เร่งปราบต่างชาติแย่งอาชีพไกด์คนไทย

ทำเนียบรัฐบาล 29 มี.ค.-รัฐบาลเร่งตรวจสอบปัญหาไกด์ต่างชาติแย่งงานคนไทย นายกฯ กำชับแรงงาน ท่องเที่ยว ตำรวจ เร่งประสานความร่วมมือบังคับใช้กฎหมายเข้มงวด


น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่มีข้อร้องเรียนกรณีชาวต่างชาติได้เข้ามาทำงานเป็นมัคคุเทศก์ หรือ ไกด์นำเที่ยว และแย่งงานมัคคุเทศก์ชาวไทย รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กำชับหน่วยงานเกี่ยวข้อง อาทิ  กระทรวงแรงงาน กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ บูรณาการความร่วมมือเร่งกวดขันและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดกับผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศไทย รวมทั้งขอให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กระทรวงการต่างประเทศ ที่ได้มีการสื่อสารกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

“เร่งประชาสัมพันธ์ให้ชาวต่างชาติทราบถึงอาชีพที่เป็นอาชีพสงวนของคนไทย ห้ามต่างชาติทำ รวมถึงให้ทราบถึงโทษที่ฝ่าฝืนด้วย พร้อมขอความร่วมมือประชาชนร่วมกันเป็นหูเป็นตา และแจ้งเบาะแสแก่เจ้าหน้าได้ที่กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางานกรมการจัดหางาน อาคารกระทรวงแรงงานชั้น 4 โทร. 02 354 1729 หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือ ที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วน 1694 กรมการจัดหางาน เพื่อมีการประสานงานหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าดำเนินการตามกฎหมายต่อไป” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว


น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ปัจจุบันมัคคุเทศก์หรืองานจัดนำเที่ยวเป็นอาชีพที่ผู้ประกอบวิชาชีพต้องมีสัญชาติไทยเท่านั้น เป็นงานที่ห้ามคนต่างชาติทำโดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะมีความผิดตาม พระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติมมีโทษปรับ ตั้งแต่ 5,000 – 50,000 บาท และถูกส่งกลับประเทศทันที  รวมทั้งจะถูกห้ามไม่ให้ห้ามขอใบอนุญาตทำงานเป็นเวลา 2 ปี  ส่วนนายจ้างหรือสถานประกอบการที่รับคนต่างด้าว ที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานเข้าทำงาน หรือให้คนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิ มีโทษปรับตั้งแต่ 10,000 – 100,000 บาท ต่อคนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน หากกระทำผิดซ้ำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000 – 200,000 บาท ต่อคนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน และจะถูกห้ามจ้างคนต่างด้าวทำงานเป็นเวลา 3 ปี.-สำนักข่าวไทย        

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

ขอบคุณทุกคะแนนเสียง เลือกนายก อบจ.-ส.อบจ.เพื่อไทย

“อนุสรณ์” ขอบคุณทุกคะแนนเสียง เลือกนายก อบจ.-ส.อบจ.พรรคเพื่อไทย เชื่อมนต์ขลัง “ทักษิณ”-ผลงานรัฐบาลแพทองธาร เป็นปัจจัยความสำเร็จ

กต.พร้อมพา 5 ตัวประกันไทยกลับบ้านเมื่อสุขภาพแข็งแรง

รมว.ต่างประเทศ เยี่ยม 5 ตัวประกันคนไทย พร้อมพาทุกคนกลับบ้านเมื่อสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีแล้ว ขณะที่ทุกคนขอบคุณที่ทำให้ได้ชีวิตใหม่

นายกฯ ฝากรายการใหม่เทปแรก ไล่เรียงนโยบายแบบ Exclusive

“โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” นักจัดรายการมือใหม่​ ฝากเนื้อฝากตัว หวังใจถึงใจกับประชาชน​ ไล่เรียงภารกิจนโยบายหลายเรื่องแบบเบื้องหลัง Exclusive 30 บาทรักษาทุกที่-บ้านเพื่อคนไทย-แก้ฝุ่น-พ.ร.ก.ไซเบอร์ ยันเงินหมื่นเฟส 3 มาแน่ รอคลังเคาะ นายกฯ รับเสียใจถูกบูลลี่เรื่องแต่งตัว​ แต่จะแต่งแบบนี้ไปทำงานให้ประชาชนมีความสุข

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอุ่นขึ้น 1-2 องศาฯ ค่าฝุ่นมีแนวโน้มเพิ่ม

กรมอุตุฯ เผยมวลอากาศเย็นมีกำลังอ่อน ส่งผลให้ไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาฯ ขณะที่ค่าฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่ม