พรรคเพื่อไทย 27 มี.ค.- “ภูมิธรรม” สวนกลับ “วิรัช” ฝันกลางวันหรือเปล่า หลังบอกเพื่อไทย คุยจับมือ ชู ”บิ๊กป้อม”เป็นนายกฯ บอกมีเหตุผลเดียว จับมือพรรคฝั่งประชาธิปไตยให้ได้ 376 เสียง ตั้งรัฐบาล ขจัด ส.ว. ลั่น ต้องให้แคนดิเดตเพื่อไทยเป็น นายกฯ คาด ชัด 3 รายชื่อ 4 เม.ย.นี้
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พาดพิงถึงพรรคเพื่อไทยว่า มีบางส่วนไปตกลงร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ และจะให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค พปชร. เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า พรรคเพื่อไทยโดยอำนาจคณะกรรมการบริหารเท่านั้นที่จะมีอำนาจตัดสินว่า เมื่อได้จำนวน ส.ส. เท่าไหร่ จะร่วมมือเป็นรัฐบาลกับใครได้บ้าง สิ่งที่เราเรียกร้องวันนี้คือ ให้ได้ 310 เสียงขึ้นไป เพราะรู้ว่าปัญหาของประเทศ คือ ส.ว. 250 เสียง เป็นตัวปัญหาในการขจัดพลังเสียงของประชาชน ไม่ให้สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ หากเพื่อไทยได้ 310 เสียงขึ้นไป ก็จะไม่มีเหตุผลใดเลยที่ต้องไปจับมือกับพรรคอื่นๆ อีกหลายพรรค หากจะเกิดขึ้นอาจเป็นพรรคฝั่งประชาธิปไตยที่มีกรอบความคิดตรงกัน และมีเพียงเหตุผลเดียวที่จะเกิดขึ้นได้ถ้าเคยเป็นพรรคฝ่ายค้านที่เคยทำงานร่วมกันมา
“ตนอยากจะถามนายวิรัชว่า ฝันกลางวันไปหรือเปล่า พรรคเพื่อไทย โดยกรรมการบริหารไม่เคยมีมติอย่างนี้เลย วันนี้เราเดินมั่นคงให้ได้พรรคเดียว เพื่อจะต่อสู้กับอำนาจของ ส.ว. ในการจัดตั้งรัฐบาล เราไม่เคยตกลง ไม่เคยจัดการไม่เคยประสานงานกับนายวิรัช หรือกับใครทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นพรรคเพื่อไทยวันนี้เดินหน้าสู่แลนด์สไลด์อย่างเดียว” นายภูมิธรรม กล่าว
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า เราไม่สนับสนุนคนอื่นเป็นนายกรัฐมนตรี เราไม่สนับสนุนการจะร่วมมือกับพรรคพลังประชารัฐ ย้ำว่า เวลานี้ยังไม่มีมติ เพื่อไทยตอนนี้มีคนพยายามที่จะโหนเรา พยายามที่จะให้ข่าวเพื่อทำลายและลดอำนาจที่จะได้จากประชาชนคนที่จะตัดสินใจการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง คนที่จะตัดสินใจว่า ประชาชนจะได้ใครเป็นรัฐบาล หรือการจัดตั้งรัฐบาลควรจะเป็นใคร ควรจะมาจากเสียงของประชาชน ถ้าคะแนนเสียงเลือกตั้ง ใครออกมาได้อันดับหนึ่ง คนนั้นมีสิทธิ์จัดตั้งรัฐบาล ลำดับรองลงมาก็ได้รับการพิจารณาเป็นลำดับไป แต่ก็ยังมีปัจจัยอีกหลายอย่าง ดังนั้นการที่บอกว่าพรรคเพื่อไทยจะจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ หรือกับพรรคอื่นเป็นเรื่องเพ้อฝันทั้งสิ้น เป็นเรื่องที่อาจจะมีเจตนาดีแต่ไม่เข้าใจ และอาจต้องการโหนความนิยมที่ประชาชนมีให้พรรคเพื่อไทย หรือมีเจตนาแอบแฝงที่จะฉุดรั้งความนิยม จึงอยากให้ประชาชนมั่นใจว่า เรามุ่งมั่นจะเป็นรัฐบาลให้ได้ เพื่อต้องเห็นการเปลี่ยนแปลงของสังคม
เมื่อถามว่า ถ้าได้ 310 เสียงจะจับมือกับพรรคที่เคยเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยกันใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ถ้าได้ 310 เสียงและมีความพร้อมในการจัดตั้งรัฐบาลก็ควรจะจัดตั้งรัฐบาลได้เลย แต่ทั้งหมดต้องใช้เสียง 376 เสียงถึงจะจัดตั้งรัฐบาลได้ซึ่งเราไม่แน่ใจว่า จะได้ถึง 376 ขึ้นไปหรือไม่ ดังนั้นก็มีความเป็นไปได้ที่จะจับมือกับพรรคการเมืองอื่นในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะการจะเป็นรัฐบาลได้ ต้องได้เสียงเด็ดขาด และนโยบายจากพรรคเพื่อไทยต้องเป็นนโยบายหลัก ส่วนพรรคการเมืองอื่นก็ต้องมาพูดคุยกันร่วมมือกัน และต้องไม่ขัดกับนโยบายของพรรคเพื่อไทย ซึ่งไม่ใช่การมาต่อรองตำแหน่ง หรือต่อรองกระทรวง ถ้าจะทำให้ได้เกิน 376 เสียง อันดับแรกที่ต้องทำคือการจับมือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านเดิมที่เป็นพรรคประชาธิปไตย
เมื่อถามว่า เก้าอี้นายกรัฐมนตรีจะไม่ให้พรรคไหนเด็ดขาดใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ถ้าได้ 310 เสียงจะให้คนอื่นไม่ได้เพราะขัดกับเจตนารมณ์ของประชาชน
ส่วนถ้าตัวเลขไม่ได้ตามนั้น นายภูมิธรรมกล่าวว่า “อันนั้นอย่าพึ่งพูดเพราะยังไม่รู้อาจจะเป็นการลดทอนกำลัง เราเชื่อว่าประชาชนมีความเชื่อมั่นและจะรวมพลังกันได้ ทำให้เกิด 310เสียง เพราะอยากเกิดการเปลี่ยนแปลง เราไม่กังวลเรื่องนี้เพราะเราเคยพิสูจน์แล้วว่า เมื่อเราสร้างความมั่นใจให้ประชาชนเราได้เสี่ยงเกิน 376 เสียง วันนี้การเมืองเป็นการสร้างความฝันที่ไม่เกินความจริงให้ประชาชนตัดสินใจ”
เมื่อถามว่า พรรคร่วมรัฐบาลชุดนี้ถือเป็นโจทย์สุดท้ายที่พรรคเพื่อไทยจะไปจับมือใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ถ้าเป็นไปได้เราไม่จับแน่นอน
นายภูมิธรรม ยังกล่าวอีกว่า สำหรับความชัดเจนรายชื่อแคนดิเดต นายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย คาดว่า จะเป็นเช้าวันที่ 4 เม.ย.นี้.-สำนักข่าวไทย