สมช.เดินหน้าตรวจสอบเอาผิดขบวนการแยกปัตตานี

ทำเนียบรัฐบาล 12  มิ.ย.-เลขาฯ สมช.ประชุมหน่วยงานมั่นคง ชี้การทำประชามติแยกปัตตานีเป็นเอกราชผิดกม. สั่งตรวจสอบพร้อมลงโทษทุกระดับไม่เว้นนักการเมือง  


พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) เปิดเผยภายหลังเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินสถานการณ์หลังจากที่ขบวนนักศึกษาแห่งชาติ จังหวัดชายแดนภาคใต้ทำประชามติแยกตัวเป็นเอกราช เมื่อวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา ว่า ได้รับรายงานความคืบหน้าภายหลังจากที่ได้ติดตามกรณีดังกล่าว     ซึ่งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ภาค 2 ส่วนหน้า(กอ.รมน.ภาค 4 สน.) และตำรวจภูธรภาค 9 กำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงเนื้อหาสาระของกิจกรรมในวันนั้นมีด้านใดบ้าง กิจกรรมในวันนั้นและการเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย มีประเด็นการกระทำที่ผิดกฎหมายเรื่องใดบ้าง ทั้งคำพูดและข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นการประกาศทำประชามติเพื่อแยกตัวเป็นเอกราช ซึ่งเรื่องนี้ขัดรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจนและผิดกฎหมาย ดังนั้น ต้องสืบสวนสอบสวน ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังพิจารณาในรายละเอียดว่าใครอยู่เบื้องหน้า เบื้องหลัง ผู้เกี่ยวข้อง ข้อมูลข้อเท็จจริง ทั้งที่ออกมาเปิดเผยทางโซเชียล เปิดเผยต่อสังคม ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร 

“ที่ประชุมได้สรุปสองส่วนคือให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินไปตามขั้นตอนอย่างเปิดเผย ยุติธรรม ชัดเจน ซึ่งจะต้องตรวจสอบว่าทำผิดหรือไม่ผิด และดำเนินการทางกฎหมายเท่าที่จำเป็น ยอมรับว่าสิ่งที่กังวลคือสิ่งที่เผยแพร่ต่อสาธารณชน ทั้งนี้ ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สภาสันติสุข ระดับตำบล และอีกหลายกลไกรับฟังความคิดเห็นของประชาชนมาโดยตลอด” เลขาธิการสมช. กล่าว


พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ส่วนที่สองคือดำเนินการตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเน้นย้ำเรื่องการสร้างความเข้าใจ กับประชาชนในพื้นที่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นผิดกฎหมาย การดำเนินการทุกอย่างจะต้องถูกกฎหมาย โดยต้องใช้ทุกมิติพูดคุยทำความเข้าใจกับประชาชน และเตรียมสรุปรายงาน เสนอนายกรัฐมนตรีต่อไป  แม้ยังไม่ได้ข้อสรุปแต่ได้รายงาน เบื้องต้นว่าเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการไปในด้านใดบ้างแล้ว

ส่วนที่มีการดำเนินการในลักษณะรุกคืบและรุนแรงขึ้นในช่วงนี้ เลขาธฺการสมช. กล่าวว่า เจ้าหน้าที่มีฐานข้อมูลเดิมอยู่แล้วว่ามีโยงใยฝ่ายไหนที่เกี่ยวข้องและเกิดขึ้นในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งรัฐบาลพยายามสร้างความเข้าใจมาโดยตลอดว่ามีเหตุผล ความจำเป็นอย่างไร ต้องการให้ประชาชนสามจังหวัดชายแดนจังหวัดใต้อยู่ดีกินดี  ปลอดภัยภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และพยายามตอบสนองความต้องการของประชาชนมาโดยตลอด แม้ว่าบางกลุ่มมีความคิดแตกต่าง ก็อธิบายให้เกิดความเข้าใจว่าผลดีผลเสียที่จะเกิดขึ้นตามมาเป็นอย่างไร

“เชื่อว่าทุกคนทราบอยู่แล้วมีนักการเมืองคนใดเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยทั้งที่อยู่เบื้องหน้าและเบื้องหลัง ขอให้เจ้าหน้าที่เป็นผู้ดำเนินการ และอยู่ในผลการสอบสวนอยู่แล้วว่าใครเกี่ยวข้องบ้าง” พล.อ.สุพจน์ กล่าว


ส่วนในช่วงหาเสียงเลือกตั้งมีพรรคการเมืองเสนอนโยบายให้เลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดภาคใต้ เลขาธิการสมช. กล่าวว่า การหาเสียงเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาค่อนข้างสุดโต่งและแรงในหลายเรื่อง ทำให้สภาความมั่นคงแห่งชาติมีข้อกังวล ผลการเลือกตั้งที่เกิดขึ้น แม้กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ยังไม่ได้รับรองส.ส. ฝ่ายการเมืองก็เคลื่อนไหวโดยพยายามจะพูดถึงนโยบายที่จะทำต่อไป โดยหลังการหาเสียงนโยบายเหล่านั้นกลับนุ่มนวลลง และสอดคล้องกับที่ภาครัฐทำอยู่ สอดคล้องกับข้อมูลเดิมที่มี แต่หลายสิ่งต้องนำข้อมูลเดิมที่ทำผิดกฎหมายมาเชื่อมโยงและพิจารณา

ส่วนสภาความมั่นคงแห่งชาติจะเอาผิดพรรคการเมืองได้หรือไม่ พล.อ.สุพจน์กล่าวว่า ขณะนี้ยังตอบไม่ได้และยังไม่ได้พูดคุยกับพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลที่หาเสียงนโยบายดังกล่าวไว้ ยืนยันว่าเรื่องนี้ยังเป็นเรื่องภายในประเทศ ไม่มีต่างประเทศเข้ามาแทรกแซงหรือสนับสนุน แต่ไม่ได้ตัดประเด็นนี้ออกไป เพราะทุกวันนี้การแก้ปัญหาในพื้นที่ได้พูดคุยระดับนโยบายกับองค์กรต่างประเทศที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง

“องค์กรต่างประเทศ ถ้าจะลงพื้นที่ต้องแจ้งกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงการต่างประเทศจะหารือกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ หากประเมินแล้วไม่กระทบต่อความมั่นคงในประเทศจะประสานไปยังศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) ซึ่งรับผิดชอบให้ไปดูแล พูดคุยกับองค์กรเหล่านั้น” เลขาธิการสมช. กล่าว

เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานีจะจัดกิจกรรมประกาศเจตนารมณ์ในลักษณะนี้ได้อีกหรือไม่ พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ต้องดูที่เจตนาข้อมูลผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าผิดกฎหมายทำไม่ได้ ซึ่งกอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้ายังไม่ได้รายงานความผิด แต่เรื่องการทำประชามติแยกเอกราชผิดกฏหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 1  ส่วนจะผิดกฏหมายอื่น ๆ อีกหรือไม่ ต้องไปดูพฤติกรรม หลักฐาน และสภาพแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้ารับผิดชอบดำเนินการโดยจะเชิญกระทรวงยุติธรรม สำนักงานอัยการให้ข้อเสนอแนะ 

ส่วนกรณีพรรคการเมืองที่เข้าร่วมกิจกรรมในวันดังกล่าว แต่ออกมาปฏิเสธความรับผิดชอบ เลขาธิการสมช. กล่าวว่า เมื่อมีความผิดก็ต้องดำเนินการตามกฏหมาย ขณะที่มหาวิทยาลัยจะต้องร่วมรับผิดชอบหรือไม่นั้น เห็นว่าเมื่อพิจารณาแล้วเป็นกิจกรรมวิชาการตามปกติ แต่กลับเกิดกิจกรรมที่สุ่มเสี่ยงขึ้น ดังนั้น ต้องตรวจสอบและทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนการป้องกันไม่ให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอีกคือต้องทำความเข้าใจ รับฟังความคิดเห็นในพื้นที่ตามกฏหมาย

เมื่อถามว่าฝ่ายความมั่นคงเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดการตอบโต้ สร้างความรุนแรงขึ้นในพื้นที่อย่างไร พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ประชาชนเข้าใจว่าความคิดของรัฐบาลจะไปต่อสู้หรือปิดกั้นความคิด แต่ต้องดูบริบทในพื้นที่ว่าจังหวัดชายแดนภาคใต้เดินหน้าแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีบางเรื่องที่ต้องปรับปรุงและพัฒนาแนวทางให้มีความก้าวหน้ายิ่งขึ้นต่อไป อีกทั้งชื่อว่าเดินทางมาในแนวทางที่ถูกต้องแล้ว มีความพยายามสร้างความสงบและไม่ก่อเหตุร้ายในพื้นที่ แม้จะเกิดอยู่บ้างก็ตาม   

“รัฐบาลต้องการพัฒนาพื้นที่ให้ประชาชนอยู่ดีกินดีมี สาธารณนูปโภคพื้นฐาน ดี มีศักยภาพในการประกอบอาชีพ มีความพยายามพูดคุยกับผู้ที่เห็นต่างทางการเมือง มาโดยตลอด และยกระดับพูดคุยกว้างขวางมากขึ้นทุกภาคส่วนและทุกกลุ่มไม่ใช่แค่กลุ่มบีอาร์เอ็น รวมถึงเชิญนักการเมือง ผู้ที่เป็นแกนนำมาพูดคุย ทำความเข้าใจและช่วยกันแก้ปัญหา อย่างไรก็ตาม กิจกรรมที่เกิดขึ้นก็ไม่เกินคาดที่ฝ่ายความมั่นคงประเมินไว้ และที่ผ่านมาก็มีกิจกรรมที่น่ากังวลเกิดขึ้น ซึ่งมาจากการสนับสนุนให้ประชาชนได้แสดงออกถึงความคิดเห็น ความต้องการและแสดงจุดยืนต่าง ๆ ภายใต้กรอบของกฎหมายที่ทำได้ เพื่อให้ประชาชนเข้าใจว่ารัฐบาลไม่ได้มีเจตนากดขี่ บังคับ มองทุกคนคือคนไทย แต่สิ่งใดที่ผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการ และสร้างความเข้าใจต่อไป เพื่อไม่ให้เกิดการทำผิดกฏหมาย” พล.อ.สุพจน์ กล่าว

เลขาธิการสมช. กล่าวว่า ในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคงไม่ได้ทำงานลำบาก สภาความมั่นคงแห่งชาติมีหน้าที่ชัดเจน มีหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลแผนงาน ปรับเปลี่ยนตามสภาพแวดล้อม ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลก็ตั้งนำเสนอข้อมูล โดยฝ่ายความมั่นคง ทำงานตามบทบาท ตามหน้าที่และกฏหมาย

ส่วนฝ่ายความมั่นคงประเมินสถานการณ์หลังการเลือกตั้งอย่างไร พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ได้ประเมิน สถานการณ์กรณีที่ต้องระมัดระวัง เลวร้ายที่สุดหรือ worst -case   เช่น อาจจะเกิดความขัดแย้งทางการเมือง มีการชุมนุม การก่อความไม่สงบ เรื่องนี้เป็นหน้าที่โดยตรงของ สภาความมั่นคงแห่งชาติที่จะต้องเตรียมพร้อมไว้อย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ต้องมีความพร้อม หากออกมาชุมนุมโดยสงบก็เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่จะต้องดูแลให้เกิดความปลอดภัยกับทุกฝ่าย แต่ถ้าเกิดก่อเหตุรันแรงและเหตุร้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าไปจัดการ ป้องกัน ยุติ ระงับยับยั้ง

ส่วนกรณีนายอานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มราษฎรโพสต์ระดมมวลชนร่วมชุมนุมกดดันให้สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เลขาธิการสมช.กล่าวว่า ขณะนี้ทางการข่าวยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง พล.อ.สุพจน์ กล่าวฝากถึงประชาชน ว่า หน่วยงานความมั่นคงเคยพูดหลายครั้ง ประเทศไทยจะเดินหน้าทุกมิติ ราบรื่น คือการมีรัฐบาลที่มั่นคง ไม่มีเหตุ มีความสงบจะเป็นที่มั่นใจให้กับภาคเศรษฐกิจ ดังนั้น ถ้าทุกอย่างเดินหน้าตามกรอบกฎหมาย ประเทศไทยจะไปได้ดี.-สำนักข่าวไทย         

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

ผู้สมัคร “ภูมิใจไทย” ประกาศชัยชนะ เลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5

28 ก.ย. – “จินณ์ตวรรณ” ผู้สมัครหมายเลข 2 จากพรรคภูมิใจไทย ประกาศชัยชนะ หลังทราบผลคะแนนเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 อย่างไม่เป็นทางการ นำคู่แข่งจากพรรคเพื่อไทย ขอบคุณประชาชนที่ไว้วางใจให้เข้าไปทำหน้าที่ สำหรับผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 19.40 น. หมายเลข 1 ภูริกา สมหมาย พรรคเพื่อไทย ได้คะแนน 24,681 คะแนนหมายเลข 2 จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล พรรคภูมิใจไทย ได้คะแนน 31,653 คะแนน.-สำนักข่าวไทย

เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุม คืนผิวจราจร 8 ต.ค.

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – แก้ถนนทรุดคืบหน้า จนท.ยุติการเทปูนแล้ว เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุมออก เพื่อถมทรายผสมปูนอีก 5 เมตร คาดหากไม่มีอุปสรรคเพิ่ม จะคืนผิวจราจรได้อย่างน้อย 2 ช่องทาง 8 ต.ค.นี้.-สำนักข่าวไทย

“สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – “สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา มองโอกาสนำไทยสู่จอเรดาร์โลก นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ก่อนการเดินทางกลับจากการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีการพูดถึงถ้อยแถลงในที่ประชุม ประเด็นเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา รวมถึงบทบาทของไทยในเวทีสหประชาชาติ (ยูเอ็น) นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า การเดินทางเข้าร่วมการประชุม UNGA ในครั้งนี้ ต้องการให้ประเทศต่างๆ เห็นว่า การต่างประเทศของไทยกำลังขับเคลื่อนประเทศไทย และไทยจะมีบทบาทสำคัญในเวทีโลก ถึงแม้รัฐบาลชุดนี้จะอยู่แค่ 4 เดือน แต่จะใช้ช่วงเวลานี้ให้มีความหมาย สำหรับประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า เดิมทีจะใช้ถ้อยแถลงใน UNGA เพื่อบอกว่าไทยอยากเห็นแนวทางในการแก้ไขปัญหานี้ เพราะช่วงที่ผ่านมาก็มีการประชุมที่ประเทศมาเลเซีย ที่มีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง และการประชุมของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ทำให้เกิดข้อตกลงเรื่องการรักษาข้อตกลงหยุดยิง การเก็บกู้ทุ่นระเบิด การถอนอาวุธหนัก และการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เป้าหมายของไทยคือ การสร้างความปลอดภัยและนำความสงบมาสู่ชายแดน หากต่างฝ่ายต่างมีความจริงใจและมุ่งมั่นทำให้ข้อตกลงต่างๆ เป็นรูปธรรม ก็คิดว่าไทยจะดำเนินการเป็นขั้นตอนในการปรับความสัมพันธ์ อย่างไรก็ตาม นายปรัก สุคน […]

นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ แต่ขณะเดียวกันก็กดดันความคาดหวังประชาชน ย้ำต้องทำงานหนักตอบแทน ไม่ให้กลายเป็นยาพิษ ยันยึดสันติแก้ชายแดน บอกไทยนี้รักสงบ แต่ถ้ารบก็ลองดู ลั่นที่ผ่านมาเห็นความอัปยศอดสู วันนี้จะไม่มีวันให้เกิดขึ้นกับประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ความพร้อมในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29-30 ก.ย.นี้ว่า ร่างนโยบายได้ส่งให้ทุกฝ่ายศึกษาแล้ว พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) ตามรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรีต้องลุกขึ้นอ่านนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาให้ได้รับทราบ ส่วนถามว่ามีความกังวลหรือไม่ด้วยระยะเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด นายอนุทิน กล่าวว่า จริงๆ แล้วเราไม่ได้เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ สำหรับพรรคภูมิใจไทยทำงานต่อเนื่องมากกว่า 6 ปีแล้ว เพิ่งไปพักร้อนช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้น สิ่งที่ยังทำค้างอยู่ในช่วง 2 เดือนที่หยุดไป คงไม่ถึงขั้นที่ต้องทำให้ยกเลิก สิ่งที่เราอยากจะทำอะไรไป เราสามารถสานต่อ และมีนโยบายใหม่ๆ ในฐานะที่เรามาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะสามารถใช้นโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจได้เพิ่มมากขึ้น หลายคนมีความคาดหวังกับรัฐบาลใหม่ และผลโพลหลายสำนัก คะแนนความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีเพิ่มสูงขึ้น จะสอดคล้องกับนโยบายและเป็นความคาดหวังให้กับประชาชนได้มากน้อยแค่ไหนนั้น […]