โพลชี้เพื่อไทยมาแรงเพราะนโยบายโดนใจ

นิด้า 27 มี.ค.-นักวิชาการระบุผลโพล “พิธา” เป็นนายกฯ สะท้อนคนเลือกเพื่อไทย แต่ไม่อยากได้ “อุ๊งอิ๊ง” ชี้พรรคมาแรงกว่าคนเพราะนโยบายโดนใจ


นายสุวิชา เป้าอารีย์ ผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล กล่าวถึงผลการสำรวจความเห็นคนกรุงเทพฯที่ สนับสนุนให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลเป็นนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งนี้มากที่สุด โดยชนะเฉือนน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ไปไม่ถึง 1% ว่า ผลโพลที่ออกมาทำให้เห็นว่าน.ส.แพทองธารมีคะแนนตามพรรคเพื่อไทยอยู่ร้อยละ 10 สะท้อนว่าคนส่วนหนึ่งเลือกพรรคเพื่อไทยแต่ไม่อยากได้น.ส.แพทองธารเป็นนายกรัฐมนตรี และดูจากคะแนนนิยมคนกรุงเทพฯ แล้วเห็นว่าในพื้นที่นี้จะเป็นการแข่งขันกันระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล

“พรรคเพื่อไทยจะได้ส.ส.มากกว่า โดยมีพรรครวมไทยสร้างชาติแทรกมาได้เพียงเล็กน้อย ส่วนพรรคประชาธิปัตย์จะสู้ยากในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในส่วนส.ส.เขตอาจจะไม่เหลือ แต่ต้องรอดูในช่วงท้าย ซึ่งเหลือเวลาอีก 40 กว่าวัน จะมีเหตุการณ์หรือวาทกรรมอะไรเกิดขึ้น และอาจจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้  ดังนั้น ใครนำก็อย่าเพิ่งนิ่งนอนใจว่านำแน่ ๆ และใครตามก็อย่าเพิ่งถอดใจ ตอนนี้มีกระแส คะแนนของผู้หญิงและพรรคเพื่อไทยเริ่มมาตั้งแต่ปีที่แล้วและขยับขึ้นมาเรื่อย ๆ เหมือนอาจารย์ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ค่อย ๆไต่ระดับมาเรื่อย ๆ ผมถึงบอกว่าให้ยุบสภาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว แล้วเลือกตั้งใหม่ พอไม่ยุบแล้วเป็นยังไงล่ะ กว่าจะยุบ เขาไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้ ไม่ฟังกันเลย ผมมองว่าส่วนหนึ่งคนต้องการเปลี่ยนแปลง 2 กระแสมาแรงด้วย แต่ถ้าถามว่าคุณเศรษฐามีผลหรือไม่ ในกทม.คุณเศรษฐาเริ่มมีคะแนนแต่ทั้งประเทศไม่มีผล เพราะคนต่างจังหวัดไม่รู้จักว่าคุณเศรษฐาคือใคร แต่อุ๋งอิ๊งคนรู้จักนามสกุล” นายสุวิชา กล่าว


ด้านนายพิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองคณบดีฝ่ายวิชาการ  สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวว่า จากผลโพลที่ออกมาประเมินว่าพรรคเพื่อไทยจะได้ส.สอยู่ที่ 14-17 ที่นั่งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ส่วนพรรคก้าวไกลอยู่ที่ 12-14 ที่นั่ง และอาจจะเหลือไว้ให้พรรคอื่นอีก 1-2 ที่นั่ง ดังนั้น โอกาสที่พรรคภูมิใจไทยและพรรคชาติไทยจะเจาะที่นั่งส.ส.ในกรุงเทพฯ เป็นเรื่องลำบาก เพราะต้องเข้าใจว่าพื้นที่กรุงเทพฯ มีการเมืองแบบที่เรียกว่าพลเมือง โดยคนจะเลือกตั้งตามนโยบายพรรค และอุดมการณ์ จึงเชื่อว่า ส.สที่ย้ายไปสังกัด 2 พรรคดังกล่าวก็อาจจะสอบตก

“การที่คะแนนของพรรคเพื่อไทยมาเพิ่มขึ้นเด่นชัด เป็นผลมาจากคนที่ยังไม่ตัดสินใจส่วนหนึ่ง  และส่วนหนึ่งอาจจะมาจากนโยบายที่เด่นเด่นชัดคือการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็น 600 บาท จะได้คะแนนจากกลุ่มผู้ใช้แรงงานที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และนโยบาย เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท ก็จะได้คะแนนจากนักศึกษาที่เรียนปริญญาตรี และ ตัวบุคคลก็อาจจะมีส่วนช่วยบ้างโดยคะแนนของนางสาวแพทองธารเพิ่มขึ้นมาถึง 10% อาจจะดึงคนที่อยู่ในวัยใกล้เคียงกันมาสนับสนุนได้  พร้อมเชื่อมั่นว่า คนโพลที่ออกมา ไม่น่าจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากนัก เพราะแต่ละพรรคมีคะแนนห่างกันแบบชนะขาด ไม่ได้สูสี” นายพิชาย กล่าว

นายทวี สุรฤทธิกุล อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวว่า ผลโพลที่พรรคเพื่อไทยทิ้งห่าง เห็นว่าคนกรุงเทพฯ มองใครและมองไปที่พรรคไหน ซึ่งเป็นการชี้ทิศทางการเมืองในระยะเริ่มต้น ซึ่งพรรคที่รู้ว่าคะแนนเป็นรองอาจจะปรับกลยุทธ์ แล้วสุดท้ายอาจจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้.-สำนักข่าวไทย    


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก

รวบ “พ.อ.หญิง-แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ตำรวจ ปปป. และ ป.ป.ช. จับ “พ.อ.หญิง” และ “ แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก พบเส้นเงินเชื่อมโยง 10 ล้านบาท

ซบพรรคกล้าธรรม

“เอกราช” จ่อซบ “กล้าธรรม” ยันไม่ถึงขั้นแตกหัก “อนุทิน-ภท.”

“เอกราช” เตรียมย้ายซบ “กล้าธรรม” เพื่อความสบายใจในการทำงาน ยันไม่ถึงขั้นแตกหักกับ “อนุทิน-ภูมิใจไทย” คาดเตรียมขับออกเร็วๆ นี้ เผยผูกพันกับ “ธรรมนัส ” กว่า 10 ปี

ไฟไหม้ท้ายรถบัสทัศนศึกษา นักเรียน-ครู ปลอดภัย

หวิดเกิดเหตุสลด รถบัสทัศนศึกษากำลังกลับโรงเรียน เกิดไฟไหม้ท้าย โชคดีอพยพทัน นักเรียนชั้น ป.6 ทั้ง 35 คน กับครู 7 คน ปลอดภัย

รวบไรเดอร์-วิน จยย.รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ไรเดอร์ร่วมกับวิน จยย. รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันจนน่วม ตำรวจตามจับได้ 3 คน ยังอ้างรุมทำร้ายโดยไม่รู้ที่มาที่ไป คิดว่าชายต่างชาติทำร้ายคนไทย ทนไม่ได้จึงเข้าช่วย

ข่าวแนะนำ

ศาล รธน.รับวินิจฉัย “ภูมิธรรม-ทวี” แทรกแซง กกต. คดีฮั้ว สว.

ศาล รธน.สั่งรับวินิจฉัย “ภูมิธรรม-ทวี” ฝ่าฝืนจริยธรรม เหตุใช้อำนาจหน้าที่แทรกแซง กกต. กรณีดีเอสไอรับคดีฮั้ว สว. เป็นคดีพิเศษ แต่ไม่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ หากผิดหลุดตำแหน่ง ให้ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน

ย้ายด่วน หัวหน้า อช.หมู่เกาะสิมิลัน เร่งสอบปมขายตั๋วไม่โปร่งใส

อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งย้ายด่วน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน หลัง ป.ป.ช. สุ่มตรวจสอบการจำหน่ายตั๋วที่เกาะสี่และเกาะแปด โดยไม่แจ้งล่วงหน้า พบการจำหน่ายตั๋วส่อไม่โปร่งใส

Trump says administration is looking into Signal, thinks Waltz should not apologize

“ทรัมป์” ชี้แชทรั่วไม่มีข่าวกรองชั้นความลับ

วอชิงตัน 26 มี.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ บอกปัดกรณีแชทรั่วไปถึงนักข่าวว่า ไม่มีข้อมูลข่าวกรองชั้นความลับ และไม่มีใครต้องขอโทษ ขณะที่ สว.เดโมแครตรุมตำหนิผู้ที่เกี่ยวข้องเรียกร้องให้ลาออก นายทรัมป์แสดงความหนุนหลังทีมงานด้านความมั่นคงของเขาด้วยการตอบคำถามสื่อในเรื่องนี้ที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นว่า ไม่มีข้อมูลชั้นความลับถูกเปิดเผยในกลุ่มแชทสนทนาแอปพลิเคชัน ซิกนัล (Signal) ของกลุ่มเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง ซึ่งนายไมเคิล วอลซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงได้เชิญนักข่าวคนหนึ่งเข้าไปรวมอยู่ด้วยโดยไม่ตั้งใจ นายทรัมป์กล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะพิจารณาเรื่องการใช้แอปพลิเคชันสนทนานี้และคิดว่านายวอลซ์ ไม่จำเป็นต้องขอโทษในเรื่องนี้ ขณะที่นายวอลซ์ให้สัมภาษณ์ในรายการของฟ็อกซ์นิวส์ ยืนยันขอเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่าอับอาย กลุ่มแชทที่เขาสร้างขึ้นมีรายละเอียดเรื่องแผนการโจมตีเยเมนจริง แต่ยืนกรานว่าไม่มีข้อมูลชั้นความลับ หลังจากนายเจฟฟรีย์ โกลด์เบิร์ก บรรณาธิการข่าวของนิตยสารดิแอตแลนติก (The Atlantic) ออกมาเปิดเผยว่า ถูกรวมอยู่ในกลุ่มแชทเข้ารหัสโดยไม่รู้ตัวเมื่อวันที่ 13 มีนาคม และได้เห็นโพสต์ของนายปีเตอร์ เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมเรื่องแผนการทำสงครามก่อนสหรัฐเปิดฉากโจมตีเยเมนระลอกแรกเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ด้านสมาชิกวุฒิสภา (สว.) พรรคเดโมแครตพากันตำหนินางทัลซี แกบบาร์ด ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติและนายจอห์น แรตคลิฟฟ์ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางหรือซีไอเอ (CIA) ที่ไปให้ปากคำต่อคณะกรรมการข่าวกรองในวุฒิสภาว่า ฉาบฉวย ไร้ความสามารถ และไม่ให้เกียรติคนทำงานข่าวกรอง นางแกบบาร์ดและนายแรตคลิฟฟ์อยู่ในกลุ่มสนทนาในแอปฯ ซิกนัลที่มีข่าวรั่วในครั้งนี้ […]

โหวตไว้วางใจ

นายกฯ โพสต์ขอบคุณหลังสภาผ่านฉลุยไว้วางใจ

นายกฯ โพสต์ขอบคุณหลังสภาผ่านฉลุยไว้วางใจ ยัน ชี้แจงทุกประเด็น ลั่น ทั้งเสียงหนุน-เสียงไม่ไว้วางใจ จะเป็นพลังให้มุ่งมั่นทำงานเพื่อประชาชน