“ซูเปอร์โพล” เทียบผลโพลเลือกตั้ง พบหนุนขั้วรัฐบาลพุ่ง พลังเงียบตัวแปรสำคัญ

กรุงเทพฯ 1 เม.ย. – ซูเปอร์โพล เผยผลสำรวจ “โพลเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ 2” พบความนิยมขั้วรัฐบาลพุ่ง ทั้ง “ลุงตู่-อนุทิน-จุรินทร์-ลุงป้อม” คะแนนเพิ่มเรียงหน้ากระดาน เป็น 39.1% เหตุคลอดมาตรการอุ้มผู้มีรายได้น้อยล่าสุด ขณะที่ฝ่ายค้านลดเหลือ 24.5% ระบุพลังเงียบตัวแปรสำคัญชี้เป็นชี้ตาย


เมื่อวันที่ 1 เม.ย.66 สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจ เรื่อง “โพลเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ 2 (ฉบับเต็ม) กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ อายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 53,094,778 คน จำนวน 1,257 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 26-31 มีนาคม 2566 โดยเมื่อเปรียบเทียบผลสำรวจจุดยืนทางการเมืองของประชาชน ระหว่างโพลเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 พบว่า กลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 34.1 เป็นร้อยละ 39.1 ในขณะที่กลุ่มผู้ไม่สนับสนุนรัฐบาลลดลงจากร้อยละ 29.6 เป็นร้อยละ 24.5 และกลุ่มพลังเงียบยังคงเป็นตัวแปรสำคัญไม่เปลี่ยนแปลง คือ ร้อยละ 36.3 ในการสำรวจครั้งที่ 1 และร้อยละ 36.4 ในการสำรวจครั้งที่ 2

ที่น่าสนใจคือ ความตั้งใจจะเลือกพรรคการเมือง แบ่งออกระหว่างกลุ่มแฟนคลับพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาล กับกลุ่มแฟนคลับพรรคร่วมฝ่ายค้าน เปรียบเทียบครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 พบว่า ในกลุ่มพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาลรวมกันเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 51.6 ในครั้งที่ 1 มาอยู่ที่ร้อยละ 55.7 ในครั้งที่ 2 โดยพบว่าเป็นการเทคะแนนมาจากกลุ่มพลังเงียบ ในขณะที่พรรคร่วมฝ่ายค้านตอนนี้รวมกันลดลงจากร้อยละ 43.3 ในครั้งที่ 1 มาอยู่ที่ร้อยละ 36.3 ในการสำรวจครั้งที่ 2 โดยในกลุ่มพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาล อันดับหนึ่ง ได้แก่ พรรคภูมิใจไทย เพิ่มจากร้อยละ 19.1 ในครั้งที่ 1 มาเป็นร้อยละ 20.5 ในครั้งที่ 2 รองลงมาคือ พรรคประชาธิปัตย์ เพิ่มจากร้อยละ 13.4 ในครั้งที่ 1 มาเป็นร้อยละ 14.2 ในครั้งที่ 2 อันดับสาม ได้แก่ พรรคพลังประชารัฐ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 10.1 ในครั้งที่ 1 มาอยู่ที่ร้อยละ 10.9 ในครั้งที่ 2 อันดับสี่ ได้แก่ พรรครวมไทยสร้างชาติ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 7.3 ในครั้งที่ 1 มาอยู่ที่ร้อยละ 9.3 ในครั้งที่ 2 เป็นต้น


ในขณะที่ความตั้งใจของประชาชนจะเลือก ส.ส. ในกลุ่มพรรคร่วมฝ่ายค้าน พบว่า อันดับแรก พรรคเพื่อไทย แต่ลดลงจากร้อยละ 36.9 ในครั้งที่ 1 มาอยู่ที่ร้อยละ 29.1 ในการสำรวจครั้งที่ 2 รองลงมาคือ พรรคก้าวไกล ที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5.9 ในครั้งที่ 1 มาอยู่ที่ร้อยละ 6.7 ในครั้งที่ 2 ส่วนพรรคเสรีรวมไทย ยังคงเท่าเดิม คือ ร้อยละ 0.5 ในการสำรวจทั้ง 2 ครั้ง

นอกจากนี้ ที่น่าสนใจคือ คนที่ประชาชนอยากได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปในกลุ่มแฟนคลับของพรรคร่วมรัฐบาล อันดับแรกยังคงเป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 19.0 ในการสำรวจครั้งที่ 1 มาอยู่ที่ร้อยละ 20.4 ในครั้งที่ 2 อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีคะแนนเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 12.3 ในครั้งที่ 1 มาอยู่ที่ร้อยละ 16.3 ในการสำรวจครั้งที่ 2 ในขณะที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ มีคะแนนเพิ่มขึ้นเช่นกัน จากร้อยละ 12.2 ในครั้งที่ 1 มาอยู่ที่ร้อยละ 12.9 ในครั้งที่ 2 และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากร้อยละ 3.1 มาอยู่ที่ร้อยละ 3.5 ในการสำรวจครั้งล่าสุดนี้ อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจส่วนของฝั่งพรรคร่วมฝ่ายค้าน พบว่า อันดับแรกยังคงเป็น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แต่สัดส่วนลดลงจากร้อยละ 39.7 ในการสำรวจครั้งแรก มาอยู่ที่ร้อยละ 32.1 ในครั้งที่ 2 ในขณะที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กลับมีคะแนนเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 8.7 ในครั้งที่ 1 มาอยู่ที่ร้อยละ 9.3 ในครั้งที่ 2 ตามลำดับ

รายงานผลสำรวจของซูเปอร์โพล ระบุว่า ผลโพลชิ้นนี้ชี้ให้เห็นว่า กลุ่มพลังเงียบยังคงเป็นตัวแปรสำคัญ เพราะจะเปลี่ยนไปมาได้โดยง่าย กลุ่มพลังเงียบน่าจะเป็นกลุ่มชี้เป็นชี้ตายชัยชนะผลการเลือกตั้งครั้งที่จะมาถึงนี้ เพราะหากไปสนับสนุนฝั่งใด ฝั่งนั้นน่าจะเป็นฝ่ายที่จะถึงเป้าหมายของการเป็นรัฐบาลและตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยผลการศึกษาของซูเปอร์โพลยังพบด้วยว่า ปัจจัยสำคัญทางการเมือง คือ ประชาชนหันมาสนใจติดตามข่าวการเมืองเพิ่มขึ้น รับรู้ผลงานของรัฐบาลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีแต่ละคนมากขึ้น เป็นข้อได้เปรียบของพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาล ในขณะที่ข้อเสียเปรียบของพรรคร่วมฝ่ายค้าน คือ ฐานเดิมไม่ได้ขยายเพิ่ม กลุ่มสวิงที่เปลี่ยนใจง่ายยังไม่เห็นผลงานของพรรคร่วมฝ่ายค้าน และบางส่วนมองว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคร่วมฝ่ายค้านไม่มีประสบการณ์ทางการเมือง. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ธานินทร์ กรัยวิเชียร” อดีตนายกฯ-องคมนตรี ใน ร.9 ถึงแก่อสัญกรรม

อาลัย “ธานินทร์ กรัยวิเชียร” อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตองคมนตรีในรัชกาลที่ 9 ถึงแก่อสัญกรรม สิริอายุ 97 ปี

อุตุฯ เผย 24-25 ก.พ.68 ไทยตอนบนอากาศแปรปรวน-พายุฝนฟ้าคะนอง

กรมอุตุฯ เผยช่วงวันที่ 24-25 ก.พ. 68 ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง รวมทั้ง กทม.-ปริมณฑล ภาคตะวันออก จะมีสภาพอากาศแปรปรวน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง

จับหนุ่มอินเดียขนเงินกว่า 15 ล้านบาท เข้าไทย

หนุ่มอินเดียหอบเงินสด 15.7 ล้านบาท เดินเท้าจากปอยเปตเข้าไทย อ้างเล่นพนันได้ เจ้าหน้าที่เร่งขยายผล หวั่นพัวพันคอลเซ็นเตอร์

โฆษกรัฐบาล นำบุกร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า แต่ไหวตัวทันไม่เจออะไร

โฆษกรัฐบาล นำ สคบ.-สธ. บุกร้านลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าย่านสายไหม หลังได้รายงานลับ แต่ร้านไหวตัวทัน ปิดหนีหมดไม่เจออะไร เตรียมเสนอนายกฯ ตั้ง กก.ปราบจริงจัง เผยตัวเลขขายปีละ 5 พันล้าน อ้างเป็นสินค้าผ่านแดน แต่ปล่อยหลุดเข้าไทย