“จุรินทร์” ส่งสัญญาณสมาชิกทั่วประเทศ อ้อนเลือก ปชป.

กทม. 16 เม.ย.-“จุรินทร์” ส่งสัญญาณสมาชิกประชาธิปัตย์ทั่วประเทศ อ้อนเลือกประชาธิปัตย์ เพื่อความเป็นสถาบันการเมืองของไทยต่อไป ชูผลงาน “ทำได้ไว ทำได้จริง” ลั่นต้นพฤษภาจะเซ็น FTA กับดูไบ เพื่อเป็นทางออกการค้า สู่ตะวันออกกลาง

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนขึ้นรถแห่เพื่อขอเสียงให้กับผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคทั้ง 7 เขต ประกอบด้วย เขต 1 นายภาณุ ศรีบุศยกาญจน์ เบอร์ 10 เขต 2 นายวิวรรธน์ นิลวัชรมณี เบอร์ 2 เขต 3 นายปิยะรัฐ จิรรัตน์ฐิกุล เบอร์ 5 เขต 4 นายสมชาติ ประดิษฐพร เบอร์ 1 เขต 5 นายสินิตย์ เลิศไกร เบอร์ 6 เขต 6 นายธีรภัทร พริ้งศุลกะ เบอร์ 2 และ เขต 7 นางสาวตวงทอง ประดิษฐพร เบอร์ 9


โดยนายจุรินทร์ ได้เน้นย้ำถึงเสียงตอบรับของพรรคประชาธิปัตย์ว่า การปราศรัยวานนี้เป็นเวทีระดับอำเภอทั้ง บ้านนาเดิม และเวียงสระ ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งบรรยากาศดีทั้ง 2 เวที สะท้อนให้เห็นถึงเสียงตอบรับที่พี่น้องให้กับพรรคอย่างชัดเจนว่า พร้อมจะเข้ามาสนับสนุน โดยเขต 7 บ้านนาเดิม เราส่ง นางสาวตวงทอง ประดิษฐพร เบอร์ 9 จบการทูตแต่สนใจการเมือง เป็นอดีต ส.จ. ที่ได้รับเลือกด้วยคะแนนสูงสุดของจังหวัด ทำให้ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี ส่วนเขต 3 อำเภอเวียงสระ พรรคส่งนายปิยะรัฐ จิรรัตน์ฐิกุล เบอร์ 5 เป็นผู้สมัครหน้าใหม่ เนื่องจากผู้สมัครคนเดิมได้ออกไป จึงถือโอกาสที่พรรคจะมีนักการเมืองรุ่นใหม่ เข้ามาทดแทนเพื่อเดินหน้าไปสู่ความเป็นสถาบันทางการเมืองต่อไป ซึ่งนายปิยะรัฐ เป็นรองนายกเทศมนตรี และเป็นทายาทนักการเมืองท้องถิ่นที่ทำกิจกรรมรับใช้สังคมมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้รับเสียงตอบรับดีมาก ทันทีที่ประกาศตัวจึงทำให้ได้รับเสียงตอบรับดีสุดๆ มั่นใจว่าความใหม่ของทั้ง 2 เขตนี้ ก็จะไม่เป็นอุปสรรค ขณะเดียวกันก็จะเป็นแรงส่งสำคัญที่จะทำให้ประชาธิปัตย์ได้รับเสียงสนับสนุนจากชาวสุราษฎร์ฯ ทั้ง 7 เขต ที่จะทำให้ยกทีมเช่นเดียวกับการเลือกตั้งปี 62

“ผมขอส่งสัญญาณอีกครั้ง นอกจากประชาธิปัตย์ในสุราษฎร์ธานีที่ขอให้ช่วยกลับมาเลือกและสนับสนุนประชาธิปัตย์ดังเดิมและขอส่งสัญญาณถึงพี่น้องชาวประชาธิปัตย์ด้วยที่เคยยืนหยัดมั่นคงกับประชาธิปัตย์ ก็ขอให้มั่นคงต่อไป มาจับมือกันเป็นกำลังสำคัญให้ประชาธิปัตย์เดินหน้าไปสู่ความเป็นสถาบันทางเมืองที่ยั่งยืนเพื่ออนาคตประเทศที่ดีกว่า” นายจุรินทร์ กล่าว


จากการที่นายชวน หลีกภัย ลงพื้นที่ช่วยหาเสียงวานนี้และยังมีความกังวลถึงการใช้เงินซื้อเสียงนั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า เรื่องนี้จะเป็นอุปสรรค และเป็นปัญหาใหญ่ของการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มปรากฏให้เห็นเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ ถ้าพี่น้องประชาชนไปสนับสนุนคนใช้เงินเพื่อแลกกับคะแนนเสียง สุดท้ายคนเหล่านี้ถ้าเข้าไปมีอำนาจก็จะไปถอนทุนคืน และเราจะได้รัฐบาลที่คอร์รัปชั่น ผลร้ายจะตกกับพี่น้องประชาชน จากสะพานร้อยแห่งจะเหลือ 60 แห่ง โรงพยาบาลร้อยโรงก็จะเหลือ 60 โรง แล้วผลร้ายก็จะตกกับระบอบประชาธิปไตยด้วย

“จากการยึดอำนาจหลายครั้งที่ผ่านมา ถ้าไปดูสาเหตุ จะเห็นว่าเหตุผลหนึ่งที่อ้างกันก็คือ เนื่องจากมีการทุจริต คอร์รัปชั่นของรัฐบาลในขณะที่มีอำนาจอยู่ ดังนั้นการแลกคะแนนเสียงกับเงินไม่กี่ตังค์มันไม่คุ้มค่ากับความเสียหายต่อตนเอง และความเสียหายต่อประเทศที่จะเกิดขึ้น ผมคิดว่าหลายคนก็ตระหนักอยู่แล้ว แต่สิ่งเหล่านี้ต้องช่วยกันรณรงค์ในวงกว้างให้มากขึ้น” นายจุรินทร์ กล่าว

นอกจากนี้นายจุรินทร์ ยังกล่าวถึงการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลในตลอด 4 ปีที่ผ่านมาว่า ขอให้ดูแบบภาพรวมและขอให้ดูแบบแยกส่วนในความรับผิดชอบของแต่ละพรรคการเมืองด้วย ซึ่งในส่วนภาพรวมทางเศรษฐกิจนั้น เมื่อเทียบกับหลายประเทศ เราอยู่ในเกณฑ์ดี โดยเฉพาะอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจไทย ที่อยู่สูงกว่าอัตราการเติบโตเฉลี่ยทางเศรษฐกิจของโลก ขณะที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัว บางประเทศถดถอยแต่เรากลับเป็นบวก ถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนในตัว


โดยเฉพาะเรื่องการส่งออกที่อยู่ในความรับผิดชอบของตน และรัฐมนตรีประชาธิปัตย์ ก็ได้รับผลสำเร็จอย่างยิ่งท่ามกลางสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน สงครามการค้า และสถานการณ์โควิด แต่เราสามารถจับมือกับเอกชนฟันฝ่ามาได้ ทำรายได้เข้าประเทศจากการส่งออกสูงร่วม 10 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงสุดในรอบ 30 ปี เงินเหล่านี้จะนำมาใช้พัฒนาประเทศ ตั้งแต่การเอามาทำประกันรายได้เกษตรกร ทำโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ สิ่งนี้สะท้อนความสำเร็จที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ทำมาในช่วงที่ผ่านมา

นายจุรินทร์กล่าวว่า จากผลงานรวมในช่วงที่ผ่านมาถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีกว่าหลายประเทศ และดีกว่าประเทศที่พัฒนาแล้วด้วย โดยเฉพาะเรื่องที่อยู่ในความรับผิดชอบของประชาธิปัตย์ ประกันรายได้เกษตรกร สามารถเดินหน้าได้เป็นอย่างดี สำหรับในปีที่ 4 ได้มีการโอนเงินส่วนต่างให้กับชาวสวนยางแล้ว ตั้งแต่วันที่ 12 เม.ย. ถือว่าสิ่งนี้ก็เป็นผลงานที่เป็นรูปธรรมชัดเจน ที่สำคัญในเรื่องการสร้างอนาคตให้ประเทศ ซึ่งตนได้ทำอย่างเต็มที่ เห็นได้จากการทำข้อตกลงเขตการค้าเสรี FTA ที่ตนเดินทางไปทำกับหลายประเทศ เริ่มประสบความสำเร็จให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาไทยมี FTA 14 ฉบับกับ 18 ประเทศ แต่หลังจากที่ตนทำการเจรจากับสหภาพยุโรป ไปจนถึงสหรัฐอาหรับเอมิเรต UAE หรือดูไบ ตอนนี้ก็ประสบความสำเร็จแล้ว และสามารถนับหนึ่ง FTA ไทย – สหภาพยุโรป 27 ประเทศ ซึ่งจะทำให้ไทยมี FTA เพิ่มจาก 18 ประเทศ เป็น 45 ประเทศ

ทั้งนี้นายจุรินทร์ ยังประกาศข่าวดีสำหรับประเทศไทยว่า จากการที่ตนเดินทางไปเจรจากับรัฐมนตรี UAE หรือ ดูไบ นั้น ประกาศนับหนึ่งในช่วงวันที่ 11 พ.ค. นี้ ซึ่งจะช่วยให้ไทยมี FTA เพิ่มขึ้นเป็น 46 ประเทศ จี้ติดหลังเวียดนามแล้ว และทำให้เรามีความสามารถในการแข่งขันทั้งการดึงนักลงทุน และมีแต้มต่อไม่แพ้เวียดนาม อีกทั้ง FTA ดูไบนี้ ก็เป็นประตูสำคัญที่เปิดไปสู่ตลาดตะวันออกกลาง

“ประชาธิปัตย์ มีนโยบายชัดเจนว่า นอกจากการสร้างเงินให้คนไทย ยังมีนโยบายสร้างเงินให้ประเทศด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่หลายพรรคไม่ได้คิด แต่ผมยืนยันว่าประชาธิปัตย์คิด โดยเฉพาะการส่งออกสินค้า และได้แต้มต่อจาก FTA รวมถึงการดึงนักท่องเที่ยวเข้าประเทศด้วยประสบการณ์อเมซิ่งไทยแลนด์ที่เราทำมาแล้ว และเรามั่นใจว่าเราทำได้ ไม่ยากเลย เพราะเราตั้งใจทุ่มเท และเข้าใจหลักของการทำงาน” นายจุรินทร์ กล่าวในที่สุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภราดร” ประกาศลาออก “รองปธ.สภาฯ”

รัฐสภา 19 มิ.ย.- “ภราดร” ประกาศลาออกจาก “รองประธานสภาฯ” รักษาหลักการเสียงข้างมาก คืนอำนาจให้สภาฯ เลือกใหม่ นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง และ สส.จังหวัดอ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ประกาศยื่นหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งรองประธานฯ โดยมีผลทันทีในวันนี้ หลังจากพรรคภูมิใจไทยออกแถลงการณ์เมื่อค่ำวานนี้ว่ากรรมการบริหารพรรคมีมติให้พรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล และรัฐมนตรีของพรรคทุกคนได้ส่งใบลาออกต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีผลวันที่ 19 มิถุนายนนี้เช่นกัน นายภราดรให้เหตุผลว่า ตนได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนี้ด้วยเสียงส่วนใหญ่ของสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้น ในวันนี้เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและพรรคภูมิใจไทยไม่ได้ร่วมอยู่ในรัฐบาลแล้ว จึงเห็นว่าควรคืนอำนาจให้สภาผู้แทนราษฎรได้มีโอกาสตัดสินใจเลือกรองประธานฯคนใหม่ด้วยมติเสียงข้างมาก ตามธรรมเนียมที่เคยถือปฏิบัติมา “ผมขอขอบคุณเพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้ให้เกียรติเลือกผมมาปฏิบัติหน้าที่ แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็เป็นประสบการณ์ในการทำงานที่มีคุณค่า และขอถือโอกาสนี้ขอบคุณทีมงานของรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สองทุกคนที่ได้ทุ่มเททำงานจนบรรลุภารกิจไปหลายประการ ซึ่งล้วนสร้างความก้าวหน้าให้กับสภาของประชาชน กราบขอบพระคุณท่านประธานและรองประธานสภาฯคนที่หนึ่ง ที่ได้ให้ความเมตตาผมอย่างยิ่งในการทำงาน” นายภราดรกล่าว พร้อมย้ำว่าจะฝากงานหลายอย่างที่ได้ดำเนินการไว้ โดยเฉพาะโครงการเปิดพื้นที่รัฐสภาให้เป็นแหล่งเรียนรู้ เป็นพื้นที่ของประชาชนอย่างแท้จริง โครงการวันรัฐธรรมนูญ กิจกรรมสภาวาที การพัฒนาสถานีวิทยุโทรทัศน์รัฐสภาให้เป็นสถานีของประชาชน โดยเปิดโอกาสให้สถานศึกษาเข้ามามีส่วนร่วม และการต่อยอดโครงการยุวชนประชาธิปไตยที่สร้างเสริมศักยภาพเยาวชน ให้ผู้รับตำแหน่งคนต่อไปได้มาสานต่อ นอกจากนี้ นายภราดรยังยืนยันจะทำหน้าที่เป็นผู้แทนราษฎรฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็ง เคียงบ่าเคียงไหล่กับ ส.ส. ของพรรคภูมิใจไทยต่อไป.312 -สำนักข่าวไทย

นายกฯ โพสต์สำนวนก่อนลบทิ้ง เตรียมเข้าทำเนียบฯ

ทำเนียบ 19 มิ.ย.- นายกฯ โพสต์สำนวน “ผู้คน ไม่ได้แกล้งเศร้า แต่แกล้งโอเค” ก่อนลบทิ้ง ยกเลิกประชุมทีมคณะที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลก เข้าทำเนียบ เมื่อเวลา 08.15 น. ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ช่วงเช้าวันนี้ (19 มิ.ย.) พบว่า มีการแชร์สตอรี่อินสตาแกรม เป็นสำนวนภาษาอังกฤษ ระบุว่า “People don’t fake depression.They fake being okay. Remember that. Be kind.” ซึ่งมีความหมายว่า “คนเราไม่ได้แกล้งเศร้า แต่แกล้งว่าตัวเองโอเคต่างหาก, จำไว้นะ จงมีเมตตา” พร้อมซาวด์ดนตรี Another love อย่างไรก็ตามในเวลา 08.54 น. นายกรัฐมนตรี ได้ลบโพสต์ดังกล่าว ออกจากสตอรี่อินสตราแกรม ทำให้ไม่มีข้อความปรากฏแล้ว ขณะเดียวกัน ยังรายงานอีกว่า วันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ยกเลิกภารกิจ […]

“กัญจนา” เชื่อ “วราวุธ’” ไม่หนุนการกระทำที่ไม่ดีต่อบ้านเมือง

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย.- “หนูนา กัญจนา” ชี้พรรคชาติไทยพัฒนาแม้เป็นพรรคเล็ก แต่ศักดิ์ศรีรักบ้านเกิดเมืองนอนยิ่งใหญ่เสมอ เชื่อ “วราวุธ” ไม่หนุนการกระทำที่ไม่ดีต่อบ้านเมือง น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กกรณีคลิปเสียงสนทนาสองผู้นำไทย-กัมพูชา ว่า “ณ วันนี้ ดิฉันไม่ได้นิยามตัวเองเป็นนักการเมืองแล้ว ถอยออกมามานานแล้ว แต่ที่ดิฉันเป็นเสมอคือ เป็นคนไทยที่รักแผ่นดินเกิด “จุดยืนของดิฉันมั่นคงมาตลอดเหมือนพ่อ คือยึดมั่นต่อ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และเชื่อว่าน้องชายดิฉัน (นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์) ก็เช่นกัน” น.ส.กัญจนา ยังระบุอีกว่า “แม้ที่ผ่านมา เขาอาจจะพูดอะไรพลาดบ้าง นั่นก็เป็นบทเรียนในชีวิตให้เขาต้องจดจำ วันนี้ดิฉันแม้ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาแล้ว แต่ดิฉันยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่ แม้พรรคชาติไทยพัฒนาในวันนี้ จะเป็นพรรคขนาดเล็ก แต่ศักดิ์ศรี และความรักบ้านเกิดเมืองนอนต้องยิ่งใหญ่เสมอ” “ดิฉันเชื่อว่า พรรค และหัวหน้าพรรคจะมีการตัดสินใจที่ชัดเจนในการไม่สนับสนุนการกระทำใดที่ไม่ดีต่อชาติบ้านเมือง ทำในสิ่งที่ควรทำ” -สำนักข่าวไทย

นายกฯ รีโพสต์สตอรี่ไอจี หลัง “ภูมิใจไทย” ถอนตัว

19 มิ.ย.- นายกฯ รีโพสต์สตอรี่ไอจี กลางดึก หลัง “ภูมิใจไทย” ประกาศถอนตัวพรรคร่วมรัฐบาล ความเคลื่อนไหวช่วงกลางดึกในเวลา 21.08 น. ของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ภายหลังพรรคภูมิใจไทยออกแถลงการณ์ถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล โดยจะยื่นใบลาออกมีผลวันนี้ (19 มิ.ย.) พร้อมเรียกร้องให้นายกฯ รับผิดชอบทำประเทศเสียเกียรติภูมิ นั้น พบว่าสตอรี่อินสตราแกรมของ นายกรัฐมนตรี ยังคงมีการเคลื่อนไหวผ่านการรีโพสต์สตอรี่ ที่มีคนโพสต์และแท็ก โดยเป็นภาพระหว่างสื่อมวลชนตามสัมภาษณ์นายกรัฐมนตรี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และเป็นโพสต์รูปภาพของนายกรัฐมนตรี พร้อมใส่เพลง “ทำด้วยหัวใจ” โดยไม่มีการใส่แคปชั่น หรือระบุข้อความใดใดในภาพ รวมถึงคลิปที่นายกรัฐมนตรีได้มีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงเสียงสนทนากับสมเด็จฮุนเซน ด้วย -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รัฐบาลออกแถลงการณ์โต้คลิปเสียง “ฮุนเซน“ ยันมีเจตนาบริสุทธิ์ จริงใจ

ทำเนียบ 19 มิ.ย.-รัฐบาลออกแถลงการณ์กรณีสถานการณ์ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา โต้คลิปเสียง “ฮุนเซน” ยันมีเจตนาบริสุทธิ์ จริงใจ แต่ได้รับผลตรงข้าม ชี้ 26 ปี JBC ไร้ผล เป็นเหตุตัดสินใจใช้การทูตโทรหาผู้นำกัมพูชา ย้ำแก้ปัญหายึดสันติวิธี รักษาอธิปไตยไทย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (19 มิ.ย.) “กรณีสถานการณ์ความสัมพันธ์ ไทย-กัมพูชา” โดยมีเนื้อหาว่า “พี่น้องประชาชนชาวไทยที่เคารพ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขออภัยต่อพี่น้องประชาชนด้วยความจริงใจ จากกรณีคลิปเสียงสนทนาทางโทรศัพท์กับผู้นำกัมพูชาที่เกิดขึ้น ทุกการดำเนินการเป็นไปภายใต้เจตจำนงที่จะปกป้องอธิปไตยของชาติ รักษาผลประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนไทย ทั้งที่อยู่ในประเทศไทยและพักอาศัยอยู่ในกัมพูชา ด้วยเจตนาบริสุทธิ์ดังกล่าว ไม่นึกว่าจะเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ น่าเสียใจอย่างยิ่งที่ความจริงใจของเรา กลับมีผลตอบรับตรงกันข้าม รัฐบาลไทยยึดหลักสันติวิธี ใช้กลไกทวิภาคีเรื่องเขตแดนที่มีอยู่ โดยเฉพาะการทำงานของ JBC ที่รัฐบาลไทยและกัมพูชาร่วมมือกันมาตลอด 26 ปี เพื่อคลี่คลายปัญหา แต่ในระหว่างนั้นได้ปรากฏเหตุการณ์สื่อสารโต้ตอบที่ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดยิ่งขึ้น หากรัฐบาลนิ่งเฉย และไม่แก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า ย่อมเกิดความเสี่ยงที่จะบานปลายไปสู่ความรุนแรงและความสูญเสียต่อชีวิตและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนชาวไทยได้ นายกรัฐมนตรีจึงตัดสินใจใช้วิธีทางการทูต ผ่านการโทรศัพท์พูดคุยโดยตรงกับผู้นำกัมพูชา […]

กต. ทำหนังสือประท้วงกัมพูชากรณีปล่อยคลิปเสียงหลุด

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – กระทรวงการต่างประเทศ ส่งหนังสือประท้วงกรณีคลิปเสียงบทสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีไทย-ฮุน เซน ย้ำผิดมารยาทและผิดหลักปฏิบัติสากล และทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงพัฒนาการความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา หลังจากที่ได้มีการเปิดเผยบทสนทนาส่วนตัวระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฯ ฮุนเซน ประธานวุฒิสภา ของกัมพูชา ต่อสาธารณชนวานนี้ (18 มิ.ย.68) ว่า การกระทำดังกล่าวขัดต่อจรรยาบรรณ และมารยาทพื้นฐานของการปฏิสัมพันธ์ระหว่างรัฐที่ไม่อาจยอมรับได้ ถือเป็นการทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน ซึ่งส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ และความพยายามที่จะใช้กลไกทวิภาคีในการแก้ไขปัญหาของทั้งสองฝ่ายตามแนวปฏิบัติสากล และการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี พร้อมเน้นย้ำว่า ไม่ว่าผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะเป็นใคร ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคือหัวหน้ารัฐบาลของประเทศ ที่ควรได้รับการเคารพ และให้เกียรติ ตามแนวปฏิบัติสากลในการเจริญสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศจึงได้ออกหนังสือประท้วงกรณีดังกล่าว ผ่านช่องทางทางการทูต โดยได้เชิญให้เอกอัครราชทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทย มารับหนังสือดังกล่าว เพื่อแจ้งว่าการกระทำข้างต้นของทางกัมพูชาเป็นการกระทำที่ไม่สามารถยอมรับได้ ถือว่าผิดมารยาทพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างรัฐ เป็นการทำลายความไว้ใจระหว่างประเทศเพื่อนบ้านอย่างร้ายแรง ซึ่งการออกหนังสือดังกล่าวเป็นไปตามแนวปฏิบัติทางการทูต มีความรอบคอบ โปร่งใส มีวุฒิภาวะ ใช้สันติวิธี และดำเนินการอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและการดูแลคนไทยที่อยู่ในกัมพูชาแล้ว พร้อมยืนยันว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการดำเนินการทางการทูต […]

นายกฯ แถลงขออภัยคนไทยปมคลิปเสียงหลุดคุย “ฮุน เซน”

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – นายกฯ แถลงขออภัยคนไทยทุกคน กรณีคลิปเสียงหลุดคุย “ฮุน เซน” เป็นเรื่องไม่น่าเกิดขึ้น ได้คุย มทภ.2 และทำความเข้าใจกับกองทัพ โดยได้อธิบายถึงเจตนาที่แท้จริง ยอมรับไม่ทราบจริงๆ ว่ามีการอัดคลิปเผยแพร่ ย้ำวันนี้ไทยต้องร่วมมือผนึกกำลัง ปกป้องอธิปไตย ทุกภาคส่วนสรุปว่า “เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าพบ เพื่อรายงานผลการประชุมของศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) รวมถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ภายหลังเกิดกรณีคลิปเสียงการโทรศัพท์เจรจาระหว่าง น.ส.แพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ว่าได้เชิญหน่วยงานด้านความมั่นคงมาพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ก่อนอื่นต้องขออภัยพี่น้องประชาชนและคนไทยทุกคนในเรื่องกรณีที่มีคลิปเสียงหลุดออกมาระหว่างที่ตนคุยกับผู้นำกัมพูชา ความจริงเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ต้องขออภัยพี่น้องประชาชนที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจ ได้มีโอกาสคุยกับเจ้าหน้าที่และกองทัพ อธิบายถึงเหตุผลว่าเป็นเพียงแท็กติกของการสื่อสารที่จะเจรจาต่อไปว่าเราจะต้องแสดงความเข้าใจก่อน เพื่อจะคุยถึงต่อไป เป็นการต่อรองเพื่อให้การปะทะนั้นหยุดลง ด้วยความตั้งใจที่แท้จริงว่าต้องการจะให้สถานการณ์สงบสุขเท่านั้นเอง และไม่ทราบจริงๆ ว่าจะมีการอัดคลิปและเผยแพร่เช่นนี้ ก็ได้ทำความเข้าใจกับทางกองทัพเรียบร้อยแล้ว และรับฟังว่าวันนี้เราต้องร่วมมือกันผนึกกำลังเอาไว้ คนไทยทุกคนต้องผนึกกำลังเอาไว้ วันนี้ทุกภาคส่วนได้สรุปว่ากรณีดังกล่าวเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ ไม่ใช่ภัยคุกคามเล็กๆ ของประชาชนหรือของอะไร ที่จะพูดถึงว่ารัฐบาลหรือกองทัพต้องมาสู้กัน วันนี้เราไม่มีเวลาที่จะมาทะเลาะกันเองแบบนี้ เราต้องปกปกอธิปไตย ยินดีสนับสนุนกองทัพทุกรูปแบบ และวันนี้การที่เราจะทำอะไรหรือตัดสินใจในเรื่องต่างๆ เราต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยที่อยู่ในกัมพูชาด้วย รวมทั้งประชาชนตรงชายแดน […]

ผบ.ทบ. แสดงจุดยืนยึดมั่น ปชต. ย้ำเวลานี้ “คนไทยต้องสามัคคี”

กองทัพบก 19 มิ.ย. – ผบ.ทบ. แสดงจุดยืนยึดมั่นระบอบประชาธิปไตย พร้อมทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ ย้ำสถานการณ์บ้านเมืองในเวลานี้ “คนไทยต้องสามัคคี” พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันที่ปรากฏข้อมูลหรือการแสดงความคิดเห็นต่างๆ ที่หลากหลายและส่งผลกระทบต่อสังคมเป็นบริเวณกว้าง พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ในประเทศที่เกิดขึ้นโดยขอให้คนไทยได้เชื่อมั่นในกองทัพบก ที่มีจุดยืนในการยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และพร้อมทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างสุดความสามารถ ภายใต้กลไกที่มีอยู่ ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบกได้เน้นย้ำว่า หากพิจารณาอย่างรอบด้านแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในห้วงเวลานี้คือ “คนไทยต้องสามัคคี” ร่วมกันปกป้องอธิปไตยจากผู้ไม่หวังดี โดยยึดถือผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ-313 .-สำนักข่าวไทย