พท.ปราศรัยเมืองปทุมฯ “อุ๊งอิ๊ง” อาสาปราบยาเสพติดด้วย 3 ป.

ปทุมธานี 29 มี.ค. – “แพทองธาร” ประกาศลั่นเมืองปทุมฯ อาสาปราบยาเสพติดด้วย 3 ป. ปราบผู้ขาย-เปิดเวทีพูดคุยประเทศเพื่อนบ้าน-เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย “ชลน่าน” ยันเวลานี้ต้องโหวตเชิงยุทธศาสตร์ ให้เพื่อไทยชนะแลนด์สไลด์จัดตั้งรัฐบาล


(29 มีนาคม 2566) พรรคเพื่อไทย เปิดเวทีปราศรัย “ปักธง คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน เพื่อคนปทุมธานี” ที่ลานหน้าห้างสรรพสินค้าโลตัส รังสิต จ.ปทุมธานี นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตคลองสามวา (ยกเว้นแขวงสามวาตะวันออก และแขวงทรายกองดินใต้) พรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยแกนนำพรรค ได้แก่ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายพานทองแท้ ชินวัตร ที่ปรึกษาศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง ส.ส.พรรคเพื่อไทย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน สมาชิกพรรคเพื่อไทย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ สมาชิกพรรคเพื่อไทย รวมทั้งว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ปทุมธานี พรรคเพื่อไทย ได้แก่ เขต 1 นายสุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล, เขต 2 นายศุภชัย นพขำ, เขต 3 นายยุทธศักดิ์ ชูประเสริฐ, เขต 4 นายสุทิน นพขำ, เขต 5 นายมนัสนันท์ หลีนวรัตน์, เขต 6 นายชัยยันต์ ผลสุวรรณ์ และเขต 7 นายยงยุทธ มั่นบุปผชาติ ท่ามกลางพี่น้องประชาชนเข้าร่วมเวทีการปราศรัยกว่า 5,000 คน

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวขอแรงใจจากพี่น้องประชาชน ร่วมกัน “แลนด์สไลด์” หรือโหวตเชิงยุทธศาสตร์ เลือกเพื่อไทยอย่างถล่มทลายให้ได้เกิน 310 เสียง เพื่อจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ และมีเสียงเกิน ส.ว. 250 คน ย้ำว่าแลนด์สไลด์เท่านั้นที่จะขจัดความทุกข์ที่พี่น้องเผชิญมาตลอด 8 ปี ขจัดกองหนี้สินที่เกิดขึ้นใต้รัฐบาลชุดที่ผ่านมา และการขจัดปัญหาทั้งหมดที่กล่าวมานั้น ทำได้ไม่ยาก ไม่ต้องเสียแรง วันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ชาวปทุมธานีพร้อมใจกันเดินเข้าคูหา กาพรรคเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ ทั้งคนทั้งพรรค


อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยรณรงค์ยุทธศาสตร์ “แลนด์สไลด์” ที่ตัวเลข 250 เสียง แต่วันนี้ขยับตัวเลขไปที่ 310 เสียง เพราะเมื่อกระแสของพรรคมาแรงขึ้น ทำให้มี ส.ว.บางคนเริ่มประกาศออกมาแล้วว่า หากเพื่อไทยได้เกิน 250 เสียง ยังจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ จะจัดตั้งได้ก็ต่อเมื่อได้เก้าอี้ 370 ขึ้นไป เพราะจะชนะเสียง ส.ว. อย่างเด็ดขาด พรรคเพื่อไทยจึงจำเป็นต้องรณรงค์วิธีใหม่ ขอความร่วมมือจากพี่น้องทั้งประเทศ เลือกเพื่อไทยให้ถล่มทลาย ให้การเลือกตั้งครั้งนี้เพื่อไทยชนะขาดและจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ

“ถ้าได้ครึ่งๆ กลางๆ 260 เสียง ก็ยังไม่ชนะขาด วันนี้ต้องไม่รักพี่ไม่เสียดายน้อง ไม่เลือกพ่วง เพื่อไทยจะขอจับมือกับพี่น้องชาวปทุมฯ ร่วมกัน ‘คิดใหญ่’ เปลี่ยนชีวิตคนไทย” นพ.ชลน่าน กล่าว

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้มีความยินดีที่ได้มาเจอชาวปทุมธานี เพราะในอดีตสมัยรัฐบาลไทยรักไทย ของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้มีโอกาสบรรจุ จ.ปทุมธานี อยู่ในการนำร่องโครงการ “30 บาท รักษาทุกโรค” รวมถึงในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จ.ปทุมธานี ก็เป็นหนึ่งในจังหวัดนำร่องที่ได้ปรับขึ้นค่าแรงเป็น 300 บาท


ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยรับรู้ถึงปัญหาความเป็นอยู่ของพี่น้องชาวปทุมธานีมาโดยตลอด อยากให้พี่น้องประชาชนกลับมากินดีอยู่ดีอีกครั้ง พรรคเพื่อไทยจึงเสนอนโยบายดีๆ ทั้งการเติมเงินรายได้ให้ครอบครัวที่มีรายได้ไม่ถึง 20,000 บาท ให้ครบ 20,000 บาท เพื่อช่วยเหลือให้พี่น้องมีรายได้พอใช้ในครัวเรือน ก่อนรัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะรีบฟื้นฟูเศรษฐกิจ และภายในต้นปีหน้า ค่าแรงของพี่น้องประชาชนจะเพิ่มขึ้นมากกว่านี้แน่นอน รวมถึงปัญหายาเสพติดที่ระบาดมากมาย หาง่ายได้ทั่วไป เพื่อไทยจำเป็นต้องแลนด์สไลด์ ปิดสวิตช์ ส.ว. และ 3 ป. แต่จะเอา 3 ป. ที่สร้างสรรค์มาแก้ไขปัญหายาเสพติด ได้แก่

  1. ป.ปราบ ทั้งผู้ขาย เจอที่ไหนจับที่นั่น
  2. ป.เปิด เปิดเวทีพูดคุยกับประเทศเพื่อนบ้าน ร่วมมือกันจับแหล่งผลิตยาเสพติด
  3. ป.เปลี่ยน เปลี่ยนผู้เสพให้เป็นผู้ป่วย ได้รับการรักษาคืนสู่อ้อมกอดของสังคม

ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยรู้ดีว่าพี่น้องประชาชนต้องเผชิญกับความยากลำบาก ต้องเป็นหนี้เป็นสินกันมากมาย พรรคเพื่อไทยจึงขออาสาแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนอีกครั้ง ด้วยนโยบาย “คิดใหญ่ ทำเป็น” มั่นใจว่า ส.ส.ที่มาจากเสียงของประชาชน จะทำเพื่อประชาชน มีพี่น้องประชาชนเป็นศูนย์กลางแน่นอน 14 พ.ค.นี้ ขอให้พี่น้องประชาชนไปสิทธิ เลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ ทั้งคน ทั้งพรรค เพื่อให้เราช่วยคืนชีวิตที่ดีให้พี่น้องประชาชนได้มีศักดิ์ศรีอีกครั้ง

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตคลองสามวา (ยกเว้นแขวงสามวาตะวันออก และแขวงทรายกองดินใต้) พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สมัยรัฐบาลพรรคเพื่อไทยได้มีโครงการบริหารจัดการน้ำ ป้องกันน้ำท่วม น้ำแล้ง โดยเฉพาะ จ.ปทุมธานี ซึ่งถูกน้ำท่วมหากมีน้ำเหนือไหลบ่ามา ทั้งยังอยู่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งธรรมชาติการไหลของน้ำ ในช่วงเย็น น้ำจะไหลขึ้นเหนือ เนื่องจากน้ำทะเลหนุน ในเช้าวันถัดไป น้ำจะไหลลงทะเลที่ จ.สมุทรปราการ หากรัฐบาลพรรคเพื่อไทยไม่ถูกปฏิวัติยึดอำนาจในปี 2557 น้ำจะไม่ท่วมปทุมธานี ในโครงการบริหารจัดการน้ำ จะมีการสร้างเขื่อนกั้นทะเล น้ำในคลองต่างๆ จะไหลลงแม่น้ำเจ้าพระยาในช่วงค่ำ และจะไหลลงทะเลในช่วงเช้า แนวคิดนี้เช่นเดียวกับที่เนเธอร์แลนด์ ซึ่งมีสภาพภูมิประเทศเหมือนไทย คนสามารถอยู่ร่วมกับน้ำได้ ป้องกันภัยแล้ง ป้องกันน้ำท่วมได้ สามารถบริหารจัดการแม่น้ำ ปิง วัง ยม น่านได้ เมื่อน้ำไม่ท่วม ราคาข้าวจะปรับตัวดีขึ้น

“ส.ว.ยังมีอายุอีก 1 ปี เลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ให้มากกว่า 310 เสียง เราจะเอาเศรษฐกิจดีๆ เราจะเอาผู้นำดีๆ ไปต่างประเทศ เราต้องมีความสุข ไม่ใช่ไปแล้วไปอาย ต้องเลือกเพื่อไทยสถานเดียว” นายจิรายุ กล่าว

นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า คนปทุมธานีมีประวัติร่วมกันต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย มีส่วนทำให้ไทยรักไทยชนะเลือกตั้งถล่มทลายได้ 377 ที่นั่ง เป็นพรรคแรกที่นำนโยบายไปทำให้ประสบความสำเร็จ ในปี 2548 สุดท้ายก็เกิดรัฐประหาร แต่พรรคพลังประชาชนได้รับเลือกตั้งอีก เขาก็ใช้กลไกรัฐธรรมนูญมาล้มรัฐบาล จัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร คนปทุมธานีก็ออกไปต่อสู้ให้รัฐบาลในค่ายทหารยุบสภา และในปี 2554 คนไทยทั้งประเทศก็ยังยืนยันเลือกพรรคเพื่อไทย 265 เสียง ในจำนวนนั้นปทุมธานีเลือกพรรคเพื่อไทยทั้งจังหวัดทุกคน การยึดอำนาจในปี 2557 ทำให้เสียโอกาส อย่างรถไฟความเร็วสูง จากกรุงเทพฯ-ปทุมธานี ไปเชียงใหม่ และจากปทุมธานีไปอีสาน ต่อกับ สปป ลาว และแผนระบบจัดการน้ำ ถ้ารัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ถูกยึดอำนาจ ตอนนี้เสร็จสมบูรณ์แล้ว

“ปทุมธานีปลูกข้าว 3 แสนไร่ แต่เกษตรกรยังเดือดร้อน ปุ๋ยแพง 3 เท่า แต่รัฐบาลไม่ได้สนใจไปเจรจาแก้ปัญหา มีโรงงาน 3,000 แห่ง แต่การส่งออกติดลบ เพราะสนใจแต่เรื่องความมั่นคง เศรษฐกิจประเทศไทยเติบโตช้าที่สุดในอาเซียน หลังการเกิดโควิดก็ฟื้นฟูเศรษฐกิจได้ช้าที่สุด รายได้ต่อหัวอันดับต่ำสุดในอาเซียน นี่คือสิ่งที่ประยุทธ์ทำแล้ว ทำอยู่ และจะทำต่อไป” นายจาตุรนต์ กล่าว

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวย้ำว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะบริหารให้เกียรติประชาชน ด้วยรายได้ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเส้นความยากจน ให้ถึง 20,000 บาท/ครอบครัว คนไทยอายุ 16 ปีบริบูรณ์ ไม่ว่าจะกลุ่มความหลากหลายทางเพศ มีบัตรประชาชน มีกระเป๋าเงินดิจิทัล โดยวันที่ 5 เมษายน จะประกาศตัวเลขจำนวนเงิน ส่วนบัตรคนจนทิ้งไว้ให้เป็นอนุสรณ์แห่งความยากจน ถ้าเลือกพรรคเพื่อไทย ไม่เอากัญชาไว้ในมือเยาวชน ยาเสพติดต้องหมดไป ประชาชนจะกลับมาอยู่ดีกินดี

“พี่น้องที่เคยต่อสู้มาด้วยกัน มีคนถามมาตลอดว่า พี่น้องเสื้อแดงบางจังหวัดพลัดพรากจากพรรคเพื่อไทย ผมเชื่อว่าประชาชนที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ไม่มีทางที่จะทรยศหักหลังประชาธิปไตย ไม่เอาเผด็จการ ไม่เอาสืบทอดอำนาจ” นายณัฐวุฒิ กล่าว. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ชาวบ้าน-พระ เดือดร้อน

สุโขทัย 28 ส.ค. – หลายพื้นที่เมืองสุโขทัย จมอยู่ใต้น้ำและขยายวงกว้าง แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ด้านหลังวัดปากแคว พระและชาวบ้าน ช่วยกันขนสิ่งของหนีน้ำ ภาพมุมสูง เผยให้เห็นสภาพน้ำท่วมสูงภายในวัดปากแคว และบริเวณโดยรอบ ทหารนำกำลังพล 22 นาย ลงพื้นที่ช่วยเหลือ พระวัดปากแคว ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 2 หมู่ 4 ต.ปากแคว 4 ชุมชน ในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ถูกน้ำท่วมขยายวงกว้าง รถยนต์จมน้ำหลายคัน ด้านหลังวัดปากแคว อำเภอเมือง แม่น้ำยมผนังกั้นน้ำล้นตลิ่ง มวลน้ำมหาศาล ทะลักเข้าท่วมเต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงรอบวัดเกือบ 2 เมตร ทะลักเข้าท่วม ไหลข้ามถนนจรดวิถีถ่อง ระยะทางกว่า 500 เมตร ต้องปิดกั้นถนนห้ามสัญจรไปมา พระครูปลัดสุวัฒนสาธุคุณ (พระอาจารย์นาค) เจ้าคณะตำบลบ้านกล้วย เจ้าอาวาสวัดพายชุมพล หลังทราบข่าว ระดับน้ำท่วม ในวัดปากแคว รีบนำอาหารกล่องพร้อมทั้งถุงยังชีพ เข้าไปถวายพระสงฆ์ 18 รูป ที่จำพรรษาอยู่ในวัดปากแคว เร่งหาผู้สูญหายที่แม่ฮ่องสอน […]

เร่งค้นหาอีก 3 ผู้สูญหายดินถล่มปางอุ๋ง ท่ามกลางความหวังของญาติ

28 ส.ค. – เข้าสู่วันที่ 2 ของเหตุดินโคลนถล่มบ้านปางอุ๋ง หมู่บ้านกลางหุบเขา อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายอีก 3 ราย โดยระดมกำลังนับร้อยนายพร้อมเครื่องจักรเดินหน้าค้นหา ท่ามกลางบรรดาญาติที่เฝ้ารอด้วยความหวัง ล่าสุดวันนี้พบร่างผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้เพิ่มเป็น 6 ราย และยังสูญหายอีก 3 คน ขณะที่หลายครอบครัวต้องสูญเสียบ้านที่อยู่มาหลายสิบปีและยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นสร้างขึ้นใหม่ได้อย่างไร.-สำนักข่าวไทย

ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. โผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด

กทม. 28 ส.ค.-ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. หลัง “ภูมิธรรม” ถกลับ ผบ.ตร. นานหลายชั่วโมง เหตุมีหนังสือร้องเรียนจำนวนมาก ทำโผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. เป็นประธานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 7/2568 ณ ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 มีระเบียบวาระการประชุม 5 วาระ ประกอบด้วย วาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ /วาระที่ 2 รับรองรายงานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 6/2568 /วาระที่ 3 เรื่องที่เสนอเพื่อทราบ เรื่องที่ 1 รายงานการดำเนินการของ อ.ก.ตร.สืบสวนสอบสวน ที่ ก.ตร. มอบหมายให้ทำการแทน […]

กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา เขต อ.อรัญประเทศ

สระแก้ว 23 ส.ค.-กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา จุดแรกบริเวณหลักเขตที่ 50-51 เขต อ.อรัญประเทศ ระยะทาง 10 กม. เชื่อเริ่มดำเนินการได้เป็นรูปธรรมภายในปีนี้ พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทยพร้อมคณะลงพื้นที่เพื่อสำรวจแนวชายแดนตั้งแต่หลักเขตที่สี่ 48 ต่อเนื่องถึง 51 บริเวณพื้นที่บ้านป่าไร่ ถึงบ้านท่าข้าม ในเขต อ.อรัญประเทศ โดยการสำรวจดังกล่าวเพื่อเตรียมสร้างแนวกำแพงแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นบริเวณหลักเกณฑ์ที่ห้า 50 และ 51 ซึ่งไทยและกัมพูชาเห็นตรงกันแล้วในเรื่องเขตแดน จะสร้างเป็นรั้วถาวรเป็นจุดแรกระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ขณะบริเวณอื่นๆ ซึ่งยังมีการอ้างสิทธิ และยังไม่มีข้อสรุปเรื่องเขตแดนที่ชัดเจน เบื้องต้นก็จะสร้างเป็นแนวรั้วชั่วคราวด้วยวิธีการตัดถนนเลียบตลอดแนวชายแดนและวางรั้วลวดหนามหีบเพลงสามชั้น พร้อมติดกล้องวงจรปิดในจุดที่สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเกิดประโยชน์ในการเคลื่อนย้ายกำลัง รวมไปถึงการลาดตระเวนตรวจตรา นอกจากนี้การปรับพื้นที่ให้โล่งก็จะทำให้การลักลอบผ่านแดนตามช่องทางธรรมชาติยากขึ้น ซึ่งถือเป็นการสกัดกั้นทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์และปัญหาสแกมเมอร์ ได้ โดยการดำเนินการจะเริ่มต้นทันทีที่นำเรื่องเข้าขออนุมัติจากสภาความมั่นคงแห่งชาติและไม่ได้ติดขัดในเรื่องงบประมาณแต่อย่างใด เชื่อว่าภายในปีนี้น่าจะเห็นแนวรั้วกำแพงชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มต้นเกิดขึ้นได้ ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้จะมีการลงในรายละเอียดพื้นที่ต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนตามแนวชายแดนที่บางส่วนอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็เชื่อว่าประชาชนพร้อมที่จะเสียสละเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของส่วนรวม พลตรี วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำรั้วตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาเกิดขึ้นจากข้อเรียกร้องของประชาชน […]