“จุรินทร์” ส่งสัญญาณสมาชิกทั่วประเทศ อ้อนเลือก ปชป.

กทม. 16 เม.ย.-“จุรินทร์” ส่งสัญญาณสมาชิกประชาธิปัตย์ทั่วประเทศ อ้อนเลือกประชาธิปัตย์ เพื่อความเป็นสถาบันการเมืองของไทยต่อไป ชูผลงาน “ทำได้ไว ทำได้จริง” ลั่นต้นพฤษภาจะเซ็น FTA กับดูไบ เพื่อเป็นทางออกการค้า สู่ตะวันออกกลาง

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนขึ้นรถแห่เพื่อขอเสียงให้กับผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคทั้ง 7 เขต ประกอบด้วย เขต 1 นายภาณุ ศรีบุศยกาญจน์ เบอร์ 10 เขต 2 นายวิวรรธน์ นิลวัชรมณี เบอร์ 2 เขต 3 นายปิยะรัฐ จิรรัตน์ฐิกุล เบอร์ 5 เขต 4 นายสมชาติ ประดิษฐพร เบอร์ 1 เขต 5 นายสินิตย์ เลิศไกร เบอร์ 6 เขต 6 นายธีรภัทร พริ้งศุลกะ เบอร์ 2 และ เขต 7 นางสาวตวงทอง ประดิษฐพร เบอร์ 9


โดยนายจุรินทร์ ได้เน้นย้ำถึงเสียงตอบรับของพรรคประชาธิปัตย์ว่า การปราศรัยวานนี้เป็นเวทีระดับอำเภอทั้ง บ้านนาเดิม และเวียงสระ ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งบรรยากาศดีทั้ง 2 เวที สะท้อนให้เห็นถึงเสียงตอบรับที่พี่น้องให้กับพรรคอย่างชัดเจนว่า พร้อมจะเข้ามาสนับสนุน โดยเขต 7 บ้านนาเดิม เราส่ง นางสาวตวงทอง ประดิษฐพร เบอร์ 9 จบการทูตแต่สนใจการเมือง เป็นอดีต ส.จ. ที่ได้รับเลือกด้วยคะแนนสูงสุดของจังหวัด ทำให้ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี ส่วนเขต 3 อำเภอเวียงสระ พรรคส่งนายปิยะรัฐ จิรรัตน์ฐิกุล เบอร์ 5 เป็นผู้สมัครหน้าใหม่ เนื่องจากผู้สมัครคนเดิมได้ออกไป จึงถือโอกาสที่พรรคจะมีนักการเมืองรุ่นใหม่ เข้ามาทดแทนเพื่อเดินหน้าไปสู่ความเป็นสถาบันทางการเมืองต่อไป ซึ่งนายปิยะรัฐ เป็นรองนายกเทศมนตรี และเป็นทายาทนักการเมืองท้องถิ่นที่ทำกิจกรรมรับใช้สังคมมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้รับเสียงตอบรับดีมาก ทันทีที่ประกาศตัวจึงทำให้ได้รับเสียงตอบรับดีสุดๆ มั่นใจว่าความใหม่ของทั้ง 2 เขตนี้ ก็จะไม่เป็นอุปสรรค ขณะเดียวกันก็จะเป็นแรงส่งสำคัญที่จะทำให้ประชาธิปัตย์ได้รับเสียงสนับสนุนจากชาวสุราษฎร์ฯ ทั้ง 7 เขต ที่จะทำให้ยกทีมเช่นเดียวกับการเลือกตั้งปี 62

“ผมขอส่งสัญญาณอีกครั้ง นอกจากประชาธิปัตย์ในสุราษฎร์ธานีที่ขอให้ช่วยกลับมาเลือกและสนับสนุนประชาธิปัตย์ดังเดิมและขอส่งสัญญาณถึงพี่น้องชาวประชาธิปัตย์ด้วยที่เคยยืนหยัดมั่นคงกับประชาธิปัตย์ ก็ขอให้มั่นคงต่อไป มาจับมือกันเป็นกำลังสำคัญให้ประชาธิปัตย์เดินหน้าไปสู่ความเป็นสถาบันทางเมืองที่ยั่งยืนเพื่ออนาคตประเทศที่ดีกว่า” นายจุรินทร์ กล่าว


จากการที่นายชวน หลีกภัย ลงพื้นที่ช่วยหาเสียงวานนี้และยังมีความกังวลถึงการใช้เงินซื้อเสียงนั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า เรื่องนี้จะเป็นอุปสรรค และเป็นปัญหาใหญ่ของการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มปรากฏให้เห็นเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ ถ้าพี่น้องประชาชนไปสนับสนุนคนใช้เงินเพื่อแลกกับคะแนนเสียง สุดท้ายคนเหล่านี้ถ้าเข้าไปมีอำนาจก็จะไปถอนทุนคืน และเราจะได้รัฐบาลที่คอร์รัปชั่น ผลร้ายจะตกกับพี่น้องประชาชน จากสะพานร้อยแห่งจะเหลือ 60 แห่ง โรงพยาบาลร้อยโรงก็จะเหลือ 60 โรง แล้วผลร้ายก็จะตกกับระบอบประชาธิปไตยด้วย

“จากการยึดอำนาจหลายครั้งที่ผ่านมา ถ้าไปดูสาเหตุ จะเห็นว่าเหตุผลหนึ่งที่อ้างกันก็คือ เนื่องจากมีการทุจริต คอร์รัปชั่นของรัฐบาลในขณะที่มีอำนาจอยู่ ดังนั้นการแลกคะแนนเสียงกับเงินไม่กี่ตังค์มันไม่คุ้มค่ากับความเสียหายต่อตนเอง และความเสียหายต่อประเทศที่จะเกิดขึ้น ผมคิดว่าหลายคนก็ตระหนักอยู่แล้ว แต่สิ่งเหล่านี้ต้องช่วยกันรณรงค์ในวงกว้างให้มากขึ้น” นายจุรินทร์ กล่าว

นอกจากนี้นายจุรินทร์ ยังกล่าวถึงการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลในตลอด 4 ปีที่ผ่านมาว่า ขอให้ดูแบบภาพรวมและขอให้ดูแบบแยกส่วนในความรับผิดชอบของแต่ละพรรคการเมืองด้วย ซึ่งในส่วนภาพรวมทางเศรษฐกิจนั้น เมื่อเทียบกับหลายประเทศ เราอยู่ในเกณฑ์ดี โดยเฉพาะอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจไทย ที่อยู่สูงกว่าอัตราการเติบโตเฉลี่ยทางเศรษฐกิจของโลก ขณะที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัว บางประเทศถดถอยแต่เรากลับเป็นบวก ถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนในตัว


โดยเฉพาะเรื่องการส่งออกที่อยู่ในความรับผิดชอบของตน และรัฐมนตรีประชาธิปัตย์ ก็ได้รับผลสำเร็จอย่างยิ่งท่ามกลางสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน สงครามการค้า และสถานการณ์โควิด แต่เราสามารถจับมือกับเอกชนฟันฝ่ามาได้ ทำรายได้เข้าประเทศจากการส่งออกสูงร่วม 10 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงสุดในรอบ 30 ปี เงินเหล่านี้จะนำมาใช้พัฒนาประเทศ ตั้งแต่การเอามาทำประกันรายได้เกษตรกร ทำโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ สิ่งนี้สะท้อนความสำเร็จที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ทำมาในช่วงที่ผ่านมา

นายจุรินทร์กล่าวว่า จากผลงานรวมในช่วงที่ผ่านมาถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีกว่าหลายประเทศ และดีกว่าประเทศที่พัฒนาแล้วด้วย โดยเฉพาะเรื่องที่อยู่ในความรับผิดชอบของประชาธิปัตย์ ประกันรายได้เกษตรกร สามารถเดินหน้าได้เป็นอย่างดี สำหรับในปีที่ 4 ได้มีการโอนเงินส่วนต่างให้กับชาวสวนยางแล้ว ตั้งแต่วันที่ 12 เม.ย. ถือว่าสิ่งนี้ก็เป็นผลงานที่เป็นรูปธรรมชัดเจน ที่สำคัญในเรื่องการสร้างอนาคตให้ประเทศ ซึ่งตนได้ทำอย่างเต็มที่ เห็นได้จากการทำข้อตกลงเขตการค้าเสรี FTA ที่ตนเดินทางไปทำกับหลายประเทศ เริ่มประสบความสำเร็จให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาไทยมี FTA 14 ฉบับกับ 18 ประเทศ แต่หลังจากที่ตนทำการเจรจากับสหภาพยุโรป ไปจนถึงสหรัฐอาหรับเอมิเรต UAE หรือดูไบ ตอนนี้ก็ประสบความสำเร็จแล้ว และสามารถนับหนึ่ง FTA ไทย – สหภาพยุโรป 27 ประเทศ ซึ่งจะทำให้ไทยมี FTA เพิ่มจาก 18 ประเทศ เป็น 45 ประเทศ

ทั้งนี้นายจุรินทร์ ยังประกาศข่าวดีสำหรับประเทศไทยว่า จากการที่ตนเดินทางไปเจรจากับรัฐมนตรี UAE หรือ ดูไบ นั้น ประกาศนับหนึ่งในช่วงวันที่ 11 พ.ค. นี้ ซึ่งจะช่วยให้ไทยมี FTA เพิ่มขึ้นเป็น 46 ประเทศ จี้ติดหลังเวียดนามแล้ว และทำให้เรามีความสามารถในการแข่งขันทั้งการดึงนักลงทุน และมีแต้มต่อไม่แพ้เวียดนาม อีกทั้ง FTA ดูไบนี้ ก็เป็นประตูสำคัญที่เปิดไปสู่ตลาดตะวันออกกลาง

“ประชาธิปัตย์ มีนโยบายชัดเจนว่า นอกจากการสร้างเงินให้คนไทย ยังมีนโยบายสร้างเงินให้ประเทศด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่หลายพรรคไม่ได้คิด แต่ผมยืนยันว่าประชาธิปัตย์คิด โดยเฉพาะการส่งออกสินค้า และได้แต้มต่อจาก FTA รวมถึงการดึงนักท่องเที่ยวเข้าประเทศด้วยประสบการณ์อเมซิ่งไทยแลนด์ที่เราทำมาแล้ว และเรามั่นใจว่าเราทำได้ ไม่ยากเลย เพราะเราตั้งใจทุ่มเท และเข้าใจหลักของการทำงาน” นายจุรินทร์ กล่าวในที่สุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ว่าฯ สงขลา จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ทุกสัปดาห์

กทม. 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ทำหนังสือด่วน จัดคิวนายอำเภอ เวียนต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สข 0017.3/17839 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียน นายอำเภอเมืองสงขลา ด้วยจังหวัดสงขลาได้รับแจ้งว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดเดินทางมาราชการในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจราชการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และมีกำหนดเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3103 เวลา 08.25-09.50 น. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จังหวัดสงขลาจึงขอให้ท่านดำเนินการ ดังนี้ 1. เชิญนายอำเภอเมืองสงขลา ร่วมส่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องรับรอง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ […]

ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000” ถึงหูพาณิชย์

กรุงเทพฯ​ 18 ส.ค.​-“จตุพร” สั่งกรมการค้าภายในตรวจสอบประเด็น​ดราม่า​ “ไข่​เจียวปู” ร้าน​ Michelin Guide สูงถึง​จานละ 4,000 บาท​ จาก​ที่​แจ้งราคาในเมนู​ 1,500​ บาท ย้ำ​ไม่ตรงปกไม่ได้ กรณี “พีชชี่” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง โพสต์เล่าประสบการณ์สั่งไข่เจียวปูร้านดังราคาเมนู 1,500 บาท แต่ถูกเก็บจริง 4,000 บาท กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จะมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้​ยังไม่ได้รับรายละเอียด​ แต่โดยหลักการแล้ว ราคาที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคต้องตรงกับราคาที่ระบุในเมนู หาก “ไม่ตรงปก” จะบั่นทอนความเชื่อมั่นทางการค้า “การค้าขายจะยั่งยืนได้ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ หากผู้บริโภครู้สึกว่า​ ราคาไม่ตรงกับที่เห็นในเมนู ย่อมเสียความรู้สึก” นายจตุพรกล่าว เรื่องนี้เริ่มจาก “พีชชี่” โพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าไปทานไข่เจียวปู ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการบรรจุใน Michelin Guide โดยเมนูระบุราคา 1,500 […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

เสียงเรียกแห่งความอร่อย…ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วโบราณเชียงใหม่

เชียงใหม่ 17 ส.ค. – โดดเด่นไม่เหมือนใคร “ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วสูตรโบราณ” ของอาแปะตี๋อ้วน ที่แต่งกายแบบล้านนาโบราณ เดินหาบขายตามตลาดและย่านชุมชนใน จ.เชียงใหม่ มานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยใช้การตีกังสดาล หรือระฆังวงเดือน เรียกลูกค้า สะดุดตาผู้พบเห็น หลายคนติดใจในรสชาติและราคาที่ย่อมเยา จนมีลูกค้ามากมาย .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“หลวงพ่ออลงกต” ยืนยันยังไม่ลาออกจากเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ

18 ส.ค. – ปมร้อน “หลวงพ่ออลงกต” ขอลาออกจากเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เปิดทางให้ตรวจสอบวัด ล่าสุด “หลวงพ่ออลงกต” ยืนยันยังไม่ลาออก ขอเวลาจัดการทุกเรื่อง คาด 1 เดือนชัดเจน วันนี้ (18 ส.ค.) มีกระแสข่าวว่า “พระราชวิสุทธิประชานาถ” หรือ “หลวงพ่ออลงกต” ประกาศลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อรับผิดชอบต่อสถานการณ์และเปิดทางให้กระบวนการตรวจสอบดำเนินไปอย่างโปร่งใส ขณะที่ นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยกับทีมข่าวสำนักข่าวไทยว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ กำลังติดตามข่าวดังกล่าว แต่ยังไม่ได้รับหนังสือขอลาออกอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะเกิดความชัดเจนในวันพรุ่งนี้ (19 ส.ค.) ส่วนเหตุผลที่หลวงพ่ออลงกตลาออก คาดว่าเปิดทางให้กระบวนการตรวจสอบเดินหน้าได้ พศ.แจ้งวัดหักลดหย่อนเงินบริจาคต้องผ่านระบบ e-Donation ผอ.พศ. ยังกล่าวถึงกรณีอธิบดีกรมสรรพากรทำหนังสือแจ้งมายังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา แจ้งว่ากำหนดให้การบริจาคให้แก่วัด มูลนิธิ สมาคม กองทุน และองค์การต่างๆ ซึ่งผู้บริจาคได้รับสิทธิหักลดหย่อนเงินบริจาค ต้องใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ของกรมสรรพากรเท่านั้น โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 […]

“ภูมิธรรม” ​เผยเจรจาเขตแดนไม่จบง่าย ลั่นไม่เคยพูดยุบ ศบ.ทก.

ทำเนียบ 18 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ​เผยเจรจาเขตแดนไม่จบง่าย​ ต้องรอผลประชุม​ RBC​-GBC มอบตำรวจภูธร​ภาค​ 3 รับเรื่องร้องทุกข์​ประชาชน-​ราชการ​ ส่งอัยการสั่งฟ้องแพ่ง​-อาญา​ “กัมพูชา” ส่วนฟ้อง “ฮุนเซน​” หรือ​ “ฮุน​ มาเนต​” ให้เป็นไปตามข้อกฎหมาย​ ไม่ตอบจัดการเครือข่ายนักการเมืองในไทย​ ชี้​หากทำก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเปิดเผย​ ลั่น​ไม่เคยพูดสักคำ​ ยุบ ศบ.ทก. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ว่า ขณะนี้สถานการณ์บริเวณชายแดนไทยกัมพูชายังต้องเฝ้าระวัง จึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ส่วนเรื่องการเจรจาเขตแดนทั้งหลายยังไม่จบง่ายๆ และยังรอการประชุม ตามกรอบต่างๆ ซึ่งการประชุม RBC จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 25-27 สิงหาคมนี้ ขณะที่วันที่ 8-10 กันยายนจะเป็นการประชุม GBC ที่เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ทั้งนี้ได้สั่งการให้หน่วยราชการติดตามข่าวสาร และประสานงานกันอย่างมีเอกภาพ โดยเฉพาะในเรื่องข่าวสารที่สร้างความสับสนและความเข้าใจผิดให้กับพี่น้องประชาชน พร้อมยอมรับว่าขณะนี้มีกระบวนการไอโอ จึงขอช่วยกัน อย่าตกเป็นเหยื่อของเรื่องนี้ พร้อมย้ำว่ารัฐบาลยึดผลประโยชน์ประเทศชาติอธิปไตยของประเทศทรัพย์สินและชีวิตของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง จึงขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย ขณะเดียวกันที่ประชุม สมช.ยังมีการพิจารณาเรื่องการดำเนินคดีตามกฎหมาย กรณีกัมพูชาใช้กำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ในการคุกคามอธิปไตยของไทย […]

ทบ.แจงบ้านหนองจานอยู่ในเขตไทย เดิมเป็นที่ลี้ภัยชาวเขมร

กองทัพบก 18 ส.ค.- ทบ. แจงพื้นที่บ้านหนองจาน อยู่ในเขตประเทศไทย เดิมเคยเป็นที่ช่วยเหลือชาวกัมพูชาลี้ภัยจากการสู้รบชั่วคราว ภายหลังพบมีการขยายชุมชน ละเมิด MOU43 แม้ฝ่ายไทยมีการประท้วงอย่างต่อเนื่อง จากกรณีที่มีชาวกัมพูชาได้ออกมาร้องเรียนเรื่องการวางรั้วลวดหนามของทหารไทยบริเวณบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว โดยกล่าวอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นดินแดนของตนนั้น พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่าแท้จริงแล้วพื้นที่ดังกล่าวเป็นอาณาเขตของประเทศไทย ซึ่งอยู่บริเวณบ.หนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว รอยต่อแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ระหว่างหลักเขตแดนที่ 46 และ 47 นอกจากนี้ยังพบว่าฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงในพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยการสนับสนุนให้ราษฎรมาสร้างถิ่นฐานอย่างถาวร ทั้งในบริเวณพื้นที่อ้างสิทธิ์ และนอกบริเวณพื้นที่อ้างสิทธิ์ในฝั่งประเทศไทย ซึ่งกองทัพบก โดยกองกำลังบูรพา ได้ดำเนินการประท้วงร้องเรียนฝ่ายกัมพูชาในเวทีต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งระดับหน่วยทหารในพื้นที่ และผ่านกระทรวงการต่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน แต่ฝ่ายกัมพูชากลับนิ่งเฉย ไม่มีการชี้แจงในรายละเอียด หรือแก้ไขใดๆ จึงยืนยันได้ว่าฝ่ายไทยได้ใช้การแก้ปัญหาโดยสันติวิธีมาตลอด โฆษกกองทัพบก กล่าวต่อว่าสำหรับปัญหา ณ ปัจจุบัน ฝ่ายกัมพูชา มีเจตนาอันไม่บริสุทธิ์ พยายามจะใช้ประชาชนให้เป็นผู้ออกหน้าในการรุกล้ำพื้นที่อธิปไตยประเทศไทยในบริเวณดังกล่าว ทั้งนี้ อาจเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับฝ่ายทหารโดยตรง ทำให้เข้าใจได้ว่า […]

ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันไม่ได้ออกคำสั่งรับ มท.3

สงขลา 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันไม่ได้ออกคำสั่งให้นายอำเภอจัดเวรต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ส่วนมีใครคิดจะปลอมแปลงขึ้นมาก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกมากล่าวถึงเรื่องที่มีหนังสือคำสั่งทางราชการให้นายอำเภอของจังหวัดสงขลาทั้ง 16 อำเภอจัดเวรต้อนรับ-ส่ง และจัดห้อง VIP พร้อมอาหารว่าง ต้อนรับ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย นายเดชอิศม์ ขาวทอง ซึ่งรายละเอียดในหนังสือกล่าวว่าให้นายอำเภอเมืองสงขลาปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 คือในวันนี้ ว่าไม่เป็นความจริง ตนไม่ได้ออกหนังสือฉบับนี้ เพราะหนังสือที่ตนลงนามฉบับสุดท้ายในวันนั้นคืองานประชุม ส่วนความจริงตอนนี้มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว แต่ให้ข้อคิดว่าหนังสือที่จะขอใช้พื้นที่หน่วยงานจากท่าอากาศยาน ก็ต้องเป็นลายเซ็นของผู้ว่าราชการเท่านั้น ส่วนมีใครคิดจะปลอมแปลงหรือทางหนังสือปลอมขึ้นมาก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป แต่จะให้ได้ความจริงให้เร็วที่สุด เมื่อมีการสอบถามเรื่องความขัดแย้งของจังหวัดสงขลาราชการจังหวัดสงขลากล่าวว่าท่านไม่น่าจะมีความขัดแย้งกับใคร เพราะไม่เคยทำงานในพื้นที่มาก่อน เพิ่งมารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาในครั้งแรก ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ยังกล่าวอีกว่า วันและเวลาดังกล่าวที่มีการออกหนังสือ ตนก็ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ไปธุระส่วนตัวงานแต่งงานของญาติที่จังหวัดนครศรีธรรมราช แต่จะให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหาความจริงเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเพราะถือว่าเป็นการทำผิดอย่างมาก.-สำนักข่าวไทย