พท.ปราศรัยเมืองปทุมฯ “อุ๊งอิ๊ง” อาสาปราบยาเสพติดด้วย 3 ป.

ปทุมธานี 29 มี.ค. – “แพทองธาร” ประกาศลั่นเมืองปทุมฯ อาสาปราบยาเสพติดด้วย 3 ป. ปราบผู้ขาย-เปิดเวทีพูดคุยประเทศเพื่อนบ้าน-เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย “ชลน่าน” ยันเวลานี้ต้องโหวตเชิงยุทธศาสตร์ ให้เพื่อไทยชนะแลนด์สไลด์จัดตั้งรัฐบาล


(29 มีนาคม 2566) พรรคเพื่อไทย เปิดเวทีปราศรัย “ปักธง คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน เพื่อคนปทุมธานี” ที่ลานหน้าห้างสรรพสินค้าโลตัส รังสิต จ.ปทุมธานี นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตคลองสามวา (ยกเว้นแขวงสามวาตะวันออก และแขวงทรายกองดินใต้) พรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยแกนนำพรรค ได้แก่ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายพานทองแท้ ชินวัตร ที่ปรึกษาศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง ส.ส.พรรคเพื่อไทย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน สมาชิกพรรคเพื่อไทย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ สมาชิกพรรคเพื่อไทย รวมทั้งว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ปทุมธานี พรรคเพื่อไทย ได้แก่ เขต 1 นายสุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล, เขต 2 นายศุภชัย นพขำ, เขต 3 นายยุทธศักดิ์ ชูประเสริฐ, เขต 4 นายสุทิน นพขำ, เขต 5 นายมนัสนันท์ หลีนวรัตน์, เขต 6 นายชัยยันต์ ผลสุวรรณ์ และเขต 7 นายยงยุทธ มั่นบุปผชาติ ท่ามกลางพี่น้องประชาชนเข้าร่วมเวทีการปราศรัยกว่า 5,000 คน

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวขอแรงใจจากพี่น้องประชาชน ร่วมกัน “แลนด์สไลด์” หรือโหวตเชิงยุทธศาสตร์ เลือกเพื่อไทยอย่างถล่มทลายให้ได้เกิน 310 เสียง เพื่อจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ และมีเสียงเกิน ส.ว. 250 คน ย้ำว่าแลนด์สไลด์เท่านั้นที่จะขจัดความทุกข์ที่พี่น้องเผชิญมาตลอด 8 ปี ขจัดกองหนี้สินที่เกิดขึ้นใต้รัฐบาลชุดที่ผ่านมา และการขจัดปัญหาทั้งหมดที่กล่าวมานั้น ทำได้ไม่ยาก ไม่ต้องเสียแรง วันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ชาวปทุมธานีพร้อมใจกันเดินเข้าคูหา กาพรรคเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ ทั้งคนทั้งพรรค


อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยรณรงค์ยุทธศาสตร์ “แลนด์สไลด์” ที่ตัวเลข 250 เสียง แต่วันนี้ขยับตัวเลขไปที่ 310 เสียง เพราะเมื่อกระแสของพรรคมาแรงขึ้น ทำให้มี ส.ว.บางคนเริ่มประกาศออกมาแล้วว่า หากเพื่อไทยได้เกิน 250 เสียง ยังจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ จะจัดตั้งได้ก็ต่อเมื่อได้เก้าอี้ 370 ขึ้นไป เพราะจะชนะเสียง ส.ว. อย่างเด็ดขาด พรรคเพื่อไทยจึงจำเป็นต้องรณรงค์วิธีใหม่ ขอความร่วมมือจากพี่น้องทั้งประเทศ เลือกเพื่อไทยให้ถล่มทลาย ให้การเลือกตั้งครั้งนี้เพื่อไทยชนะขาดและจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ

“ถ้าได้ครึ่งๆ กลางๆ 260 เสียง ก็ยังไม่ชนะขาด วันนี้ต้องไม่รักพี่ไม่เสียดายน้อง ไม่เลือกพ่วง เพื่อไทยจะขอจับมือกับพี่น้องชาวปทุมฯ ร่วมกัน ‘คิดใหญ่’ เปลี่ยนชีวิตคนไทย” นพ.ชลน่าน กล่าว

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้มีความยินดีที่ได้มาเจอชาวปทุมธานี เพราะในอดีตสมัยรัฐบาลไทยรักไทย ของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้มีโอกาสบรรจุ จ.ปทุมธานี อยู่ในการนำร่องโครงการ “30 บาท รักษาทุกโรค” รวมถึงในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จ.ปทุมธานี ก็เป็นหนึ่งในจังหวัดนำร่องที่ได้ปรับขึ้นค่าแรงเป็น 300 บาท


ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยรับรู้ถึงปัญหาความเป็นอยู่ของพี่น้องชาวปทุมธานีมาโดยตลอด อยากให้พี่น้องประชาชนกลับมากินดีอยู่ดีอีกครั้ง พรรคเพื่อไทยจึงเสนอนโยบายดีๆ ทั้งการเติมเงินรายได้ให้ครอบครัวที่มีรายได้ไม่ถึง 20,000 บาท ให้ครบ 20,000 บาท เพื่อช่วยเหลือให้พี่น้องมีรายได้พอใช้ในครัวเรือน ก่อนรัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะรีบฟื้นฟูเศรษฐกิจ และภายในต้นปีหน้า ค่าแรงของพี่น้องประชาชนจะเพิ่มขึ้นมากกว่านี้แน่นอน รวมถึงปัญหายาเสพติดที่ระบาดมากมาย หาง่ายได้ทั่วไป เพื่อไทยจำเป็นต้องแลนด์สไลด์ ปิดสวิตช์ ส.ว. และ 3 ป. แต่จะเอา 3 ป. ที่สร้างสรรค์มาแก้ไขปัญหายาเสพติด ได้แก่

  1. ป.ปราบ ทั้งผู้ขาย เจอที่ไหนจับที่นั่น
  2. ป.เปิด เปิดเวทีพูดคุยกับประเทศเพื่อนบ้าน ร่วมมือกันจับแหล่งผลิตยาเสพติด
  3. ป.เปลี่ยน เปลี่ยนผู้เสพให้เป็นผู้ป่วย ได้รับการรักษาคืนสู่อ้อมกอดของสังคม

ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยรู้ดีว่าพี่น้องประชาชนต้องเผชิญกับความยากลำบาก ต้องเป็นหนี้เป็นสินกันมากมาย พรรคเพื่อไทยจึงขออาสาแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนอีกครั้ง ด้วยนโยบาย “คิดใหญ่ ทำเป็น” มั่นใจว่า ส.ส.ที่มาจากเสียงของประชาชน จะทำเพื่อประชาชน มีพี่น้องประชาชนเป็นศูนย์กลางแน่นอน 14 พ.ค.นี้ ขอให้พี่น้องประชาชนไปสิทธิ เลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ ทั้งคน ทั้งพรรค เพื่อให้เราช่วยคืนชีวิตที่ดีให้พี่น้องประชาชนได้มีศักดิ์ศรีอีกครั้ง

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตคลองสามวา (ยกเว้นแขวงสามวาตะวันออก และแขวงทรายกองดินใต้) พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สมัยรัฐบาลพรรคเพื่อไทยได้มีโครงการบริหารจัดการน้ำ ป้องกันน้ำท่วม น้ำแล้ง โดยเฉพาะ จ.ปทุมธานี ซึ่งถูกน้ำท่วมหากมีน้ำเหนือไหลบ่ามา ทั้งยังอยู่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งธรรมชาติการไหลของน้ำ ในช่วงเย็น น้ำจะไหลขึ้นเหนือ เนื่องจากน้ำทะเลหนุน ในเช้าวันถัดไป น้ำจะไหลลงทะเลที่ จ.สมุทรปราการ หากรัฐบาลพรรคเพื่อไทยไม่ถูกปฏิวัติยึดอำนาจในปี 2557 น้ำจะไม่ท่วมปทุมธานี ในโครงการบริหารจัดการน้ำ จะมีการสร้างเขื่อนกั้นทะเล น้ำในคลองต่างๆ จะไหลลงแม่น้ำเจ้าพระยาในช่วงค่ำ และจะไหลลงทะเลในช่วงเช้า แนวคิดนี้เช่นเดียวกับที่เนเธอร์แลนด์ ซึ่งมีสภาพภูมิประเทศเหมือนไทย คนสามารถอยู่ร่วมกับน้ำได้ ป้องกันภัยแล้ง ป้องกันน้ำท่วมได้ สามารถบริหารจัดการแม่น้ำ ปิง วัง ยม น่านได้ เมื่อน้ำไม่ท่วม ราคาข้าวจะปรับตัวดีขึ้น

“ส.ว.ยังมีอายุอีก 1 ปี เลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ให้มากกว่า 310 เสียง เราจะเอาเศรษฐกิจดีๆ เราจะเอาผู้นำดีๆ ไปต่างประเทศ เราต้องมีความสุข ไม่ใช่ไปแล้วไปอาย ต้องเลือกเพื่อไทยสถานเดียว” นายจิรายุ กล่าว

นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า คนปทุมธานีมีประวัติร่วมกันต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย มีส่วนทำให้ไทยรักไทยชนะเลือกตั้งถล่มทลายได้ 377 ที่นั่ง เป็นพรรคแรกที่นำนโยบายไปทำให้ประสบความสำเร็จ ในปี 2548 สุดท้ายก็เกิดรัฐประหาร แต่พรรคพลังประชาชนได้รับเลือกตั้งอีก เขาก็ใช้กลไกรัฐธรรมนูญมาล้มรัฐบาล จัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร คนปทุมธานีก็ออกไปต่อสู้ให้รัฐบาลในค่ายทหารยุบสภา และในปี 2554 คนไทยทั้งประเทศก็ยังยืนยันเลือกพรรคเพื่อไทย 265 เสียง ในจำนวนนั้นปทุมธานีเลือกพรรคเพื่อไทยทั้งจังหวัดทุกคน การยึดอำนาจในปี 2557 ทำให้เสียโอกาส อย่างรถไฟความเร็วสูง จากกรุงเทพฯ-ปทุมธานี ไปเชียงใหม่ และจากปทุมธานีไปอีสาน ต่อกับ สปป ลาว และแผนระบบจัดการน้ำ ถ้ารัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ถูกยึดอำนาจ ตอนนี้เสร็จสมบูรณ์แล้ว

“ปทุมธานีปลูกข้าว 3 แสนไร่ แต่เกษตรกรยังเดือดร้อน ปุ๋ยแพง 3 เท่า แต่รัฐบาลไม่ได้สนใจไปเจรจาแก้ปัญหา มีโรงงาน 3,000 แห่ง แต่การส่งออกติดลบ เพราะสนใจแต่เรื่องความมั่นคง เศรษฐกิจประเทศไทยเติบโตช้าที่สุดในอาเซียน หลังการเกิดโควิดก็ฟื้นฟูเศรษฐกิจได้ช้าที่สุด รายได้ต่อหัวอันดับต่ำสุดในอาเซียน นี่คือสิ่งที่ประยุทธ์ทำแล้ว ทำอยู่ และจะทำต่อไป” นายจาตุรนต์ กล่าว

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวย้ำว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะบริหารให้เกียรติประชาชน ด้วยรายได้ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเส้นความยากจน ให้ถึง 20,000 บาท/ครอบครัว คนไทยอายุ 16 ปีบริบูรณ์ ไม่ว่าจะกลุ่มความหลากหลายทางเพศ มีบัตรประชาชน มีกระเป๋าเงินดิจิทัล โดยวันที่ 5 เมษายน จะประกาศตัวเลขจำนวนเงิน ส่วนบัตรคนจนทิ้งไว้ให้เป็นอนุสรณ์แห่งความยากจน ถ้าเลือกพรรคเพื่อไทย ไม่เอากัญชาไว้ในมือเยาวชน ยาเสพติดต้องหมดไป ประชาชนจะกลับมาอยู่ดีกินดี

“พี่น้องที่เคยต่อสู้มาด้วยกัน มีคนถามมาตลอดว่า พี่น้องเสื้อแดงบางจังหวัดพลัดพรากจากพรรคเพื่อไทย ผมเชื่อว่าประชาชนที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ไม่มีทางที่จะทรยศหักหลังประชาธิปไตย ไม่เอาเผด็จการ ไม่เอาสืบทอดอำนาจ” นายณัฐวุฒิ กล่าว. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล

นายกฯ เป็นประธานถวายเครื่องราชสักการะ-จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

สนามหลวง 3 มิ.ย.-นายกรัฐมนตรี และคู่สมรส เป็นประธานพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 เวลา 19. 49 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 โดยมีผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีและคู่สมรสเดินทางถึงพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที นายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ทำวันทยหัตถ์หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แล้ววางพุ่มทอง พุ่มเงิน จากนั้นนายกรัฐมนตรีถวายธูปเทียนแพ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล […]

ตรวจความพร้อมรบ

แม่ทัพภาค 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2

กาญจนบุรี 3 มิ.ย.- แม่ทัพภาคที่ 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 กองกำลังสุรสีห์ ตามแผนเผชิญเหตุ ทบ. พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2 ชายแดนไทย-กัมพูชา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา ที่สนามฝึกทางยุทธวิธี พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค 1 เดินทางไปตรวจความพร้อมหน่วย ตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก ทั้งหน่วย กรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 1 และกองพันพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว RDF กองทัพภาคที่ 1 โดยมี พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9 ให้ต้อนรับ พล.ร.9 ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก ให้จัดกำลังเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของกองทัพบก ในการใช้กำลังตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก เข้าในพื้นที่ที่รับผิดชอบ และให้การสนับสนุนเสริมกำลังรบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบกองทัพภาคที่ 1 โดยหน่วยเตรียมกำลังได้ตรวจสภาพความพร้อมรบตามขั้นตอน เพื่อตรวจสอบความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการปฏิบัติภารกิจในทุกพื้นที่ที่ได้รับมอบภารกิจจากกองทัพบก ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ให้โอวาสกำลังพล ในการเตรียมความพร้อมในทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก โดยขอให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และพร้อมดูแลพี่น้องประชาชน […]

หลวงปู่ศิลา

“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สนับสนุนภารกิจกองกำลังชายแดน

นครราชสีมา 3 มิ.ย.-“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สร้างที่พักในฐานตามแนวชายแดน พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ในการดูแลประเทศชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา สิริจันโท) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน จ.กาฬสินธุ์ และคณะศิษย์และมูลนิธิธรรมะอุทยาน พร้อมทั้งคณะศิษยานุศิษย์ มอบเงินบริจาค จำนวน 2,017,860 บาท และข้าวสารจำนวน 1,500 กิโลกรัม ให้กับกองทัพภาคที่ 2 เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือกองกำลังทหารชายแดน โดย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้รับมอบ ที่กองบัญชาการ ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา สำหรับเงินทั้งหมดนี้ จะได้นำไปจัดสร้างที่พักในฐานที่มั่นของกองกำลังสุรนารี ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ตามแนวชายแดน รวมถึงจัดซื้ออุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่ยังขาดอยู่ ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ รวมถึงการจัดหาเครื่องมือต่างๆที่สามารถใช้ได้ภายในฐานปฏิบัติการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทหาร ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่แถวชายแดน. -313 สำนักข่าวไทย

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย