เชื่อ 2 พรรคเฟ้นคนมีความสามารถนั่งปธ.สภาฯได้

สำนักงานกกต. 20 มิ.ย.-“วันนอร์” เชื่อก้าวไกล-เพื่อไทยจะช่วยกันหาคนที่มีความสามารถนั่งประมุขนิติบัญญัติได้ ไม่ห่วงอ่อนพรรษา ยก “อุทัย” อายุแค่  30 กว่าแต่ทำหน้าที่ได้ดี   


นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชาติ    เข้ารับหนังสือรับรองส.ส. พร้อมกล่าวขอบคุณกกต.ที่เร่งประกาศรับรองส.ส.ก่อน 60 วัน    ส่วนการทำงานของ 8 พรรคร่วมขณะนี้ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการต่าง ๆ เตรียมการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลไปมากแล้วและเตรียมกำหนดนโยบายร่วมกันแก้ไขปัญหาหลายด้าน ส่วนการเลือกประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นเรื่องของพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยที่ต้องตกลงกัน หลังจากนั้นจึงจะพูดคุยกับ 8 พรรคร่วมรัฐบาลเพื่อรับทราบต่อไป ส่วนพรรคไหนจะได้เป็นทั้ง 2 พรรคคงมีตัวบุคคลแล้ว

“เชื่อมั่นว่าจะคัดคนที่เข้ามาทำงานเป็นอย่างดี เพราะประธานสภาฯ ต้องเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งต้องเป็นคนที่มีประสิทธิภาพ มีความรู้ความสามารถ จะทำให้งานของสภาฯ คืบหน้าไปด้วยดี   เนื่องจากมีงานแก้ไขกฎหมายต่าง ๆ รวมถึงการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นหน้าที่ของประธานสภาฯ ที่เป็นผู้นำ จะดำเนินการให้รวดเร็วได้อย่างไรในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเป็นประชาธิปไตยตามที่ประชาชนต้องการ เชื่อว่าทั้งสองพรรคคงจะคุยเพื่อหาคนที่มีประสิทธิภาพและคุณภาพที่จะนำฝ่ายนิติบัญญัติต่อไป” นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว


เมื่อถามว่าถ้าคนที่จะเป็นประธานสภาฯ หากอ่อนพรรษาจะเป็นปัญหาควบคุมที่ประชุมหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า อ่อนหรือแก่พรรษา ประธานสภาฯ คงจะมีส่วนเกี่ยวข้องน้อยมาก อยู่ที่บุคลิกของคนนั้น ๆ ที่จะเป็นผู้นำ ซึ่งคนที่จะเป็นประธานสภาฯ ทุกคนต้องศึกษาข้อบังคับกฎหมายอย่างแม่นยำ แล้วตัดสินบนพื้นฐานในการให้โอกาสสมาชิกแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมามากที่สุด ขณะเดียวกันจะต้องรักษาข้อบังคับของสภาฯ ด้วย ซึ่งครั้งหนึ่งนายอุทัย พิมพ์ใจชนเคยเป็นประธานที่มีอายุพัยง 30 กว่าปีแต่ทำหน้าที่นี้ได้เป็นอย่างดี เมื่อถามถึงโผคณะรัฐมนตรี(ครม.)

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า คงหารือกันหลังจากเรื่องประธานสภาฯ จบแล้ว ซึ่งต้องจัดตำแหน่งให้ลงตัว เหมาะสมกับกระทรวง และเหมาะสมกับนโยบายที่ 8 พรรคเพื่อให้ตำแหน่งนั้นทำงานได้รวดเร็ว ส่วนพรรคประชาชาติเป็นพรรคเล็กต้องหารือกัน เราอยู่ตรงไหนก็ได้ที่สามารถขับเคลื่อนในสิ่งที่เราเห็นว่ามีความสามารถที่จะทำได้ เราเข้าไปทำงาน ไม่ได้ไปหาผลประโยชน์ .-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย