จ.เชียงใหม่10 เม.ย.- “เศรษฐา” เดินกาดเมืองใหม่ แวะตักบาตรเช้า ก่อนพบตัวแทนภาคประชาชน-ภาคท่องเที่ยวถกปัญหาฝุ่น ชี้รัฐบาลบกพร่องการแก้ปัญหา
นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 1 เบอร์ 1 เดินพบปะพ่อค้า แม่ค้า และประชาชนที่มาค้าขาย และเดินตลาดในช่วงเช้า โดยนายเศรษฐาได้หยุดแวะตักบาตรเช้าระหว่างเดินหาเสียง ก่อนจะทำภารกิจในวันนี้ (10 เม.ย.)
บรรยากาศช่วงเช้าของตลาดเมืองใหม่เป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนจำนวนมากมาจับจ่ายซื้อของเนื่องจากตลาดเมืองใหม่เป็นแหล่งขายสินค้าเกษตรที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัด และเป็นจุดศูนย์กลางในขนส่ง-กระจายสินค้าทางการเกษตรไปยังแหล่งจำหน่ายต่างๆในจังหวัด ซึ่งนายเศรษฐาได้รับการตอบรับจากทั้งพ่อค้า แม่ค้า และประชาชนเป็นอย่างมากหลายคนโบกมือทักทาย ให้กำลัง ขอถ่ายภาพด้วย
จากนั้นเวลา 07.50 น. นายเศรษฐา ได้เดินทางมาที่สี่แยกรินคำ ซึ่งเป็นจุดวัดค่าฝุ่นที่สำคัญจุดหนึ่งของจ.เชียงใหม่ โดยนายเศรษฐาได้พูดคุยกับส.ส.ในพื้นที่ และนายสมชาย ทองคำรูณ กรรมการบริษัท green bus รองประธานหอการค้า จ.เชียงใหม่ นางวิภาวัลย์ วรพุฒิพงศ์ รองนายกอบจ.เชียงใหม่ และนายสมโภช ลิ้มเล็งเลิศ รองประธานหอการค้าจ.เชียงใหม่ ถึงผลกระทบของฝุ่น PM 2.5 ที่ส่งผลต่อภาคการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ด้วย
นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ไขปัญหาว่า เรื่องปัญหาฝุ่น PM 2.5 เป็นปัญหาลึกซึ้ง ต้องการผู้นำที่เอาใจใส่จริงจังในการแก้ไขปัญหา ไม่ว่าการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงการเผาทั้งหลาย ทั้งนี้ผู้ประกอบการในประเทศไปติดต่อซื้อพันธุ์พืชมาจากประเทศใกล้เคียง ซึ่งกระตุ้นการผลิตแต่ไม่ได้สนใจปลายน้ำ ดังนั้นอาจต้องนำมาตรการภาษีมาเกี่ยวข้องด้วย ถ้าไม่มีการแก้ไขปัญหาให้ดีขึ้น โดยจะนำเงินภาษีที่ได้ช่วยเหลือประชาชนในการกำจัดซากพืชผล และการเผาด้วย
เมื่อถามว่า มีผู้ประกอบการบางรายเข้าป่าไปเผาพืชผลเพื่อนำมาขายในท้องตลาดด้วย นายเศรษฐา ย้ำว่า เรื่องนี้ก็น่าเห็นใจเพราะพี่น้องประชาชนของเราประสบปัญหาเรื่องรายจ่ายสูงรายได้ต่ำมานาน ผักหวานก็เป็นพืชที่ขายได้กิโลกรัมละ100 บาท เพราะต้องไปเผาก่อนถึงจะแตกหน่อมาได้ก่อนเก็บมาขายและได้ราคาดี เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยด้านเกษตรกรรมมนวัตกรรมเพื่อให้มีการนำมาปลูกและแตกหน่อได้โดยไม่มีการเผาก็ได้ ตรงนี้เป็นการนำวิกฤตให้มาเป็นโอกาสด้วย
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยเคยเป็นรัฐบาลมาก่อนและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้านมาตลอดจะใช้วิธีการในการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านก่อนเลือกตั้งหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า แน่นอนว่าเป็นความบกพร่องของรัฐบาลปัจจุบันด้วย และพรรคเพื่อไทยคงคิดว่าไม่มีความเหมาะสม หากจะต้องใช้โอกาสก่อนเลือกตั้งไปเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน เพราะเวลาเราก็น้อย และอย่าก้าวเกินไปไกลกว่าหน้าที่ที่เราจะทำ แต่ถ้าพี่น้องประชาชนให้ฉันทามติพรรคเพื่อไทย เข้าไปบริหารประเทศก็ยืนยันว่าจะนำเรื่องฝุ่น PM 2.5 เข้ามาบริหารจัดการก่อนเป็นเรื่องแรก ไม่ใช่แค่จังหวัดเชียงใหม่อย่างเดียวแต่จะรวมกับจังหวัดอื่นๆ ด้วย ถ้าเป็นสิทธิค่านิยมพื้นฐานของประชาชนที่คนไทยไม่ต้องเรียกร้องเพื่อนำอากาศบริสุทธิ์กลับคืนมา
ด้านนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขตเลือกตั้งที่ 1 หมายเลข 1 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เรื่องฝุ่น PM 2.5 เป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยทวงถามมาตลอด ในวันที่16 เม.ย.นี้ จะไปกับประชาชนร้องศาลปกครอง เพื่อแสดงออกสิ่งที่ทำมาตลอด โดยร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด ที่หมดอายุไปตามสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 25 ก็เป็นสารตั้งต้น ที่จะผลักดันเพราะเนื้อหากฎหมายได้ขยายเพดานการเจรจาประเทศเพื่อนบ้านในเรื่องหมอกควันข้ามพรมแดน ที่นายเศรษฐาได้กล่าวไปมีทั้งปัจจัยการเผาภายในประเทศ และปัจจัยคนที่อยู่กับป่าจะมี พ.ร.บ.ป่าไม้ ประเด็นการเผาก็มีเรื่องความขัดแย้งในประเทศ รวมถึงหมอกควันที่ลอยมาจากประเทศเพื่อนบ้านต้องมีการเจรา แล้วก็มีบทลงโทษด้วย ไม่ว่าพรรคเพื่อไทยจะอยู่ในสถานะใด พรรคเพื่อไทยยืนยันจะทวงคืนอากาศบริสุทธิ์ให้ชาวเชียงใหม่แน่.-สำนักข่าวไทย