ยะลา 19 มี.ค.-“จุรินทร์” เปิด 3 ขุนพลสู้ศึก “ยะลา” ลั่น 4 จุดยืน “ไม่เอากัญชาเสรี ไม่มียาเสพติด” ประกาศนำทัพ ปชป. คว้าที่ 1 ชายแดนใต้
บรรยากาศเวทีปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์วันนี้ มีพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดยะลาทุกช่วงวัย เดินทางมาร่วมฟังการปราศรัยล้นสนามโรงพิธีช้างเผือก เทศบาลนครยะลา โดยเฉพาะเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่สนใจเข้าฟังปราศรัยมาร่วมเชียร์และให้กำลังใจพรรคประชาธิปัตย์เป็นจำนวนมาก
ทันทีที่ นายจุรินทร์ เดินทางมาถึง ได้เดินทักทายพี่น้องประชาชนที่มาร่วมฟังการปราศรัย มีประชาชนสนใจตอบรับและขอถ่ายรูป เซลฟี่ ขอจับมือ พร้อมกับเชียร์ให้เป็นนายกฯ คนต่อไป
โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำคณะประชาธิปัตย์ ตั้งแต่ นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค ดร.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล ผู้แทนพิเศษในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. ร่วมกันขึ้นเวทีปราศรัย พร้อมกับแนะนำตัว ว่าที่ผู้สมัครจังหวัดยะลา ประกอบด้วย เขต 1 นายประสิทธิชัย พงษ์สุวรรณศิริ เขต 2 นายอับดุลเล๊าะ บุวา และเขต 3 นายณรงค์ ดูดิง
ซึ่งนายจุรินทร์ ได้กล่าวปราศรัยเพื่อขอโอกาสให้พรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นแกนตั้งรัฐบาล เพื่อเดินหน้าสร้างสันติภาพสู่สันติสุข ชายแดนใต้ ด้วย ”การเมืองนำการทหาร” ทำภาคใต้ รุ่งเรือง-ร่ำรวย พร้อมกับชวนคนยะลาร่วมกันขับเคลื่อน 4 จุดยืนของพรรค ที่ประกอบด้วย
จุดยืนที่ 1 ประชาธิปัตย์จะยืนหยัดร่วมกับพี่น้องชาวยะลา สนับสนุนการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หากในอนาคตจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ประชาธิปัตย์ไม่ขัดข้อง เพื่อเดินหน้าไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น แต่มีข้อแม้คือจะต้องไม่แตะหมวด 1 ซึ่งเป็นหมวดที่ว่าด้วยรูปแบบของรัฐ ที่ระบุไว้ชัดเจนว่า ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวกันจะแบ่งแยกไม่ได้ และหมวด 2 เป็นหมวดที่ว่าด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์ประชาธิปัตย์นอกจากนี้ ประชาธิปัตย์ไม่แก้ไข ไม่ยกเลิก มาตรา 112 เพราะเป็นมาตราที่ว่าด้วยการคุ้มครองประมุขของประเทศ และไม่มีประเทศไหนในโลก ที่ไม่มีบทบัญญัติกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองประมุขของประเทศ
ประการที่ 2 ประชาธิปัตย์ไม่สนับสนุนการนำศาสนามาเป็นเครื่องมือแบ่งแยกทางการเมือง เพื่อประโยชน์ของพรรคการเมือง และทุกศาสนาต้องอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข ไม่ว่าจะเป็นพุทธ คริสต์ อิสลาม หรือศาสนาใดๆ ก็ตาม เพราะเราต้องการเห็นชายแดนใต้ เป็นพหุวัฒนธรรมที่ทุกศาสนาอยู่ร่วมกันได้เหมือนอดีตกาลที่ผ่านมา
ประการที่ 3 ประชาธิปัตย์ไม่ต้องการเห็นความรุนแรงเกิดขึ้น ไม่ต้องการให้ใช้ความรุนแรงกับผู้บริสุทธิ์ ไม่ต้องการให้เกิดการอุ้มฆ่า ฆ่าตัดตอน หรือเหตุการณ์อย่างกรือเซะ ตากใบ กลับมาย้อนรอยหลอกหลอนคนชายแดนภาคใต้อีก
ประการที่ 4 ประชาธิปัตย์มีจุดยืนชัดเจนเรื่องยาเสพติด โดยขอประกาศยุทธศาสตร์ “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ยาเสพติด ต้องไม่มีกัญชาเสรีต้องยกเลิก” ในจังหวัดชายแดนใต้ และประเทศไทย
พร้อมกับประกาศนโยบาย “สร้างสันติภาพ สู่สันติสุข ชายแดนใต้” โดยนายจุรินทร์ ปราศรัยว่าที่ผ่านมาการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้นั้นยังไม่ตรงจุด เกายังไม่ถูกที่คัน ทำให้ 18 ปีที่ผ่านมาประเทศต้องหมดงบประมาณไปกว่า 4 แสนล้านบาท เพื่อต่อสู้กับเหตุการณ์ความไม่สงบอย่างไม่ตรงวิธี ดังนั้นประชาธิปัตย์จึงขออาสาเดินหน้านโยบายการเมืองนำการทหาร เพื่อนำสันติภาพมาสู่ชายแดนใต้ เมื่อสันติภาพคืนมา สันติสุขจะเกิดขึ้น และทำให้เราเดินหน้าสร้างอนาคต สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ สร้างความรุ่งเรืองให้กับคนจังหวัดชายแดนใต้ได้ ด้วยการมีประชาธิปไตยท้องอิ่ม เพราะสันติภาพอย่างเดียว ประชาธิปไตยอย่างเดียวไม่พอ คนใต้ต้องท้องอิ่มด้วยการเดินหน้าเศรษฐกิจฐานเกษตร ไม่ว่าจะเป็นพืชเกษตร ปศุสัตว์ ประมง จะต้องเดินหน้าต่อไป
นอกจากนี้นายจุรินทร์ยังได้กล่าวถึงนโยบายสำคัญคือ “ประกันรายได้จ่ายเงินส่วนต่าง” ซึ่งเป็นนโยบายของประชาธิปัตย์ที่ช่วยให้ชาวสวนยาง ไม่ต้องไปขายยางที่ดาวอังคาร แม้วันนี้ราคาจะหย่อนลงมาบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับ 3 โลร้อย เพราะเรามีทิศทางการแก้ปัญหาที่ตรงจุด
นอกจากนี้ ยังได้ประกาศความพร้อมเรื่องตัวบุคคลในการส่งผู้สมัคร ส.ส. ทั้งหมด 13 คน 13 เขต ที่จากเดิมมี 12 เขต ซึ่งประกอบด้วย ปัตตานี 5 เขต จากเดิม 4 เขต นราธิวาส 5 เขต และยะลา 3 เขต พร้อมกับขอให้พี่น้องชาวจังหวัดชายแดนภาคใต้ เลือกบัตรผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ ทั้ง 13 เขต ให้มีคะแนนมาเป็นที่ 1 ทุกเขต และกาเลือกพรรคประชาธิปัตย์ให้มีคะแนนมากที่สุด เพื่อให้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล สามารถเดินหน้าพาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของเราไปสู่ความร่ำรวยและความเจริญรุ่งเรืองต่อไป
“ประชาธิปัตย์พร้อมเรื่องตัวบุคคลและผู้สมัคร จังหวัดปัตตานีจังหวัดแรกที่ประกาศไปชัดเจน ประชาธิปัตย์เป็นพรรคแรกที่ประกาศตัวผู้สมัครครบทั้ง 5 เขตที่ปัตตานีไปแล้วเมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา และนราธิวาสเมื่อวานประกาศจบแล้ว 5 คน 5 เขต วันนี้ขอประกาศที่จังหวัดยะลา 3 คน 3 เขต และขอประกาศตรงนี้ว่า ประชาธิปัตย์สู้ทุกเขต ทั้ง 13 เขต และผมมั่นใจจากการนำทัพประชาธิปัตย์เดินไปข้างหน้าร่วมกับพี่น้องจังหวัดชายแดนใต้ เที่ยวนี้การเลือกตั้งประชาธิปัตย์สามารถคว้าชัยมาที่ 1 ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้แน่นอน” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย