ 2 ต้องได้ตำแหน่งรองประธานสภาฯ 2 คน แต่ไม่ได้บอกว่าใครจะได้ ซึ่งทำให้ทุกคนตีความว่า โอกาสที่พรรคก้าวไกลจะได้ตำแหน่งประธานสภาฯ ค่อนข้างสูง แต่ตนเองมองว่า ปัญหาของพรรคเพื่อไทย หลายครั้งคือเมื่อสื่อสารไปแล้วจะมีคนในพรรคมาทำให้หลักการพร่ามัว เช่น การที่นายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยถึงหลักการของพรรค แต่แกนนำพรรคบอกว่า ต้องรอมติของพรรคที่ชัดเจนอีกครั้ง จึงทำให้ทุกคนเกิดความกังวลใจต่อท่าทีของพรรคเพื่อไทย สิ่งที่พรรคเพื่อไทยต้องประเมินให้ดีคือกระแสสังคม เราต้องยอมรับว่า การเลือกตั้งและแนวโน้มในการจัดตั้งรัฐบาลเที่ยวนี้ ประชาชนคาดหวังให้ 8 พรรคร่วม มัดรวมกันและยืนภายใต้หลักการที่ตรงไปตรงมาต่อประชาชน ดังนั้นเมื่อกระแสเป็นเช่นนี้ ทำให้ผู้คนจับตาไปที่พรรคเพื่อไทยว่าจะผิดหลักการเสียเองหรือไม่ เพราะถ้าหากดูกระแสข่าวว่าจะมีพรรคขั้วฝ่ายค้าน จะเสนอชื่อแกนนำของพรรคเพื่อไทย และจะมีการสนับสนุนจาก ส.ส.พรรคเพื่อไทย และมองว่าเรื่องนี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้

“ถ้ามองการเมืองเพียงแค่การชนะกัน ให้ได้มาซึ่งตำแหน่งทางการเมือง เพื่อหวังผลในการโหวตนายกรัฐมนตรี แต่ถ้าทำแบบนี้ พรรคเพื่อไทยมีราคาที่ต้องจ่ายสูงมาก เพราะเที่ยวนี้การทำงานการเมืองที่ใช้เล่ห์เหลี่ยม เพื่อหวังชัยชนะระยะสั้น อาจจะเสียหายระยะยาวได้ เพราะประชาชนส่งเสียงมากขึ้นในการเลือกตั้งครั้งนี้ เราเห็นได้จากการที่ประชาชนคอยจับตาดูอยู่ นี่คือสิ่งที่พรรคเพื่อไทยต้องประเมินดีๆ ถ้าจะไม่ทำตามหลักการที่ตัวเองเคยพูดเอาไว้“ รศ.ดร.โอฬาร ระบุ

เมื่อถามว่า การออกมาบอกเพียงหลักการเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ แต่เมื่อถึงเวลาโหวตบอกว่าเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส. หากเป็นไปในแนวทางนั้นจะเป็นอย่างไร รศ.ดร.โอฬาร กล่าวว่า หากไปถึงจุดนั้น พรรคเพื่อไทยยากที่จะปฎิเสธ สมมติว่าพรรคเพื่อไทยบอกว่าเป็นการโหวตลับ และโดยมารยาททางการเมืองในการเสนอชื่อประธานสภาฯ จะไม่เสนอชื่อตัวแทนของพรรคตัวเอง คือเปิดโอกาสให้ ส.ส.พรรคไหนก็ได้เสนอ แต่หากมีพรรคไหนเสนอชื่อคนในพรรคเพื่อไทย และคนในพรรคเพื่อไทยก็ไม่ปฏิเสธ และมีเสียงเกินกว่าซีกที่ไม่ได้จัดตั้งรัฐบาลเกินมา จนทำให้ชนะการโหวต จะทำให้พรรคเพื่อไทยตอบสังคมได้ยาก และจะถูกมองว่าพรรคเพื่อไทยไม่ทำตามเจตนารมณ์เดิม ซึ่งจะทำให้พรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล แตกหักกันได้ รวมถึงอาจมีผลไปถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ถ้าพรรคเพื่อไทยเล่นเกมนี้

เมื่อถามต่อว่า เปอร์เซ็นต์ที่จะมีการพลิกขั้วได้หรือไม่ เพราะกระแสดีลลับก็กลับมาอีกแล้ว ประจวบกับ พล.อ.ประวิตรวงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เดินทางไปประเทศอังกฤษ รศ.ดร.โอฬาร ระบุว่า นี่คือปัญหาของการเมืองไทย

“มีนักการเมืองส่วนหนึ่งที่ทำงานการเมืองแบบใช้เล่ห์เพทุบาย เพื่อให้ได้ชัยชนะ ให้ได้อำนาจ เป็นความสำเร็จทางการเมือง เขาประเมินประชาชน สังคมต่ำมาก แทบไม่ได้ประเมินเลย แค่ได้ชัยชนะจากการเลือกตั้ง ตัวเองจะไปปู้ยี่ปู้ยำอำนาจอย่างไรก็ได้ นั่นคือการเมืองแบบเดิมที่มีคนคิดแบบนั้น และมีอยู่ในการเมืองไทยจริงๆ เวลานี้ ถามว่าโอกาสเกิดดีลลับ การข้ามฟากข้ามฝั่ง มีขึ้นหรือไม่ คำตอบคือมี ย้ำว่าเที่ยวนี้หากใครทำแบบนั้น ประชาชนจะลงโทษอย่างแน่นอน หากมีพรรคใดพรรคหนึ่งใน 8 พรรคร่วมตั้งรัฐบาล ขัดคำสัญญา ประชาชนจะรู้สึกว่าคุณเล่นละครตบตา และเท่ากับเป็นการฆ่าตัวตายทางการเมือง ถ้าพรรคเพื่อไทยจะเล่นเกมนี้ จริงอยู่อาจได้ตำแหน่งประธานสภาฯ ได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่เลือกตั้งครั้งหน้า พรรคเพื่อไทยจะไม่มีพื้นที่ยืนในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย เชื่อว่าเป็นสิ่งที่คนในพรรคเพื่อไทยก็ประเมินอยู่ ถ้าจะเล่นการเมืองแบบเดิม มีดีลลับกันทีหลัง หวังจะเปิดทางให้คนอีกฟากหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือเปิดทางให้นายทักษิณ ชินวัตร เดินทางกลับประเทศไทย หากยังมีวัฒนธรรมการเมืองแบบนี้ สิ่งที่จะเจอในอนาคตจะเป็นอย่างไร“ รศ.ดร.โอฬาร กล่าว

เมื่อถามถึงความพยายามรีแบรนด์พรรคเพื่อไทย จะสูญเปล่าใช่หรือไม่ รศ.ดร.โอฬาร ระบุว่า จะจบ ซึ่งตนมองไม่ออกว่าตอนนี้ใครเป็นผู้เดินเกม หากพรรคก้าวไกลเป็นผู้เดินเกม ก็เท่ากับว่าทำให้พรรคเพื่อไทยบิดไปไหนไม่ได้ และส่วนตัวคิดว่ามีบางคนในพรรคเพื่อไทย คิดเพียงกระแสสภาวะตอนนี้ ส่วนคนที่ต้องการรีแบรนด์พรรคเพื่อไทย อย่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย คนเหล่านี้จะพัง หากพรรคเพื่อไทยไปดีลลับ หรือข้ามฟากก็จบเลย ต้นทุนทั้งหมดจะหายไป ประชาชนจะลงโทษอย่างหนัก

รศ.ดร.โอฬาร กล่าวว่า ตอนนี้มีทางเดียว คือ พรรคเพื่อไทยต้องยืนยันหลักการเอาไว้ ให้พรรคก้าวไกลได้ตำแหน่งประธานสภาฯ ซึ่งทุกคนก็รู้ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่พรรคก้าวไกลจะได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะ ส.ว.อาจไม่ยกมือสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกลก็ได้ แต่ถ้าใน 8 พรรคร่วม คุยกันให้ชัดเจนว่า หากโหวต 3-4 ครั้ง แล้วยังไม่ได้ ก็เป็นความชอบธรรมของพรรคเพื่อไทยที่จะเป็นแกนนำ มันมีทางออกที่จะให้พรรคเพื่อไทยได้เป็นนายกฯ อยู่ และถ้าถึงที่สุด เชื่อว่ามวลชนจะเข้าใจได้ถึงเงื่อนไขทางการเมืองไทย แล้วพรรคเพื่อไทยก็จะไม่เสียศรัทธาประชาชน และยังได้ตำแหน่งนายกฯ ด้วย

“พรรคเพื่อไทยต้องประเมินให้ออกว่า เส้นทางการเป็นนายกรัฐมนตรีของนายพิธา อาจไม่ง่าย และจะรู้ว่าควรเดินอย่างไร แต่ถ้าไม่ตามกระแส ตามข่าวเต้า ข่าวปล่อย ก็จบเลย” รศ.ดร.โอฬาร กล่าว

เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ถึงสูตรที่จะให้ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกฯ รศ.ดร.โอฬาร ระบุว่า เป็นไปได้ถ้าคิดในมุมการเมืองแบบเดิม เพราะมีคนคิดอย่างนั้นจริงๆ เพียงแต่เที่ยวนี้การเมือง การตื่นตัวของประชาชนค่อนข้างมาก จึงทำให้ทุกอย่างในการตัดสินใจที่ไม่อยู่ภายใต้เจตนารมณ์ของประชาชน มีต้นทุนและมีราคาที่ต้องจ่าย

เมื่อถามว่า ความเป็นไปได้ที่พรรคเพื่อไทยจะไปจับมือกับพรรคภูมิใจไทย เพราะเคยประกาศไว้ว่าไม่เอา 2 ลุง รศ.ดร.โอฬาร ย้ำว่า ถ้าข้ามฟากข้ามฝั่ง คงต้องรอเวลาให้สถานการณ์พาไปเอง จนประชาชนเข้าใจว่านี่คือความจำเป็นของพรรคเพื่อไทย เช่น มีแนวโน้มว่า ส.ว.จะไม่โหวตนายกฯ ให้พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทยขอร่วมตั้ง โดยมีพรรคภูมิใจไทยมาหลังจากนั้น ในการจัดตั้งรัฐบาลอาจไม่มีพรรคก้าวไกลก็ได้ ให้เป็นไปตามหลักการเงื่อนไข ซึ่งการเดินต้องสุขุม ต้องยึดเจตนารมณ์ของประชาชนเอาไว้ และประชาชนคาดหวังความตรงไปตรงมาของนักการเมือง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

เฮลั่น “ธัญญก้าวหน้า” ชนะยกทีม เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี

ปทุมธานี 11 พ.ค. – นับคะแนนเสร็จสิ้นแล้วอย่างไม่เป็นทางการ เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี จ.ปทุมธานี “นายกเบี้ยว” ประกาศลั่น “ธัญญก้าวหน้า” คว้าชัยชนะยกทีม “ยุพเยาว์” นั่งนายกเทศมนตรี ส่วน “ลูกพีช” ได้เป็น สท. -สำนักข่าวไทย

กกต.พอใจภาพรวมเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศ

11 พ.ค. – กกต.พอใจภาพรวมการเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หวังมีผู้มาใช้สิทธิตามเป้า 70% พร้อมกำชับ จนท.ขานคะแนนให้ชัด และเตรียมแผนเผชิญเหตุกรณีฝนตก-ไฟดับ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจดูการใช้สิทธิของประชาชน ในการใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี พื้นที่เพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะที่สถานการณ์ทั่วประเทศที่ได้รับรายงานพบบางจังหวัดมีข่าวซื้อเสียงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ ไม่พบตามที่มีการแจ้ง และไม่น่าจะส่งผลกระทบให้ต้องเลือกตั้งใหม่ ประธาน กกต. เผยในการเลือกตั้งตรวจดูตามหน่วยเลือกตั้ง ได้กำชับกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งเรื่องการนับคะแนน เพื่อหลีกเลี่ยงการร้องเรียนว่าขานคะแนนไม่ชัด หรือไม่ได้ยิน แสงสว่างน้อย จึงขอให้ขานคะแนนช้าๆ ชัดๆ เพื่อไม่ให้ผู้สังเกตการณ์เกิดความสงสัย และหากมีฝนตกก็ต้องมีแผนเผชิญเหตุ โดยเฉพาะหากไฟฟ้าดับ ส่วนผู้ใช้สิทธิจะมากกว่าครั้งที่แล้ว โดยครั้งนี้ตังเป้าไว้ร้อยละ 70 เพราะดูจากการมาใช้สิทธิตลอดทั้งวันเป็นไปด้วยความคึกคัก แต่ในแต่ละจังหวัดจะไม่เท่ากัน ขณะที่การนับคะแนน หลังปิดการลงคะแนนเมื่อเวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง โรงเรียนหัวหินวิทยาคม ซึ่งมี 6 หน่วยเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่แจ้งหมดเวลาปิดการลงคะแนน และเริ่มการนับคะแนนทันที โดยเป็นการนับคะแนนนายกเทศมนตรี และมานับคะแนนสมาชิกสภาเทศบาล ท่ามกลางตัวแทนผู้สมัครมาเฝ้าสังเกตการณ์ สำหรับการเลือกตั้งเทศบาลมีจำนวน 2,463 แห่ง และหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

บั้งไฟสิบล้านตกใส่โรงสีข้าว ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

บั้งไฟสิบล้านตกใส่โกดังโรงสีข้าว หลังคาทะลุ โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ด้านโรงสีไม่ได้แจ้งความหรือดำเนินคดี