พรรคเพื่อไทยเปิดเวทีปราศรัย ชาวโคราชแห่ฟังคึกคัก

โคราช 6 พ.ค. – ชาวโคราชแห่ฟังคึกคัก ‘เศรษฐา’ ถาม ‘ประยุทธ์’ รถไฟฟ้า 8 ปี ทำไมได้แค่ 3 กิโลเมตร ถ้ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่ถูกรัฐประหาร รถไฟฟ้าไปถึงเมืองจีนแล้ว ด้าน ‘ณัฐวุฒิ’ ชี้ฝ่ายประชาธิปไตยต้องอ่านเป้าหมายให้ขาด ต้องเปลี่ยนรัฐบาลไล่ประยุทธ์ออกไป ตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยให้ได้ก่อน


พรรคเพื่อไทยเปิดเวทีปราศรัย คิดใหญ่ ทำเป็นเพื่อไทยทุกคน ณ ลานกิจกรรมอเนกประสงค์ หน้าสระใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย และที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายพานทองแท้ ชินวัตร ที่ปรึกษาศูนย์ปฏิบัติการการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย นายนพดล ปัทมะ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย นายอดิศร เพียงเกษ คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย ผู้สมัครเขต 6 นายโกศล ปัทมะ เบอร์ 6, เขต 7 น.ส.ปิยะนุช ยินดีสุข เบอร์ 1 และเขต 16 นายพรเทพ ศิริโรจนกุล เบอร์ 1 โดยมีพี่น้องในอำเภอบัวใหญ่ และอำเภอใกล้เคียง มาร่วมฟังร่วม 20,000 คน มาฟังปราศรัยอย่างคึกคักเต็มพื้นที่

นายเศรษฐา ทวีสิน ปราศรัยว่า จังหวัดนครราชสีมา มี ส.ส. มากถึง 16 คน รองจากกรุงเทพมหานคร 30 กว่าปีที่แล้วที่เคยมาเยือนสมัยรัฐบาลพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ นครราชสีมาคือศูนย์กลางเศรษฐกิจ คมนาคม มีประชากรคุณภาพ สามารถผลักดันไทยไปสู่อนาคต แต่หลังรัฐประหาร 8 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นครราชสีมากลับถูกละเลยไม่ได้รับการพัฒนา เพราะแม้แต่โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่ริเริ่มสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตัวเองกลับมาสร้างได้เพียงแค่ 3 กิโลเมตร เราจะต้องฝันอีกเท่าไรกว่าที่นครราชสีมาจะเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ คมนาคมขนส่งของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล รถไฟฟ้าความเร็วสูงสร้างเสร็จไปเชื่อมต่อกับประเทศจีนได้แล้ว


พรรคเพื่อไทยมีนโยบายเศรษฐกิจที่จะทำให้พี่น้องอยู่ดีกินดี ตั้งแต่ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน ภายในปี 2570 ครอบครัวไหนมีรายได้ต่อเดือนไม่ถึง 20,000 บาท จะจัดสำรวจและเติมให้เต็ม 20,000 บาททุกเดือน พร้อมนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท สำหรับคนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป เงินนี้เป็นเงินก้อนใหญ่ที่อยากให้พี่น้องสามารถไปตั้งตัวเปิดกิจการได้ นี่คือเพิ่มรายได้ และเราจะลดรายจ่าย การประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรกจะค่าไฟลดทันที พร้อมพักหนี้เกษตรกรทั้งต้นทั้งดอก 3 ปี สินค้าเกษตรจะราคาดี เพราะเราจะเอาสินค้าเกษตรไปขายทั่วโลก เราจะเป็นผู้นำที่มีหัวใจ เข้าใจตลาดโลก ทำงานให้ประชาชนทุกวินาที

“อีกแค่ 8 วัน จะเป็นครั้งสำคัญ เราบอบช้ำมา 8 ปี ไม่สามารถทนได้อีก 4 ปีกับรัฐบาลเดิมๆ แล้ว ถ้าอยากให้นโยบายที่พูดไปเกิดขึ้นได้ ส.ส.โคราช 16 คน ของพรรคเพื่อไทย นำโดยนายประเสริฐ เป็นขุนศึกใหญ่ของพรรคเพื่อไทยในจังหวัดนครราชสีมา ขอให้เลือกผู้สมัครเพื่อไทยไปเป็นตัวแทนช่วยผลักดันนโยบายดีๆ ของเพื่อไทย 14 พฤษภาคมนี้ อย่าปันใจ แต่เทใจทั้งหมดให้พรรคเพื่อไทย 2 เท้าเข้าคูหา กาเพื่อไทย ทั้งคนทั้งพรรคทั้งสองใบ” นายเศรษฐา กล่าว

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กล่าวว่า เวลานี้เป็นเวลาแห่งการต่อสู้ที่แหลมคมของทั้งสองฝ่าย คือฝ่ายประชาธิปไตย คือพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมฝ่ายค้าน กับฝ่ายอนุรักษ์นิยม ย้อนไปปี 2549 ฝ่ายอนุรักษ์นิยม ต้องด่าเหยียบย่ำทักษิณ ชินวัตร ถ้าใครสนับสนุนจะโดนด่าไปด้วยอย่างไม่มีชิ้นดี ยกตัวอย่างเช่น นายเนวิน ชิดชอบ แต่เมื่อนายเนวิน พลิกขั้วกลับไปกอดเอวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สนับสนุนตั้งรัฐบาล มวลชนฝ่ายอนุรักษ์นิยมก็ไม่เคยต่อต้านนายเนวินอีกเลย หรือต่อต้านนายอภิสิทธิ์ ว่าไปเอาพวกนายเนวินคนของทักษิณมาได้อย่างไร หรือยกตัวอย่างใกล้ๆ นายแรมโบ้ อีสาน ผู้โดดเด่นเรื่องความกตัญญูในโคราช สมัยเป็นแกนนำเสื้อแดง ฝ่ายอนุรักษ์นิยมด่ายับ แต่ทันทีที่พลิกไปสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มวลชนฝ่ายอนุรักษ์นิยมก็อ้าแขนรับทันที ไม่มีมวลชนไปโวยวาย ซ้ำเชียร์แรมโบ้ยกเป็นฮีโร่ของฝ่ายอนุรักษ์นิยม


สองเหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่ามวลชนของฝ่ายอนุรักษ์นิยมเขาไม่ได้มีหลักการ เขายึดแต่เป้าหมาย เป้าหมายคือช่วงชิงอำนาจรัฐจากฝ่ายตรงข้าม เขารู้ว่าอภิสิทธิ์เลือกตั้งกีทีก็แพ้ แต่พอดึงเนวินไปร่วมตั้งรัฐบาล มวลชนอ้าแขนรับทันที เพราะบรรลุเป้าหมายเป็นรัฐบาล นี่ก็เช่นเดียว เป้าหมายมวลชนเขาคือทำอย่างไรก็ได้ให้เหยียบย่ำพรรคเพื่อไทยให้จมดิน ใครย้ายข้างไปเขาเปิดรับ เพราะเขาเน้นเป้าหมาย

กลับกันฝ่ายเรา ตนไม่ได้บอกให้เรามองแต่เป้าหมายหรือไม่สนใจอุดมการณ์ไม่ใช่ แต่เราต้องยึดหลักการให้มั่นคงและอ่านเป้าหมายให้ขาดว่า วันนี้เป้าหมายเราคืออะไร ถ้าเป้าหมายของเราคือตั้งรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตยให้ได้ หยุดอำนาจประยุทธ์ประวิตร ผลักประยุทธ์ ประวิตร ออกไปจากวงจรการเมือง โดยไม่ต้องทรยศอุดมการณ์ประชาธิปไตย และเมื่อเป้าหมายชัดจึงชวนท่านว่าเพื่อไทยเป็นพรรคเดียวที่จะชนะเกินครึ่ง เกิน 300 ที่นั่งได้ จึงชวนท่านจับมือให้บรรลุเป้าหมายแรกก่อน

“ไม่ว่าท่านจะฝันเปลี่ยนแปลงใดๆ ไม่ว่าเป้าหมายจะยิ่งใหญ่กว้างไกลเพียงไหน แต่ถ้าไม่บรรลุเป้าหมายแรกคือ เปลี่ยนรัฐบาลไม่ได้ ท่านก็ไม่มีทางเดินไปสู่เป้าหมายต่อๆ ไป ดังนั้น เที่ยวนี้ แม่นยำในเป้าหมาย ชัดเจนในเป้าหมาย และสำเร็จไปด้วยกัน ยืนยันประชาธิปไตยเลือกพรรคเพื่อไทยแลนด์ทั้งแผ่นดิน ตั้งรัฐบาลของประชาชน” นายณัฐวุฒิ กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบแล้วบ้าน “พระอลงกต” ที่ขอนแก่น ชาวบ้านเผยเป็นคนใจดี

ขอนแก่น 25 ส.ค. – พบแล้วบ้านของ “พระอลงกต” ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง ชาวบ้านเผย “พระอลงกต” เป็นคนใจดี กลับมาแจกเงินทุกปี พอเห็นข่าวรู้สึกตกใจและสงสาร เพราะเที่เคยสัมผัสเป็นคนใจดี ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลเพื่อตามหาบ้านของพระอลงกต รู้ว่าเป็นคน จ.ขอนแก่น ตั้งแต่กำเนิด สืบค้นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน พบระบุว่าบ้านเกิดของหลวงพ่ออลงกต อยู่ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง และไปพบบ้านของพ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ซึ่งทุกคนไม่ได้เรียกว่าพระอลงกต แต่จะคุ้นเคยเรียกกันว่าพระจอร์จ และนิสัยของพระพระอลงกตมีแต่เรื่องราวดีๆ มอบให้กับสังคม พระอลงกตจะแวะเวียนมาบอกบุญเสมอปีละครั้ง ในช่วงวันเกิดที่โรงเรียนแก่นนคร ที่พระอลงกตเคยศึกษา อย่างช่วงที่พ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ยังมีชีวิต พ่อเฉยจะทำว่าวให้เด็กๆ ละแวกนี้เล่น เป็นที่รักของคนในชุมชนเช่นกัน พี่สาวของพระอลงกต ขายข้าวแกงอยู่ตรงข้ามบ้านพักข้าราชการ ซึ่งบ้านของครอบครัวพระอลงกต จะอยู่ติดกับรั้วของสำนักงานทางหลวง แต่พอครอบครัวพระอลงกตเกษียณก็พากันย้ายออกไปอยู่ที่อื่น บ้านพักปัจจุบันนี้ไม่มีใครอยู่ และบ้านส่วนตัวก็ไม่มีใครอยู่อาศัยเช่นกัน พระอลงกตออกจากบ้านไปช่วงปี 2527 แต่พระอลงกตจะกลับมาที่บ้านส่วนตัวทุกปี หลังจากเป็นเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อมาทำบุญวันเกิดโรงเรียนแก่นนคร มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ เสมอ […]

ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์”

กทม. 24 ส.ค.-ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่า ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยโวยวายและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ คาดน่าจะเกิดจากมึนเมา กรณีนักแสดงสาว “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่าวัด ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยได้ลงจากรถมาโวยวายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทาง พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ช่วงเวลาประมาณ 02.00-04.00 น. ได้ขอตรวจรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ สีเขียว ปรากฏว่ามี น.ส.มารี เบรินเนอร์ นักแสดงสาว เป็นผู้ขับขี่ และมีนายอัศม์กรณ์ โดยสารมาด้วย ซึ่งนั่งข้างหน้า และมีผู้หญิงมาด้วยอีก 2 คน เมื่อขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ นายอัศม์กรณ์ กลับโวยวาย ขัดขวางไม่ให้ตรวจ และมีการด่าทอด้วยคำที่หยาบคาย แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ในที่สุดตำรวจได้คุมตัวทั้งหมดมายัง สน.วังทองหลาง พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ กับนางสาวมารี เนื่องจากนางสาวมารี ไม่ยินยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ จากนั้นนางสาวมารี ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 20,000 บาท […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]

“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดี เป็นคลิปตกแต่งเสียง

ทำเนียบ 24 ส.ค.-“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดีศาล รธน. ที่ “ชวน” ได้ยินเป็นคลิปตกแต่งเสียง ฟังกี่รอบก็ชัดว่า “นั่งลงครับ” เตือนประชาชนบิดเบือนข้อมูลใส่ร้าย อย่าโพสต์ ไม่ชัวร์ อย่าแชร์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ กล่าวถึง กรณีมีการบิดเบือนคำพูดในวันสืบพยานของนายกรัฐมนตรี โดยหลังจากนายกรัฐมนตรีกล่าวคำสาบานตนแล้ว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งได้กล่าวคำว่า “นั่งลงครับ” แต่กลับมีกระบวนการนำไปบิดเบือนและตกแต่งเสียง โดยกล่าวหาว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพูดว่า “นั่งลงลูก“ ซึ่งเป็นการบิดเบือน ขณะเดียวกัน ยังพบว่าอดีตประธานรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ได้สัมภาษณ์ให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวหลายประเด็น ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า นายชวน หลีกภัย อาจจะยังไม่ได้ฟังคลิปเต็มๆ จริงๆ ในวันดังกล่าว หรือไม่ก็อาจจะได้ฟังจากคลิปที่ถูกบิดเบือนและตกแต่ง ซึ่งความเป็นจริงการบันทึกเสียงทั้งหมดหรือการกล่าวบนบัลลังก์ คนที่นั่งอยู่ในห้องพิจารณาก็ได้ยินตรงกันว่า “นั่งลงครับ” ทั้งสิ้น นายจิรายุ กล่าว ตนในฐานะเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ ติดตามการทำงานกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ไม่มีเหตุผลใดๆ ในกระบวนการยุติธรรมที่จะใช้คำพูดในลักษณะเช่นนี้ […]

ข่าวแนะนำ

จับตา “คาจิกิ” หลายจังหวัดภาคเหนือเตรียมรับมือน้ำท่วมดินถล่ม

25 ส.ค. – หลายจังหวัดทางภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเคยเผชิญน้ำท่วมครั้งใหญ่ทั้งน่าน ชายแดนแม่สาย เชียงราย และเชียงใหม่ ต่างเร่งเตรียมรับมือพายุคาจิกิ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบชัดเจนตั้งแต่พรุ่งนี้ นอกจากเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากแล้ว บางพื้นที่ยังเสี่ยงดินโคลนถล่มด้วย โดยเฉพาะหมู่บ้านใกล้เชิงเขาที่จังหวัดน่าน ซึ่งเกิดดินสไลด์จนกระทบบ้านเรือนนับสิบหลังก่อนหน้านี้ ตอนนี้ต้องอพยพชาวบ้านกว่า 20 ครอบครัวออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บ้านหนองจาน” วุ่น เขมรบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่ทหารไทย

สระแก้ว 25 ส.ค. – ชายแดนสระแก้วตึงเครียด ชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่เจ้าหน้าที่ ในพื้นที่บ้านหนองจาน ทหารไทยเจ็บ 1 นาย ด้านกองทัพภาคที่ 1 แจงเป็นความเข้าใจผิดของฝ่ายกัมพูชา สถานการณ์บริเวณแนวชายแดนไทย–กัมพูชา พื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ยังคงเกิดความตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง หลังจากทางฝั่งกัมพูชาได้ประกาศเสียงตามสาย เรียกระดมชาวบ้านให้ออกมารวมตัวกันยังพื้นที่พิพาทติดแนวชายแดน โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายป่าไม้ และที่ดินของกัมพูชา เข้าร่วมอยู่ในพื้นที่ด้วย เมื่อชาวบ้านจำนวนหนึ่งเดินทางมาถึง เกิดเหตุเหตุจราจลขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากกลุ่มชาวกัมพูชาบางส่วนพากันบุกเข้ามารื้อรั้วลวดหนามที่ฝ่ายไทยขึงกั้นไว้เพื่อป้องกันการรุกล้ำ นอกจากนี้ ยังมีการขว้างปาสิ่งของเข้าใส่เจ้าหน้าที่ฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บแล้ว 1 นาย ขณะปฏิบัติหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าประชาชนจากฝั่งกัมพูชายังคงทยอยเดินทางเข้ามาสมทบเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้บรรยากาศตึงเครียดยิ่งขึ้น ด้านกองกำลังทหารไทยจึงได้เสริมกำลังเข้าตรึงพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์และป้องกันการบานปลาย ที่น่าสังเกตคือ ฝั่งกัมพูชาได้เปิดเพลงเสียงดังสนั่น คาดว่าเป็นเพลงปลุกใจ เพื่อสร้างขวัญและกระตุ้นให้ชาวบ้านในพื้นที่มีความฮึกเหิมมากขึ้น เสียงเพลงดังกล่าวได้ถูกเปิดก้องไปทั่วบริเวณแนวชายแดน สร้างความกดดันให้กับเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ สถานการณ์ล่าสุดยังคงมีการเผชิญหน้ากันระหว่างประชาชนและเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย โดยทหารไทยยังคงตรึงกำลังแน่นหนา เพื่อเฝ้าระวังการปะทะที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับส่วนกลางเพื่อรายงานความคืบหน้าและเตรียมมาตรการรองรับ กองทัพภาคที่ 1 แจงแล้ว ปมชาวบ้านเขมรรื้อรั้วหนาม ล่าสุด กองทัพภาคที่ […]

ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ

สวีเดน 25 ส.ค.-ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ “มาริษ-ผบ.ทอ.” ร่วมเป็นสักขีพยาน ชูเป็นเขี้ยวเล็บป้องกันตัว พ่วง Offset Policy พัฒนาอุตสาหกรรม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 17.20 น. ตามเวลาในประเทศไทย รัฐบาลไทยและสวีเดน ได้บรรลุข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ในการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตี Gripen E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง วงเงิน 19,500 ล้านบาท โดยมี พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย มีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ ดร.พอล ยอนซอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดน ร่วมเป็นสักขีพยาน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังพิธีว่า ข้อตกลงครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะเสริมสร้าง “เขี้ยวเล็บ” […]

มทภ.2 ชี้หากพบกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้

เกษตรศาสตร์ 25 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ชี้หากพบทหารกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้ แต่ยิงแจ้งเตือนก่อน หากยังขัดขืนสั่งยิงทันที เชื่อประชุม RBC 27 ส.ค.นี้ ราบรื่นดี มองหากกัมพูชาไม่รับเงื่อนไขเก็บทุ่นระเบิด เตรียมเก็บหลักฐานฟ้อง UN วันนี้ (25 ส.ค. 68) ที่ห้องประชุมสุธรรม อารีกุล อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย – กัมพูชา (RBC) ในวันที่ 27 ส.ค.นี้ หากฝ่ายกัมพูชาไม่ตกลงที่จะเก็บกู้ทุ่นระเบิด ว่า ถ้าไม่เก็บกู้ก็จะรายงานไปที่ UN และทำบันทึกไว้เพื่อเป็นการประท้วง ส่วนการประชุม RBC ที่พื้นที่กองทัพภาคที่ 1 มีการตอบรับเรื่องเก็บกู้ระเบิดร่วมกัน ในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 ควรจะมีการตอบรับด้วยหรือไม่เพื่อแสดงถึงความจริงใจ นั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า […]