“จุรินทร์” เปิด 3 ขุนพลสู้ศึก “ยะลา” ลั่น 4 จุดยืน

ยะลา 19 มี.ค.-“จุรินทร์” เปิด 3 ขุนพลสู้ศึก “ยะลา” ลั่น 4 จุดยืน “ไม่เอากัญชาเสรี ไม่มียาเสพติด” ประกาศนำทัพ ปชป. คว้าที่ 1 ชายแดนใต้

บรรยากาศเวทีปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์วันนี้ มีพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดยะลาทุกช่วงวัย เดินทางมาร่วมฟังการปราศรัยล้นสนามโรงพิธีช้างเผือก เทศบาลนครยะลา โดยเฉพาะเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่สนใจเข้าฟังปราศรัยมาร่วมเชียร์และให้กำลังใจพรรคประชาธิปัตย์เป็นจำนวนมาก


ทันทีที่ นายจุรินทร์ เดินทางมาถึง ได้เดินทักทายพี่น้องประชาชนที่มาร่วมฟังการปราศรัย มีประชาชนสนใจตอบรับและขอถ่ายรูป เซลฟี่ ขอจับมือ พร้อมกับเชียร์ให้เป็นนายกฯ คนต่อไป

โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำคณะประชาธิปัตย์ ตั้งแต่ นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค ดร.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล ผู้แทนพิเศษในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. ร่วมกันขึ้นเวทีปราศรัย พร้อมกับแนะนำตัว ว่าที่ผู้สมัครจังหวัดยะลา ประกอบด้วย เขต 1 นายประสิทธิชัย พงษ์สุวรรณศิริ เขต 2 นายอับดุลเล๊าะ บุวา และเขต 3 นายณรงค์ ดูดิง


ซึ่งนายจุรินทร์ ได้กล่าวปราศรัยเพื่อขอโอกาสให้พรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นแกนตั้งรัฐบาล เพื่อเดินหน้าสร้างสันติภาพสู่สันติสุข ชายแดนใต้ ด้วย ”การเมืองนำการทหาร” ทำภาคใต้ รุ่งเรือง-ร่ำรวย พร้อมกับชวนคนยะลาร่วมกันขับเคลื่อน 4 จุดยืนของพรรค ที่ประกอบด้วย

จุดยืนที่ 1 ประชาธิปัตย์จะยืนหยัดร่วมกับพี่น้องชาวยะลา สนับสนุนการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หากในอนาคตจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ประชาธิปัตย์ไม่ขัดข้อง เพื่อเดินหน้าไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น แต่มีข้อแม้คือจะต้องไม่แตะหมวด 1 ซึ่งเป็นหมวดที่ว่าด้วยรูปแบบของรัฐ ที่ระบุไว้ชัดเจนว่า ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวกันจะแบ่งแยกไม่ได้ และหมวด 2 เป็นหมวดที่ว่าด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์ประชาธิปัตย์นอกจากนี้ ประชาธิปัตย์ไม่แก้ไข ไม่ยกเลิก มาตรา 112 เพราะเป็นมาตราที่ว่าด้วยการคุ้มครองประมุขของประเทศ และไม่มีประเทศไหนในโลก ที่ไม่มีบทบัญญัติกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองประมุขของประเทศ

ประการที่ 2 ประชาธิปัตย์ไม่สนับสนุนการนำศาสนามาเป็นเครื่องมือแบ่งแยกทางการเมือง เพื่อประโยชน์ของพรรคการเมือง และทุกศาสนาต้องอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข ไม่ว่าจะเป็นพุทธ คริสต์ อิสลาม หรือศาสนาใดๆ ก็ตาม เพราะเราต้องการเห็นชายแดนใต้ เป็นพหุวัฒนธรรมที่ทุกศาสนาอยู่ร่วมกันได้เหมือนอดีตกาลที่ผ่านมา


ประการที่ 3 ประชาธิปัตย์ไม่ต้องการเห็นความรุนแรงเกิดขึ้น ไม่ต้องการให้ใช้ความรุนแรงกับผู้บริสุทธิ์ ไม่ต้องการให้เกิดการอุ้มฆ่า ฆ่าตัดตอน หรือเหตุการณ์อย่างกรือเซะ ตากใบ กลับมาย้อนรอยหลอกหลอนคนชายแดนภาคใต้อีก

ประการที่ 4 ประชาธิปัตย์มีจุดยืนชัดเจนเรื่องยาเสพติด โดยขอประกาศยุทธศาสตร์ “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ยาเสพติด ต้องไม่มีกัญชาเสรีต้องยกเลิก” ในจังหวัดชายแดนใต้ และประเทศไทย

พร้อมกับประกาศนโยบาย “สร้างสันติภาพ สู่สันติสุข ชายแดนใต้” โดยนายจุรินทร์ ปราศรัยว่าที่ผ่านมาการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้นั้นยังไม่ตรงจุด เกายังไม่ถูกที่คัน ทำให้ 18 ปีที่ผ่านมาประเทศต้องหมดงบประมาณไปกว่า 4 แสนล้านบาท เพื่อต่อสู้กับเหตุการณ์ความไม่สงบอย่างไม่ตรงวิธี ดังนั้นประชาธิปัตย์จึงขออาสาเดินหน้านโยบายการเมืองนำการทหาร เพื่อนำสันติภาพมาสู่ชายแดนใต้ เมื่อสันติภาพคืนมา สันติสุขจะเกิดขึ้น และทำให้เราเดินหน้าสร้างอนาคต สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ สร้างความรุ่งเรืองให้กับคนจังหวัดชายแดนใต้ได้ ด้วยการมีประชาธิปไตยท้องอิ่ม เพราะสันติภาพอย่างเดียว ประชาธิปไตยอย่างเดียวไม่พอ คนใต้ต้องท้องอิ่มด้วยการเดินหน้าเศรษฐกิจฐานเกษตร ไม่ว่าจะเป็นพืชเกษตร ปศุสัตว์ ประมง จะต้องเดินหน้าต่อไป

นอกจากนี้นายจุรินทร์ยังได้กล่าวถึงนโยบายสำคัญคือ “ประกันรายได้จ่ายเงินส่วนต่าง” ซึ่งเป็นนโยบายของประชาธิปัตย์ที่ช่วยให้ชาวสวนยาง ไม่ต้องไปขายยางที่ดาวอังคาร แม้วันนี้ราคาจะหย่อนลงมาบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับ 3 โลร้อย เพราะเรามีทิศทางการแก้ปัญหาที่ตรงจุด

นอกจากนี้ ยังได้ประกาศความพร้อมเรื่องตัวบุคคลในการส่งผู้สมัคร ส.ส. ทั้งหมด 13 คน 13 เขต ที่จากเดิมมี 12 เขต ซึ่งประกอบด้วย ปัตตานี 5 เขต จากเดิม 4 เขต นราธิวาส 5 เขต และยะลา 3 เขต พร้อมกับขอให้พี่น้องชาวจังหวัดชายแดนภาคใต้ เลือกบัตรผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ ทั้ง 13 เขต ให้มีคะแนนมาเป็นที่ 1 ทุกเขต และกาเลือกพรรคประชาธิปัตย์ให้มีคะแนนมากที่สุด เพื่อให้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล สามารถเดินหน้าพาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของเราไปสู่ความร่ำรวยและความเจริญรุ่งเรืองต่อไป

“ประชาธิปัตย์พร้อมเรื่องตัวบุคคลและผู้สมัคร จังหวัดปัตตานีจังหวัดแรกที่ประกาศไปชัดเจน ประชาธิปัตย์เป็นพรรคแรกที่ประกาศตัวผู้สมัครครบทั้ง 5 เขตที่ปัตตานีไปแล้วเมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา และนราธิวาสเมื่อวานประกาศจบแล้ว 5 คน 5 เขต วันนี้ขอประกาศที่จังหวัดยะลา 3 คน 3 เขต และขอประกาศตรงนี้ว่า ประชาธิปัตย์สู้ทุกเขต ทั้ง 13 เขต และผมมั่นใจจากการนำทัพประชาธิปัตย์เดินไปข้างหน้าร่วมกับพี่น้องจังหวัดชายแดนใต้ เที่ยวนี้การเลือกตั้งประชาธิปัตย์สามารถคว้าชัยมาที่ 1 ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้แน่นอน” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สั่ง 4 ข้อยกระดับมาตรฐานซาฟารีเวิลด์ ห่วงความปลอดภัยและสวัสดิภาพสัตว์

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – อธิบดีกรมอุทยานฯ มีคำสั่งด่วนถึงซาฟารีเวิลด์ ให้ปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยในการจัดแสดงสัตว์ดุร้ายโดยเร็ว พร้อมกำหนด 4 มาตรการเข้มที่ต้องปฏิบัติเพื่อยกระดับความปลอดภัยทั้งต่อนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ ชี้เป็นห่วงสุขภาพและสวัสดิภาพสิงโต เบื้องต้นพบมีภาวะเครียดและมีอาการโรคผิวหนัง ส่วนกรงยังมีไม่เหมาะสมเพียงพอ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ได้มีหนังสือด่วนที่สุดถึงบริษัท ซาฟารีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) ให้ดำเนินการปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยในการจัดแสดงสัตว์ดุร้าย หลังเกิดเหตุสิงโตในโซนจัดแสดงแบบเปิดรุมทำร้ายเจ้าหน้าที่สวนสัตว์จนเสียชีวิต จากการตรวจสอบเบื้องต้นของคณะเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ พบข้อบกพร่องด้านความปลอดภัยหลายประการเช่น ไม่มีระบบกั้นพื้นที่อย่างปลอดภัย ไม่มีประตูนิรภัยสองชั้น และขาดอุปกรณ์ควบคุมสัตว์ที่เหมาะสม ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องเข้าใกล้สัตว์โดยตรงขณะปฏิบัติงาน กรมฯ จึงกำหนด 4 มาตรการเร่งด่วน ที่บริษัทต้องดำเนินการให้ครบถ้วน ดังนี้ อธิบดีกรมอุทยานฯ ย้ำว่า ได้ให้บริษัทเร่งปรับปรุงให้ได้ตามมาตรฐานเพื่อความปลอดภัยทั้งของนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ ก่อนหน้านี้ กรมอุทยานฯ ได้มีคำสั่งปิดการจัดแสดงสิงโตและสัตว์ดุร้ายในสวนสัตว์เปิดซาฟารีเวิลด์เป็นการชั่วคราวหลังเกิดเหตุ โดยคำสั่งล่าสุดนี้ ถือเป็นการกำหนดรายละเอียดแนวทางแก้ไขเชิงระบบ เพื่อให้เกิดการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม อธิบดีกรมอุทยานฯ ยังแสดงความห่วงใยถึงสุขภาพและสวัสดิภาพของสิงโต 5 ตัวที่รุมทำร้ายเจ้าหน้าที่สวนสัตวว์ เป็นเพศผู้ 3 ตัว เพศเมีย 2 […]

ชาวบ้านเฮ! ปิดรอยขาดพนังกั้นน้ำยังได้สำเร็จ

ร้อยเอ็ด 12 ก.ย. – สามารถปิดรอยขาดพนังกั้นน้ำยัง บริเวณบ้านทรายมูล อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด หลังเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน พร้อมชาวบ้านกว่า 200 คน เร่งช่วยกันซ่อมแซม ปฏิบัติการเร่งซ่อมพนังกั้นลำน้ำยังที่ขาด บริเวณบ้านทรายมูล หมู่ 4 ต.ขวาว อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ทำให้มวลน้ำทะลักเข้าท่วมนาข้าวเสียหายกว่า 5,000 ไร่ ครอบคลุม 3 ตำบล นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นำเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน พร้อมชาวบ้านกว่า 200 คน ใช้ทั้งแรงคนและเครื่องจักรหนัก รถบรรทุกทราย และถุงบิ๊กแบ็กปิดกั้นรอยแตก นอกจากนี้ยังนำเสาไฟฟ้า 16 ต้น มาวางพาดขวางเสริมฐานความแข็งแรง ร่วมกับท่อนไม้ขนาดใหญ่ เพื่อชะลอความแรงของกระแสน้ำ ก่อนใช้รถแบ็กโฮจัดวางถุงทรายทับซ้ำอีกชั้นหนึ่ง เพื่อเพิ่มความมั่นคงให้แนวป้องกัน เมื่อเวลา 17.00 น. วานนี้ (11 ก.ย.) สามารถปิดบริเวณที่ขาดได้สำเร็จ ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด กล่าวว่า หลังจากปิดกั้นจุดที่ขาดเสร็จสิ้น […]

‘เจนซี’ เนปาลเรียกร้องยุบสภา-ตายเพิ่มเป็น 34 ราย

กาฐมาณฑุ 12 ก.ย. -ยอดผู้เสียชีวิตจากการประท้วงรุนแรงในเนปาล เพิ่มเป็น 34 ราย ผู้นำเยาวชนเรียกร้องให้ยุบสภา และสนับสนุนอดีตประธานศาลฏีกาหญิง เป็นผู้นำประเทศชั่วคราว หลังการประท้วงรุนแรง 2 วันจนนายกรัฐมนตรีต้องลาออก โอจาชวี ราช ทาปา ผู้นำเยาวชนเนปาล เรียกร้องให้ยุบสภาหลังการเจรจากับกองทัพในกรุงกาฐมาณฑุเมื่อวานนี้ และบอกว่า พวกเขาสนับสนุนให้ สุชิลา คาร์กี อดีตประธานศาลฎีกา เป็นหัวหน้ารัฐบาลรักษาการ พวกเขาไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกรัฐธรรมนูญ แต่เสริมว่ายังมีสิ่งที่ต้องแก้ไขอีกมาก ขณะที่แกนนำเยาวชนอีกคนอ้างว่า พวกเขาได้ประท้วงอย่างสันติหลังจากได้รับอนุญาตจากนายกเทศมนตรีของกรุงกาฐมาณฑุ แต่รัฐบาลกลับสั่งให้ตำรวจปราบจลาจลยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางเข้าใส่พวกเขาเพื่อหวังสลายการชุมนุมจนนำไปสู่ความรุนแรงเป็นเหตุจลาจลนองเลือด เผาทำลายอาคารรัฐสภา จนนายกรัฐมนตรี เคพี ชาร์มา โอลี ต้องลาออก ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากการประท้วงเพิ่มเป็น 34 ราย บาดเจ็บ 1,033 คน ส่วนเมื่อวานนี้ ทหารยังคงลาดตระเวนตามท้องถนนที่เงียบสงบของกรุงกาฐมาณฑุ ร้านค้าและโรงเรียนยังคงปิด ส่วนหน่วยงานบริการสำคัญบางแห่งกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง เหตุความวุ่นวายในเนปาลรอบนี้ มีที่มาจากการที่รัฐบาลสั่งห้ามใช้สื่อสังคมออนไลน์ที่ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ถูกยกเลิกไปหลังจากมีผู้เสียชีวิต 19 รายในวันจันทร์ที่ผ่านมา ก่อนที่การประท้วงจะขยายไปเป็นการต่อต้านการทุจริตของนักการเมืองและข้าราชการ รวมถึงบรรดาลูกท่านหลานเธอและอภิสิทธิ์ชน ที่นำเสนอชีวิตหรูหราสุขสบายของพวกเขาผ่านทางสื่อออนไลน์ ในขณะที่ชาวเนปาลจำนวนมากยังมีชีวิตที่ยากลำบาก การประท้วงนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นการเคลื่อนไหวของคนเจนซี […]

“อนุทิน” รับคำอวยพรผู้นำสิงคโปร์ ย้ำความร่วมมือ 5 ด้าน

กทม.12 ก.ย. – “อนุทิน” รับคำอวยพรผู้นำสิงคโปร์ ยกหูโทรแสดงความยินดีนั่งนายกรัฐมนตรี ย้ำแนวทางร่วมมือ 5 ด้าน เผยเตรียมพบกันเร็วๆ นี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพคุยโทรศัพท์ ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมข้อความระบุว่า นายลอว์เรนซ์ หว่อง นายกรัฐมนตรี ประทศสิงคโปร์ ได้โทรศัพท์มาเพื่ออวยพรถึงการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ซึ่งได้ย้ำกับนายลอว์เรนซ์ ว่า ในนามรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย จะร่วมมือกับรัฐบาลสิงคโปร์อย่างเข้มแข็ง และดำเนินการอย่างแน่วแน่ต่อโอกาสที่จะเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจดิจิทัล (digital economy) เทคโนโลยีด้านการเงิน (fintech) ความมั่นคงทางอาหาร (food security) พลังงาน (energy) และการศึกษา (education) พวกเราทั้ง 2 คนจะพบกันในอีกไม่กี่สัปดาห์นี้ -สำนักข่าวไทย