โคราช 6 พ.ค. – ชาวโคราชแห่ฟังคึกคัก ‘เศรษฐา’ ถาม ‘ประยุทธ์’ รถไฟฟ้า 8 ปี ทำไมได้แค่ 3 กิโลเมตร ถ้ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่ถูกรัฐประหาร รถไฟฟ้าไปถึงเมืองจีนแล้ว ด้าน ‘ณัฐวุฒิ’ ชี้ฝ่ายประชาธิปไตยต้องอ่านเป้าหมายให้ขาด ต้องเปลี่ยนรัฐบาลไล่ประยุทธ์ออกไป ตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยให้ได้ก่อน
พรรคเพื่อไทยเปิดเวทีปราศรัย คิดใหญ่ ทำเป็นเพื่อไทยทุกคน ณ ลานกิจกรรมอเนกประสงค์ หน้าสระใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย และที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายพานทองแท้ ชินวัตร ที่ปรึกษาศูนย์ปฏิบัติการการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย นายนพดล ปัทมะ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย นายอดิศร เพียงเกษ คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย ผู้สมัครเขต 6 นายโกศล ปัทมะ เบอร์ 6, เขต 7 น.ส.ปิยะนุช ยินดีสุข เบอร์ 1 และเขต 16 นายพรเทพ ศิริโรจนกุล เบอร์ 1 โดยมีพี่น้องในอำเภอบัวใหญ่ และอำเภอใกล้เคียง มาร่วมฟังร่วม 20,000 คน มาฟังปราศรัยอย่างคึกคักเต็มพื้นที่
นายเศรษฐา ทวีสิน ปราศรัยว่า จังหวัดนครราชสีมา มี ส.ส. มากถึง 16 คน รองจากกรุงเทพมหานคร 30 กว่าปีที่แล้วที่เคยมาเยือนสมัยรัฐบาลพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ นครราชสีมาคือศูนย์กลางเศรษฐกิจ คมนาคม มีประชากรคุณภาพ สามารถผลักดันไทยไปสู่อนาคต แต่หลังรัฐประหาร 8 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นครราชสีมากลับถูกละเลยไม่ได้รับการพัฒนา เพราะแม้แต่โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่ริเริ่มสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตัวเองกลับมาสร้างได้เพียงแค่ 3 กิโลเมตร เราจะต้องฝันอีกเท่าไรกว่าที่นครราชสีมาจะเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ คมนาคมขนส่งของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล รถไฟฟ้าความเร็วสูงสร้างเสร็จไปเชื่อมต่อกับประเทศจีนได้แล้ว
พรรคเพื่อไทยมีนโยบายเศรษฐกิจที่จะทำให้พี่น้องอยู่ดีกินดี ตั้งแต่ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน ภายในปี 2570 ครอบครัวไหนมีรายได้ต่อเดือนไม่ถึง 20,000 บาท จะจัดสำรวจและเติมให้เต็ม 20,000 บาททุกเดือน พร้อมนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท สำหรับคนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป เงินนี้เป็นเงินก้อนใหญ่ที่อยากให้พี่น้องสามารถไปตั้งตัวเปิดกิจการได้ นี่คือเพิ่มรายได้ และเราจะลดรายจ่าย การประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรกจะค่าไฟลดทันที พร้อมพักหนี้เกษตรกรทั้งต้นทั้งดอก 3 ปี สินค้าเกษตรจะราคาดี เพราะเราจะเอาสินค้าเกษตรไปขายทั่วโลก เราจะเป็นผู้นำที่มีหัวใจ เข้าใจตลาดโลก ทำงานให้ประชาชนทุกวินาที
“อีกแค่ 8 วัน จะเป็นครั้งสำคัญ เราบอบช้ำมา 8 ปี ไม่สามารถทนได้อีก 4 ปีกับรัฐบาลเดิมๆ แล้ว ถ้าอยากให้นโยบายที่พูดไปเกิดขึ้นได้ ส.ส.โคราช 16 คน ของพรรคเพื่อไทย นำโดยนายประเสริฐ เป็นขุนศึกใหญ่ของพรรคเพื่อไทยในจังหวัดนครราชสีมา ขอให้เลือกผู้สมัครเพื่อไทยไปเป็นตัวแทนช่วยผลักดันนโยบายดีๆ ของเพื่อไทย 14 พฤษภาคมนี้ อย่าปันใจ แต่เทใจทั้งหมดให้พรรคเพื่อไทย 2 เท้าเข้าคูหา กาเพื่อไทย ทั้งคนทั้งพรรคทั้งสองใบ” นายเศรษฐา กล่าว
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กล่าวว่า เวลานี้เป็นเวลาแห่งการต่อสู้ที่แหลมคมของทั้งสองฝ่าย คือฝ่ายประชาธิปไตย คือพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมฝ่ายค้าน กับฝ่ายอนุรักษ์นิยม ย้อนไปปี 2549 ฝ่ายอนุรักษ์นิยม ต้องด่าเหยียบย่ำทักษิณ ชินวัตร ถ้าใครสนับสนุนจะโดนด่าไปด้วยอย่างไม่มีชิ้นดี ยกตัวอย่างเช่น นายเนวิน ชิดชอบ แต่เมื่อนายเนวิน พลิกขั้วกลับไปกอดเอวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สนับสนุนตั้งรัฐบาล มวลชนฝ่ายอนุรักษ์นิยมก็ไม่เคยต่อต้านนายเนวินอีกเลย หรือต่อต้านนายอภิสิทธิ์ ว่าไปเอาพวกนายเนวินคนของทักษิณมาได้อย่างไร หรือยกตัวอย่างใกล้ๆ นายแรมโบ้ อีสาน ผู้โดดเด่นเรื่องความกตัญญูในโคราช สมัยเป็นแกนนำเสื้อแดง ฝ่ายอนุรักษ์นิยมด่ายับ แต่ทันทีที่พลิกไปสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มวลชนฝ่ายอนุรักษ์นิยมก็อ้าแขนรับทันที ไม่มีมวลชนไปโวยวาย ซ้ำเชียร์แรมโบ้ยกเป็นฮีโร่ของฝ่ายอนุรักษ์นิยม
สองเหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่ามวลชนของฝ่ายอนุรักษ์นิยมเขาไม่ได้มีหลักการ เขายึดแต่เป้าหมาย เป้าหมายคือช่วงชิงอำนาจรัฐจากฝ่ายตรงข้าม เขารู้ว่าอภิสิทธิ์เลือกตั้งกีทีก็แพ้ แต่พอดึงเนวินไปร่วมตั้งรัฐบาล มวลชนอ้าแขนรับทันที เพราะบรรลุเป้าหมายเป็นรัฐบาล นี่ก็เช่นเดียว เป้าหมายมวลชนเขาคือทำอย่างไรก็ได้ให้เหยียบย่ำพรรคเพื่อไทยให้จมดิน ใครย้ายข้างไปเขาเปิดรับ เพราะเขาเน้นเป้าหมาย
กลับกันฝ่ายเรา ตนไม่ได้บอกให้เรามองแต่เป้าหมายหรือไม่สนใจอุดมการณ์ไม่ใช่ แต่เราต้องยึดหลักการให้มั่นคงและอ่านเป้าหมายให้ขาดว่า วันนี้เป้าหมายเราคืออะไร ถ้าเป้าหมายของเราคือตั้งรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตยให้ได้ หยุดอำนาจประยุทธ์ประวิตร ผลักประยุทธ์ ประวิตร ออกไปจากวงจรการเมือง โดยไม่ต้องทรยศอุดมการณ์ประชาธิปไตย และเมื่อเป้าหมายชัดจึงชวนท่านว่าเพื่อไทยเป็นพรรคเดียวที่จะชนะเกินครึ่ง เกิน 300 ที่นั่งได้ จึงชวนท่านจับมือให้บรรลุเป้าหมายแรกก่อน
“ไม่ว่าท่านจะฝันเปลี่ยนแปลงใดๆ ไม่ว่าเป้าหมายจะยิ่งใหญ่กว้างไกลเพียงไหน แต่ถ้าไม่บรรลุเป้าหมายแรกคือ เปลี่ยนรัฐบาลไม่ได้ ท่านก็ไม่มีทางเดินไปสู่เป้าหมายต่อๆ ไป ดังนั้น เที่ยวนี้ แม่นยำในเป้าหมาย ชัดเจนในเป้าหมาย และสำเร็จไปด้วยกัน ยืนยันประชาธิปไตยเลือกพรรคเพื่อไทยแลนด์ทั้งแผ่นดิน ตั้งรัฐบาลของประชาชน” นายณัฐวุฒิ กล่าว .-สำนักข่าวไทย