“เพื่อไทย-ก้าวไกล” โชว์หวานสยบรอยร้าว พร้อมร่วมหัวจมท้าย

พรรคประชาชาติ 30 พ.ค. – 8 พรรคร่วมไม่มีคุยตำแหน่งประธานสภาฯ ขอให้เป็นเรื่องของ 2 พรรค “เพื่อไทย-ก้าวไกล” โชว์หวานประกบมือรูปหัวใจ สยบรอยร้าว พร้อมร่วมหัวจมท้ายไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใด เหตุได้รับอาณัติจากประชาชน 25 ล้านเสียง ชี้เป็นข้อผูกมัดที่แน่นมาก ด้าน “พิธา” ยันไม่มีขู่ ส.ว.ให้โหวตเป็นนายกฯ มองเป็นการรักษาระบบสภามากกว่า


นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีตำแหน่งประธานสภาฯ ว่า วันนี้ยังไม่มีการพูดคุยถึงประเด็นนี้ แต่จะให้เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล โดยจะพยายามพูดคุยให้ได้ข้อสรุปในวันและเวลาที่เหมาะสม ยังไม่กำหนดวันว่าจะเสร็จวันนั้นวันนี้ แต่จะให้เป็นตามกระบวนการก่อนวันประชุมสภาฯ เพื่อเดินหน้าแก้ปัญหาให้ประชาชนได้

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า คณะทำงานพูดคุยเบื้องต้น มีข้อตกลงชัดเจนว่า ตำแหน่งประธานสภาฯ จะให้ทั้งสองพรรคพูดคุยร่วมกัน ไม่ใช่โควตาของพรรคใดพรรคหนึ่ง และจะไม่ให้เป็นปัญหาต่อการจัดตั้งรัฐบาล หรือเป็นข้อขัดแย้ง แตกแยก เพราะเรามัดแน่นกันอยู่แล้ว เพราะล้วนต้องการตำแหน่งประธานสภาฯ ที่สนับสนุนการเลือกนายกรัฐมนตรี มุ่งเน้นประโยชน์ของประชาชน โดยจะทำให้เร็วที่สุด หาก กกต. รับรอง ส.ส. ก็จะยุติเรื่องนี้ก่อนเข้าสู่กระบวนการ


ส่วนกรณีที่นายสมชาย แสวงการ ส.ว. ออกมาพูดผ่านรายการวิทยุว่า มีคนพยายามข่มขู่ ส.ว.ให้โหวตเลือกนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น นายพิธา ยืนยันว่า ไม่มีการข่มขู่ แต่เป็นการรักษาระบบสภา และหาทางออกให้บ้านเมือง ที่ผ่านมาคณะทำงานเจรจาได้พูดคุยก็เป็นไปด้วยดี ส่วนที่มีกระแสกดดัน ส.ว. หรือคุกคามให้เลือกตนเองนั้น มองว่า การที่ ส.ว. จะโหวตให้ ไม่ใช่แค่โหวตให้ตนเอง แต่เป็นการรักษาระบบไว้ ในส่วนของการคุกคามจะมีหรือไม่นั้น ไม่เคยได้ยิน และไม่รู้เนื้อหานั้นมาจากฝ่ายไหน ส่วนตัวเห็นว่า หมดเวลาแล้วที่จะมาทะเลาะกัน ยืนยันทุกอย่างเป็นไปในทิศทางที่ดี

นายพิธา ยังไม่กังวลเรื่องการถือครองหุ้นสื่อ ITV เพราะได้ปรึกษาฝ่ายกฎหมายแล้ว และมีคำแนะนำถึงทางออกเรื่องนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ต้องขอดูคำร้องก่อน

ส่วนกระแสข่าวดีลลับที่ออกมารายวัน ส่งผลต่อความเชื่อมั่น และทำให้เกิดความสั่นคลอนระหว่างทั้ง 2 พรรค หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกว่าทั้ง 8 พรรคร่วม มีความสั่นคลอน เข้าใจว่าเป็นส่วนหนึ่งทางการเมืองที่มีทุกยุคทุกสมัย และสิ่งที่มาร่วมกันเริ่มทำวันนี้ คือ เอาปัญหาประชาชนมาเป็นที่ตั้ง เพื่อให้มีชุดคำตอบของความท้าทายต่างๆ


นพ.ชลน่าน ยืนยันเพื่อความเชื่อมั่นของประชาชน การทำงานร่วมกันระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลนั้น พรรคเพื่อไทยได้พูดตลอดว่า ได้รับอาณัติจากประชาชน 25 ล้านเสียง ซึ่งทั้งสองพรรคปฏิเสธไม่ได้ ในการทำความหวังของประชาชนให้บรรลุเป้าหมาย โดยเฉพาะรัฐบาลจากฝ่ายเสรีประชาธิปไตย ที่ต้องการปิดกั้นอำนาจที่ไม่ชอบธรรม ซึ่งเป็นภารกิจที่ทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลเห็นตรงกันอยู่แล้ว มันเป็นการมัดที่แน่นกว่าการมัดอย่างอื่น เป็นข้อผูกมัดที่ต้องคำนึงถึงอย่างมาก ก็ให้ความมั่นใจ “ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป เพื่อเป็นรัฐบาลของประชาชนให้ได้”

ระหว่างนี้ นายพิธา ได้หันมามอง นพ.ชลน่าน พูด และอมยิ้มตลอดเวลา ซึ่งเป็นจังหวะที่ นพ.ชลน่าน หันไปสบตานายพิธา เพื่อเป็นการยืนยันถึงความจริงใจ จากนั้นจึงได้จับมือ และนายพิธาได้โอบไหล่ นพ.ชลน่าน จน นพ.ชลน่าน หันมาถามสื่อมวลชนว่า “หวานมั้ยๆ” ก่อนที่ทั้งคู่จะหัวเราะ และ นพ.ชลน่าน ได้เอามือไปโอบไหล่นายพิธา ซึ่งนายพิธา ตอบรับด้วยการใช้มือขวาจับมาที่มือ นพ.ชลน่าน ถือเป็นการสยบรอยร้าวจากกระแสข่าวดีลลับ และตำแหน่งประธานสภาฯ ที่มีมาตลอดทั้งสัปดาห์

นายพิธา ยังกล่าวถึงนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาท ว่า เรื่องนี้ได้มอบหมายให้คณะกรรมการด้านเศรษฐกิจไปพูดคุยกัน ซึ่งเบื้องต้นจากการคุยกับสภาอุตสาหกรรมฯ และหอการค้าไทย ที่ได้พูดถึงความจำเป็นที่ต้องขึ้นค่าแรง 450 หากภาคเอกชนต้องการสะท้อนปัญหาก็พร้อมรับฟัง เช่นเดียวกับเรื่องกัญชา ที่จะต้องพูดคุยกันให้ชัดว่าจะเป็นอย่างไร เพราะส่วนใหญ่เห็นด้วยกับกัญชาทางการแพทย์ พร้อมยืนยันกัญชาหลายประเภทที่อยู่ในยาเสพติด นำไปใช้ในทางการแพทย์ได้ ไม่ใช่ให้เป็นยาเสพติดทั้งหมด

ส่วนกรณีกฎหมายสมรสเท่าเทียม นายพิธา ระบุว่า ยังเป็นไปตามที่ระบุไว้ใน MOU คือ เป็นการรับรองสิทธิ ไม่ได้บังคับ

ด้านนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า เป็นกฎหมายที่ใช้กับผู้ที่สมัครใจ ไม่บังคับศาสนา ส่วนรายละเอียดและขอบเขต จะต้องกำหนดไว้ในกฎหมาย

ทั้งนี้ ช่วงท้ายของการแถลงข่าว นายพิธาได้เปิดให้หัวหน้าแต่ละพรรคได้พูดถึงทิศทางการทำงานร่วมกัน ซึ่งนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา กล่าวว่า “ตนขอเน้นย้ำว่า วันนี้เวลาและความหวังของประชาชนใกล้มาถึงเรื่อยๆ ตนจึงอยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันทำให้เวลาและความหวังของประชาชนมาถึงด้วยความเรียบร้อย ตามเจตนารมณ์ของประชาชนที่ใช้สิทธิในการเลือกตั้งที่ชี้ไว้แล้ว ตนไม่อยากให้มีฝ่ายหนึ่งไปยื้อเรื่องนี้ ทำให้ประชาชนผิดหวัง ไม่อยากให้ทุกคนไปดูถูกว่าประชาชนไร้ซึ่งอำนาจ ตนอยากให้ทุกคนเห็นว่าความหวังของประชาชนเป็นสิ่งที่มีพลัง ถ้าเราไม่สนใจเรื่องนี้และปล่อยให้เกิดพลังนั้นขึ้นมา สิ่งที่เราไม่ต้องการก็อาจจะเกิดขึ้นได้ ขอให้ช่วยกันทำความหวังของประชาชนให้เป็นจริง

ส่วนคณะทำงานทั้ง 8 พรรค จะทำงานได้มากน้อยแค่ไหน มีเครื่องชี้วัดคือประชาชน เราจะอยู่ไม่ได้ ถ้าเราไม่ทำงานตามคำมั่นสัญญา หรือ MOU ที่เราได้ให้คำมั่นสัญญากับประชาชน และพวกเราก็พร้อมที่จะไป เมื่อประชาชนไม่ต้องการ เราจะไม่ยื้อทำงานจนกระทั่งมีพลังมากดดันเรา ไม่จำเป็น ในทางการเมือง เรามาได้ก็ไปได้ เมื่อประชาชนต้องการ และพร้อมที่จะไป ถ้าประชาชนไม่ต้องการ และเห็นว่าเราอยู่ไปไม่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน อย่าให้มีการดูถูกว่าเมื่อประชาชนหวังแล้ว เราก็ผลักความหวังเขาออกไป ดังนั้น ขอทุกคนช่วยกัน”

นพ.ชลน่าน กล่าวเพิ่มเติมว่า พรรคเพื่อไทยมี 3 ประเด็นที่จะแจ้งแก่ประชาชน คือ พรรคเพื่อไทย สนับสนุนภารกิจ คณะกรรมการประสานงานระยะเปลี่ยนผ่าน และคณะทำงานชุดต่างๆ เพื่อให้ได้นโยบายที่ดีที่สุดของรัฐบาล เป็นคำแถลงนโยบายที่ดีที่สุด การจัดสรรตำแหน่งต่างๆ พรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า เป็นการแบ่งงานกันทำตามวาระงาน ที่หัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่าที่นายกฯ จะใช้วาระงานเป็นหลัก เสนอร่วมกันใน MOU และดีลล้วง ดีลลับต่างๆ เพื่อไทยยืนยัน จะเปลี่ยนเป็นดีลรักให้หมด เพื่อรัฐบาลของประชาชน

ขณะที่นายปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม กล่าวว่า หลังเซ็น MOU ได้รับการประสานจากข้าราชการ เอกชน ที่เสนอแนวคิด ข้อห่วงใยในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งถือเป็นมิติใหม่ทางการเมือง จึงขอฝากว่า อย่าเกรงว่ารัฐบาลใหม่ที่จะเข้าไปจะไปเปลี่ยนแปลง หรือส่งผลกระทบกับการทำงานของข้าราชการ พร้อมส่งทีมกฎหมายไปช่วยเหลือ เชื่อคำร้องจะถูกตีตกไปอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม หลังจบการแถลงข่าว นพ.ชลน่าน และนายพิธา ได้ทำมือเป็นสัญญาณ เป็นรูปหัวใจประกบกัน ซึ่งทำให้บรรยากาศความตึงเครียดตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาดูผ่อนคลายลง โดยเฉพาะ นพ.ชลน่าน ที่ดูผ่อนคลายและมีรอยยิ้มตลอดการแถลงข่าว ขณะเดียวกัน เป็นที่สังเกตได้ว่า ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะไม่มี น.ต.ศิธา ทิวารี จากพรรคไทยสร้างไทย มาร่วมประชุมในวันนี้ด้วย

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดโต๊ะแถลงข่าวของพรรคประชาชาติ ได้ใช้ปลอกคลุมหัวไมค์เป็นสีประจำของแต่ละพรรคการเมือง เช่น สีส้มของพรรคก้าวไกล สีแดงของพรรคเพื่อไทย ซึ่งทางพรรคประชาชาติให้เหตุผลว่า สีของไมค์มาจากโลโก้ของพรรคประชาชาติ ที่เป็นดอกจำปา ซึ่งมีหลายสี สะท้อนถึงความหลากหลายที่มาจากพหุวัฒนธรรมที่หลากหลาย แต่สามารถอยู่ร่วมกันได้. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]