“เศรษฐา” ลั่นไม่ยกเลิกบัตรคนจน-ยาเสพติดต้องหมดไปภายใน 1 ปี

กาฬสินธุ์ 18 เม.ย. – “เศรษฐา” ลั่นไม่ยกเลิกบัตรคนจน เหตุคนจนจะหมดไปเพราะเศรษฐกิจจะดีขึ้นในรัฐบาลเพื่อไทย ยาเสพติดต้องหมดไปภายใน 1 ปี “แพทองธาร” ย้ำไม่มีพรรคพี่พรรคน้อง ขอคนไทยเลือกทั้งคนทั้งพรรคให้แลนด์สไลด์ทั้งประเทศ


(18 เมษายน 2566) เวลา 17.00 น. พรรคเพื่อไทยเปิดเวทีปราศรัย “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน เพื่อชาวกาฬสินธุ์” ณ สนามกีฬากลาง โรงเรียนวังมนวิทยาคาร อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ นำโดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ปราศรัยผ่านวิดีโอคอล

นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายนพดล ปัทมะ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย และผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยแกนนำพรรคเพื่อไทย ได้แก่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ดร.ปานปรีย์ พหิทธานุกร​ ที่ปรึกษาคณะทำงานด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย นสพ.ชัย วัชรงค์​​ คณะทำงานด้านนโยบายเกษตร พรรคเพื่อไทย นายพานทองแท้ ชินวัตร ที่ปรึกษาศูนย์ปฏิบัติการการเลือกตั้ง ส.ส.พรรคเพื่อไทย นางสาวลินธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย รักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย และผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นางสาวขัตติยา สวัสดิผล ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นางสาวจิราพร สินธุไพร ผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย นางสาวชญาภา สินธุไพร ผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย


พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย ได้แก่ นายวิรัช พิมพะนิตย์ เขต 1 เบอร์ 9, นายพลากร พิมพะนิตย์ เขต 2 เบอร์ 4, นางยรรยงรัตน์ ไชยศิวามงคล เขต 3 เบอร์ 7, นายพีระเพชร ศิริกล เขต 4 เบอร์ 3, นายทินพล ศรีธเรศ เขต 5 เบอร์ 8 และนายประเสริฐ บุญเรือง เขต 6 เบอร์ 9 โดยมีพี่น้องประชาชนร่วมฟังอย่างคึกคักเกือบ 5,000 คน

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ปราศรัยผ่านวิดีโอคอลเสนอนโยบายการเกษตรจากพรรคเพื่อไทยที่จะสร้างชีวิตให้เกษตรกรได้กินดีอยู่ดีอย่างมีศักดิ์ศรี เพราะพรรคเพื่อไทยมีหัวใจคือ ประชาชน และนโยบายที่พร้อมช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ ก่อนฝากพี่น้องประชาชนในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ อย่าลืมเข้าคูหากาเพื่อไทย ไม่ต้องแบ่งใจให้ใคร กาบัตรสีเขียวเบอร์ 29 และแบบแบ่งเขต ขอให้เลือกผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย

นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า ทันทีที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะปราบปรามยาเสพติดให้หายไปภายใน 1 ปี บำบัดผู้ป่วยและยึดทรัพย์ผู้ผลิตโดยเร็วที่สุด ช่วงการประกาศนโยบายหลายนโยบาย แต่ช่วง 3-4 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลายพรรคตั้งโต๊ะแถลง ตนเองยังสงสัยว่าเหตุใดพรรคอื่นจึงไม่ตั้งโต๊ะแถลงนโยบายของเขา แต่แถลงว่านโยบายของเราทำไม่ได้ ดังนั้น จึงอยากให้ประชาชนเชื่อมั่นพรรคเพื่อไทยคิดใหญ่ทำเป็นทำได้แน่นอน พร้อมย้ำนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ขณะนี้พรรคอื่นอิจฉาริษยา ด้อยค่าเรา ยืนยันว่าเราไม่ยกเลิกบัตรคนจน แต่หากนโยบายของเพื่อไทยทำให้คนไทยพ้นจากความยากจนได้ ประชาชนมีรายได้มากขึ้น บัตรคนจนจะหายไปโดยปริยาย ขอพี่น้องกาฬสินธุ์เลือกผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทยทั้ง 6 เขตเพื่อจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว


“พรรคเพื่อไทยต้องการเป็นรัฐบาลพรรคเดียว ฟังไว้นะครับพี่น้อง ฟังจากปากผม นายเศรษฐา เราไม่มีการไปตกลงดีลลับ ดีลในที่สว่าง ในที่โล่ง ไม่มีนะครับ เราจะเป็นพรรคเดียวที่จัดตั้งรัฐบาล” นายเศรษฐา กล่าว

นายนพดล ปัทมะ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย และผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สถานการณ์การศึกษาในรอบ 8 ปีที่ผ่านมา เป็นแบบท่องจำ เด็กถูกตีกรอบความคิด ไม่ได้มีโอกาสฝึกฝนทักษะใหม่ๆ ให้ทันโลก แม้แต่ทักษะการใช้ภาษาต่างประเทศ ไทยยังแพ้ประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้น สิ่งที่พรรคเพื่อไทยจะทำคือ 1.นำนโยบายเรียนฟรีกลับมา เรียนฟรีต้องฟรีจริง 2.เติมเงินกองทุนเสมอภาคเพื่อการศึกษา เพื่อให้นักเรียนที่ยากจนเข้าถึงแหล่งทุนได้เรียนต่อ โดยไม่หลุดออกจากระบบการศึกษา และ 3.เราจะนำโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน ที่เคยสร้างอนาคตให้เด็กและเยาวชนได้ไปศึกษาต่อต่างประเทศ ดังนั้น ลูกหลานเราจากกาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด และอีกหลายจังหวัด จะมีโอกาสไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ และเรียนรู้โลกกว้างได้อย่างไม่ถูกปิดกั้น

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล การท่องเที่ยวจะขยายตัว สนามบินในต่างจังหวัดจะได้รับการพัฒนาเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อมไปทุกภูมิภาคของประเทศ นายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยจะไปเปิดตลาดใหม่ให้สินค้าเกษตรไทยไปทั่วโลก บัตร 30 บาทรักษาทุกโรคจะยกระดับบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทั่วประเทศ และจะไม่ยกเลิกบัตรคนจน แต่เพื่อไทยจะเอาชนะบัตรคนจน ก้าวข้ามบัตรคนจนไปสู่อนาคตที่ดีกว่า ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นได้เงื่อนไขเดียวคือ พี่น้องต้องกาเพื่อไทยที่ 2 ใบ เลือกเพื่อไทย ทั้งคนทั้งพรรค เลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์เท่านั้น

นอกจากนี้นายณัฐวุฒิยังเน้นย้ำนโยบายการเกณฑ์ทหารแบบสมัครใจ เพื่อไทยมา หมดยุคการเกณฑ์ทหารแบบบังคับ เราไม่ได้เกลียดกองทัพ และทหาร แต่เกลียดเผด็จการที่อาศัยเครื่องแบบทหารปล้นอำนาจประชาชน เพื่อไทยเคารพสถาบันกองทัพอยู่กู้ชาติบ้านเมือง แต่นายทหารที่อาศัยปืนหลวงยุทโธปกรณ์แผ่นดินยึดอำนาจ ไม่มีวันได้รับความเคารพจากประชาชนส่วนใหญ่ของแผ่นดินไทย

“14 พฤษภา ประชาชนจะไล่เผด็จการตั้งรัฐบาลประชาธิปไตย กาเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ หมดเวลาของนายทหารนอกแถวที่คิดจะเข้ามาแทรกแซงการเมือง ทำลายพัฒนาการประชาธิปไตย” นายณัฐวุฒิ กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

สีสันรัฐมนตรีรวมตัว ถ่ายรูปทำบัตร

24 ก.ย. – ทำเนียบกลับมาคึกคัก หลังรัฐมนตรีมารวมตัว ถ่ายรูปทำบัตร วันนี้จึงเป็นครั้งแรกที่สื่อมวลชนได้เห็นตัวรัฐมนตรี และครบทั้งคณะ งานนี้เรียกว่าเต็มไปด้วยสีสัน.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ เสียงสั่นน้ำตาคลอ ซาบซึ้งหลังนำ ครม.ถวายสัตย์ฯ

ทำเนียบ 24 ก.ย.-นายกฯ ปลื้มปีติเสียงสั่นน้ำตาคลอ ซาบซึ้งหลังนำ ครม.เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ลั่นพร้อมทำงานสุดความสามารถ สละทั้งชีวิตให้ราชบัลลังก์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำคณะรัฐมนตรีเดินทางกลับทำเนียบรัฐบาล หลังจากเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ เพื่อประชุมคณะรัฐมนตรี นัดพิเศษ ที่ตึกบัญชาการ 1 ทันทีที่มาถึง ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราโชวาทอย่างไรบ้าง โดยนายอนุทิน กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ และน้ำตาคลอ ว่า คณะรัฐมนตรีทุกคนได้รับพระราชทานพร และพระบรมราโชวาท ตนเชื่อว่า คณะรัฐมนตรีทุกท่านมีความปลื้มปีติ และจะต้องทำงานสนองพระเดชพระคุณ และสนองพระมหากรุณาธิคุณอย่างสุดความสามารถ สุดชีวิต สุดสมองของแต่ละท่านที่มีอยู่ เป็นมงคลสูงสุดที่พวกเราได้รับ ผู้สื่อข่าวกระเซ้านายกฯ ว่า ซาบซึ้งจนน้ำตาคลอ นายอนุทิน ยิ้ม และพยักหน้ารับ ก่อนย้ำว่า เป็นพระมหากรุณาธิคุณที่สามัญชนอย่างตนพึงได้รับ จะไม่มีทางทำอะไรนอกจากทำคุณงามความดีให้กับประเทศและประชาชน ตามพระราชดำรัสที่ได้รับสั่งไว้ เมื่อถามว่า ยอมสละชีวิตได้ทุกอย่างเลยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “สละทั้งชีวิตให้ราชบัลลังก์ ซึ่งทำมานานแล้ว เป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อม”.-319.-สำนักข่าวไทย

สนง.เขตดุสิต ประกาศห้ามเข้า ห้ามใช้อาคาร ใกล้พื้นที่ถนนทรุดตัว

กรุงเทพฯ 24 ก.ย. – สำนักงานเขตดุสิต ประกาศห้ามเข้า ห้ามใช้อาคาร ใกล้พื้นที่ถนนทรุดตัว หน้า รพ.วชิรพยาบาล กรณีเกิดถนนทรุดตัวขนาดใหญ่บริเวณถนนสามเสน ทั้งสองฝั่ง ตั้งแต่แยกวชิรพยาบาล ถึงแยกราชวิถี ส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาการจราจร การประกอบอาชีพ และการใช้ชีวิตประจำวันเป็นไปอย่างยากลำบาก ตลอดจนสิ่งสาธารณะของประชาชนได้รับความเสียหายในพื้นที่ และถนนอาจทรุดตัวเพิ่มใกล้อาคารที่อยู่บริเวณถนนสุโขทัย แขวงและเขตดุสิต กรุงเทพฯ จากการตรวจสอบความเสียหายเบื้องต้นอาคารดังกล่าวอาจเป็นภยันตรายต่อสุขภาพ ชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน เห็นควรหยุดใช้อาคาร หากมีการใช้อาคารอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุแก่ผู้ใช้อาคารได้ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สำนักงานเขตดุสิต จึงประกาศห้ามเข้า ห้ามใช้อาคาร ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2543 (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2550 (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2558 และข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ควบคุมอาคาร […]

วิศวกรรมสถานฯ ห่วงดินอ่อนเสี่ยงขยายวง หลังถนนหน้า รพ.วชิรพยาบาล ทรุดตัว

กรุงเทพฯ 24 ก.ย. – วิศวกรรมสถานฯ ตรวจสอบเหตุถนนทรุด หน้า รพ.วชิรพยาบาล เบื้องต้นพบยังมีน้ำรั่วซึม ทำให้ดินใต้ถนนอ่อนตัว มีโอกาสสไลด์เพิ่ม หากมีฝนตกลงมา นายธเนศ วีระศิริ ที่ปรึกษาวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุผิวจราจรทรุดตัวบริเวณถนนหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ายังมีน้ำรั่วซึม ทำให้ดินใต้ถนนอ่อนตัวและมีโอกาสสไลด์เพิ่มเติมได้ โดยเฉพาะหากมีฝนตกลงมา จะเพิ่มความเสี่ยงให้พื้นที่ไม่คงตัวมากขึ้น ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานเร่งหาทางปิดแหล่งน้ำที่รั่วซึม ทั้งจากท่อประปาและท่อระบายน้ำ ซึ่งยังมีน้ำไหลออกมาเป็นระยะ หากสามารถหยุดได้จะช่วยสร้างเสถียรภาพชั่วคราวให้กับดิน และลดโอกาสการขยายวงของการทรุดตัว พร้อมกันนี้มีการนำเครื่องมือสำรวจ เช่น 3D Scan มาช่วยวัดความกว้าง ความยาว และความลึกของหลุม เพื่อประเมินความปลอดภัยและแนวทางแก้ไขอย่างชัดเจน สำหรับอาคารที่อยู่ฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาล (สน.ใหม่) พบว่าเสาเข็มบางต้นหักหรือแตกร้าว ทำให้ต้องตรวจสอบรอยร้าวของโครงสร้างอาคารอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันอันตรายต่อประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ นายธเนศ เน้นย้ำว่า มาตรการสำคัญที่สุดในขณะนี้ คือการปิดกั้นพื้นที่เสี่ยงและไม่อนุญาตให้ประชาชนเข้าใกล้ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ทั้งนี้วิศวกรรมสถานฯ ได้เสนอแนวทางเบื้องต้น คือการควบคุมน้ำไม่ให้รั่วซึม การกั้นเขตพื้นที่เสี่ยง และการติดตามโครงสร้างอาคารโดยรอบอย่างต่อเนื่อง ก่อนประเมินสถานการณ์อีกครั้งว่าพื้นที่จะกลับมาเสถียรและปลอดภัยเมื่อใด ด้านนายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยหลังลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณถนนทรุด […]