สมช.เดินหน้าตรวจสอบเอาผิดขบวนการแยกปัตตานี

ทำเนียบรัฐบาล 12  มิ.ย.-เลขาฯ สมช.ประชุมหน่วยงานมั่นคง ชี้การทำประชามติแยกปัตตานีเป็นเอกราชผิดกม. สั่งตรวจสอบพร้อมลงโทษทุกระดับไม่เว้นนักการเมือง  


พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) เปิดเผยภายหลังเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินสถานการณ์หลังจากที่ขบวนนักศึกษาแห่งชาติ จังหวัดชายแดนภาคใต้ทำประชามติแยกตัวเป็นเอกราช เมื่อวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา ว่า ได้รับรายงานความคืบหน้าภายหลังจากที่ได้ติดตามกรณีดังกล่าว     ซึ่งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ภาค 2 ส่วนหน้า(กอ.รมน.ภาค 4 สน.) และตำรวจภูธรภาค 9 กำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงเนื้อหาสาระของกิจกรรมในวันนั้นมีด้านใดบ้าง กิจกรรมในวันนั้นและการเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย มีประเด็นการกระทำที่ผิดกฎหมายเรื่องใดบ้าง ทั้งคำพูดและข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นการประกาศทำประชามติเพื่อแยกตัวเป็นเอกราช ซึ่งเรื่องนี้ขัดรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจนและผิดกฎหมาย ดังนั้น ต้องสืบสวนสอบสวน ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังพิจารณาในรายละเอียดว่าใครอยู่เบื้องหน้า เบื้องหลัง ผู้เกี่ยวข้อง ข้อมูลข้อเท็จจริง ทั้งที่ออกมาเปิดเผยทางโซเชียล เปิดเผยต่อสังคม ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร 

“ที่ประชุมได้สรุปสองส่วนคือให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินไปตามขั้นตอนอย่างเปิดเผย ยุติธรรม ชัดเจน ซึ่งจะต้องตรวจสอบว่าทำผิดหรือไม่ผิด และดำเนินการทางกฎหมายเท่าที่จำเป็น ยอมรับว่าสิ่งที่กังวลคือสิ่งที่เผยแพร่ต่อสาธารณชน ทั้งนี้ ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สภาสันติสุข ระดับตำบล และอีกหลายกลไกรับฟังความคิดเห็นของประชาชนมาโดยตลอด” เลขาธิการสมช. กล่าว


พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ส่วนที่สองคือดำเนินการตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเน้นย้ำเรื่องการสร้างความเข้าใจ กับประชาชนในพื้นที่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นผิดกฎหมาย การดำเนินการทุกอย่างจะต้องถูกกฎหมาย โดยต้องใช้ทุกมิติพูดคุยทำความเข้าใจกับประชาชน และเตรียมสรุปรายงาน เสนอนายกรัฐมนตรีต่อไป  แม้ยังไม่ได้ข้อสรุปแต่ได้รายงาน เบื้องต้นว่าเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการไปในด้านใดบ้างแล้ว

ส่วนที่มีการดำเนินการในลักษณะรุกคืบและรุนแรงขึ้นในช่วงนี้ เลขาธฺการสมช. กล่าวว่า เจ้าหน้าที่มีฐานข้อมูลเดิมอยู่แล้วว่ามีโยงใยฝ่ายไหนที่เกี่ยวข้องและเกิดขึ้นในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งรัฐบาลพยายามสร้างความเข้าใจมาโดยตลอดว่ามีเหตุผล ความจำเป็นอย่างไร ต้องการให้ประชาชนสามจังหวัดชายแดนจังหวัดใต้อยู่ดีกินดี  ปลอดภัยภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และพยายามตอบสนองความต้องการของประชาชนมาโดยตลอด แม้ว่าบางกลุ่มมีความคิดแตกต่าง ก็อธิบายให้เกิดความเข้าใจว่าผลดีผลเสียที่จะเกิดขึ้นตามมาเป็นอย่างไร

“เชื่อว่าทุกคนทราบอยู่แล้วมีนักการเมืองคนใดเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยทั้งที่อยู่เบื้องหน้าและเบื้องหลัง ขอให้เจ้าหน้าที่เป็นผู้ดำเนินการ และอยู่ในผลการสอบสวนอยู่แล้วว่าใครเกี่ยวข้องบ้าง” พล.อ.สุพจน์ กล่าว


ส่วนในช่วงหาเสียงเลือกตั้งมีพรรคการเมืองเสนอนโยบายให้เลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดภาคใต้ เลขาธิการสมช. กล่าวว่า การหาเสียงเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาค่อนข้างสุดโต่งและแรงในหลายเรื่อง ทำให้สภาความมั่นคงแห่งชาติมีข้อกังวล ผลการเลือกตั้งที่เกิดขึ้น แม้กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ยังไม่ได้รับรองส.ส. ฝ่ายการเมืองก็เคลื่อนไหวโดยพยายามจะพูดถึงนโยบายที่จะทำต่อไป โดยหลังการหาเสียงนโยบายเหล่านั้นกลับนุ่มนวลลง และสอดคล้องกับที่ภาครัฐทำอยู่ สอดคล้องกับข้อมูลเดิมที่มี แต่หลายสิ่งต้องนำข้อมูลเดิมที่ทำผิดกฎหมายมาเชื่อมโยงและพิจารณา

ส่วนสภาความมั่นคงแห่งชาติจะเอาผิดพรรคการเมืองได้หรือไม่ พล.อ.สุพจน์กล่าวว่า ขณะนี้ยังตอบไม่ได้และยังไม่ได้พูดคุยกับพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลที่หาเสียงนโยบายดังกล่าวไว้ ยืนยันว่าเรื่องนี้ยังเป็นเรื่องภายในประเทศ ไม่มีต่างประเทศเข้ามาแทรกแซงหรือสนับสนุน แต่ไม่ได้ตัดประเด็นนี้ออกไป เพราะทุกวันนี้การแก้ปัญหาในพื้นที่ได้พูดคุยระดับนโยบายกับองค์กรต่างประเทศที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง

“องค์กรต่างประเทศ ถ้าจะลงพื้นที่ต้องแจ้งกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงการต่างประเทศจะหารือกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ หากประเมินแล้วไม่กระทบต่อความมั่นคงในประเทศจะประสานไปยังศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) ซึ่งรับผิดชอบให้ไปดูแล พูดคุยกับองค์กรเหล่านั้น” เลขาธิการสมช. กล่าว

เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานีจะจัดกิจกรรมประกาศเจตนารมณ์ในลักษณะนี้ได้อีกหรือไม่ พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ต้องดูที่เจตนาข้อมูลผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าผิดกฎหมายทำไม่ได้ ซึ่งกอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้ายังไม่ได้รายงานความผิด แต่เรื่องการทำประชามติแยกเอกราชผิดกฏหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 1  ส่วนจะผิดกฏหมายอื่น ๆ อีกหรือไม่ ต้องไปดูพฤติกรรม หลักฐาน และสภาพแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้ารับผิดชอบดำเนินการโดยจะเชิญกระทรวงยุติธรรม สำนักงานอัยการให้ข้อเสนอแนะ 

ส่วนกรณีพรรคการเมืองที่เข้าร่วมกิจกรรมในวันดังกล่าว แต่ออกมาปฏิเสธความรับผิดชอบ เลขาธิการสมช. กล่าวว่า เมื่อมีความผิดก็ต้องดำเนินการตามกฏหมาย ขณะที่มหาวิทยาลัยจะต้องร่วมรับผิดชอบหรือไม่นั้น เห็นว่าเมื่อพิจารณาแล้วเป็นกิจกรรมวิชาการตามปกติ แต่กลับเกิดกิจกรรมที่สุ่มเสี่ยงขึ้น ดังนั้น ต้องตรวจสอบและทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนการป้องกันไม่ให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอีกคือต้องทำความเข้าใจ รับฟังความคิดเห็นในพื้นที่ตามกฏหมาย

เมื่อถามว่าฝ่ายความมั่นคงเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดการตอบโต้ สร้างความรุนแรงขึ้นในพื้นที่อย่างไร พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ประชาชนเข้าใจว่าความคิดของรัฐบาลจะไปต่อสู้หรือปิดกั้นความคิด แต่ต้องดูบริบทในพื้นที่ว่าจังหวัดชายแดนภาคใต้เดินหน้าแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีบางเรื่องที่ต้องปรับปรุงและพัฒนาแนวทางให้มีความก้าวหน้ายิ่งขึ้นต่อไป อีกทั้งชื่อว่าเดินทางมาในแนวทางที่ถูกต้องแล้ว มีความพยายามสร้างความสงบและไม่ก่อเหตุร้ายในพื้นที่ แม้จะเกิดอยู่บ้างก็ตาม   

“รัฐบาลต้องการพัฒนาพื้นที่ให้ประชาชนอยู่ดีกินดีมี สาธารณนูปโภคพื้นฐาน ดี มีศักยภาพในการประกอบอาชีพ มีความพยายามพูดคุยกับผู้ที่เห็นต่างทางการเมือง มาโดยตลอด และยกระดับพูดคุยกว้างขวางมากขึ้นทุกภาคส่วนและทุกกลุ่มไม่ใช่แค่กลุ่มบีอาร์เอ็น รวมถึงเชิญนักการเมือง ผู้ที่เป็นแกนนำมาพูดคุย ทำความเข้าใจและช่วยกันแก้ปัญหา อย่างไรก็ตาม กิจกรรมที่เกิดขึ้นก็ไม่เกินคาดที่ฝ่ายความมั่นคงประเมินไว้ และที่ผ่านมาก็มีกิจกรรมที่น่ากังวลเกิดขึ้น ซึ่งมาจากการสนับสนุนให้ประชาชนได้แสดงออกถึงความคิดเห็น ความต้องการและแสดงจุดยืนต่าง ๆ ภายใต้กรอบของกฎหมายที่ทำได้ เพื่อให้ประชาชนเข้าใจว่ารัฐบาลไม่ได้มีเจตนากดขี่ บังคับ มองทุกคนคือคนไทย แต่สิ่งใดที่ผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการ และสร้างความเข้าใจต่อไป เพื่อไม่ให้เกิดการทำผิดกฏหมาย” พล.อ.สุพจน์ กล่าว

เลขาธิการสมช. กล่าวว่า ในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคงไม่ได้ทำงานลำบาก สภาความมั่นคงแห่งชาติมีหน้าที่ชัดเจน มีหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลแผนงาน ปรับเปลี่ยนตามสภาพแวดล้อม ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลก็ตั้งนำเสนอข้อมูล โดยฝ่ายความมั่นคง ทำงานตามบทบาท ตามหน้าที่และกฏหมาย

ส่วนฝ่ายความมั่นคงประเมินสถานการณ์หลังการเลือกตั้งอย่างไร พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ได้ประเมิน สถานการณ์กรณีที่ต้องระมัดระวัง เลวร้ายที่สุดหรือ worst -case   เช่น อาจจะเกิดความขัดแย้งทางการเมือง มีการชุมนุม การก่อความไม่สงบ เรื่องนี้เป็นหน้าที่โดยตรงของ สภาความมั่นคงแห่งชาติที่จะต้องเตรียมพร้อมไว้อย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ต้องมีความพร้อม หากออกมาชุมนุมโดยสงบก็เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่จะต้องดูแลให้เกิดความปลอดภัยกับทุกฝ่าย แต่ถ้าเกิดก่อเหตุรันแรงและเหตุร้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าไปจัดการ ป้องกัน ยุติ ระงับยับยั้ง

ส่วนกรณีนายอานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มราษฎรโพสต์ระดมมวลชนร่วมชุมนุมกดดันให้สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เลขาธิการสมช.กล่าวว่า ขณะนี้ทางการข่าวยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง พล.อ.สุพจน์ กล่าวฝากถึงประชาชน ว่า หน่วยงานความมั่นคงเคยพูดหลายครั้ง ประเทศไทยจะเดินหน้าทุกมิติ ราบรื่น คือการมีรัฐบาลที่มั่นคง ไม่มีเหตุ มีความสงบจะเป็นที่มั่นใจให้กับภาคเศรษฐกิจ ดังนั้น ถ้าทุกอย่างเดินหน้าตามกรอบกฎหมาย ประเทศไทยจะไปได้ดี.-สำนักข่าวไทย         

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง

กทม. 10 ส.ค.-กรมอุตุฯ รายงานไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่งบริเวณภาคอีสาน ตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก คลื่นลมทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบนและประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนจะมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ […]

รฟท.เร่งกู้รถไฟตกรางที่กุยบุรี คาดเสร็จภายในเที่ยงคืนนี้

ประจวบคีรีขันธ์ 9 ส.ค. – รฟท.เร่งกู้รถไฟตกรางที่กุยบุรี คาดเสร็จสิ้นภายในเที่ยงคืนนี้ ด้าน พฐ.ร่วมตรวจหาสาเหตุตกรางกับนายช่างรถไฟ สันนิษฐานเบื้องต้นนอตล็อกประแจสับรางหลุด ส่วนผู้บาดเจ็บ 10 ราย ออกจาก รพ.แล้ว ความคืบหน้าเหตุรถไฟขบวนด่วนพิเศษ สุไหงโก-ลก ปาดังเบซาร์ ปลายทางสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ประสบอุบัติเหตุตกราง ก่อนถึงสถานีรถไฟกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 100 เมตร เหตุเกิดเมื่อช่วงตี 5 วันนี้ โดยตู้โดยสารที่เกิดเหตุคือ 3 ตู้สุดท้าย 10-12 ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 10 คน นำส่งโรงพยาบาลกุยบุรี ผู้โดยสารตู้ที่ตกราง เจ้าหน้าที่จัดรถบัสนำส่งต่อไปยังจุดหมายปลายทาง ส่วนตู้โดยสารที่ไม่ตกราง เดินทางต่อจนถึงสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ ล่าสุดตำรวจ สภ.กุยบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจหาสาเหตุรถไฟตกราง ร่วมกับนายช่างวิศวกรของการรถไฟฯ อีกครั้ง จากการตรวจสอบสันนิษฐานเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากนอตยึดอุปกรณ์ประแจตัวสับรางหลุด ขณะที่ขบวนรถไฟวิ่งผ่านไปแล้ว 9 ตู้ เหลือ 3 ตู้สุดท้าย ทำให้ไม่สามารถบังคับให้วิ่งตามไปด้วยกันได้ จึงถูกกระชากหลุดด้วยแรงเฉื่อยของความเร็วรถไฟแล้วตกจากราง หรืออาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ […]

“บุ๋ม” รับผ้ายันต์-เหรียญครุฑ หลวงพ่อวราห์ แจกทหารชายแดน

9 ส.ค. – “บุ๋ม ปนัดดา” เริ่มภารกิจโฆษกจิตอาสา ศบ.ทก. วันแรก เข้ารับผ้ายันต์-เหรียญครุฑ จากหลวงพ่อวราห์ นำไปมอบให้ทหารชายแดนไทย-กัมพูชา สร้างขวัญกำลังใจแนวหน้า บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี โฆษกจิตอาสา ศบ.ทก. ที่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ หรือบิ๊กเล็ก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่งตั้ง เข้าพบหลวงพ่อวราห์ พระเทพวชิระวิทยานุสิฐ วราห์ ปุญฺญวโร ตำนานผู้สร้างพญาครุฑ เพื่อรับผ้ายันต์และเหรียญครุฑ ไปแจกให้ทหารตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจทหารแนวหน้า บุ๋ม ปนัดดา กล่าวว่า ได้รับการประสานจากหลวงพ่อวราห์ ให้เข้ามารับผ้ายันต์และเหรียญครุฑ นำไปมอบให้กับทหารชายแดน เพราะทหารต้องการขวัญและกำลังใจ ดังนั้น อะไรที่ทำให้ทหารอุ่นใจและมีกำลังใจก็จะทำให้ สำหรับผ้ายันต์หลวงพ่อวราห์ แห่งวัดโพธิ์ทอง บางมด กรุงเทพฯ ผ้ายันต์รุ่นบูชาครู จำนวน 2,000 ผืน และเหรียญครุฑ รุ่นเฉพาะกิจ จำนวน 2,000 เหรียญ ที่บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี […]

“มาริษ” เผยเห็นภาพชัดขึ้น หลังลงพื้นที่เสียหาย จ.สุรินทร์

สุรินทร์ 9 ส.ค.- “มาริษ” เผยเห็นภาพชัดขึ้น หลังลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ สำรวจความเสียหายจากการโจมตีของกัมพูชา เตรียมใช้เป็นข้อชี้แจงนานาชาติ กัมพูชาใช้อาวุธระยะไกลโจมตีพื้นที่พลเรือน ยันพร้อมประสานให้ ICRC – UN มาดูพื้นที่ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนภายหลังการลงพื้นที่สำรวจความเสียหายที่จังหวัดสุรินทร์ จากเหตุการณ์ปะทะกันตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ว่า เรื่องข้อมูลของการละเมิดสิทธิ และละเมิดกฎสหประชาชาติกฎหมายระหว่างประเทศของกัมพูชา เรามีข้อมูลครบถ้วนอยู่แล้ว เมื่อวันนี้ได้มาเห็นสภาพจริง และมาเก็บข้อมูลเพิ่มเติม ได้เห็นภาพนอกเหนือจากข้อมูล ก็เป็นภาพที่เห็นชัดเจน รวมถึงการบรรยายสรุปของผู้ว่าราชการจังหวัด เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ที่อธิบายให้เห็นการโจมตีเป้าหมายที่ห่างไกลออกจากเขตแดน ซึ่งตนเองใช้เป็นข้อชี้แจงกับนานาชาติ และองค์กรสหประชาชาติว่าการใช้ประเภทอาวุธระยะไกลของฝ่ายกัมพูชาจะทำให้เกิดปัญหา และจะทำให้ประชาชนพลเรือนได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งเป็นการโจมตีเป้าหมายไปยังพลเรือน แต่ยังไม่สามารถเข้าไปดูพื้นที่กับระเบิด และวันนี้ทราบว่ามีทหารเหยียบกับระเบิดที่วางอยู่ตามแนวชายแดน โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศชี้แจง และแสดงความผิดหวัง และไม่ปราถนาที่จะเห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นในช่วงการเจรจา เพื่อแก้ไขปัญหาระหว่างกันให้สำเร็จอย่างยั่งยืน ส่วนนี้เราจะแสดงจุดยืนที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้อาวุธ หรือทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ที่ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา อย่างชัดเจน นายมาริษ กล่าวว่าการเดินทางมาครั้งนี้ ได้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้นในสิ่งที่เราเรียกร้องมาโดยตลอด ว่าเราทำตนอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว และได้แสดงตนให้ประชาคมโลก […]