“จุรินทร์” เปิด 3 ขุนพลสู้ศึก “ยะลา” ลั่น 4 จุดยืน

ยะลา 19 มี.ค.-“จุรินทร์” เปิด 3 ขุนพลสู้ศึก “ยะลา” ลั่น 4 จุดยืน “ไม่เอากัญชาเสรี ไม่มียาเสพติด” ประกาศนำทัพ ปชป. คว้าที่ 1 ชายแดนใต้

บรรยากาศเวทีปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์วันนี้ มีพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดยะลาทุกช่วงวัย เดินทางมาร่วมฟังการปราศรัยล้นสนามโรงพิธีช้างเผือก เทศบาลนครยะลา โดยเฉพาะเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่สนใจเข้าฟังปราศรัยมาร่วมเชียร์และให้กำลังใจพรรคประชาธิปัตย์เป็นจำนวนมาก


ทันทีที่ นายจุรินทร์ เดินทางมาถึง ได้เดินทักทายพี่น้องประชาชนที่มาร่วมฟังการปราศรัย มีประชาชนสนใจตอบรับและขอถ่ายรูป เซลฟี่ ขอจับมือ พร้อมกับเชียร์ให้เป็นนายกฯ คนต่อไป

โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำคณะประชาธิปัตย์ ตั้งแต่ นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค ดร.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล ผู้แทนพิเศษในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. ร่วมกันขึ้นเวทีปราศรัย พร้อมกับแนะนำตัว ว่าที่ผู้สมัครจังหวัดยะลา ประกอบด้วย เขต 1 นายประสิทธิชัย พงษ์สุวรรณศิริ เขต 2 นายอับดุลเล๊าะ บุวา และเขต 3 นายณรงค์ ดูดิง


ซึ่งนายจุรินทร์ ได้กล่าวปราศรัยเพื่อขอโอกาสให้พรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นแกนตั้งรัฐบาล เพื่อเดินหน้าสร้างสันติภาพสู่สันติสุข ชายแดนใต้ ด้วย ”การเมืองนำการทหาร” ทำภาคใต้ รุ่งเรือง-ร่ำรวย พร้อมกับชวนคนยะลาร่วมกันขับเคลื่อน 4 จุดยืนของพรรค ที่ประกอบด้วย

จุดยืนที่ 1 ประชาธิปัตย์จะยืนหยัดร่วมกับพี่น้องชาวยะลา สนับสนุนการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หากในอนาคตจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ประชาธิปัตย์ไม่ขัดข้อง เพื่อเดินหน้าไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น แต่มีข้อแม้คือจะต้องไม่แตะหมวด 1 ซึ่งเป็นหมวดที่ว่าด้วยรูปแบบของรัฐ ที่ระบุไว้ชัดเจนว่า ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวกันจะแบ่งแยกไม่ได้ และหมวด 2 เป็นหมวดที่ว่าด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์ประชาธิปัตย์นอกจากนี้ ประชาธิปัตย์ไม่แก้ไข ไม่ยกเลิก มาตรา 112 เพราะเป็นมาตราที่ว่าด้วยการคุ้มครองประมุขของประเทศ และไม่มีประเทศไหนในโลก ที่ไม่มีบทบัญญัติกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองประมุขของประเทศ

ประการที่ 2 ประชาธิปัตย์ไม่สนับสนุนการนำศาสนามาเป็นเครื่องมือแบ่งแยกทางการเมือง เพื่อประโยชน์ของพรรคการเมือง และทุกศาสนาต้องอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข ไม่ว่าจะเป็นพุทธ คริสต์ อิสลาม หรือศาสนาใดๆ ก็ตาม เพราะเราต้องการเห็นชายแดนใต้ เป็นพหุวัฒนธรรมที่ทุกศาสนาอยู่ร่วมกันได้เหมือนอดีตกาลที่ผ่านมา


ประการที่ 3 ประชาธิปัตย์ไม่ต้องการเห็นความรุนแรงเกิดขึ้น ไม่ต้องการให้ใช้ความรุนแรงกับผู้บริสุทธิ์ ไม่ต้องการให้เกิดการอุ้มฆ่า ฆ่าตัดตอน หรือเหตุการณ์อย่างกรือเซะ ตากใบ กลับมาย้อนรอยหลอกหลอนคนชายแดนภาคใต้อีก

ประการที่ 4 ประชาธิปัตย์มีจุดยืนชัดเจนเรื่องยาเสพติด โดยขอประกาศยุทธศาสตร์ “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ยาเสพติด ต้องไม่มีกัญชาเสรีต้องยกเลิก” ในจังหวัดชายแดนใต้ และประเทศไทย

พร้อมกับประกาศนโยบาย “สร้างสันติภาพ สู่สันติสุข ชายแดนใต้” โดยนายจุรินทร์ ปราศรัยว่าที่ผ่านมาการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้นั้นยังไม่ตรงจุด เกายังไม่ถูกที่คัน ทำให้ 18 ปีที่ผ่านมาประเทศต้องหมดงบประมาณไปกว่า 4 แสนล้านบาท เพื่อต่อสู้กับเหตุการณ์ความไม่สงบอย่างไม่ตรงวิธี ดังนั้นประชาธิปัตย์จึงขออาสาเดินหน้านโยบายการเมืองนำการทหาร เพื่อนำสันติภาพมาสู่ชายแดนใต้ เมื่อสันติภาพคืนมา สันติสุขจะเกิดขึ้น และทำให้เราเดินหน้าสร้างอนาคต สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ สร้างความรุ่งเรืองให้กับคนจังหวัดชายแดนใต้ได้ ด้วยการมีประชาธิปไตยท้องอิ่ม เพราะสันติภาพอย่างเดียว ประชาธิปไตยอย่างเดียวไม่พอ คนใต้ต้องท้องอิ่มด้วยการเดินหน้าเศรษฐกิจฐานเกษตร ไม่ว่าจะเป็นพืชเกษตร ปศุสัตว์ ประมง จะต้องเดินหน้าต่อไป

นอกจากนี้นายจุรินทร์ยังได้กล่าวถึงนโยบายสำคัญคือ “ประกันรายได้จ่ายเงินส่วนต่าง” ซึ่งเป็นนโยบายของประชาธิปัตย์ที่ช่วยให้ชาวสวนยาง ไม่ต้องไปขายยางที่ดาวอังคาร แม้วันนี้ราคาจะหย่อนลงมาบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับ 3 โลร้อย เพราะเรามีทิศทางการแก้ปัญหาที่ตรงจุด

นอกจากนี้ ยังได้ประกาศความพร้อมเรื่องตัวบุคคลในการส่งผู้สมัคร ส.ส. ทั้งหมด 13 คน 13 เขต ที่จากเดิมมี 12 เขต ซึ่งประกอบด้วย ปัตตานี 5 เขต จากเดิม 4 เขต นราธิวาส 5 เขต และยะลา 3 เขต พร้อมกับขอให้พี่น้องชาวจังหวัดชายแดนภาคใต้ เลือกบัตรผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ ทั้ง 13 เขต ให้มีคะแนนมาเป็นที่ 1 ทุกเขต และกาเลือกพรรคประชาธิปัตย์ให้มีคะแนนมากที่สุด เพื่อให้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล สามารถเดินหน้าพาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของเราไปสู่ความร่ำรวยและความเจริญรุ่งเรืองต่อไป

“ประชาธิปัตย์พร้อมเรื่องตัวบุคคลและผู้สมัคร จังหวัดปัตตานีจังหวัดแรกที่ประกาศไปชัดเจน ประชาธิปัตย์เป็นพรรคแรกที่ประกาศตัวผู้สมัครครบทั้ง 5 เขตที่ปัตตานีไปแล้วเมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา และนราธิวาสเมื่อวานประกาศจบแล้ว 5 คน 5 เขต วันนี้ขอประกาศที่จังหวัดยะลา 3 คน 3 เขต และขอประกาศตรงนี้ว่า ประชาธิปัตย์สู้ทุกเขต ทั้ง 13 เขต และผมมั่นใจจากการนำทัพประชาธิปัตย์เดินไปข้างหน้าร่วมกับพี่น้องจังหวัดชายแดนใต้ เที่ยวนี้การเลือกตั้งประชาธิปัตย์สามารถคว้าชัยมาที่ 1 ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้แน่นอน” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“แพทองธาร” ยินดีมวยไทยบรรจุในกีฬาทหารโลก 2027

กระทรวงวัฒนธรรม 16 ก.ค.- “แพทองธาร” ยินดีความสำเร็จมวยไทยบรรจุในกีฬาทหารโลก 2027 อย่างเป็นทางการ ชี้ เป็นผลลัพธ์การทำงานอย่างมุ่งมั่นของคกก.ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ด้านกีฬา-กองทัพไทย-สมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ผลักดันสู่เวทีกีฬาสากล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่ายกระดับมวยไทยสู่เวทีโลกอีกขั้น ดิฉันขอแสดงความยินดีอย่างยิ่ง กับความสำเร็จล่าสุดของประเทศไทย — #มวยไทย ได้รับการบรรจุเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาของการแข่งขัน CISM World Summer Games 2027 (กีฬาทหารโลก 2027) อย่างเป็นทางการแล้วค่ะ การแข่งขันกีฬาทหารโลก จัดโดย สภากีฬาทหารระหว่างประเทศ เป็นมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ ปัจจุบันมีประเทศในสมาชิก 141 ถือเป็นเวทีสำคัญที่ทั่วโลกให้การยอมรับ ประเทศไทยเพิ่งเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน 1st CISM Military Muaythai Challenge เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวแรกของการเปิดเวทีระหว่างประเทศให้มวยไทยเข้าสู่การแข่งขันของกองทัพนานาชาติ การบรรจุมวยไทยในกีฬาทหารโลกครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จสำคัญของประเทศไทย และเป็นผลลัพธ์จากการทำงานอย่างมุ่งมั่นของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม Soft Power ด้านกีฬา ร่วมกับกองทัพไทย และสมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ที่ผลักดันให้ “มวยไทย” […]

นักท่องเที่ยวคึกคัก “ตาเมือนธม” ปรับลดกำลังฝั่งละ 3 นาย

สุรินทร์ 16 ก.ค. – แม้เพิ่งผ่านเหตุป่วนปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ จนนักท่องเที่ยวต้องวิ่งหลบเข้าบังเกอร์เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ แต่วันนี้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและกัมพูชายังคงเข้าไปเที่ยวคึกคัก ล่าสุดมีการปรับลดกำลังบนตัวปราสาทฝั่งละ 3 นาย ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ คึกคัก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่อยากมาให้กำลังใจทหารที่ทำหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติอย่างแข็งขัน หลังวานนี้ (15 ก.ค.) เกิดเหตุป่วนปราสาทตาเมือนธม ล่าสุดมีการปรับลดกำลังของแต่ละฝ่ายบนตัวปราสาท ฝั่งละ 3 นาย บรรยากาศปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ นักท่องเที่ยวทยอยเข้าพื้นที่ตั้งแต่เช้าก่อนเวลาเปิด ทั้งรถส่วนตัว รถทัวร์ รถตู้โดยสาร โดยรถทัวร์ 2 คัน ผู้โดยสาร 150 คน มาจากเทศบาลตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี นำสิ่งของมาบริจาคบำรุงขวัญทหาร ตำรวจแนวหน้า ขณะที่กลุ่มคนสวมเสื้อสกรีนข้อความ “รักเธอประเทศไทย” เป็นกลุ่มคุณเจน ญาณปรีดส์ ราว 40 คน เดินทางด้วยรถตู้ 4 คัน มาจากกรุงเทพฯ นอกจากมอบสิ่งของบริจาคเพื่อทหารทุกนายแล้ว ยังมอบเงินพิเศษให้ทหาร 2 […]

“สุชาติ” มอบนโยบายสำนักพุทธฯ ลุยสางปัญหาวงการสงฆ์

พุทธมณฑล 16 ก.ค.- “สุชาติ” มอบนโยบายสำนักพุทธฯ ผอ.พศจ.ทั่วประเทศตบเท้าเข้าฟัง หลังเกิดประเด็นฉาว “สีกากอล์ฟ” บอกขอฟังปัญหาก่อนเพื่อแก้ให้ตรงจุด ชี้ถูกสั่งให้มาสางปัญหาแต่ปัญหามีเยอะเหลือเกิน ยกรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 แจง รัฐต้องช่วยแก้ปัญหา นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมามอบนโยบายการดำเนินงานแก่ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยมีนายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูงและผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาทั่วประเทศเข้ารับฟัง ณ อาคารสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ห้องประชุม มส.เดิม) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม หลังเกิดประเด็น สีกากอล์ฟ ที่มีพระชั้นผู้ใหญ่เข้าไปเกี่ยวข้องจนทำให้มีการลาสิกขาบทไปแล้วถึง 9 รูป โดยนายสุชาติ กล่าวว่า ตนมาวันนี้อยากขอฟังภารกิจของสำนักงานพระพุทธศาสนา ในสิ่งที่ได้ดำเนินการไปแล้ว เพราะตอนนี้ตนได้มารับงานดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งเป็นอย่างที่ตนได้เคยให้ข่าวไว้ว่ารับน้องใหม่แรงเหลือเกิน แต่ไม่เป็นไรยินดีที่จะเข้ามาสางปัญหา เพราะถูกส่งให้เข้ามาสางปัญหาโดยเฉพาะ แต่ก็มีปัญหาให้สางเยอะไปหน่อย แล้วตนอยากฟังว่าการดำเนินงานที่ผ่านมามีปัญหาหรือติดขัดอะไรบ้าง มีอะไรให้รัฐบาลช่วยเหลือแก้ไขให้ถูกจุด เพราะว่าตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรค 5 […]

“ภูมิธรรม” ขออดทนอดกลั้นเหตุกัมพูชายั่วยุ อย่าฟัง “ฮุนเซน”

บน.6 ดอนเมือง 16 ก.ค.- “ภูมิธรรม” ลั่นรัฐบาลไม่พอใจกัมพูชามากอยู่แล้ว ขอประชาชน-ทหาร อดทนเหตุยั่วยุต่างๆ อย่าฟัง “ฮุนเซน” แค่ “พ่อนายกฯ เขมร” อยากแก้ปัญหา แต่ไม่มีอำนาจตัดสินใจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุความวุ่นวายที่ประสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ วานนี้ว่า เป็นเรื่องที่ไม่อยากให้เกิด ซึ่งทราบว่ามีการยั่วยุ โดยพยายามสั่งให้เจ้าหน้าที่ไทยระมัดระวังและอดทนอดกลั้นให้มากที่สุด รวมถึงพยายามป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก แต่ก็ต้องคอยระวัง เพราะกัมพูชาจะใช้กลยุทธ์วิธีแบบนี้ในการทำให้เกิดการประทะกัน เกิดความรุนแรง ซึ่งจะถูกนำไปใช้ในเรื่องระหว่างประเทศได้ กำลังพลของไทยส่วนใหญ่เข้าใจ ยืนยันว่าจะพยายามทำให้ดีที่สุด ไม่ใช้กำลังแก้ปัญหา และไม่ให้ถูกกล่าวหาว่าเราทำให้เกิดความรุนแรง เพื่อจะเอาพื้นที่กลับมา สำหรับปราสาทตาเมือนธม ก็มีมาตรการในการป้องปรามอยู่แล้ว เปิดบางส่วนปิดบางส่วน ก็ต้องดูเป็นพื้นที่ และเป็นอำนาจในการควบคุมดูแลของแม่ทัพภาคที่ 2 เมื่อถามว่ากังวลจะมีเหตุซ้ำรอยหรือไม่ เพราะกัมพูชายั่วยุมา ส่วนฝ่ายไทยก็มีอดีตทหารพรานไปชกหน้าทหารกัมพูชา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องที่ต้องพยายามอย่าปลุกความเกลียดชัง สิ่งที่เราห่วงใยคือการปะทะแล้วจะเลยเถิดไปถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะประชาชนชาวไทยที่อยู่แนวชายแดน และทหารหาญ เพราะถ้ากระทบขึ้นมาก็ไม่ดี “รัฐบาลไม่พอใจกัมพูชาอย่างมากอยู่แล้ว และในแง่การดำเนินการทางการทูต รัฐมนตรีต่างประเทศก็ได้ดำเนินการแต่ละขั้นตอน […]